ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
กันยายน 2563
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
4 กันยายน 2563
 
 
Last Promise บทที่ ๕ (YURI)

 

สายวันรุ่งขึ้น พิจิตราแต่งชุดไปเวทแบบสบายๆ ออกไปหาเมทินียังคอนโดที่นัดพบ ก่อนเวลานัดสิบกว่านาที โดยเลือกจอดรถที่ลานจอดรถหน้าอาคาร

‘ยัวร์คอนโด’ เป็นคอนโดใหม่สูงยี่สิบห้าชั้น ที่สร้างเสร็จปลายปีที่แล้ว ดูหรูหราอลังการไม่น้อย ภายนอกเน้นโทนสีครีมอ่อนตัดกับน้ำตาลเข้ม มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้องอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ฟิตเนส และสระว่ายน้ำ

ที่สำคัญคืออยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานของเธอ

พิจิตรากวาดตามองยี่ห้อรถที่จอดรอบๆ ก็บอกได้ว่า ผู้อาศัยที่นี่ฐานะมีอันจะกินถึงร่ำรวยมาก โดยประเมินจากรถยุโรปคันละหลายล้านบาทจอดเรียงมากกว่ารถญี่ปุ่น

สวยน่าอยู่...แต่ค่าเช่าเดือนละเท่าไหร่ล่ะเนี่ย?

เธอมีตัวเลขในใจ หากเกินหมื่นบาทก็ถือว่าแพงเกินไป คงไม่อาจรับข้อเสนอได้ ตัดใจไปหาที่อื่นแทน พร้อมขอโทษหล่อน อาจารย์สาวลงจากรถอย่างมั่นใจ หลังควบคุมอาการตื่นเต้นได้

ซึ่งไม่แน่ใจว่า เธอตื่นเต้นอะไร

...ดูห้องพักหรือเจอหน้าหล่อน?

 

อยู่นั่นเอง

พิจิตราคิดในใจ สะดุดตากับสาวสวยในชุดสบายๆ ที่ดูสวยแปลกตาไปจากชุดเดรสที่สวยสง่าดูสูงส่ง

...อยู่ตรงไหนก็โดดเด่นเหนือคนอื่น

อาจารย์สาวตรงไปหาเมทินี ที่กำลังยืนคุยกับคนของคอนโดไม่ไกลจากทางเข้า เดาได้จากเสื้อผ้าที่เขาใส่ ดูเรียบกริบตั้งแต่หัวจรดเท้า

พอเธอก้าวไปใกล้ เมทินีก็เอียงหน้ามองมาพอดี

“มาตรงเวลามากค่ะ”

“สวัสดีค่ะคุณเม”

สาวสวยยิ้มล้อๆ ที่อีกคนชอบเรียกแบบเหินห่าง แล้วเอ่ยแก้

“พี่เมค่ะ”

พิจิตราหัวเราะเบาๆ แต่ไม่ยอมเรียกอีกฝ่ายว่าพี่เลยสักครั้ง

“นี่คุณบัญชาเป็นผู้จัดการที่นี่ค่ะ จะพาน้องจิตไปดูห้องพิเศษที่พี่บอก” หล่อนแนะนำเธอให้รู้จักผู้ดูแลที่นี่

“สวัสดีค่ะ” อาจารย์สาวทักทายเขา ในฐานะที่ดูอายุมากกว่า

“สวัสดีครับคุณพิจิตรา” บัญชายิ้มน้อยๆ อย่างสุภาพ “ไปชมห้องกันเลยไหมครับ?”

“ไปสิคะ” เธอตอบรับ แล้วมองร่างบาง “ไปด้วยกันไหมคะ?”

“ไปค่ะ” หล่อนพยักหน้า

บัญชาเดินนำสองสาวไปยังลิฟต์ แล้วผายมือเชิญเมื่อประตูเปิด

“เชิญครับ”

“ชั้นไหนคะ?” สาวหน้าคมถาม หลังเขากดปิดประตูเหล็ก

“ชั้นบนสุดครับ” บัญชากดหมายเลขชั้น 25 หลังใช้คีย์การ์ดรูด ซึ่งมีเฉพาะชั้น VIP

บนสุด!

หญิงสาวทำหน้าแปลกใจ

“คะ?”

“เป็นห้องเพนท์เฮาส์ครับ เจ้าของบอกปล่อยเช่ามาสักระยะหนึ่งแล้ว”

มันเดือนละกี่หมื่นล่ะเนี่ย!

พิจิตรากลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากเย็น หลังได้ยินคำว่า ‘เพนท์เฮาส์’ แม้ว่าแถวนี้จะไม่ได้อยู่ในทำเลทองกลางเมือง แต่ราคาที่ดินก็ไม่ถือว่าถูก

...ที่ดินในกรุงเทพฯ ล้วนเป็นทองคำทั้งสิ้น

“ลองดูก่อนนะคะ ถ้าชอบค่อยต่อรองราคาก็ได้ค่ะ” เมทินีที่นิ่งฟังแนะนำ

“เอ่อ ค่ะ”

คิดผิดจริงๆ ที่ให้เศรษฐีหาห้องให้

ได้แต่บ่นในใจ รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเอาเสียเลย

“ชั้นยี่สิบห้ามีทั้งหมดสี่ห้อง เจ้าของเดียวกันทั้งฟลอร์” เขาเล่าให้แขกใหม่ฟัง จากนั้นก้าวออกจากลิฟต์ เผยให้เห็นพื้นทั้งหมดปูด้วยหินอ่อน ผนังทั้งสองข้างวาดรูปสวยๆ ด้วยเส้นสีทอง มีแจกันดอกไม้ใบใหญ่ตั้งไว้ทางเดิน ดูหรูหราอลังการยิ่งกว่าชั้นล่างเสียอีก

ว้าว! หรูชะมัด

อาจารย์สาวอดนึกชมไม่ได้

ผู้จัดการหนุ่มพาไปยังห้องที่สองด้านซ้ายมือ แล้วใช้คีย์การ์ดเปิดประตูห้องเบอร์ 4 แล้วผายมือเชิญแขก

“เชิญครับ”

เขากดสวิทซ์เปิดไฟทั่วทุกจุด เพื่อให้เห็นภายในห้องชัดๆ

“สวยจัง” พิจิตราอดที่จะเอ่ยชมไม่ได้ หลังเข้าไปสำรวจห้องพักขนาดพอๆ กับบ้านทาวน์เฮาส์ แบ่งเป็นห้องนอน ห้องรับแขก ห้องน้ำ และโซนทำครัว ภายในมีเครื่องตบแต่งพร้อมสรรพ ไม่ต่างจากโรงแรมห้าดาว ไม่ว่าจะทีวีจอยักษ์ โซฟาชุดใหญ่ เตียงนอนคิงไซด์ ในห้องน้ำมีอ่างน้ำวน แถมนอกหน้าต่างยังเห็นวิวเมืองหลวงอีกต่างหาก

วิวกลางคืนถ่ายรูปคงสวยมากๆ

สาวหน้าคมยิ้มในหน้า

“ชอบไหมคะ?” เมทินีถาม หลังเดินดูห้องไปพร้อมๆ กับเธอ

“ชอบน่ะชอบค่ะ...แต่ราคาคงสูงน่าดู” อีกฝ่ายบอกตามตรง

“แล้วน้องจิตคิดว่าเดือนละเท่าไหร่คะ?”

“อืม ก็น่าจะสามถึงห้าหมื่น” พิจิตรานิ่งคิดไปอึดใจ โดยใช้ราคาห้องพักของโรงแรมสี่ดาวมาคำนวณประกอบ

หล่อนหลุดหัวเราะเบาๆ

“ไม่ถึงหรอกค่ะ เจ้าของอยากปล่อย”

หืม?

เธอนึกสนใจขึ้นมาทันที

“เท่าไหร่คะ?”

“บอกไว้ที่หมื่นห้าค่ะ”

“จริงเหรอคะ!” หญิงสาวทำตาโต ไม่คาดว่าราคาจะต่ำกว่าที่คิดไว้มาก แต่แล้วคำถามที่ชวนคลางแคลงก็ตามมา “ทำไมถึงถูกเกิน?”

เมทินีหัวเราะคิกคักกับความช่างสงสัย

“เป็นงั้นไป”

“คือเจ้าของตั้งเงื่อนไขไว้น่ะครับ” บัญชาเป็นผู้ให้คำตอบ “คนเช่าต้องเป็นผู้หญิงเท่านั้น ทำสัญญาหนึ่งปี และโอนค่าเช่าทั้งปี พร้อมเงินค่าประกันภายในหนึ่งเดือน หลังเซ็นสัญญาน่ะครับ”

เงื่อนไขเยอะพอควร แถมเงินเป็นแสน คนเช่าคงลำบากใจ

พิจิตราเดาถึงความเป็นไปได้ พร้อมคำนวณเงินที่ต้องจ่ายก่อนทำสัญญา

“ขอฉันกลับไปตัดสินใจก่อนนะคะ” เธอให้คำตอบกับเขา

“ครับ” ชายหนุ่มรับคำ คุ้นเคยกับการที่ลูกค้ามักจะไม่ตอบตกลงในครั้งแรก จำนวนห้องพักในเมืองหลวงมีให้เลือกเยอะแยะ ตั้งแต่ถูกยันแพง

...ซึ่งห้องนี้ถือว่าถูกมากในความคิดของผู้จัดการคอนโด

เมื่อลูกค้าออกไปแล้ว เขาปิดไฟทุกดวง และเช็คความเรียบร้อยก่อนลงไป ปล่อยให้สองสาวได้คุยกันส่วนตัว

 

“น้องจิตมีอะไรหรือเปล่าคะ?” หล่อนสังเกตเห็นเธอมีสีหน้าลังเล เหมือนคิดไม่ตก ขณะออกมาพ้นประตูห้องสวยเบอร์ 4 โดยยืนคุยกันตรงทางเดินหินอ่อน

“แค่ไม่เข้าใจค่ะ”

“ไม่เข้าใจอะไรคะ?”

“ห้องนี้ทำไมถึงถูกมากแต่ไม่มีคนเช่า?” อาจารย์สาวเอียงคอถามคนตรงหน้า

“อ๋อ! เพราะเจ้าของไม่ได้ประกาศเป็นทางการ คนก็เลยไม่ทราบค่ะ คนที่รู้มีแค่ผู้จัดการมั้งคะ” อีกคนให้คำตอบ

ไม่ประกาศ?

คนฟังคิดตาม แล้วถามต่อ

“แล้วทำไมคุณทราบ?”

จะตอบยังไงดีล่ะ?

เมทินีไม่ทันพูดอะไร ประตูห้องเบอร์ 1 ถูกผลักเปิด คนเปิดร้องเรียกเสียงใส

“แม่คะ!”

สองสาวหันมองไปทางต้นเสียง เป็นเด็กผู้หญิงอายุสิบขวบต้นๆ วิ่งตรงมาหาหล่อน แล้วสวมกอดเอวแน่น

“ทำอะไรอยู่คะ?” เด็กน้อยเงยหน้าถาม

เมทินียกมือลูบหัวเด็กเบาๆ แล้วคลี่ยิ้มอ่อนโยน

“พาเพื่อนมาดูห้องค่ะ” หล่อนตอบน้ำเสียงอ่อนหวาน แล้วเอ่ยต่อ “สวัสดีน้าจิตก่อนสิคะลูก”

ลูก!

พิจิตราทวนคำในใจ มองเด็กหญิงตรงหน้าที่มีใบหน้าคลับคล้ายกับเมทินีไม่น้อย...ในเวอร์ชั่นเด็ก

“ลูกสาว?”

“ค่ะ ลูกคนเล็ก” อีกฝ่ายบอกตามตรง

มีกี่คนกัน?

เธอใคร่รู้เรื่องส่วนตัวของอีกฝ่ายขึ้นมา

“สวัสดีค่ะน้าจิต” เด็กหญิงไหว้อย่างสวยงาม บ่งบอกว่าถูกสอนมาดี

“สวัสดีค่ะ” เธอยิ้มรับ ย่อตัวลงมองใบหน้าเล็กๆ “ชื่ออะไรคะ?”

“วันค่ะ”

“น่ารักมากค่ะ” สาวร่างสูงยิ้ม นึกเอ็นดูเด็กหญิงที่แต่งตัวเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ แค่ไม่มีผมสีทองเท่านั้น “เรียนชั้นไหนคะ?”

“ป.4 ค่ะ” มณีวรรณตอบแบบอายๆ

“คนนี้เหรอคะ ที่อยากให้เรียนพิเศษวิชาเลข” เธอเงยหน้าถามคนเป็นแม่เด็ก

“ใช่ค่ะ” เมทินีพยักหน้า ดีใจที่อีกฝ่ายจำเรื่องที่เคยคุยกันได้

พิจิตรายืนเต็มความสูง ซึ่งเมื่อเทียบกันจะสูงกว่าหล่อนเล็กน้อย

“ตกลงคุณอยู่ที่นี่?” โทนเสียงราบเรียบ จนเหมือนห่างเหิน

“เอ่อ ค่ะ” อีกฝ่ายตอบอ้ำอึ้ง หลังอาจารย์สาวเปลี่ยนเรื่องคุยแบบไม่ทันตั้งตัว ไม่คิดว่าความลับจะแตกเร็วขนาดนี้

เธอยกมือกอดอก จ้องวงหน้าสวยเขม็ง เหมือนคาดคั้นจับผิด

“แปลว่าห้องที่ปล่อยเช่า ก็เป็นของคุณด้วย?”

“ใช่ค่ะ” เมทินีตอบไม่เต็มเสียง “พี่ไม่ได้ต้องการจะปิดบัง หรือโกหกนะคะ คือพี่อยากให้น้องจิตเช่าห้องนี้จริงๆ ที่นี่อยู่ไม่ไกลที่ทำงาน น้องจิตจะได้สะดวก”

“คุณทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร?” พิจิตราไม่เข้าใจจุดประสงค์ของสาวสวยตรงหน้า

“พี่รู้สึกว่าน้องจิตเป็นคนไว้ใจได้ค่ะ ชั้นนี้เป็นของพี่ทั้งฟลอร์ พี่จะรู้สึกสบายใจ ถ้าให้คนที่รู้จักมาอยู่ด้วย อีกอย่างพี่รู้จักคุณแม่ด้วย ดังนั้นจึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”

“เราเพิ่งรู้จักกัน คุณไม่ควรไว้ใจฉัน” เอ่ยเตือนอย่างหวังดี

“ถ้างั้นพี่ควรรู้จักน้องจิต ให้มากกว่านี้สินะ” สาวสวยจ้องใบหน้าคม ด้วยสายตาที่หวานหยาดเยิ้ม “น้องจิตมาอยู่ด้วยกันนะคะ?” เสียงอ่อนหวานจนใครก็ยากจะปฎิเสธ

อย่าใช้เสียงแบบนี้สิ

เธอใจอ่อนยวบ แพ้คนขี้อ้อน เป็นจุดอ่อนที่เพื่อนสนิทจะรู้ดีที่สุด

...ภายนอกพิจิตราดูเข้มแข็ง แต่ภายในอ่อนไหวเปราะบาง และขี้สงสารมาก

“ขะ ขอกลับไปคิดดูก่อนนะคะ คือยังไม่ได้คุยกับแม่ค่ะ” อาจารย์สาวยกแม่ขึ้นมาบังหน้า

“งั้นเหรอคะ” หล่อนพึมพำ ก้มหน้าลงมองลูกสาวที่กระตุกแขน “อะไรคะลูก?”

“หิวแล้วค่ะ ไปทานข้าวกันเถอะ”

“เร็วจังจะเที่ยงแล้ว” เมทินีมองนาฬิกา แล้วเอ่ยชวนเพื่อนใหม่ “ไปทานมื้อเที่ยงด้วยกันนะคะ ฉลองที่เรากำลังจะเป็นเพื่อนบ้านกัน”

“เอ่อ ฉันยังไม่ได้...” เธออ้าปากจะปฏิเสธ แต่พูดไม่ทันจบ

สาวสวยคว้าข้อมือพิจิตรากับมณีวรรณ จูงไปห้องเบอร์ 1

“เชิญค่ะ”

เผด็จการชะมัด!

อาจารย์สาวได้แต่บ่นในใจ ก่อนยอมตามไปโดยดี ทำให้เธอได้รู้จักกับมธุริน ลูกสาวคนโตของหล่อน ที่กำลังจะเข้าเรียนปี 1 นิตาเลขาของหล่อน กับป้าแมวแม่ของนิตาซึ่งเป็นแม่บ้าน ก็พักอยู่ฟลอร์นี้เช่นกัน...อยู่ห้องเบอร์ 3

ส่วนห้องเบอร์ 2 เป็นของพ่อแม่หล่อน ที่อยู่จังหวัดทางเหนือจะแวะมาบ้างปีละไม่กี่ครั้ง

หลังทานอาหารเสร็จ ร่างสูงถูกเมทินีท้าทายให้เล่นเกมกระดานต่อ...เกม Cash Flow ที่มีคล้ายกับการเกมเศรษฐี สอนเรื่องการเงินการลงทุน โดยเล่นกันทั้งหมดห้าคน จากที่พิจิตราตั้งใจจะรีบกลับบ้าน จึงอยู่เล่นด้วยอีกพักใหญ่ ระหว่างเล่นเกม มีเสียงหัวเราะและเย้าแหย่กันเป็นระยะ

 

เมทินีเดินลงมาส่งอาจารย์สาว ที่ข้างรถเก๋งในช่วงเย็น

“ขอบคุณนะคะ วันนี้สนุกมากเลย”

“ทางนี้ต้องเป็นฝ่ายพูดต่างหาก ทั้งเลี้ยงข้าวทั้งเล่นเกม ขอบคุณมากค่ะ” พิจิตราเริ่มไม่ค่อยเกร็งกับหล่อนเท่าตอนแรกๆ

“ถ้าน้องจิตมาอยู่ด้วยกัน รับรองว่าจะมีเรื่องสนุกๆ ให้ทำอีกเยอะเลยค่ะ สนใจไหมคะ?” แม่ลูกสองพูดยิ้มๆ พร้อมหลิ่วตาให้

รู้สึกเหมือนโดนหว่านล้อม พูดเก่งสมกับเป็นผู้บริหารจริงๆ

แม้จะรู้สึกแบบนั้น แต่ก็อดอยากรู้ไม่ได้

“เรื่องสนุกเช่นอะไรคะ?”

“เรื่องสนุกขออุบไว้ก่อน แต่พี่มีบริการพิเศษจะเสนอค่ะ”

“ว่ามาสิคะ”

“เท่าที่ดูวันนี้ พี่คิดว่าวันชอบน้องจิตนะคะ ถ้าน้องจิตยอมสอนพิเศษวิชาเลขให้วัน วันเสาร์หรือวันอาทิตย์ก็ได้แล้วแต่สะดวก พี่จะให้ป้าแมวทำอาหารเผื่อน้องจิตด้วย หิวเมื่อไรแวะมาได้เสมอค่ะ”

หล่อนใช้เกมเป็นเครื่องมือ ให้พิจิตราได้สนิทสนมกับลูกๆ ของตน และได้ผลลัพธ์ค่อนข้างดีกับมณีวรรณ แต่กับมธุรินคงต้องดูต่อไปอีกสักพัก ลูกสาวคนโตเป็นพวกเก็บความรู้สึกเก่ง

“เฉพาะมื้อเย็น?” เธอแกล้งหยั่งเชิง

“ทุกมื้อที่อยากทาน เหมือนมีห้องอาหารเป็นของตัวเอง ดีไหมคะ?” สาวสวยยื่นข้อเสนอแบบใจป้ำ

พิจิตราหัวร่อเบาๆ

“คุณเป็นนักธุรกิจแบบไหนกัน ถึงได้มีแต่ข้อเสนอที่เข้าเนื้อตลอด แบบนี้ไม่ขาดทุนแย่เหรอ”

เมทินียกมุมปากขึ้น นัยน์ตาเป็นประกายสดใส

“กับบางเรื่อง กับบางคน พี่ไม่คิดเรื่องกำไรขาดทุนหรอกนะคะ” คนสวยพูดเป็นปริศนา

“น่าสนใจ แต่ขอเวลาคิดหน่อยนะคะ”

“ค่ะ พี่จะรอฟังข่าวดี ขับรถดีๆ นะคะ”

“ขอบคุณค่ะ”

อาจารย์สาวขึ้นรถ โบกมือตอบหล่อน ก่อนแล่นรถออกมา หัวใจพองฟูมีความสุขเกินบรรยาย

...แต่พอคิดถึงมารดา

จะไปคุยกับแม่ยังไงดีล่ะเนี่ย?

 

หลังทานมื้อเย็น พิจิตราขอตัวขึ้นห้องด้วยอารมณ์ไม่ค่อยดี ที่แม่บอกว่า ‘อยากให้เธอไปเจอกับลูกชายเพื่อน’ ซึ่งคือการจับคู่กลายๆ ทำให้หญิงสาวเครียด และอยากอยู่ห่างๆ แม่สักพัก

แต่หากพูดเรื่องย้ายไปอยู่คอนโดตอนนี้ มีหวังมารดาต้องโมโหแน่ เธอจึงยั้งปากไว้เต็มที่ พี่ชายมักจะเตือนเรื่องสุขภาพแม่บ่อยๆ กลัวโรคหัวใจแม่กำเริบ

หลังเปิดเทอม ถ้าเหนื่อยเกินไป ค่อยว่ากัน

พิจิตราบอกกับตัวเอง ก่อนหลุดยิ้มหลังนึกถึงวงหน้าสวยหวานของเมทินี แล้วถอนใจเบาๆ

ไม่รู้เมื่อไหร่ถึงจะได้เจอกันอีก...

OoXoO

พิจิตราได้เจอกับลูกๆ ของเมทินีแล้ว ดูเหมือนจะไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ ต้องมาลุ้นกันต่อว่า เธอจะได้เช่าห้องเบอร์ 4 หรือไม่? ...แล้วความสัมพันธ์นี้จะพัฒนาต่อไปอย่างไร?

เรื่องนี้ไรท์เพิ่งเขียนได้สักเกือบครึ่งเล่ม แต่พล็อตในหัวงอกตลอด สงสัยจะยาวนะคะ ใจเย็นๆ นิดนึง

ช่วงนี้วันหยุดยาวใครเที่ยวก็ขอให้สนุก เดินทางปลอดภัย และดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ เจอกันตอนหน้าค่ะ

ขอบคุณที่กรุณาติดตาม

นาง ^^ 

OoXoO




Create Date : 04 กันยายน 2563
Last Update : 4 กันยายน 2563 17:21:53 น. 0 comments
Counter : 690 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com