ดาวหลงจันทร์ Crush on You บทที่ ๓ (Yuri)
๓ หลังออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ ติชิลาขับรถแวะไปหามารดาที่ร้านขายผ้าในตลาดซึ่งเป็นตึกแถวสี่คูหาซึ่งถือว่าเป็นเจ้าใหญ่ของที่นั่น โดยเลือกจอดรถคันงามไว้ด้านหลังร้านหล่อนเดินทอดน่องแวะซื้อขนมนมเนย ตั้งใจจะเอาไปฝากแม่กับคุณยาย และเผื่อตัวเอง ขนมถ้วยสองถุง แล้วก็นี่ด้วยค่ะ สาวสวยยื่นขนมโปรดซึ่งมีฟักทองแกงบวช กล้วยบวชชี และมันต้มน้ำตาลอย่างละถุงให้แม่ค้าก่อนถามค่าเสียหาย เท่าไหร่คะ? ห้าสิบบาท คนขายตอบ ใส่ถุงส่งให้ลูกค้า พร้อมกับรับแบงค์ห้าสิบไป เอาอะไรอีกดี? ติชิลาเดินสำรวจหาของอร่อยอีกสองอย่าง จากนั้นตรงดิ่งไปร้านผ้าจันทราที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่หัวมุมของตลาด แม่คะ หล่อนยกมือไหว้มารดาที่คอยต้อนรับลูกค้าหน้าร้าน เตจะมาทำไมไม่โทรมาบอกแม่ก่อน ชอบผลุบๆ โผล่ๆ อยู่เรื่อยนะเราจันทราเอ่ยเสียงใส รั้งลูกสาวคนเดียวไปกอดแน่นๆ ให้หายคิดถึงแม้จะเพิ่งเจอหน้าสวยๆ เมื่อสองวันก่อนก็ตามแต่ยังไม่หายคิดถึงหลังไม่เห็นหน้าอีกฝ่ายนานหลายปี สาวสวยกอดตอบ หอมแม่หนึ่งฟอด แล้วผละออกห่างเว้นระยะเล็กน้อยแล้วพูดยิ้มๆ คิดถึงกะทันหันค่ะ แม่ส่ายหน้าน้อยๆ กับความยอกย้อนกวนอารมณ์ของเจ้าหล่อนที่ไม่เปลี่ยนไปจากตอนเด็กๆนัก กวนจริงๆ เลยนะ ติชิลาหัวเราะเบาๆ กับคำประชดแบบไม่จริงจังของแม่ ว่าแต่วันนี้จะอยู่กินข้าวเย็นหรือเปล่า? ค่ะ ขอค้างด้วยนะคะ หล่อนรับคำ ก่อนพูดต่ออย่างขรึมๆ เตมีอะไรจะปรึกษาแม่น่ะ ปรึกษา? จันทราทำหน้าแปลกใจแวบหนึ่ง ท่าทางของลูกสาวบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญจึงอดที่จะถามต่อไม่ได้ด้วยเกรงว่าเลือดเนื้อเชื้อไขจะทำอะไรที่ผิดพลาดไม่ต่างจากตนเองในอดีต หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องคนรักหรอกนะ เรื่องอะไร? เรื่องงานค่ะ อืม ผงกหัว พลางโล่งใจไม่น้อย จันทรารับฟังทุกปัญหาของลูกสาวและพร้อมจะยื่นมือช่วยเหลือเสมอ หลังเห็นว่าลูกค้าไม่ค่อยเยอะแล้วและมีลูกจ้างหลายคนที่รับมือแทนได้อย่างสบายๆ จึงตบไหล่หล่อนเบาๆ ไปคุยกับคุณยายก่อนนะเรื่องนั้นไว้ค่อยคุยกัน เดี๋ยวแม่หาอะไรให้ทานกลางวัน ค่ะ ติชิลาก้าวไปหาคุณยายที่นั่งอยู่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่ในสุดของร้าน ทำหน้าที่เป็นพนักงานเก็บเงินของร้าน หญิงสาวเดินผ่านลูกค้าหลายคนที่กำลังยืนเลือกสินค้าในร้านที่มีให้เลือกกันจนตาลายโดยมีเด็กลูกจ้างสามคนคอยให้บริการอย่างใกล้ชิด คุณยายคะ หล่อนก้าวไปหา ยกมือไหว้คุณอิ่มอย่างอ่อนช้อย หญิงสูงวัยเงยหน้ามองต้นเสียงใบหน้าเหี่ยวย่นที่ล่วงเลยตามวัยยิ้มกว้างออกมาทันทีที่เห็นหน้าหลานสาว เตเหรอลูก? ค่ะคุณยาย มา มาหายายใกล้ๆ อิ่มเรียก พลางยกมือขึ้นติชิลาคุกเข่าลงแล้วโผเข้าสวมกอดญาติผู้ใหญ่อาวุโส คุณยายกอดหล่อนแน่น ยกมือลูบผมสีดำขลับของหลานสาวเบาๆจนหายชื่นใจจึงยอมคลายวงแขนให้อีกคนเป็นอิสระ วันนี้ว่างหรือลูก? ค่ะ เตว่าจะขอค้างด้วยคน ได้ไหมคะ? ทำไมต้องขอด้วย นี่ก็บ้านเรานะ เตจะมาเมื่อไหร่ก็ได้คุณยายค้าน พร้อมส่งค้อนน้อยๆ ให้อย่างเอ็นดู สาวสวยแย้มยิ้มกว้าง วางถุงขนมหวานที่ซื้อมาไว้มุมโต๊ะตัวใหญ่ เตเอาขนมมาฝากคุณยายด้วยค่ะ ของโปรดคุณยายทั้งนั้นเลย ขอบใจนะลูก อิ่มพูดอย่างมีความสุขที่หลานสาวใส่ใจตนเดี๋ยวมานั่งทานกับยายนะ มาๆ นั่งเก้าอี้ คุกเข่านานเดี๋ยวเมื่อย ค่ะคุณยาย หล่อนขยับลุกมานั่งเก้าอี้ว่างที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ โต๊ะ ยายหลานนั่งคุยกันอยู่ไม่นานจันทราก็เข้ามาร่วมสมทบพร้อมกับถาดบะหมี่น้ำหมูแดงสามชามมื้อกลางวันแบบง่ายๆซึ่งสั่งมาจากร้านเจ้าประจำใกล้ๆ ทานก๋วยเตี๋ยวกันก่อนค่ะ เย็นแล้วไม่อร่อย จันทราชวน น่าอร่อยจัง หล่อนสูดกลิ่นหอมของโปรดตรงหน้า รู้สึกน้ำย่อยในกระเพาะจะทำงานขึ้นมาทันที คนเป็นลูกหยิบชามออกมาวางบนโต๊ะ วางช้อนกับตะเกียบ แล้วหยิบพวงเครื่องปรุงเลื่อนมาตรงหน้าคุณยายรอจนคุณอิ่มเติมเครื่องปรุงเสร็จ ก็เลื่อนให้มารดาบ้างก่อนที่ตนเองจะปรุงเป็นคนสุดท้าย ทั้งสามนั่งทานอาหารกลางวันร่วมกันอย่างมีความสุข ก่อนตบท้ายด้วยขนมที่ติชิลาเอามาฝากจนอิ่มหนำสำราญ ขืนกินแบบนี้บ่อยๆ ไปหาหมอคราวหน้าต้องโดยบ่นแน่ คนเป็นแม่พูดพึมพำกึ่งบ่นกับตัวเองด้วยถูกกำชับให้ควบคุมอาหารจำพวกที่มีคอเรสเตอรอลสูง แม่ขี้บ่นไม่เปลี่ยนจริงๆ ติชิลานึกในใจ แต่ไม่คิดจะทำร้ายหูตัวเองโดยไม่จำเป็นจึงปิดปากสนิทเสีย ว่าแต่เตจะปรึกษาเรื่องงานอะไรเหรอ? จันทราเริ่มเข้าเรื่องซึ่งตอนนั้นมีนั่งกันอยู่แค่สามคนเท่านั้น เธอถือคติว่า ไม่ควรคิดอะไรตอนท้องหิวเพราะสมองจะไม่ค่อยไหลลื่น คืออย่างนี้ค่ะ... หล่อนเล่าถึงเรื่องที่ทรงพล ผู้เป็นบิดาเอ่ยปากชวนให้ไปทำงานที่บริษัทPremium Group ซึ่งบริษัทแห่งนี้เป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรายใหญ่จำหน่ายทั้งในและนอกประเทศออกมา แล้วเขาบอกเหตุผลไหม? คนเป็นแม่ซักด้วยเชื่อว่าเขาน่าจะมีปัญหาอะไรสักอย่าง ที่บริษัทมีการยักยอกค่ะ ตอบตรงๆ ว่าแล้วเชียว คุณอิ่มที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ ส่ายหัวไปมา กับอุปนิสัยของทรงพลที่เธอไม่ถึงกับชื่นชอบนักผู้ชายคนนี้ค่อนข้างเห็นแก่ตัว มีเมียอยู่แล้วยังมาหลอกลวงลูกสาวของเธออีกโดยอ้างว่ารัก แม้เขาจะส่งเสียเงินมาให้ไม่ขาด...แต่นั่นก็ไม่ถือว่าเป็นคนดี ทำชั่วแล้ว มาทำดีภายหลัง หักกลบลบล้างกันไม่ได้ แล้วเขาจะให้ลูกไปทำอะไร? จันทราถามเสียงเข้ม แสดงความไม่พอใจออกมาชัดเจนเธอไม่อยากให้ติชิลาต้องไปเจอกับเรื่องวุ่นวายพอรู้ว่าในบริษัทนั้นมีเครือญาติของคุณหญิงธนิดาทำงานอยู่หลายคน ซึ่งอีกฝ่ายคงไม่ชอบใจแน่หากรู้ว่าลูกของเธอไปทำงานที่นั่น และจันทราไม่ต้องการให้ลูกสาวต้องพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย ภรรยาหลวงอาจจะเข้าใจไปว่า ติชิลาทำเพราะหวังสมบัติ หรือเพื่อปอกลอกทรงพลด้วยผู้หญิงคนนั้นชิงชังเธอเหลือเกิน คาดว่าถึงตายก็คงไม่ยอมเผาผี การที่คุณหญิงจะเจ็บแค้นเธอมากมายไม่ใช่เรื่องประหลาดถ้าไม่โกรธสิถึงจะแปลก...ใครจะยอมแชร์สามีที่เคารพกับผู้หญิงอื่น เจ้าของร้านผ้าให้ลูกสาวใช้นามสกุลของตน แทนที่จะให้ใช้ของพ่ออย่างไรซะลูกก็เป็นของตนคนเดียว ไม่ยอมให้เขามีสิทธิ์ในเรื่องนี้ แต่ยอมให้ทรงพลมาพบลูกสาวได้บ้างรวมถึงยอมรับและเปิดใจให้กับทินกรลูกชายของเขาที่มาฉอเลาะออดอ้อนจนจันทราใจอ่อน และยอมรับชายหนุ่มเป็นลูกอีกคน ...เธอวางตัวอย่างระมัดระวังคงความสัมพันธ์กับทรงพลแค่พ่อของลูก แต่ไม่ยอมมีอะไรกับเขาเกินเลยอีกหากใครถามก็จะบอกว่า คนรู้จัก พ่อให้เตไปทำงานที่นั่น เพื่อสืบว่าใครเป็นคนโกงค่ะ ติชิลาตอบตามจริงแม้จะรู้ว่ามารดาไม่ชอบใจนักก็ตาม ก่อนกล่าวต่อ ถ้าเตไม่ช่วยคาดว่าบริษัทคงเสียหายเป็นร้อยล้าน ร้อยล้าน! อิ่มอุทานออกมาอย่างตกใจ เผลอยกมือทาบอกไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องโตขนาดนี้ เงินจำนวนมหาศาลที่คนส่วนใหญ่ได้แต่ฝันถึงทว่าไม่เคยเห็นว่าเวลามากองจะมากขนาดไหน รู้แต่เพียงว่าเลขศูนย์ต่อท้ายนั้นเยอะมาก เฮ้อ! จันทราถอนหายใจยาวอย่างเอือมระอากับเหตุผลที่ยกมาอ้าง แล้วคนอื่นไม่มีแล้วหรือไง จะจ้างใครก็ได้นี่ แล้วทำไมต้องเป็นเตด้วย?คนเป็นแม่ตัดพ้อออกมา ใบหน้าที่เหลือเค้าความสวยในวัยสาวงอเง้าบึ้งตึง อดประชดทรงพลในใจไม่ได้ รวยขนาดนั้น...จ้างอีกสิบคนขนหน้าแข้งก็ไม่ร่วงหรอก จริงๆ เตก็ไม่อยากค่ะ หล่อนก้มหน้าเอ่ยเสียงแผ่วแต่ถ้าเตไม่ช่วย เตก็คงเป็นคนอกตัญญูใช่ไหมคะ? หญิงสาวอยากตอบแทนบุญคุณทรงพลบ้างในฐานะลูกที่ไม่เคยทำอะไรให้เขาเลย แม้ว่าจะเป็นแค่ลูกนอกสมรสก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความเป็นสายเลือดเดียวกันจางหายไป ...ความเป็นพ่อลูกคือความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ซื่อไปไหม!...นี่ลูกฉันจริงๆ เหรอ จันทราสบถในใจ ไม่คิดว่าลูกสาวจะเป็นคนเถรตรงขนาดนี้รู้ทั้งรู้ว่าจะเจอกับพายุปัญหาที่รุมเร้า...ยังจะทะลึ่งแหย่เท้าเข้าไปอีกไม่รู้จะชมหรือด่าดี? แม่คงไม่โกรธเตหรอกนะ ติชิลาหวังแบบนั้น ทำหน้าจ๋อยๆ ไม่ต่างจากสมัยเด็กเวลาทำผิด ใครจะโกรธหรือเกลียดหล่อนขนาดไหนก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่แม่ หญิงสาวไม่อยากทำให้จันทราผิดหวังแม้แต่น้อยนิดถึงจะมีอีกเรื่องสำคัญที่ปิดบังกับอีกฝ่ายอยู่...เรื่องของดารินซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากอย่างไร? สมเป็นเจ้าเตจริงๆ หุหุ อิ่มนึกขำในใจ หลังใคร่ครวญทุกอย่างทั้งข้อดีและข้อเสีย ด้วยเธอรู้จักนิสัยใจคอของสองแม่ลูกเป็นอย่างดีว่าเวลามีปัญหาขัดแย้งกัน สุดท้ายจันทรามักจะยอมให้เสมอ หากติชิลามีเหตุผลที่ดี...ซึ่งครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกัน หากยกความกตัญญูขึ้นมาอ้าง หัวอกคนเป็นแม่ก็ยากจะปฏิเสธ ซึ่งอิ่มเข้าใจความรู้สึกนี้เป็นอย่างดี แม้จะไม่ชอบหน้าทรงพล แต่ไม่มีเหตุผลที่ต้องมานั่งขุดความผิดเก่าๆขึ้นมาประจานตอกย้ำ ใครทำอะไรดีชั่วก็รู้อยู่แก่ใจ ควรใช้เวลาคิดหาทางออกดีกว่าจมปลักอยู่กับปัญหาสุดท้ายหากให้อภัยได้ ตัวเราเองคือผู้ที่จะมีความสุขที่สุด...ไม่ใช่คนอื่น ถึงครอบครัวจะเจอกับปัญหายุ่งยากไม่น้อย แต่ในโชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่เธอมีหลานสาวแสนสวยแสนดีที่ชื่อติชิลา ไม่ว่ามองอย่างไรก็ถือว่าวิเศษสุดกว่าทุกอย่าง ยายจันก็คงแพ้เจ้าเตอีกแน่ หุหุ แปลว่าเตจะไปช่วย? จันทราถามย้ำ เตสมควรทำ ไม่ใช่เหรอคะ? สาวสวยย้อนถามกลับ เหมือนจะให้คนเป็นแม่ตัดสินใจ ร้ายจริงๆ เจ้าลูกคนนี้ มารดานึกต่อว่า ก่อนถอนใจยาวเหยียด เตรู้ใช่ไหมว่าจะมีปัญหาตามมาอีกเป็นพรวน? ไม่เอ่ยลงลึกในรายละเอียดแต่อีกฝ่ายก็น่าจะพอรู้อยู่แล้ว ค่ะ ติชิลาพยักหน้า เตอาจต้องกระทบกระทั่งกับคุณหญิงหรือคนของคุณหญิง รู้ก็ยังจะทำ? แม่ถามเสียงห้วนๆ เตคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต หากบริษัทของพ่อต้องพังลงไปโดยที่เตไม่ยอมช่วยอะไรเลย สาวผมยาวกล่าวเสียงเรียบราบจริงจัง งั้นก็ตามใจแล้วกัน จันทรายอมจำนนกับเหตุผลของลูก ลึกๆ ในใจคนเป็นแม่ก็รู้สึกแย่เหมือนกัน หากลูกสาวใจดำไม่ยื่นมือเข้าช่วยทรงพลแม้เขาจะไม่ใช่คนรักที่ดี ไม่ใช่พ่อที่ดี แต่อย่างน้อยก็ดีกับครอบครัวของเธอมาตลอดเงินส่งเสียของเขาทำให้จันทราขยายร้านผ้าได้ใหญ่โตกินอยู่อย่างสบายไม่เคยเดือดร้อน แถมเขายังส่งเสียหล่อนให้ไปร่ำเรียนเมืองนอกจนจบ นับว่าเป็นบุญคุณไม่น้อย ขอบคุณค่ะแม่ ติชิลายกมือไหว้มารดาอย่างเคารพ อือ ครางเบาๆ ในลำคอ ก่อนเตือนอย่างเป็นห่วงอย่าประมาทนะลูก ถ้าคนมันโลภ เห็นเงินเป็นพระเจ้า อะไรเลวๆมันก็กล้าทำหมดนั่นแหละ เธอเคยเห็นแม่ค้าในตลาดเอาปืนไล่ยิงกันเพียงเพราะติดหนี้พันบาท เทียบไม่ได้กับคนโกงเงินเป็นสิบล้านร้อยล้านที่คงกล้าทำทุกอย่างแบบไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมแน่ ใครกอดเงินร้อน ชีวิตยากจะสุข...มีแต่จะสุกมากกว่า ค่ะแม่ เตจะระวัง ลูกสาวรับคำไม่อยากให้มารดาต้องเป็นกังวลมากเกินไป แล้วจะเริ่มงานเมื่อไหร่ล่ะ? อิ่มที่นิ่งฟังมาตลอดถามบ้าง จันทร์ที่จะถึงนี่ค่ะ นี่ก็วันเสาร์แล้ว ทำไมเร็วจัง? คนเป็นแม่บ่นพึมพำ อันที่จริง จันทราอยากให้ลูกสาวมาช่วยงานที่ร้านผ้ามากกว่าแต่ก็ตามใจที่สาวสวยเคยบอกว่าอยากไปทำงานหาประสบการณ์ก่อนแต่ไม่คิดว่าจะเป็นบริษัทของทรงพล เธอไม่อยากจะคิดเลยว่า คุณหญิงธนิดาจะเต้นเป็นองค์ลงขนาดไหนหากรู้เรื่องนี้ทีหลัง ถ้ารู้เรื่องนี้ อาจจะเส้นเลือดในสมองแตก...ช่างขยันหาเรื่องจริงๆคุณทรงพล ดีเสียอีก รีบช่วยซะเรื่องจะได้จบเร็วๆ เตจะได้ไปทำงานที่อื่นที่อยากทำไงอิ่มรีบตัดบทเข้าข้างหลานสาว ก่อนที่จันทราจะบ่นอีกเป็นกระบุง ติชิลาหันไปสบตากับคุณยายอมยิ้มในหน้ากับความช่วยเหลือที่อีกคนส่งมา ขอบคุณค่ะคุณยาย เข้าข้างกันจริงๆ เลยยายหลาน จันทราบ่นงึมงำอย่างไม่จริงจังนักที่แม่ชอบถือหางลูกสาวของตนออกหน้าออกตา สองคนเคยรวมหัวกันงอนประท้วงก็หลายหนจนสุดท้ายเธอก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้ ฉันเปล่าซะหน่อย อิ่มไม่ยอมรับก่อนเปลี่ยนเรื่องคุยให้ไปไกลตัว เย็นนี้เตอยากกินอะไรลูกจะได้ให้เด็กไปซื้อมาให้ หรืออยากกินฝีมือแม่เขา? ฝีมือแม่ค่ะคุณยายสาวสวยรีบรับลูกที่ญาติผู้ใหญ่ส่งมาทันควัน ก่อนหันมาอ้อนมารดา ได้ไหมคะแม่? มันน่าจริงๆ จันทราส่ายหัวกับความขี้อ้อน ก่อนเอ่ยถามออกมา แล้วเตอยากทานอะไร เอาที่ทำง่ายๆ นะก็เราดันมาไม่บอกแม่ล่วงหน้า ใครจะไปเตรียมทัน อืม แกงเลียงกับข้าวผัดค่ะ สาวสวยตอบออกมาอย่างเร็ว สองอย่างนี้เป็นอาหารจานโปรดที่จะทานยามคิดถึงมารดาช่วงเรียนอยู่ต่างแดน แต่ไม่มีร้านไหนทำอร่อยเทียบเท่าผู้หญิงคนนี้อีกแล้วแม้จะหัดทำเองก็ไม่อร่อยเท่า ...ทานทีไรก็เผลอน้ำตาซึมเสมอ มีอะไรบ้างนะ? คนเป็นแม่นิ่งคิดถึงเครื่องปรุงที่ต้องใช้ หยิบกระดาษกับปากกามาจดของสดสิบกว่ารายการอย่างคล่องแคล่วก่อนยื่นให้ลูกสาว เอ้า ไปซื้อมาให้แม่ ก่อนสี่โมงเย็นนะ...พันหนึ่งน่าจะพอแล้วเปิดกระเป๋าควักเงินส่งให้ด้วย รับทราบค่ะ ติชิลายิ้มกว้างสวย รับออเดอร์กับธนบัตรสีเทามาถือไว้เดี๋ยวมานะคะ แล้วหญิงสาวก็ก้าวออกจากร้านผ้าไปหาของตามคำสั่งทันที กี่ขวบกันลูกฉัน จันทราคิดในใจขณะมองแผ่นหลังบอบบางของลูกสาวที่กำลังจะเดินพ้นร้านด้วยท่าทางระรี้ระริกไม่ต่างจากสมัยเด็กนัก โตขึ้นเยอะเลยนะ มีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอิ่มเปรยขึ้นลอยๆ อย่างภาคภูมิใจในตัวหลานสาว นั่นสิคะ คนฟังหันไปสบตากับมารดาของตนก่อนถอนหายใจอย่างกังวลออกมา แต่ฉันก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี อย่าไปห่วงนักเลย แม่ว่าเตเอาตัวรอดได้แน่คนอาบน้ำร้อนมาก่อนพูดเหมือนอ่านจิตใจอีกฝ่ายได้ ค่ะแม่ จันทราพยักหน้าน้อยๆ
OoXoO ขอบคุณที่กรุณาติดตามค่ะ ถ้าชอบอย่าลืมกดถูกใจ 'เพจนิ้วนาง' ด้วยนะคะ นาง OoXoO
Create Date : 23 พฤศจิกายน 2560 |
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2560 13:07:51 น. |
|
0 comments
|
Counter : 878 Pageviews. |
|
|