ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
 
พฤศจิกายน 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
23 พฤศจิกายน 2560
 
 
ดาวหลงจันทร์ Crush on You บทที่ ๓ (Yuri)



หลังออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ ติชิลาขับรถแวะไปหามารดาที่ร้านขายผ้าในตลาดซึ่งเป็นตึกแถวสี่คูหาซึ่งถือว่าเป็นเจ้าใหญ่ของที่นั่น โดยเลือกจอดรถคันงามไว้ด้านหลังร้านหล่อนเดินทอดน่องแวะซื้อขนมนมเนย ตั้งใจจะเอาไปฝากแม่กับคุณยาย และเผื่อตัวเอง

“ขนมถ้วยสองถุง แล้วก็นี่ด้วยค่ะ” สาวสวยยื่นขนมโปรดซึ่งมีฟักทองแกงบวช กล้วยบวชชี และมันต้มน้ำตาลอย่างละถุงให้แม่ค้าก่อนถามค่าเสียหาย “เท่าไหร่คะ?”

“ห้าสิบบาท” คนขายตอบ ใส่ถุงส่งให้ลูกค้า พร้อมกับรับแบงค์ห้าสิบไป

เอาอะไรอีกดี?

ติชิลาเดินสำรวจหาของอร่อยอีกสองอย่าง จากนั้นตรงดิ่งไปร้านผ้าจันทราที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่หัวมุมของตลาด

“แม่คะ” หล่อนยกมือไหว้มารดาที่คอยต้อนรับลูกค้าหน้าร้าน

“เตจะมาทำไมไม่โทรมาบอกแม่ก่อน ชอบผลุบๆ โผล่ๆ อยู่เรื่อยนะเรา”จันทราเอ่ยเสียงใส รั้งลูกสาวคนเดียวไปกอดแน่นๆ ให้หายคิดถึงแม้จะเพิ่งเจอหน้าสวยๆ เมื่อสองวันก่อนก็ตามแต่ยังไม่หายคิดถึงหลังไม่เห็นหน้าอีกฝ่ายนานหลายปี

สาวสวยกอดตอบ หอมแม่หนึ่งฟอด แล้วผละออกห่างเว้นระยะเล็กน้อยแล้วพูดยิ้มๆ

“คิดถึงกะทันหันค่ะ”

แม่ส่ายหน้าน้อยๆ กับความยอกย้อนกวนอารมณ์ของเจ้าหล่อนที่ไม่เปลี่ยนไปจากตอนเด็กๆนัก

“กวนจริงๆ เลยนะ”

ติชิลาหัวเราะเบาๆ กับคำประชดแบบไม่จริงจังของแม่

“ว่าแต่วันนี้จะอยู่กินข้าวเย็นหรือเปล่า?”

“ค่ะ ขอค้างด้วยนะคะ” หล่อนรับคำ ก่อนพูดต่ออย่างขรึมๆ “เตมีอะไรจะปรึกษาแม่น่ะ”

ปรึกษา?

จันทราทำหน้าแปลกใจแวบหนึ่ง ท่าทางของลูกสาวบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญจึงอดที่จะถามต่อไม่ได้ด้วยเกรงว่าเลือดเนื้อเชื้อไขจะทำอะไรที่ผิดพลาดไม่ต่างจากตนเองในอดีต

หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องคนรักหรอกนะ

“เรื่องอะไร?”

“เรื่องงานค่ะ”

“อืม” ผงกหัว พลางโล่งใจไม่น้อย จันทรารับฟังทุกปัญหาของลูกสาวและพร้อมจะยื่นมือช่วยเหลือเสมอ หลังเห็นว่าลูกค้าไม่ค่อยเยอะแล้วและมีลูกจ้างหลายคนที่รับมือแทนได้อย่างสบายๆ จึงตบไหล่หล่อนเบาๆ “ไปคุยกับคุณยายก่อนนะเรื่องนั้นไว้ค่อยคุยกัน เดี๋ยวแม่หาอะไรให้ทานกลางวัน”

“ค่ะ”

ติชิลาก้าวไปหาคุณยายที่นั่งอยู่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่ในสุดของร้าน ทำหน้าที่เป็นพนักงานเก็บเงินของร้าน หญิงสาวเดินผ่านลูกค้าหลายคนที่กำลังยืนเลือกสินค้าในร้านที่มีให้เลือกกันจนตาลายโดยมีเด็กลูกจ้างสามคนคอยให้บริการอย่างใกล้ชิด

“คุณยายคะ” หล่อนก้าวไปหา ยกมือไหว้คุณอิ่มอย่างอ่อนช้อย

หญิงสูงวัยเงยหน้ามองต้นเสียงใบหน้าเหี่ยวย่นที่ล่วงเลยตามวัยยิ้มกว้างออกมาทันทีที่เห็นหน้าหลานสาว

“เตเหรอลูก?”

“ค่ะคุณยาย”

“มา มาหายายใกล้ๆ” อิ่มเรียก พลางยกมือขึ้นติชิลาคุกเข่าลงแล้วโผเข้าสวมกอดญาติผู้ใหญ่อาวุโส คุณยายกอดหล่อนแน่น ยกมือลูบผมสีดำขลับของหลานสาวเบาๆจนหายชื่นใจจึงยอมคลายวงแขนให้อีกคนเป็นอิสระ “วันนี้ว่างหรือลูก?”

“ค่ะ เตว่าจะขอค้างด้วยคน ได้ไหมคะ?”

“ทำไมต้องขอด้วย นี่ก็บ้านเรานะ เตจะมาเมื่อไหร่ก็ได้”คุณยายค้าน พร้อมส่งค้อนน้อยๆ ให้อย่างเอ็นดู

สาวสวยแย้มยิ้มกว้าง วางถุงขนมหวานที่ซื้อมาไว้มุมโต๊ะตัวใหญ่

“เตเอาขนมมาฝากคุณยายด้วยค่ะ ของโปรดคุณยายทั้งนั้นเลย”

“ขอบใจนะลูก” อิ่มพูดอย่างมีความสุขที่หลานสาวใส่ใจตน“เดี๋ยวมานั่งทานกับยายนะ มาๆ นั่งเก้าอี้ คุกเข่านานเดี๋ยวเมื่อย”

“ค่ะคุณยาย” หล่อนขยับลุกมานั่งเก้าอี้ว่างที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ โต๊ะ

ยายหลานนั่งคุยกันอยู่ไม่นานจันทราก็เข้ามาร่วมสมทบพร้อมกับถาดบะหมี่น้ำหมูแดงสามชามมื้อกลางวันแบบง่ายๆซึ่งสั่งมาจากร้านเจ้าประจำใกล้ๆ

“ทานก๋วยเตี๋ยวกันก่อนค่ะ เย็นแล้วไม่อร่อย” จันทราชวน

“น่าอร่อยจัง” หล่อนสูดกลิ่นหอมของโปรดตรงหน้า รู้สึกน้ำย่อยในกระเพาะจะทำงานขึ้นมาทันที

คนเป็นลูกหยิบชามออกมาวางบนโต๊ะ วางช้อนกับตะเกียบ แล้วหยิบพวงเครื่องปรุงเลื่อนมาตรงหน้าคุณยายรอจนคุณอิ่มเติมเครื่องปรุงเสร็จ ก็เลื่อนให้มารดาบ้างก่อนที่ตนเองจะปรุงเป็นคนสุดท้าย

ทั้งสามนั่งทานอาหารกลางวันร่วมกันอย่างมีความสุข ก่อนตบท้ายด้วยขนมที่ติชิลาเอามาฝากจนอิ่มหนำสำราญ

“ขืนกินแบบนี้บ่อยๆ ไปหาหมอคราวหน้าต้องโดยบ่นแน่” คนเป็นแม่พูดพึมพำกึ่งบ่นกับตัวเองด้วยถูกกำชับให้ควบคุมอาหารจำพวกที่มีคอเรสเตอรอลสูง

แม่ขี้บ่นไม่เปลี่ยนจริงๆ

ติชิลานึกในใจ แต่ไม่คิดจะทำร้ายหูตัวเองโดยไม่จำเป็นจึงปิดปากสนิทเสีย

“ว่าแต่เตจะปรึกษาเรื่องงานอะไรเหรอ?” จันทราเริ่มเข้าเรื่องซึ่งตอนนั้นมีนั่งกันอยู่แค่สามคนเท่านั้น เธอถือคติว่า ไม่ควรคิดอะไรตอนท้องหิวเพราะสมองจะไม่ค่อยไหลลื่น

“คืออย่างนี้ค่ะ...” หล่อนเล่าถึงเรื่องที่ทรงพล ผู้เป็นบิดาเอ่ยปากชวนให้ไปทำงานที่บริษัทPremium Group ซึ่งบริษัทแห่งนี้เป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรายใหญ่จำหน่ายทั้งในและนอกประเทศออกมา

“แล้วเขาบอกเหตุผลไหม?” คนเป็นแม่ซักด้วยเชื่อว่าเขาน่าจะมีปัญหาอะไรสักอย่าง

“ที่บริษัทมีการยักยอกค่ะ” ตอบตรงๆ

“ว่าแล้วเชียว” คุณอิ่มที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ ส่ายหัวไปมา กับอุปนิสัยของทรงพลที่เธอไม่ถึงกับชื่นชอบนักผู้ชายคนนี้ค่อนข้างเห็นแก่ตัว มีเมียอยู่แล้วยังมาหลอกลวงลูกสาวของเธออีกโดยอ้างว่ารัก แม้เขาจะส่งเสียเงินมาให้ไม่ขาด...แต่นั่นก็ไม่ถือว่าเป็นคนดี

‘ทำชั่วแล้ว มาทำดีภายหลัง หักกลบลบล้างกันไม่ได้’

“แล้วเขาจะให้ลูกไปทำอะไร?” จันทราถามเสียงเข้ม แสดงความไม่พอใจออกมาชัดเจนเธอไม่อยากให้ติชิลาต้องไปเจอกับเรื่องวุ่นวายพอรู้ว่าในบริษัทนั้นมีเครือญาติของคุณหญิงธนิดาทำงานอยู่หลายคน ซึ่งอีกฝ่ายคงไม่ชอบใจแน่หากรู้ว่าลูกของเธอไปทำงานที่นั่น และจันทราไม่ต้องการให้ลูกสาวต้องพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย

ภรรยาหลวงอาจจะเข้าใจไปว่า ติชิลาทำเพราะหวังสมบัติ หรือเพื่อปอกลอกทรงพลด้วยผู้หญิงคนนั้นชิงชังเธอเหลือเกิน คาดว่าถึงตายก็คงไม่ยอมเผาผี

การที่คุณหญิงจะเจ็บแค้นเธอมากมายไม่ใช่เรื่องประหลาดถ้าไม่โกรธสิถึงจะแปลก...ใครจะยอมแชร์สามีที่เคารพกับผู้หญิงอื่น

เจ้าของร้านผ้าให้ลูกสาวใช้นามสกุลของตน แทนที่จะให้ใช้ของพ่ออย่างไรซะลูกก็เป็นของตนคนเดียว ไม่ยอมให้เขามีสิทธิ์ในเรื่องนี้ แต่ยอมให้ทรงพลมาพบลูกสาวได้บ้างรวมถึงยอมรับและเปิดใจให้กับทินกรลูกชายของเขาที่มาฉอเลาะออดอ้อนจนจันทราใจอ่อน และยอมรับชายหนุ่มเป็นลูกอีกคน

...เธอวางตัวอย่างระมัดระวังคงความสัมพันธ์กับทรงพลแค่พ่อของลูก แต่ไม่ยอมมีอะไรกับเขาเกินเลยอีกหากใครถามก็จะบอกว่า ‘คนรู้จัก’

“พ่อให้เตไปทำงานที่นั่น เพื่อสืบว่าใครเป็นคนโกงค่ะ” ติชิลาตอบตามจริงแม้จะรู้ว่ามารดาไม่ชอบใจนักก็ตาม ก่อนกล่าวต่อ “ถ้าเตไม่ช่วยคาดว่าบริษัทคงเสียหายเป็นร้อยล้าน”

“ร้อยล้าน!”

อิ่มอุทานออกมาอย่างตกใจ เผลอยกมือทาบอกไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องโตขนาดนี้ เงินจำนวนมหาศาลที่คนส่วนใหญ่ได้แต่ฝันถึงทว่าไม่เคยเห็นว่าเวลามากองจะมากขนาดไหน รู้แต่เพียงว่าเลขศูนย์ต่อท้ายนั้นเยอะมาก

เฮ้อ!

จันทราถอนหายใจยาวอย่างเอือมระอากับเหตุผลที่ยกมาอ้าง

“แล้วคนอื่นไม่มีแล้วหรือไง จะจ้างใครก็ได้นี่ แล้วทำไมต้องเป็นเตด้วย?”คนเป็นแม่ตัดพ้อออกมา ใบหน้าที่เหลือเค้าความสวยในวัยสาวงอเง้าบึ้งตึง อดประชดทรงพลในใจไม่ได้

รวยขนาดนั้น...จ้างอีกสิบคนขนหน้าแข้งก็ไม่ร่วงหรอก

“จริงๆ เตก็ไม่อยากค่ะ” หล่อนก้มหน้าเอ่ยเสียงแผ่ว“แต่ถ้าเตไม่ช่วย เตก็คงเป็นคนอกตัญญูใช่ไหมคะ?”

หญิงสาวอยากตอบแทนบุญคุณทรงพลบ้างในฐานะลูกที่ไม่เคยทำอะไรให้เขาเลย แม้ว่าจะเป็นแค่ลูกนอกสมรสก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความเป็นสายเลือดเดียวกันจางหายไป

...ความเป็นพ่อลูกคือความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้

ซื่อไปไหม!...นี่ลูกฉันจริงๆ เหรอ

จันทราสบถในใจ ไม่คิดว่าลูกสาวจะเป็นคนเถรตรงขนาดนี้รู้ทั้งรู้ว่าจะเจอกับพายุปัญหาที่รุมเร้า...ยังจะทะลึ่งแหย่เท้าเข้าไปอีกไม่รู้จะชมหรือด่าดี?

แม่คงไม่โกรธเตหรอกนะ

ติชิลาหวังแบบนั้น ทำหน้าจ๋อยๆ ไม่ต่างจากสมัยเด็กเวลาทำผิด

ใครจะโกรธหรือเกลียดหล่อนขนาดไหนก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่แม่

หญิงสาวไม่อยากทำให้จันทราผิดหวังแม้แต่น้อยนิดถึงจะมีอีกเรื่องสำคัญที่ปิดบังกับอีกฝ่ายอยู่...เรื่องของดารินซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากอย่างไร?

สมเป็นเจ้าเตจริงๆ หุหุ

อิ่มนึกขำในใจ หลังใคร่ครวญทุกอย่างทั้งข้อดีและข้อเสีย ด้วยเธอรู้จักนิสัยใจคอของสองแม่ลูกเป็นอย่างดีว่าเวลามีปัญหาขัดแย้งกัน สุดท้ายจันทรามักจะยอมให้เสมอ หากติชิลามีเหตุผลที่ดี...ซึ่งครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกัน

หากยกความกตัญญูขึ้นมาอ้าง หัวอกคนเป็นแม่ก็ยากจะปฏิเสธ ซึ่งอิ่มเข้าใจความรู้สึกนี้เป็นอย่างดี

แม้จะไม่ชอบหน้าทรงพล แต่ไม่มีเหตุผลที่ต้องมานั่งขุดความผิดเก่าๆขึ้นมาประจานตอกย้ำ ใครทำอะไรดีชั่วก็รู้อยู่แก่ใจ ควรใช้เวลาคิดหาทางออกดีกว่าจมปลักอยู่กับปัญหาสุดท้ายหากให้อภัยได้ ตัวเราเองคือผู้ที่จะมีความสุขที่สุด...ไม่ใช่คนอื่น

ถึงครอบครัวจะเจอกับปัญหายุ่งยากไม่น้อย แต่ในโชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่เธอมีหลานสาวแสนสวยแสนดีที่ชื่อติชิลา ไม่ว่ามองอย่างไรก็ถือว่าวิเศษสุดกว่าทุกอย่าง

ยายจันก็คงแพ้เจ้าเตอีกแน่ หุหุ

“แปลว่าเตจะไปช่วย?” จันทราถามย้ำ

“เตสมควรทำ ไม่ใช่เหรอคะ?” สาวสวยย้อนถามกลับ เหมือนจะให้คนเป็นแม่ตัดสินใจ

ร้ายจริงๆ เจ้าลูกคนนี้

มารดานึกต่อว่า ก่อนถอนใจยาวเหยียด

“เตรู้ใช่ไหมว่าจะมีปัญหาตามมาอีกเป็นพรวน?” ไม่เอ่ยลงลึกในรายละเอียดแต่อีกฝ่ายก็น่าจะพอรู้อยู่แล้ว

“ค่ะ” ติชิลาพยักหน้า “เตอาจต้องกระทบกระทั่งกับคุณหญิงหรือคนของคุณหญิง”

“รู้ก็ยังจะทำ?” แม่ถามเสียงห้วนๆ

“เตคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต หากบริษัทของพ่อต้องพังลงไปโดยที่เตไม่ยอมช่วยอะไรเลย” สาวผมยาวกล่าวเสียงเรียบราบจริงจัง

“งั้นก็ตามใจแล้วกัน” จันทรายอมจำนนกับเหตุผลของลูก

ลึกๆ ในใจคนเป็นแม่ก็รู้สึกแย่เหมือนกัน หากลูกสาวใจดำไม่ยื่นมือเข้าช่วยทรงพลแม้เขาจะไม่ใช่คนรักที่ดี ไม่ใช่พ่อที่ดี แต่อย่างน้อยก็ดีกับครอบครัวของเธอมาตลอดเงินส่งเสียของเขาทำให้จันทราขยายร้านผ้าได้ใหญ่โตกินอยู่อย่างสบายไม่เคยเดือดร้อน แถมเขายังส่งเสียหล่อนให้ไปร่ำเรียนเมืองนอกจนจบ นับว่าเป็นบุญคุณไม่น้อย

“ขอบคุณค่ะแม่” ติชิลายกมือไหว้มารดาอย่างเคารพ

“อือ” ครางเบาๆ ในลำคอ ก่อนเตือนอย่างเป็นห่วง“อย่าประมาทนะลูก ถ้าคนมันโลภ เห็นเงินเป็นพระเจ้า อะไรเลวๆมันก็กล้าทำหมดนั่นแหละ”

เธอเคยเห็นแม่ค้าในตลาดเอาปืนไล่ยิงกันเพียงเพราะติดหนี้พันบาท เทียบไม่ได้กับคนโกงเงินเป็นสิบล้านร้อยล้านที่คงกล้าทำทุกอย่างแบบไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมแน่

ใครกอดเงินร้อน ชีวิตยากจะสุข...มีแต่จะสุกมากกว่า

“ค่ะแม่ เตจะระวัง” ลูกสาวรับคำไม่อยากให้มารดาต้องเป็นกังวลมากเกินไป

“แล้วจะเริ่มงานเมื่อไหร่ล่ะ?” อิ่มที่นิ่งฟังมาตลอดถามบ้าง

“จันทร์ที่จะถึงนี่ค่ะ”

“นี่ก็วันเสาร์แล้ว ทำไมเร็วจัง?” คนเป็นแม่บ่นพึมพำ

อันที่จริง จันทราอยากให้ลูกสาวมาช่วยงานที่ร้านผ้ามากกว่าแต่ก็ตามใจที่สาวสวยเคยบอกว่าอยากไปทำงานหาประสบการณ์ก่อนแต่ไม่คิดว่าจะเป็นบริษัทของทรงพล เธอไม่อยากจะคิดเลยว่า คุณหญิงธนิดาจะเต้นเป็นองค์ลงขนาดไหนหากรู้เรื่องนี้ทีหลัง

ถ้ารู้เรื่องนี้ อาจจะเส้นเลือดในสมองแตก...ช่างขยันหาเรื่องจริงๆคุณทรงพล

“ดีเสียอีก รีบช่วยซะเรื่องจะได้จบเร็วๆ เตจะได้ไปทำงานที่อื่นที่อยากทำไง”อิ่มรีบตัดบทเข้าข้างหลานสาว ก่อนที่จันทราจะบ่นอีกเป็นกระบุง

ติชิลาหันไปสบตากับคุณยายอมยิ้มในหน้ากับความช่วยเหลือที่อีกคนส่งมา

ขอบคุณค่ะคุณยาย

“เข้าข้างกันจริงๆ เลยยายหลาน” จันทราบ่นงึมงำอย่างไม่จริงจังนักที่แม่ชอบถือหางลูกสาวของตนออกหน้าออกตา สองคนเคยรวมหัวกันงอนประท้วงก็หลายหนจนสุดท้ายเธอก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้

“ฉันเปล่าซะหน่อย” อิ่มไม่ยอมรับก่อนเปลี่ยนเรื่องคุยให้ไปไกลตัว “เย็นนี้เตอยากกินอะไรลูกจะได้ให้เด็กไปซื้อมาให้ หรืออยากกินฝีมือแม่เขา?”

“ฝีมือแม่ค่ะคุณยาย”สาวสวยรีบรับลูกที่ญาติผู้ใหญ่ส่งมาทันควัน ก่อนหันมาอ้อนมารดา “ได้ไหมคะแม่?”

มันน่าจริงๆ

จันทราส่ายหัวกับความขี้อ้อน ก่อนเอ่ยถามออกมา

“แล้วเตอยากทานอะไร เอาที่ทำง่ายๆ นะก็เราดันมาไม่บอกแม่ล่วงหน้า ใครจะไปเตรียมทัน”

“อืม แกงเลียงกับข้าวผัดค่ะ” สาวสวยตอบออกมาอย่างเร็ว สองอย่างนี้เป็นอาหารจานโปรดที่จะทานยามคิดถึงมารดาช่วงเรียนอยู่ต่างแดน แต่ไม่มีร้านไหนทำอร่อยเทียบเท่าผู้หญิงคนนี้อีกแล้วแม้จะหัดทำเองก็ไม่อร่อยเท่า

...ทานทีไรก็เผลอน้ำตาซึมเสมอ

มีอะไรบ้างนะ?

คนเป็นแม่นิ่งคิดถึงเครื่องปรุงที่ต้องใช้ หยิบกระดาษกับปากกามาจดของสดสิบกว่ารายการอย่างคล่องแคล่วก่อนยื่นให้ลูกสาว

“เอ้า ไปซื้อมาให้แม่ ก่อนสี่โมงเย็นนะ...พันหนึ่งน่าจะพอ”แล้วเปิดกระเป๋าควักเงินส่งให้ด้วย

“รับทราบค่ะ” ติชิลายิ้มกว้างสวย รับออเดอร์กับธนบัตรสีเทามาถือไว้“เดี๋ยวมานะคะ” แล้วหญิงสาวก็ก้าวออกจากร้านผ้าไปหาของตามคำสั่งทันที

กี่ขวบกันลูกฉัน

จันทราคิดในใจขณะมองแผ่นหลังบอบบางของลูกสาวที่กำลังจะเดินพ้นร้านด้วยท่าทางระรี้ระริกไม่ต่างจากสมัยเด็กนัก

“โตขึ้นเยอะเลยนะ มีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่ขึ้น”อิ่มเปรยขึ้นลอยๆ อย่างภาคภูมิใจในตัวหลานสาว

“นั่นสิคะ” คนฟังหันไปสบตากับมารดาของตนก่อนถอนหายใจอย่างกังวลออกมา

แต่ฉันก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี

“อย่าไปห่วงนักเลย แม่ว่าเตเอาตัวรอดได้แน่”คนอาบน้ำร้อนมาก่อนพูดเหมือนอ่านจิตใจอีกฝ่ายได้

“ค่ะแม่” จันทราพยักหน้าน้อยๆ

OoXoO

ขอบคุณที่กรุณาติดตามค่ะ ถ้าชอบอย่าลืมกดถูกใจ 'เพจนิ้วนาง' ด้วยนะคะ

นาง

OoXoO




Create Date : 23 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2560 13:07:51 น. 0 comments
Counter : 878 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com