ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2567
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
25 มิถุนายน 2567
 
All Blogs
 
"ได้โปรด! Please!" บทที่ 4 (ํYURI)

4

 

รังสิมาช้อนตาคู่สวยคมกริบ ยกมุมปากเผยความพึงพอใจ

“ฉันเป็นนาย ตอนนี้ฉันไม่มีสัญญาทาสกับใคร ถ้าเธอสนใจ...เรามาทดลองเพลย์กันหน่อยไหม?

พันไมล์หน้าแดงร้อน ไปไม่เป็นกับคำชวนที่แสนจะตรงไปตรงมาของอีกฝ่าย ที่ไม่ต่างจากเชิญชวนทำเรื่องอย่างว่า

อะ อะไรนะ!

เป็นครั้งแรกที่โดนคนแปลกหน้าชวนทำเรื่องพรรค์นั้น แต่จะบอกว่าเป็นคนแปลกหน้าก็ไม่เชิงซะทีเดียว หลังเธอคุ้นเคยกับหล่อนมาหลายปี...แค่ฝ่ายเดียวอ่ะนะ เธอรู้หลายเรื่องของรังสิมาผ่านมาศปรียา เช่น ชอบขนมหรือเครื่องดื่มอะไร มีงานอดิเรกอะไร ไม่ชอบอะไร เป็นต้น

“...”

“แค่นี้ถึงกับพูดไม่ออกเลยหรือ” น้ำเสียงของรังสิมาอ่อนหวาน ยกมุมปากเคลือบสีสดแฝงการเย้าหยอก

...ดูแตกต่างจากภาพลักษณ์สาวหยิ่งเชิดลิบลับ

เมื่อสักครู่หล่อนสวยสง่าสูงส่งดุจนางพญาหงส์ยากจะเอื้อมถึง ขณะที่เวอร์ชั่นนี้ดูมีเสน่ห์ชวนหลงใหล ยิ่งกว่ากุ้ยเฟยนางยั่วเมืองในตำนาน แต่ไม่ว่าอีกฝ่ายจะอยู่เวอร์ชั่นไหนก็ชวนหลงใหลมากมาย พันไมล์ใจสั่นแทบเหลวละลาย

หรือคุณแมวหยิ่ง จะเป็นพวกสองบุคลิก?

“...” นักสืบสาวไม่รู้จะตอบอย่างไรดี รู้สึกเหมือนโดนสตั้นเข้าไปเต็มแสกหน้า จ้องคนสวยยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นจิบด้วยท่วงท่าเซ็กซี่ จนเธอพลอยกระหายน้ำตามไปด้วย

สาวแว่นไม่อาจละสายตาไปจากหล่อนได้ หัวใจตื่นตระหนกเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง...แบบที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน กระทั่งแฟนเก่าที่เลิกรากันไป ก็ไม่เคยมีอิทธิพลต่อหัวใจเธอแบบนี้

ทำไมรู้สึกเหมือนคุณเขากำลังยั่วยวน ไม่ใช่หรอก ฉันต้องเสียสติไปแล้วแน่!

คิดเถียงกับตัวเองในใจ

“จ้องฉันขนาดนี้ จะทดลองเพลย์วันนี้เลยก็ได้นะ เย็นนี้ฉันว่าง” สาวสวยเอ่ยเชิญชวน

หา!

“มะ ไม่ค่ะ” ดวงหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เธอรีบปฏิเสธจนลิ้นแทบพันกัน

“ไม่อะไร? ไม่ใช่เย็นนี้ แต่เป็นตอนนี้งั้นเหรอ?” หล่อนผุดยิ้มเผยรอยสนุกกับการกลั่นแกล้งคนตรงหน้า

“ค่ะ เอ๊ย ไม่ใช่ค่ะ ฉันหมายถึงฉันไม่ทดลองแบบนั้นกับคุณหรอก ฉันทำไม่ได้” พันไมล์พูดผิดพูดถูก รู้สึกเหมือนสมองจะมึนเบลอไปจากปกติ

รังสิมาสลายยิ้มลงช้าๆ แทนที่ด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“ฉันไม่น่าสนใจ? บอกเหตุผลมา?” น้ำเสียงไพเราะไม่ได้ร้องขอ แต่เป็นประโยคคำสั่ง

แกล้งตายได้ไหม?

เธออยากทำแบบนั้น แต่สายตาคู่สีนิลนั้นจ้องกดดัน จนตัวแทบแข็งเป็นหิน

“ระ เรื่องแบบนั้นฉันคิดว่า ควรจะเป็นคนรักแสดงต่อกันมากกว่า...เราสองคนเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้อง”

หล่อนนิ่งฟัง ก่อนเอ่ยขึ้นบ้าง

“BDSM สำหรับฉันเป็นเรื่องของรสนิยมที่อาจจะรุนแรงเจ็บปวด แต่ฉันไม่ฝืนใจใคร ที่สำคัญฉันไม่ได้ต้องการมีเซ็กส์กับเธอหรอกนะ”

“...”

“ก็คล้ายกับที่โชว์ในวันนั้นนั่นแหละ แค่เติมเต็มความสุขของกันและกัน”

“อ๋อ” พันไมล์พึมพำ

“เงื่อนไขของกิจกรรมขึ้นอยู่กับสองฝ่ายจะตกลงกัน เงื่อนไขสำคัญคือ...ฉันจะไม่มีเซ็กส์กับทาส”

จริง?

เธอไม่อยากเชื่อประโยคหลังสักเท่าไหร่

บรรยากาศกับห้วงอารมณ์ทะยานสูงแบบนั้น มักนำไปสู่เรื่องพรรค์นั้นได้ไม่ยาก ประกอบกับรังสิมาสวยหยิ่งดูสูงส่ง น่าค้นหา คงมีคนจำนวนไม่น้อยอยากได้นางพญาคนนี้เป็นของตนเอง ถึงจะเป็นแค่การละเล่นชั่วคราวก็เถอะ

...โอกาสทองอยู่ตรงหน้า ใครบ้างจะไม่ไขว่คว้า

“มีอะไรจะถาม ก็ถามมาสิ”

“รู้ได้อย่างไรคะ?” นักสืบสาวเลิกคิ้วเล็กน้อย

“มันเขียนบนหน้าเธอน่ะ เธอเป็นพวกเก็บความรู้สึกไม่เก่งเลย รู้ตัวไหม” รังสิมานั่งกอดอกเอนหลังพิงโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ

นั่นสินะ

พันไมล์ยิ้มแหย ยกมือลูบต้นคออย่างอายๆ รู้ถึงข้อเสียของตัวเองแต่การจะแก้ไขไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หลังโดนมารดาต่อว่าบ่อยๆ ว่า

“เป็นนักสืบประสาอะไร หัดเก็บสีหน้าเก็บอารมณ์ซะบ้างสิ”

“คุณ ‘มี’ ทาสหลายคนเหรอคะ?” ไม่รู้ทำไมพันไมล์ถึงได้แอบลุ้นคำตอบนี้มากเหลือเกิน แม้หล่อนจะบอกว่าไม่มีเซ็กส์มาเกี่ยวข้อง แต่จะมีสักกี่คนที่โชคดีได้แนบชิดสกินชิพกับรังสิมา

...คิดแล้วก็อดอิจฉานิดๆ ไม่ได้

ผู้ถูกถามนิ่งเหมือนนับจำนวนในใจ

“ฉัน ‘เคยมี’ หลายคน แต่ฉันจะทำสัญญาทาสทีละคน ถ้าอีกฝ่ายมีคนอื่น ฉันจะขอยกเลิกสัญญาทันที ดังนั้นถ้าทำสัญญากับฉัน เธอต้องมีแค่ฉัน ถ้าจะมีคนอื่น...เธอก็แค่บอกฉันก่อน” รังสิมาต้องการคนซื่อสัตย์ ผู้เป็นทาสต้องจงรักภักดีกับนายหญิงแค่คนเดียวเท่านั้น

“แล้วคุณทำสัญญานานแค่ไหน?”

“เริ่มต้นที่หนึ่งเดือน ถ้าถูกใจฉันอาจจะต่อสัญญา อาจจะสามเดือน หรือหกเดือน” หล่อนอธิบายอย่างใจเย็น มองเรื่องนี้เป็นไม่ต่างจากธุรกิจชนิดหนึ่ง ก่อนย้อนถามกลับยิ้มๆ “ถามละเอียดเชียว เริ่มสนใจล่ะสิ”

“เปล่าค่ะ แค่อยากรู้เฉยๆ” พันไมล์ยังคงยืนยันคำเดิม

“บอกไว้ก่อนนะ ถ้าฉันเกิดไปเซ็นสัญญากับทาสคนอื่นก่อน เธอต้องรอคิวนานเลยล่ะ”

หล่อนพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่เธอไม่รู้สึกแบบนั้น

มีคนเคยบอกไหมว่านอกจากสวยและหยิ่ง คุณยังหลงตัวเองมากด้วย แต่เอาเถอะยกให้คุณไว้คนนึง

สาวแว่นยิ้มฝืดเฝือ

“เชิญคุณตามสบายเลย”

เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานดังขัดจังหวะขึ้น

“ขอเวลาแป๊บหนึ่ง” รังสิมาเดินไปรับสาย พอทักทายสวัสดีค่ะก็นิ่งฟังหลายคำ ก่อนวางสายลง หมุนตัวมาทางพันไมล์ “อีกสิบนาทีฉันมีประชุม ไว้ต้นเดือนเธอมาทำงาน ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มเติมก็ค่อยถามฉัน เรายังมีเวลาคุยกันอีกนาน”

“ค่ะ งั้นฉันกลับก่อน”

พันไมล์ลุกยืน แต่ไม่ทันก้าว หล่อนก็พูดขึ้น

“ขอแลกไลน์หน่อยสิ เผื่อฉันมีธุระจะติดต่อ”

“อ๋อ ได้ค่ะ”

ทั้งคู่แลกไลน์รวมถึงเบอร์โทรศัพท์เรียบร้อย รังสิมาเดินมาส่งพันไมล์หน้าห้อง พร้อมแนะนำกับกมลพรว่า อีกคนจะมาเป็นบอดี้การ์ดต้นเดือนหน้า

หลังสาวแว่นลากลับ เลขาสาวก็เอ่ยกับรองประธานสาวว่า

“คุณพันไมล์เหมาะจะเป็นนางแบบ ไม่ก็ดาราได้สบายๆ เลยนะคะ”

“ดีแล้วที่ไม่เป็น” หล่อนพึมพำเบาๆ เหมือนพูดกับตัวเอง

“คุณเค้กพูดว่าอะไรนะคะ?” กมลพรได้ยินไม่ค่อยถนัด

“เค้กแค่บอกว่า เราควรจะไปประชุมได้แล้ว”

“อ๋อ ค่ะ”

 

“พี่พรคิดอย่างไรกับการประชุมเมื่อกี้คะ?” รังสิมาถามความเห็นของเลขาสาว หลังกลับมาจากการประชุมกับฝ่ายขาย เรื่องโปรเจคใหม่ที่ภูเก็ตยอดขายต่ำกว่าเป้ามากจนผิดสังเกต

“พี่ว่ามันแปลกๆ อยู่ค่ะ ช่วงนี้ตลาดภูเก็ตบูมมาก แต่คุณพิษณุกลับบอกว่าลูกค้าต่างชาติไม่ค่อยสนใจ เลยขายไม่ค่อยออก” กมลพรให้ความเห็น หลังอ่านข้อมูลวิจัยตลาดผ่านตาล่าสุด...ย้อนแย้งกับที่พิษณุบอก

‘คุณพิษณุ’ สามีของรุจิรา น้าสาวแท้ๆ ของหล่อน เป็นหัวหน้าฝ่ายขายโครงการคอนโดและวิลล่าที่ภูเก็ต

รังสิมาใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ อย่างใช้ความคิด

“ดูท่าเค้กคงต้องหาเวลาไปพักร้อนสักหน่อยแล้ว”

“จะไปดูเองเหรอคะ?”

“ไปเอง น่าจะคุยง่ายกว่าค่ะ”

ใช่ว่าหล่อนไม่เคยส่งคนอื่นไป แต่พนักงานส่วนใหญ่เกรงใจพิษณุและรุจิราทำให้ได้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องครบถ้วน การแก้ปัญหาล่าช้าทำให้บริษัทเสียผลประโยชน์ไปหลายสิบล้านบาทในปีที่แล้ว หล่อนคิดตัดไฟแต่ต้นลม ไม่ยอมทำผิดซ้ำซาก

ต้องหาพยานกับหลักฐานทุจริตมาให้ได้

แม้จะรู้ว่าอะไรหรือใครคือต้นเหตุของปัญหา แต่หล่อนทำอะไรไม่ได้มาก ทั้งไม่อยากดึงท่านประธานหรือแม่มาเกี่ยวข้องให้ต้องลำบากใจไปด้วย

...นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัว

...นี่คือศึกสายเลือดโดยแท้

แค่นี้น้ารุ้งก็ชังหน้าฉันมากพอแล้ว

รังสิมาไม่อยากจะคิดถึงรุจิรา น้าสาวแท้ๆ ที่แสดงชัดเจนว่าไม่พอใจเรื่องที่หล่อนขึ้นเป็นรองประธานเดอะวัน เรียลเอสเตท ตอนนั้นรุจิราประชดด้วยการขอลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทันที หล่อนจึงโดนหลายคนเพ่งเล็งว่าข้ามศีรษะน้าสาวตัวเอง ทั้งที่เรื่องนี้ไม่ได้เป็นความผิดของตนเลย หลังผู้สั่งการตัวจริง คือ ท่านประธานต่างหาก

ไม่ต้องเป็นอัจฉริยะก็เดาได้ว่า พิษณุกำลังหาทางเลื่อยขาเก้าอี้หล่อน เพื่อปูทางให้รุจิรา ภรรยากลับมามีอำนาจในเดอะวันอีกครั้ง ระยะแรกมีข่าวหลุดบ่อยๆ ว่าจะมีการเปลี่ยนตัวรองประธานบ้าง มีบัตรสนเท่ห์บ้าง

กระทั่งปัญหาที่ไม่เป็นเรื่องก็กลายเป็น ‘ความผิด’ ของรองประธาน

...เข้าทำนอง ‘คนไม่ใช่ อยู่เฉยๆ ก็ผิด’

กว่าปีที่รังสิมาต้องอดทนไม่ตอบโต้ แต่ใช้วิธีแสดงผลงานให้ประจักษ์ จึงสยบข่าวลือไร้สาระไปได้พอสมควร แต่กระนั้นก็ไม่ใช่ว่าเหล่าพนักงานจะพอใจหล่อนเสียทั้งหมด แต่หญิงสาวไม่เดือดเนื้อร้อนใจสักเท่าใด

...ปล่อยให้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าใครเพชรใครพลอย

“ก็จริงค่ะ” แม้จะไม่ค่อยเห็นด้วย แต่กมลพรก็ไม่เห็นทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้

“ช่วยเคลียร์ตารางงานให้เค้กหน่อยนะคะ ขอสักสองสามวันก็น่าจะพอ ขอเป็นหลังกลางเดือนหน้า”

“ได้ค่ะ” เลขาสาวพยักหน้า ก่อนถามต่อตามหน้าที่ “แล้วจะไปกับใครคะ? พี่จะได้จัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้”

“ไว้ใกล้ๆ ก่อนเค้กจะคอนเฟิร์มอีกที” รังสิมามีตัวเลือกในใจแล้ว ว่าจะไปกับใคร

“ค่ะ” กมลพรขยับก้าวไปสองก้าว “แล้วคุณเค้กจะรับกาแฟอีกไหมคะ?”

“ก็ดีค่ะ ขอบคุณค่ะ”

“สักครู่ค่ะ”

พออยู่ตามลำพังในห้องทำงาน รังสิมาก็ถอนใจเฮือก ใจลอยคิดไปถึงสาวแว่นที่เพิ่งได้เจอกัน

ตกลงเธอจะไม่ยอมเป็นทาสฉันจริงๆ เหรอ?

หล่อนห่างเหินการทำสัญญาทาสมาหลายปี จนกระทั่งได้เจอพันไมล์อีกครั้ง สายตาใต้กรอบแว่นยามที่จ้องไปยังโชว์ BDSM บอกอะไรได้หลายอย่างว่า เธอสนใจใคร่รู้ในเรื่องพวกนี้พอสมควร เอาเข้าจริงคืนนั้น หล่อนลอบชำเลืองมองพันไมล์มากกว่าการแสดงบนเวทีเสียอีก แค่นั่งเก๊กหน้าฟอร์มจัดไปแบบนั้น

หากพันไมล์เป็น Straight ปฏิกิริยาคงเบือนหน้าหนี หรือแสดงความรังเกียจมากกว่าจะจ้องเขม็ง และมีสีหน้าแววตาพึงพอใจ รังสิมาจึงมั่นใจว่า พันไมล์น่าจะสนใจเข้ามาสู่โลกใบใหม่ โลกใบเดียวกับตน

...คิดไม่ถึงว่าจะถูกปฏิเสธ

หล่อนรู้จากมาศปรียาว่าเธอมีรสนิยมอย่างไร รวมทั้งรู้ด้วยว่าแฟนเก่าอีกคนคือใคร รวมทั้งสถานะพันไมล์ที่โสดมาพักใหญ่ แต่หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดการเปลี่ยนแปลง รังสิมาจึงไม่คิดชะล่าใจ

มันต้องมีวิธีสิ

ขณะที่หล่อนคิดวนเวียนไปถึงเธอ ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงโทรศัพท์เข้า จึงหยิบสมาร์ทโฟนราคาแพงมาดู กดรับทันทีหลังโชว์ชื่อ...มาศปรียา

“มีอะไร?”

“เสียงเข้มไปนะ นี่เพื่อนเอง” มาศปรียาพูดหยอกอย่างอารมณ์ดี

“ว่างหรือไง?”

“ไม่ว่างแต่คิดถึง เพื่อนโทรหาไม่ได้เหรอ?”

“เลี่ยน” หล่อนแขวะ ก่อนพูดกวนกลับไป “มีอะไรให้ฉันรับใช้?”

“ไม่กล้าๆ” เพื่อนสนิทหัวเราะร่วน “แค่อยากรู้ว่าตกลงพันไมล์ไปหาแกหรือเปล่า?”

“มาแล้ว กลับไปแล้ว”

“แกรับน้องหรือเปล่า?”

“รับสิ เริ่มงานต้นเดือนหน้า”

“แล้วแกมีอะไรอยากบอกฉันไหม?”

“เช่นเรื่องอะไร?” รังสิมาแกล้งย้อนถาม ทั้งที่รู้แก่ใจว่าเพื่อนคันใจอยากรู้อะไร

“เฉไฉเก่งเหมือนเดิม”

“ขอบคุณที่ชม”

“ประชดเฟ้ย” มาศปรียาพูดอย่างหมั่นไส้ “ฉันหมายถึงแกพูดอะไรเรื่อง BDSM อะไรทำนองนั้นกับไมล์หรือเปล่า?”

นึกแล้วเชียว

“ฉันลองชวนพันไมล์มาทดลองเพลย์กับฉัน...แต่ถูกปฏิเสธ”

“โห ตรงไปไหมแก ไมล์ไม่ตกใจแย่หรอกเหรอ?”

“เห็นอึ้งๆ ไปเหมือนกัน” รังสิมากระตุกมุมปากเล็กน้อย เมื่อคิดถึงใบหน้าสวยคมที่แสดงหลากหลายอารมณ์ ชวนให้อยากรังแกอย่างบอกไม่ถูก

“แกช่วยเบาๆ กับน้องฉันหน่อย”

“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย”

“ฉันมองออกนะว่าแกคิดอะไรอยู่”

ทั้งคู่รู้จักกันมานานกว่าสิบปี แค่มองตาแวบเดียวก็รู้ถึงก้นบึ้งหัวใจกันเลยทีเดียว

“ก็แค่คิด” หล่อนไม่ปฏิเสธ

“จริงจังหรือเปล่า?”

“อือ”

มาศปรียาเงียบไปอึดใจ

“แล้วเรื่องพี่พงศ์ของแกจะเอาอย่างไร?”

“เกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันไม่ได้ชอบเขา”

รังสิมารู้ว่าปฐมพงศ์คิดอะไรกับตน ไม่ต่างจากผู้ชายหลายสิบคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต พิเศษตรงที่เขาคนนี้ได้รับไฟเขียวจากคุณรุ่งนภา แม่หล่อนอยากได้เขาเป็นเขยขวัญชนิดสุดลิ่มทิ่มประตู ทว่าหล่อนไม่ได้คิดอะไรกับอีกฝ่ายมากกว่าพี่ชายคนหนึ่ง จึงบ่ายเบี่ยงเรื่องหมั้นหมาย

เรื่องคู่ครองเป็นสาเหตุให้รังสิมาย้ายออกจากบ้านไปอยู่คอนโด ไม่อยากทะเลาะกับมารดาทุกครั้งที่เจอหน้ากัน

ความสัมพันธ์แม่ลูกระยะหลังเข้าขั้นวิกฤต นอกจากไหว้ทักทายตามมารยาท ก็จะคุยเฉพาะเรื่องงานเท่าที่จำเป็น สัปดาห์หนึ่งคุยกันไม่กี่ประโยค ทั้งที่ทำงานชั้นเดียวกันคนละปีกของอาคาร แต่กลับเหินห่างเหมือนอยู่คนละขอบโลก

“แน่ใจนะ?”

“แน่ใจสิ”

“ถ้ามีอะไรจะให้ฉันช่วย ก็บอกมานะ” มาศปรียาบอก

“ขอบใจนะมาศ”

“ฝากน้องฉันด้วยแล้วกัน”

“ไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลอย่างดี”

“ให้มันจริงเถอะ อย่ารังแกไมล์นัก”

“ถ้าน้องแกพูดดีๆ ไม่โอเค ฉันกำลังคิดว่าตีหัว ลากขึ้นเตียงน่าจะดี” หล่อนแกล้งพูดขึ้น

ยุคหินมากเพื่อนฉัน!

“เฮ้ย พูดจริงพูดเล่น? เสน่ห์นายหญิงหดหายถึงขีดสุดหรือไง แค่เด็กน้อยยังล่อลวงไม่สำเร็จ” เพื่อนสนิทจงใจจี้ใจดำ

“เฮอะ ดูถูกกันเหลือเกิน ใครจะขยันซ้อมล่อลวงเก่งเหมือนแก”

“ก็คนมันมีเยอะ ไม่ได้อ่อนซ้อมเหมือนบางคน”

“เออๆ ยอมแพ้ก็ได้” เรื่องเจ้าชู้ประตูดิน หล่อนไม่สู้เพื่อนอยู่แล้ว

“รู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร” มาศปรียาหัวเราะร่าเริงกึ่งสะใจ “วันไหนว่างก็แวะมาที่ Citrus นะ มีคนถามถึงแกเยอะเลย”

“ได้”




Create Date : 25 มิถุนายน 2567
Last Update : 25 มิถุนายน 2567 16:45:46 น. 2 comments
Counter : 296 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว


 
ซักไซ้ไวนะ


โดย: Wan (สมาชิกหมายเลข 865311 ) วันที่: 26 มิถุนายน 2567 เวลา:16:28:21 น.  

 
ขอบคุณที่แวะมาค่ะ ^^


โดย: นาง (นิ้วนาง-เดียนา ) วันที่: 28 มิถุนายน 2567 เวลา:17:48:37 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

BlogGang Popular Award#20


 
นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


Friends' blogs
[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.