ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
ธันวาคม 2564
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
9 ธันวาคม 2564
 
 
I can't breathe - บทที่ ๗ (YURI)

 

หลังทานอาหารค่ำเรียบร้อย นักแสดงหน้าใหม่ทั้งสี่แยกย้ายพักผ่อนตามอัธยาศัย แสงแขกับปัทมานั่งดูละครโทรทัศน์หลังข่าวเหมือนทุกวัน ส่วนชนาภานั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ ส่วนกรวินกับแม่บ้านกลับที่พักของตนที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้นัก

ชนิญญากลับเข้าห้องพักตัวเอง เพื่อจะเก็บข้าวของซึ่งมีจำนวนไม่มาก แค่กระเป๋าเสื้อผ้าหนึ่งใบกับเป้สัมภาระ ห้องพักมีขนาด 3x4 เมตร มีเตียงนอนพร้อมหมอนที่ปูผ้าคลุมเตียงสีสวย ตู้เสื้อผ้าขนาดย่อมที่มีกระจกบานใหญ่ และโต๊ะหนังสือที่มีโคมไฟตั้งโต๊ะ

สำหรับเธอไม่ถือว่าอึดอัดแต่อย่างใด ไม่ต่างจากห้องที่ตนอยู่ในบ้านของคุณปราณี เมื่อเทียบแล้วที่นี่จัดว่าสะดวกสบายกว่าพวกเด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่ต้องอยู่นอนรวมกันห้องละเป็นสิบคนมาก

หลังจัดของเสร็จ ชนิญญาหยิบบทละครที่เพิ่งได้รับแจกออกมานั่งอ่านอย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจและตีความให้เข้าถึงเนื้อเรื่องให้มากที่สุด แต่อ่านอยู่หลายรอบ ก็ยังคิดไม่ออกว่า

...ไอศิกาเคยเล่นเป็นตัวอะไรในเรื่องนี้

สามทุ่มเศษสาวร่างสูงไปอาบน้ำแปรงฟัน แล้วสวดมนต์ก่อนนอน อันเป็นกิจวัตรประจำวันที่ถูกฝึกมา

หญิงสาวไม่ได้เชื่อว่า การสวดมนต์จะทำให้มีสิ่งปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่การสวดมนต์ทำให้จิตใจสงบ แล้วมีสมาธิ อย่างน้อยก็ไม่สติแตกง่ายจนเกินไป

 

ผ่านไปหลายวัน นักแสดงหน้าใหม่ทั้งสี่คนยังคงไปฝึกที่โรงละครเวทีเหมือนทุกวัน แสงแขพยายามแสดงความโดดเด่นออกมา ด้วยมีความตั้งใจว่าจะลงชิงตำแหน่งบทซินเดอเรลล่า กับพี่เจี๊ยบนางเอกสาวของที่นี่ ขณะที่ปัทมาอยากได้บทพี่สาวใจร้าย ซึ่งต้องแย่งกับนักแสดงของโรงละครเช่นกัน

“ญาอยากเล่นบทอะไร?” ชนาภาถามบัดดี้ตัวเอง

หลังบัดดี้ค่อนข้างจะเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยพูดค่อยจา จึงหาเรื่องชวนคุยในช่วงพักทานข้าว ที่นักแสดงจะนั่งทานแยกกันเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย อาหารกล่องมื้อกลางวันนี้เป็นข้าวผัดหมูกับน้ำเปล่าคนละขวด ซึ่งสั่งมาจากร้านประจำหน้าปากซอย หน้าตาอาจจะดูธรรมดา แต่รสชาติอร่อยใช้ได้เลยทีเดียว

ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมองคนถาม หลังกลืนข้าวเสร็จจึงพูดขึ้น

“ยังไม่รู้เลย”

คนฟังทำหน้าประหลาดใจ

“ยังไม่มีบทในใจเหรอ?”

“ก็ไม่เชิง” อีกคนยักไหล่เล็กน้อย แล้วย้อนถาม “แล้วนาวล่ะอยากได้บทไหน?”

“อยากเป็นแม่เลี้ยง” บัดดี้ของเธอพูดเสียงเบา ไม่อยากเป็นเป้าสายตาให้คนของโรงละครเขม่น ก่อนวันคัดตัวจริงในอีกสองวัน

“จริงอ่ะ?”

ชนิญญารู้สึกผิดคาด หลังอีกฝ่ายเป็นคนเงียบและค่อนข้างเรียบร้อย ผิดกับแสงแขและปัทมาที่ดูเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดมากกว่า

“จะให้ฉันไปแข่งบทนางเอก ฉันคงสู้แขไม่ได้” เพื่อนเธอพูดอย่างเจียมตัว รู้ตัวดีว่าไม่ได้เป็นคนสวยโดดเด่น จึงตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่า จะเข้ามาในวงการบันเทิงในฐานะตัวประกอบ ไม่คิดที่จะเดือดเนื้อร้อนใจชิงดีชิงเด่นในบทนางเอกสักเท่าใด

...ในทุกบทละคร ขาดตัวประกอบไม่ได้ โดยเฉพาะตัวร้าย เพื่อทำให้บทของตัวเอกโดดเด่นขึ้น

“ทำไมต้องบทแม่เลี้ยง?” ชนิญญาถามเหตุผล ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องประหลาด แค่อยากรู้มากกว่า

“ความท้าทายไง ฉันอยากเป็นตัวร้ายสุดๆ บทพี่สาวธรรมดาเกินไป ฉันไม่ค่อยชอบน่ะ”

เป็นคนแปลกนะเนี่ย

สาวร่างสูงคิดแบบนั้น ก่อนพูดให้กำลังใจออกไป

“พยายามเข้านะ ฉันจะรอดู”

“เธอก็ด้วย”

“อือ”

ขณะที่นั่งทานอาหารอยู่นั้น อีกด้านใกล้ๆ แสงแขก็กระซิบถามกรวินขึ้น

“พี่ไก่คะ วันคัดตัวพี่ไอซ์จะมาหรือเปล่า?”

“ยังไม่รู้เลย ละครไอซ์น่าจะใกล้เปิดกล้องแล้วมั้ง” ผู้จัดการดาราตอบแบบเลี่ยงๆ

ที่จริงแล้ว เพื่อนหล่อนพอรู้ตารางงานของไอศิกา ซึ่งมีข่าวว่าจะเลื่อนการถ่ายออกไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ หลังพระเอกประสบอุบัติเหตุขณะเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด ทำให้ผู้กำกับหัวเสียมาก ยังไม่รู้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรอีกหรือเปล่า?

ประกอบกับอังสนา ผู้จัดการส่วนตัวของคนสวยพบเนื้องอก ต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน ซุปตาร์สาวจึงแวะไปดูแลที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง และมีโปรแกรมถ่ายโฆษณาสินค้าอีกสองชิ้น ทำให้ไอศิกายุ่งมาก จนไม่มีเวลาแวะมาทักทายพวกน้องใหม่

“แย่จัง”

หลานสาวของศจีทำหน้าเบื่อ คิดถึงนางเอกสาวสวยคนนั้นมาก แต่ไม่กล้าที่จะเขียนข้อความไปชวนคุยมากนัก กลัวอีกฝ่ายรำคาญตน

“ไม่แย่หรอก ไว้คัดตัวเสร็จน้องแขค่อยไปเล่าให้พี่ไอซ์ฟังก็ได้นี่คะ” กรวินพูดปลอบใจกึ่งหลอกล่อ หลังแสงแขมองเพื่อนของตนเป็นจุดหมายปลายทาง จึงหยิบยกมาใช้ให้เป็นประโยชน์

...และได้ผลเสมอ

“นั่นสิแข ถ้าแขได้เป็นนางเอก พี่ไอซ์ต้องดีใจแน่” ปัทมาพูดเสริม ทำหน้าที่คอยชมเชียร์หลานสาวของศจีกึ่งประจบเอาใจ ทำตัวเป็นลูกไล่ที่ดี โดยหวังที่จะเข้าสู่วงการบันเทิงแบบง่ายๆ

คำว่า ‘พี่ไอซ์ต้องดีใจ’ ทำให้นัยน์ตาแสงแขเป็นประกายขึ้นมา

“จริงด้วย แขต้องพยายามให้มากขึ้นอีก”

กรวินยิ้มอย่างพอใจ ที่ปลุกไฟในตัวหญิงสาวขึ้นได้สำเร็จ

ชนาภาทำหน้านิ่ง ชินกับปฏิกิริยาของแสงแข ที่ดูจะหลงใหลได้ปลื้มกับไอศิกาเหลือเกิน

หลอกง่ายจริงๆ

ชนิญญาที่ได้ยินบทสนทนาตั้งแต่ต้น ทำหน้าเบื่อ หลังได้ยินคำว่าพี่ไอซ์จากปากของแสงแขทุกวี่ทุกวัน จนรู้สึกเอียนระอาอย่างบอกไม่ถูก

ถ้ายายคนนี้เอาโซ่คล้องคอคุณไอซ์ได้ คงทำไปแล้ว

ร่างสูงคิดประชดในใจ ก่อนก้มหน้าก้มตาทานข้าวผัดต่อ

ที่ผ่านมา เหล่านักแสดงของโรงละครได้ยินคำพูดยกตัว ประหนึ่งว่าเก่งกาจเหลือเกิน รู้สึกรำคาญแสงแขไม่น้อย แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาดังๆ จนกระทั่งเหลืออด

“คิดว่าจะได้เป็นนางเอกง่ายๆ งั้นเลยเหรอ?” หนึ่งในคนของโรงละครพูดเปรยขึ้นอย่างหมั่นไส้

“ก็ช่างน้องเขา” เจี๊ยบ ตัวเก็งซินเดอเรลล่าพูดเสียงเรียบ ด้วยมองว่าทุกคนมีโอกาสไม่ต่างกัน

“กะอีแค่เด็กใหม่…” อีกคนเสริมพร้อมทำตาคว่ำตาหงาย

“นั่นสิ” คนแรกพูดต่อ

“พอได้แล้ว!” จุลพงษ์ที่นั่งอยู่ตรงนั้นเอ็ด

ชายหนุ่มไม่อยากได้ยินคำพูดชวนแตกแยก จนทำให้เข้าหน้ากันไม่ติด อย่างไรก็ต้องร่วมงานกันอีกเป็นเดือนกว่าจะจบโปรเจคนี้

“ไว้วันคัดตัวก็รู้เองแหละ”

หลังได้ยินคำตำหนิกลายๆ คนอื่นจึงหุบปากสนิท ไม่กล้าที่จะเถียงกับลูกชายเจ้าของโรงละคร กลัวตกงานกะทันหัน

จุลพงษ์เชื่อมั่นว่า บิดาจะเลือกตัวละครอย่างเหมาะสมและยุติธรรมไม่ต่างจากทุกครั้ง ไม่มีทางเลือกใครด้วยเส้นสายเด็ดขาด

“ใครเก่งที่สุด มีความสามารถที่สุด ก็สมควรได้รับบทนั้นไป” เป็นกฎประจำของโรงละครแห่งนี้ และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ทุกคนต้องพยายามอย่างเต็มที่ เพราะที่นี่ไม่มีคำว่า ‘เด็กเส้น’

ติ๊ง!

เสียงมือถือของชนิญญาดังขึ้นในช่วงก่อนซ้อมรอบบ่าย เธอจึงหยิบออกมาดูแล้วขมวดคิ้ว หลังอีกฝ่ายเขียนมาขอเป็นเพื่อน พร้อมกับส่งข้อความบอกว่า

Aisika : นี่พี่ไอซ์นะ รับเป็นเพื่อนหน่อยสิ

คุณ!

สาวร่างสูงเชื่อว่าเป็นนางเอกสาวตัวจริง จึงกดรับอย่างเร็ว

Ya Ya : สวัสดีค่ะ

Aisika : อือ ตกลงเลือกบทอะไร

Ya Ya : ตอนแรกว่าจะเป็นแม่เลี้ยง

Aisika : แล้ว

Ya Ya : ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้วค่ะ

Aisika : หลายใจจัง

Ya Ya : ก็มันต้องคิดมากนี่คะ

Aisika : โลเล

อะไรของผู้หญิงคนนี้?

เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย ที่อีกฝ่ายเขียนเหมือนหาเรื่องกัน

Ya Ya : ตกลงคุณจะเขียนมาว่าฉัน?

Aisika : ก็น้องญาตอบไม่ตรงคำถาม

เฮ้อ!

ร่างสูงถอนใจ

Ya Ya : เจ้าชายค่ะ

หืม?

ไอศิกาชะงักไป ก่อนยิ้มกับตัวเอง

Aisika : ทำไมเป็นเจ้าชาย?

Ya Ya : ฉันแค่อยากทำอะไรที่ท้าทาย อีกอย่างละครเวทีก็ไม่ได้จำกัดว่า รับบทผู้ชายไม่ได้

Aisika : น้องญาเลียนแบบพี่

Ya Ya : คุณเคยเล่นบทนี้?

Aisika : ใช่ค่ะ พี่เล่นบทนี้ ที่นั่น ก่อนเข้าวงการ

Ya Ya : ไม่ยักรู้

กรวินไม่ยอมให้รายละเอียดที่ไอศิกาเคยเล่นละครเรื่องนี้กับเธออีก จึงได้แต่คิดเอาเอง โดยใช้สัญชาตญาณล้วนๆ สุดท้ายจึงเลือกที่จะชิงบทเจ้าชาย

Ya Ya : แล้วคุณแสดงแบบไหน?

Aisika : น้องญาไม่ควรเลียนแบบพี่ หรือเลียนแบบใคร ควรเล่นในแบบของน้องญาเอง ทำให้บทนี้เป็นของน้องญาเพียงคนเดียว ไม่ให้ใครลอกเลียนแบบได้

บทที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้เหรอ?

ชนิญญาคิดทวนคำในใจ

Ya Ya : ฉันจะลองดูค่ะ

Aisika : พี่เชื่อว่าคู่แข่งสำคัญของน้องญา คงเป็นพี่พงษ์

Ya Ya : นอกจากพี่พงษ์ ยังมีอีกคน

Aisika : จะกี่คนไม่ใช่ปัญหา น้องญาก็แค่ทำให้ดีกว่า เป็นเจ้าชายที่มีเสน่ห์ที่สุด ลุงกรถึงจะเลือก

Ya Ya : เสน่ห์?

Aisika : ไม่มีเลยหรือไงคะ?

Ya Ya : ก็พอมีค่ะ

Aisika : มีเสน่ห์เท่าไหร่ก็เอาออกมาให้หมด

Ya Ya : พูดง่ายจัง

ชนิญญาถอนใจเบาๆ กับคำสอนที่ดูจะเป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้

ถ้าแค่นี้ยังทำไม่ได้ เรื่องอื่นไม่ต้องพูดถึง

ไอศิกาคิดแบบนั้น แต่ไม่มีเวลาที่จะเขียนเยิ่นเย้อ

Aisika : พี่จะรอดู แค่นี้นะ

Ya Ya : ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ

Aisika : บาย

Ya Ya : บายค่ะ

สาวร่างสูงยิ้มบ้าบอกับมือถือ ความมั่นใจมากมายหลั่งไหลมาเต็มเปี่ยมแบบไม่มีเหตุผล

“มีอะไรหรือเปล่า?” ชนาภาถาม หลังเห็นเพื่อนทำท่าร่าเริงผิดกับเมื่อกี้ที่ทำหน้าเบื่อ

เธอไม่คิดบอกใครเรื่องนี้ หุบยิ้มลง

“ไม่มีอะไรหรอก เตรียมตัวไปซ้อมกันดีกว่า”

“อือ”

นัยน์ตาของชนิญญาฉายแววเชื่อมั่นแรงกล้า ตั้งอกตั้งใจซ้อมอย่างหนัก โดยมีจุดมุ่งหมายชัดเจน

ต้องทำได้สิ ฉันต้องเอาบทเจ้าชายมาให้ได้

 

กรวินสังเกตได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างสูง ก่อนหน้านั้นสักพัก ไอศิกาได้เขียนมาขอ ID ของชนิญญา คาดว่าหล่อนคงมีธุระจะคุยด้วย จึงเขียนให้ไป

ไอซ์คุยอะไรกับน้องญาล่ะเนี่ย ถึงได้ดูมีพลังขนาดนี้

แม้จะคิดสงสัย แต่กรวินก็ไม่คิดซักไซ้ ตอนนี้กำลังลุ้นหนักว่า นักแสดงหน้าใหม่สี่คนของตน จะมีใครผ่านได้แสดงละครเวทีคราวนี้บ้าง

ขอผ่านแค่สักคนก็ยังดี ฉันจะได้ไม่หน้าแตกมากนัก

 

อีกด้านศจีซึ่งนั่งอยู่ในห้องทำงานกับไอศิกา หลังอีกฝ่ายเลิกเขียนข้อความจึงถามขึ้น

“คิดว่าน้องญาจะไหวเหรอ?” เจ้าของบริษัทถามอย่างไม่แน่ใจนัก ทั้งที่ตนเป็นคนสั่งให้นางเอกสาวส่งข้อความไปติวให้ชนิญญา เพื่อเพิ่มโอกาสให้ได้บทสักคนก็ยังดี

...เป็นไม่กี่ครั้งที่ศจีรู้สึกสิ้นหวังแบบนี้

ในฐานะผู้จัดการบริษัทที่ส่งคนไปแคสบท ย่อมอดกังวลใจไม่ได้ ไม่อยากให้คนของตนพลาดหมด เพราะนั่นหมายถึงนักแสดงหน้าใหม่ไม่มีคุณภาพเข้าขั้นยอมรับได้ ย่อมส่งผลต่อภาพลักษณ์ และอนาคตของบริษัทอย่างมาก

“ไอซ์คิดว่าน้องญาน่าลุ้นค่ะ”

ขนาดนั้นเชียว?

“เก่งมากกว่ายายแข?” ศจีเลือกถามความเห็นสาวสวยตรงๆ อยากได้คำตอบที่ไม่มีอคติ ซึ่งไอศิกาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่กล้าพูดแบบนั้นกับตน ไม่เหมือนบางคนที่ชอบพูดคำหวานยกยอเพื่อให้ตายใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้จัดการใหญ่ได้ยินจนเอียน

อยากฟังความจริงเหรอคะ?

ไอศิกาสบสายตาของคนถาม ที่เพ่งมองมาอย่างคาดคั้น จึงไม่คิดจะโป้ปด

“ค่ะ ไอซ์คิดแบบนั้น”

คนอายุมากกว่าถอนใจเบาๆ

“แล้วน้องญาเลือกบทไหน?”

ศจีในใจนึกกังวลว่า ชนิญญาจะเลือกบทเดียวกับหลานสาว ไม่อยากเห็นแสงแขผิดหวังเกรงจะก่อเรื่องให้วุ่นวาย เพราะแม่ของแสงแข เป็นหนึ่งในสปอนเซอร์รายใหญ่ของบริษัท

คงไม่ใช่นางซินหรอกนะ

“บทเจ้าชายค่ะ”

“งั้นเหรอ” คนฟังแอบโล่งใจ เอื้อมมือไปหยิบปฏิทินบนโต๊ะ “ว่าแต่แคสบทวันไหน?”

“น่าจะวันเสาร์นะคะ ต้องถามไก่อีกที” หล่อนไม่ได้สนใจจำเรื่องของพวกเด็กใหม่มากนัก แค่รับฟังผ่านๆ

“ถ้าเป็นวันหยุดพี่ว่าง เราไปดูเด็กๆ ด้วยกันนะไอซ์” ผู้จัดการใหญ่คันใจอยากรู้ว่า...ชนิญญาเยี่ยมยอดขนาดไหน?

“เอางั้นเหรอคะ?”

“ไปให้กำลังใจพวกเด็กๆ น่ะ และถือโอกาสไปเยี่ยมลุงกรด้วย ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว” ใจจริงศจีอยากเห็นฝีไม้ลายมือของเด็กใหม่กลุ่มนี้มาก โดยเฉพาะผู้ที่หล่อนบอกว่าเก่งกว่าหลานสาวของตน

ไอศิกาเลิกคิ้วเรียวเล็กน้อยอย่างแปลกใจ ไม่คิดเลยว่าศจีจะสนใจภารกิจของพวกหน้าใหม่ น้อยครั้งที่จะไปดูเอง เดาว่าคงอยากไปให้กำลังใจหลานสาวคนโปรด จึงไม่คิดขัดใจ

“ก็ได้ค่ะ”

พี่ศจีไปดูแทนที่เด็กๆ จะมีกำลังใจ กลัวแต่จะทำให้เกร็งแย่

OoXoO

สรุปคือน้องญาจะแคทบทเจ้าชายนะคะ มีใครทายถูกบ้าง 5555

พี่ไอซ์ของเราเริ่มจะแนะนำเรื่องการแสดงให้น้องญาบ้างแล้ว ส่วนความสนิทสนมยังค่อยเป็นค่อยไปค่ะ ปัญหาคือคุยดีๆ ไม่กี่คำก็ขัดคอขัดใจกันซะก่อน ความหวานเลยยังไม่ค่อยมี อันนี้ต้องให้เวลานิดนึงค่ะ

เรื่องนี้ไรท์ทยอยส่งต้นฉบับให้คุณพี่บอกอบ้างแล้ว คาดว่าเดือนนี้น่าจะคลอดได้ อันนี้แค่วางแผนนะคะ ไรท์ยังไม่ได้จิ้มตอนพิเศษเลย ยังคิดตอนหวานๆ ไม่ออก แหะแหะ ใจเย็นนิดนึง

ขอบคุณสำหรับทุกโดเนท ทุกหัวใจ ทุกคอมเม้น และทุกการติดตามค่ะ

นาง ^^

OoXoO 




Create Date : 09 ธันวาคม 2564
Last Update : 9 ธันวาคม 2564 15:18:11 น. 0 comments
Counter : 663 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com