รักเกินต้าน Can't Resist บทที่ ๗ (Yuri)
๗ มนตรีทำตาโตหลังอ่านจดหมายที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานเป็นใบแจ้งหนี้จากธนาคาร ที่บริษัทของเขาไปกู้ยืมเอาไว้ซึ่งครบกำหนดชำระในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แล้วฉันจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายโธ่เว้ย! ชายวัยกลางคนหัวฟัดหัวเหวี่ยง เดินไปมาในห้องร้อนใจจนนั่งไม่ติด คิดหาแผนการดีๆ แต่หัวสมองตื้อตันคิดอะไรไม่ออก หลังเขาทำธุรกิจพลาดไปหลายอย่างเงินก้อนโตที่ได้รับจากมารดา ร่อยหรอแทบไม่มีเหลือในบัญชีมากนัก ...หากจะพูดว่า เขาเหลือแต่ เปลือกก็คงไม่ผิดนัก มนตรีไม่อยากจะไปก้มหัว ขอยืมเงินจากมารดาอีกทนไม่ได้กับสายตาดูแคลนของอีกฝ่าย รวมถึงไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับอรนภา ผู้เป็นภรรยาไม่อยากเสียหน้ากับความไม่เอาไหนของตัวเอง สิ่งแรกที่คิดออก คือหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาคนผู้หนึ่งที่น่าจะพอช่วยเขาได้...ผู้จัดการแบงค์ หลังรอสายไม่นานอีกฝ่ายก็กดรับ สวัสดีครับ มานพครับ ผมมนตรีนะครับ ครับ คนในสายรับคำจำได้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ผมอยากให้คุณมานพ ช่วยผ่อนผันเรื่องหนี้บริษัทของผมหน่อยได้ไหมผมกำลังเปิดจองโครงการอยู่ ตอนนี้คอนโดขายห้องได้กว่าครึ่งแล้ว ยังไงผมก็ไม่เบี้ยวหรอกคุณรู้จักผมดีนี่ ผมเข้าใจครับแต่ตอนนี้เบื้องบนเร่งรัดมา กลัวจะมีปัญหาเรื่องหนี้เสียน่ะครับ มานพอธิบายอย่างลำบากใจ เขาคุ้นเคยกับมนตรีมานานประกอบกับสมรเป็นลูกค้ารายใหญ่ของธนาคาร จึงไม่อยากจะผิดใจด้วย เราคนกันเอง ผ่อนผันให้ผมสักเดือนไม่ได้จริงๆเหรอครับ? เฮ้อ!ถ้าลูกค้าทุกคนพูดแบบนี้ ผมก็ตายสิ ถ้าจะให้ทำแบบนั้น รบกวนคุณมนตรีชำระดอกเบี้ยบางส่วนมาก่อนได้ไหมครับจ่ายสักครึ่งหนึ่งก่อนก็ได้ ผมจะได้เสนอเรื่องขึ้นไปได้ และเครดิตคุณก็ไม่เสียด้วยผู้จัดการแบงค์ต่อรอง ไม่อยากให้เก้าอี้ของตัวเองสั่นคลอน ด้วยใกล้ช่วงพิจารณาผลงานประจำปีพอดี ตั้งครึ่งนึงเชียว เจ้าของบริษัทหนักใจไม่น้อย นึกชั่งใจอยู่นานหลายวินาที เข้าใจแล้วครับ ผมจะรีบจัดการให้ ขอบคุณครับ มานพพูดอย่างโล่งใจ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ สวัสดีครับ แล้วจะหาเงินที่ไหนล่ะเนี่ยมนตรีบ่นพึมพำกับตัวเอง คิดจนหัวแทบระเบิดอยู่นานก็นึกถึงใครคนหนึ่งที่เคยพูดเอาไว้ว่า หากคุณมนตรีมีปัญหาอะไร ขอให้บอกนะครับผมพร้อมจะให้ความช่วยเหลือคุณเสมอ ยืมแล้วต้องรีบใช้คืนก่อนที่แม่จะรู้ไม่งั้นคงด่าฉันหูดับแน่ เขาถอนใจยาวเมื่อคิดถึงสมร ก่อนตัดสินใจโทรหาอดิศรเจ้าของบริษัทปล่อยเงินกู้รายใหญ่ซึ่งต้องการที่ดินของโรงเรียนประถมเหลือเกิน สวัสดีครับคุณมนตรีมีอะไรให้ผมรับใช้ครับ? เสียงในสายถามมา ฟังแล้วระรื่นหู คุณอดิศรครับคือผมอยากได้ความช่วยเหลือ
ว่ามาสิครับ ผมกำลังฟังอยู่ คนในสายพูดเสียงนุ่ม ผมอยากขอยืมเงินคุณอดิศรสัก... อดิศรเงี่ยหูตั้งใจฟัง อมยิ้มในหน้านัยน์ตาเจ้าเล่ห์เป็นประกายวาววับ ดูแล้วไม่ต่างจากสัตว์กินเนื้อสักเท่าไหร่ ไม่มีปัญหาครับ คุณมนตรีว่างเมื่อไหร่ ก็แวะเข้ามาเซ็นเอกสารที่บริษัทได้เลย จริงเหรอครับ? จริงสิครับ ผมเคยบอกแล้วไงว่าพร้อมจะช่วยคุณเสมอ โปรยคำหวานให้อีกฝ่าย ขอบคุณครับ ขอบคุณจริงๆงั้นพรุ่งนี้ผมจะเข้าไปสักเก้าโมงนะครับ สะดวกไหมครับ? สะดวกครับ ผมไม่รบกวนแล้ว ขอบคุณอีกครั้ง สวัสดีครับ หลังวางสาย อดิศรยิ้มกว้างยินดีอยู่คนเดียวในห้องรับแขกที่บ้านยกแก้วไวน์ในมือขึ้นดื่มฉลองความสำเร็จล่วงหน้า ในที่สุดโอกาสของฉันก็มาถึงอีกไม่นานที่ดินแปลงนั้นต้องเป็นของฉันแน่ หุหุ เขาหมายตาที่ดินโรงเรียนประถม รุ่งนพคุณมานานแล้ว เคยไปเจรจาขอซื้อกับสมรหลายครั้ง ต้องหน้าแหกอารมณ์เสียกลับมาเสียทุกที อดิศรเชื่อว่ายังไงเสียสมรก็ต้องยกเป็นมรดกให้ลูกชายแน่จึงหาทางตีสนิททางมนตรีแทน จนอีกฝ่ายไว้เนื้อเชื่อใจ หลังทนรอมาหลายเดือนสิ่งที่ลงทุนลงแรงก็เริ่มเป็นผล เหมือนสุภาษิตที่ว่า อดเปรี้ยวไว้กินหวาน อธิพงษ์ที่เดินงัวเงียลงมาจากชั้นสอง ทำหน้าฉงนด้วยปกติไม่ค่อยเห็นบิดาทำหน้าดูมีความสุขแบบนี้ มีอะไรน่ายินดีเหรอครับ? ก็แค่เนื้อกำลังจะเข้าปากเสือ ก็เลยอารมณ์ดี คนอายุมากกว่าหัวเราะเสียงต่ำในลำคอแต่ไม่คิดจะเล่าให้ลูกชายฟัง พูดอะไรมีลับลมคมในตลอด เพลย์บอยหนุ่มวัยเบญจเพสยักไหล่เมื่อบิดาไม่คิดจะบอก ก็ไม่คิดซักไซ้ไล่เลียง ก่อนเดินไปสั่งสาวใช้ให้ชงกาแฟมาให้แล้วทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามพ่อ ใบหน้าหล่อแดง มีกลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้งลอยออกมาตามลมหายใจเดาได้เลยว่า เมื่อคืนคงดื่มหนักไม่น้อย เมื่อคืนแกกลับมากี่โมง? คนเป็นพ่อถามเสียงเย็น ตีสามกว่ามั้งครับ คือเพื่อนมันเปิดร้านใหม่ผมแวะไปร่วมแสดงความยินดี ก็เลยดึกไปหน่อย แกก็ดึกเกือบทุกวันนั่นแหละไม่ต้องมาอ้างโน่นอ้างนี่เลย อดิศรทำหน้าเอือมระอา ไม่คิดเชื่อคำพูดของลูกชาย แม้แต่ครึ่งคำด้วยรู้จักสันดานเป็นอย่างดี ถ้าแกยังทำตัวเหลวไหลไม่รู้จักทำงานทำการแบบนี้ ฉันจะตัดเงินเดือนแก แล้วก็ยึดรถด้วย ดูซิแกจะไปไหนได้ เฮ้ย! พ่ออ่ะทำแบบนี้ไม่ได้นะ ลูกชายโวยวายออกมาทันที ขืนให้อยู่บ้านเฉยๆ ก็เฉาตายกันพอดี ทำไมจะไม่ได้ ฉันเป็นพ่อแกนะฉันพูดอะไรก็หัดฟังแล้วทำตามเสียบ้าง ไม่งั้นแกก็จะไม่ได้อะไรเลย จำใส่ในกระโหลกเอาไว้เขากล่าวเสียงเข้ม สุดจะทนที่ลูกชายคนเดียว เอาแต่เสเพลเที่ยวผู้หญิง แล้วก็ดื่มเหล้า วันๆ ไม่ทำประโยชน์อะไร ทั้งที่อายุอานามก็ยี่สิบห้าถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายเป็นลูกชายคนเดียว เขาคงตัดหางปล่อยวัดไปนานแล้ว สำรวยสำอางยิ่งกว่า เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อเสียอีก ตอนฉันอายุเท่าแกฉันเป็นเจ้าของธุรกิจแล้วด้วยซ้ำ ไอ้นี่โตแต่ตัว ไม่มีสมองเลยจริงๆ ...ไอ้ลูกไม่รักดี อธิพงษ์ทำหน้าจ๋อย หลังบิดาขึ้นเสียง ไม่กล้าโต้เถียงมากความด้วยเกรงว่าอีกฝ่ายจะทำจริง ก็ได้ครับ ไม่ใช่ก็ได้แต่แกต้องทำได้ต่างหาก อดิศรย้ำหนักแน่น คะครับ... ดุเกิน พ่อใครวะ ลูกชายได้แต่บ่นกระปอดกระแปดในใจ เปมิกาใช้เวลาตลอดทั้งอาทิตย์ ศึกษาข้อมูลของโรงเรียนประถมรุ่งนพคุณ ซึ่งมีรายได้หลักสองทาง คือ เงินอุดหนุนจากภาครัฐกับค่าเทอมจากผู้ปกครองเด็ก และมีรายรับอื่นๆ อีกนิดหน่อย จากค่าอุปกรณ์ค่าเรียนพิเศษ ฯลฯ มีลูกสมัยนี้แพงเอาเรื่องเลยเหมือนกัน อดที่จะคิดแบบนั้นไม่ได้เข้าใจที่มาของคำพูดประชดที่ว่า มีลูกหนึ่งคนจนไปหลายปี แต่หากคิดในมุมกลับกัน ที่จริงแล้วไม่ใช่ความผิดของเด็กแต่ว่าเป็นความผิดของพ่อแม่ที่อยากมีทายาท...แต่ดันหาเงินไม่เก่งเอง ก็เลยต้องจน หล่อนคาดการณ์ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นหลังจำนวนนักเรียนลดลงทุกปี จนต้องมีการยุบห้องเรียนและลดจำนวนผู้สอน ประกอบกับมีโรงเรียนนานาชาติผุดขึ้นแบบก้าวกระโดดเป็นผลมาจากปัจจัยภายนอก ตามหลัก โอเวอร์ซัพพลาย ทำให้การแข่งขันในธุรกิจนี้สูงมากขึ้นแล้วยังมีปัจจัยจากเหล่าผู้ปกครอง ที่เน้นคุณภาพการศึกษามากขึ้น ทำให้ภาษาอังกฤษภาษาจีน และคอมพิวเตอร์ มีส่วนในการตัดสินใจ จำนวนนักเรียนน้อยลงทุกปีเป็นแบบนี้ต่อไป รุ่งนพคุณอยู่ยากแน่ ...ธุรกิจที่ไม่ปรับตัวตามกระแสการเปลี่ยนแปลงสุดท้ายย่อมไม่พ้นเจ๊ง แม้แต่ยักษ์ในตำนานก็ล้มหายตายจากไปหลายบริษัท ถ้าเป็นแบบนี้ต้องสร้างแบรนด์ของเราให้แข็งแกร่ง หญิงสาวนึกถึงวิธีสร้างจุดแข็งที่สามารถทำได้จดความคิดลงในกระดาษกันลืม มีสมาธิมากเสียจนไม่ได้ยินเสียงแขกไม่ได้รับเชิญ อ่านแฟ้มไป แล้วขมวดคิ้วขนาดนั้นสงสัยหลานจะแก่เร็วกว่าย่าอีกนะ สมรแซวขึ้นหลังแวะมาหาหลานสาวที่ห้องนอน เปมิกาหันไปมองต้นเสียง เห็นสมรนั่งรถเข็นโดยมีชุติมาเข็นเข้ามาหยุดที่หน้าโต๊ะหนังสือของอีกฝ่าย คุณย่าคะแปมไม่รีบแซงคุณย่าหรอกค่ะรับรอง ก็ดี ไม่งั้นหลานย่าขายไม่ออกแน่ ใจคอจะไม่ให้แปมมีแฟนเลยเหรอคะ ก็แย่น่ะสิหล่อนแกล้งทำหน้าหงิก จะได้อยู่กับย่าไปนานๆ ไง ยังไงแปมก็จะอยู่กับคุณย่าค่ะ หญิงสาวพูดอ้อนเสียงหวาน ดีลูก คนแก่หัวเราะอย่างอารมณ์ดี ชุติมาอมยิ้มในหน้า รู้ว่าเจ้านายอารมณ์ดีมากหลังหลานสาวคนโปรดกลับมา อ่านไปถึงไหนแล้ว? เกือบหมดแล้วค่ะ เหลืออีกสองแฟ้ม แล้วรู้อะไรบ้างล่ะ? แปมเพิ่งรู้ว่าคุณย่าบริหารโรงเรียนได้เยี่ยมมากค่ะ สมรค้อนหลานสาวน้อยๆ ทำมาปากหวานนะเรา นี่แปมพูดจริงๆ นะคะ เปมิกายิ้มกว้าง งั้นย่าถามแบบจริงจัง แปมคิดว่า ควรจะปรับปรุงโรงเรียนยังไงให้ดีขึ้น สาวสวยกลอกตาไปมา ด้วยคำถามนี้เป็นสิ่งที่หล่อนครุ่นคิดหาคำตอบมาหลายวัน คุณภาพของนักเรียนเราจัดว่าสูงมากเป็นอันดับต้นๆแต่การที่เราเป็นโรงเรียนเอกชน ผู้ปกครองส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าแต่ละเทอมต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าโรงเรียนรัฐ จึงอาจจะลังเล สาวหวานอธิบายจุดอ่อนก่อนพูดถึงทางออกที่คิดไว้ ถ้าเราเน้นการประชาสัมพันธ์ ให้คนรู้จักเรามากขึ้นว่าเรียนที่นี่เด็กจะเก่งฉลาด ไม่ใช่แค่เรื่องการศึกษา แต่เราจะให้มากกว่านั้น จะทำให้พวกเด็กๆเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีความสุข เป็นคนดีของสังคม รุ่งนพคุณก็จะอยู่รอดได้ ไม่สิ...ต้องเติบโตอย่างยั่งยืนแน่ค่ะ มองการณ์ไกลดีมาก...สมเป็นหลานฉัน ผอ.อาวุโสนึกภูมิใจไม่น้อย ก่อนถามในจุดที่คาใจ รู้ดีว่าในโลกปัจจุบันการแข่งขันสูงมากเกือบทุกธุรกิจต้องพึ่งการประชาสัมพันธ์ การโฆษณาผ่านสื่อ หรือโซเชียลต่างๆแต่ผลลัพธ์อาจจะได้ไม่คุ้มค่าเงินที่เสียไป หลังผู้บริโภคเลือกที่จะเสพข่าวมากขึ้นไม่ได้หลับหูหลับตาเชื่อเหมือนสมัยก่อน แล้วต้องประชาสัมพันธ์แบบไหนล่ะ ถึงจะได้ผล? เราควรให้พวกเด็กๆ เป็นคนโชว์ผลงานโชว์ความสามารถค่ะ ความโดดเด่น ความพิเศษของนักเรียน จะน่าเชื่อถือกว่าการซื้อโฆษณาค่ะเปมิกาเลือกใช้กลยุทธ์การตลาด ที่คาดว่าจะโดนใจผู้ปกครองสมัยนี้มากที่สุด ไอเดียคุณแปม น่าสนใจมากเลยนะคะชุติมาที่ฟังอยู่เอ่ยเสริมขึ้น แม้จะเป็นแค่เลขาฯ แต่เธอรู้เกือบทุกเรื่องของ รุ่งนพคุณ อืม พูดมันก็ง่ายหรอกนะแต่เวลาปฏิบัติก็ไม่ง่ายเท่าไหร่ มันต้องมีแผนที่ชัดเจนกว่านี้สมรยังไม่ถึงกับเออออ ถ้าเป็นเรื่องโชว์ความสามารถเราคงต้องพึ่งคุณอินปีที่แล้วคุณอินพานักเรียนไปประกวดแข่งดนตรีได้รางวัลรองชนะเลิศ สองรายการที่ไปประกวดร้องเพลงได้ที่สามกับที่สี่รวมแล้วคุณอินพาเด็กๆ ไปประกวด ได้รางวัลเกินสิบครั้งแล้วนะคะ เลขาฯ สาวเสนอ ทำไมต้องอาอินด้วย...ครูคนอื่นทำไม่ได้? สาวหวานนึกในใจอย่างหงุดหงิด ไม่อยากโยนภาระไปให้เธอคนนั้นสักเท่าไหร่ คงต้องคุยกับอินดูก่อนงานสอนเขาก็เยอะ สมรพูดกลางๆ ไม่อยากบีบบังคับใจใครรู้ว่าอินทุอรรับสอนดนตรีพิเศษในวันหยุด จึงไม่อยากไปกะเกณฑ์รบกวนนอกเวลางานด้วยถือเป็นเวลาส่วนตัว ก่อนหันกลับมาถามคนต้นคิด นอกจากประกวดยังมีวิธีอื่นอีกไหม? ฉันนี่ไม่ไหวเลยจริงๆ ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ หลานสาวกล่าวเสียงอ่อย คนเป็นย่ายิ้มบางๆ แล้วเอ่ยแนะนำอย่างเอ็นดูในฐานะที่อาบน้ำร้อนมาก่อน ไม่ต้องเครียดมากหรอกลูกเรายังมีเวลา ค่อยๆ คิดค่อยๆ ทำไป ย่าไม่อยากให้หนูใจร้อนถ้าเน้นจะเอาผลลัพธ์เร็วๆ มันอาจจะทำลายเราในระยะยาวได้เวลาคิดทำอะไรต้องรอบคอบด้วยนะ ค่ะคุณย่า หล่อนรับคำแนะนำคนตรงหน้าไปใช้เสมอจำแม่นยำชนิดไม่ลืมเลยทีเดียว ค่าชุดทำงานที่ไปเลือกกับอินมาเบิกที่ย่าได้นะ เอ่อคืออาอินซื้อเป็นของขวัญเรียนจบให้แปมน่ะค่ะ งั้นเหรอ สมรเลิกคิ้วเรียวขึ้นเล็กน้อยแปลว่าคืนดีกันแล้ว? หืม? หล่อนอดสงสัยไม่ได้ อยากรู้ว่าเธอไปฟ้องอะไรหรือเปล่า? เอ่อ คุณย่าทราบด้วยเหรอคะ? ผอ.อาวุโสยิ้มอ่อนโยน ก็ลูกทำหน้าหงิกใส่อินขนาดนั้นใครเห็นก็รู้หมดนั่นแหละ แปมไม่ได้ทำหน้าหงิกสักหน่อยหญิงสาวรีบแก้ตัว แปมโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะลูกทำแบบนั้นไม่น่ารักเลยสักนิด ยังดีนะที่เป็นอิน หากเป็นคนอื่นคงเผ่นหนีไปไกล ไม่มีทางอยู่ง้อลูกหรอกอินเป็นคนนิสัยดีมาก ใจกว้างพึ่งพาได้ คนแบบนี้ควรจะรักษาไว้ให้ดีถ้ามีปัญหาอะไรก็คุยกัน ปรับความเข้าใจกัน ย่าไม่อยากให้หนูไร้เหตุผลกับใครเข้าใจนะ สมรจงใจย้ำให้อีกฝ่ายสำนึกผิดที่ทำกับอินทุอร นี่ฉันทำกับอาอินเกินไปสินะ คนฟังอดรู้สึกผิดไม่ได้และคิดว่าจะหาทางชดใช้คืนให้เธอทีหลัง คุกเข่าหน้ารถเข็นกอดเอวซบหน้าที่ตักแบบอ้อนๆ แบบสมัยเด็ก ขอโทษค่ะ ย่าหวังดีกับแปมนะลูกเป็นผู้ช่วยผอ.ไม่ง่ายหรอกนะ ต้องระวังทุกย่างก้าว จะให้มีเรื่องด่างพร้อยไม่ได้ เอ่ยเตือนอย่างเป็นห่วง แปมจะวางตัวให้ดี ไม่ทำให้คุณย่าผิดหวังค่ะ ดีมากลูก สมรลูบหัวอีกคนเบาๆ อย่างอ่อนโยนมีปัญหาอะไรก็ปรึกษาพี่ชุกับอินนะลูก หลายหัวดีกว่าหัวเดียว ผู้ที่เธอวางใจไว้ใจมีแค่สองสาวนี้เท่านั้นไม่กล้าตั้งความหวังทางธุรกิจกับลูกชายและหลานชาย...เกรงจะผลาญสมบัติหมดเสียมากกว่า ค่ะคุณย่า หญิงอาวุโสหันไปฝากฝังกับคนสนิท ฝากหลานฉันด้วยล่ะชุ ค่ะคุณท่าน เธอค้อมหัวรับคำ เบาใจขึ้นหลังเห็นสติปัญญาของว่าที่ผู้นำคนต่อไป ที่ดูจะพึ่งพาได้มากกว่ามนตรีและมนต์ธร ใช้เวลาศึกษาแค่ไม่กี่วันก็คิดแผนออกมาได้ แบบนี้ รุ่งนพคุณ อาจจะยังมีทางรอดอยู่
OoXoO ขอบคุณที่กรุณาติดตามค่ะ
เปิดจองหนังสือเรื่องนี้แล้วนะคะ สนใจดูรายละเอียดได้ที่หน้า 'สินค้า' ค่ะ ส่วน e-book น่าจะได้อ่านก่อนกลางเดือนพฤศจิกายน อดใจรออีกนิดนะคะ
นาง ^^ OoXoO
Create Date : 06 พฤศจิกายน 2561 |
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2561 17:45:43 น. |
|
0 comments
|
Counter : 630 Pageviews. |
|
|