+ Karma says, "Do good things and good things happen, do bad things, they come back to haunt you." +
Group Blog
 
All blogs
 
ชวนไปฟังธรรมะติดปีกสู่อเมริกา จาก ท่าน ว.วชิรเมธี ตอนที่สอง "ปริญญาวิชาชีพ และ ปริญญาชีวิต"



พระธรรมเทศนาโดย พระมหา ว. วชิรเมธี
Mekhong Thai Restaurant
Kennebunk, Maine, USA
Sunday April 29, 2007


W. Vajiramedhi Thai Buddhist Monk 28 Apr 2007
Picture 1 - W. Vajiramedhi Thai Buddhist Monk

พระมหา ว. วชิรเมธีเป็นพระนักเทศน์ และนักเขียนที่มีชื่อเสียงมากรูปหนึ่งของประเทศไทย อ่านประวัติและผลงานที่ผ่านมาของท่านได้ที่นี่
» ประวัติและผลงานของท่าน ว. วชิรเมธี

วันอาทิตย์ที่ ยี่สิบเก้าเมษายนที่ผ่านมา นอร์ชก้าได้มีโอกาสเข้ารับฟังพระธรรมเทศนา โดยพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี นามปากกา ว. วชิรเมธี ท่านได้รับนิมนต์จากเจ้าของร้านแม่โขง ที่เป็นร้านอาหารไทยชื่อดังแห่งหนึ่งของเมือง เคนเนบัง รัฐเมน ประเทศสหรัฐอเมริกา

นอร์ชก้าขอกราบขอบพระคุณท่านพระมหา ว. วชิรเมธี ณ ที่นี้ ที่ได้ให้อนุญาตนอร์ชก้านำพระธรรมเทศนามาโพสต์ที่บล็อค

ความเดิมจากตอนที่ หนึ่ง - "ลิงกำถั่ว"

ท่านได้เล่าเรื่องลิงกำถั่ว และเปรียบเทียบว่า มนุษย์เราที่ทุกข์ทุกวันนี้เพราะอะไร ทำตัวเป็นพวกลิงกำถั่ว นั้นเอง

» อ่านเรื่องตอนที่หนึ่ง "ลิงกำถั่ว"
» วีดีโอประกอบตอนที่หนึ่ง "ลิงกำถั่ว"

Dharma by W. Vajiramedhi Thai Buddhist Monk
picture 2 – Dharma by W. Vajiramedhi Thai Buddhist Monk

เริ่มตอนที่สอง - "ปริญญาวิชาชีพ และ ปริญญาชีวิต"


ความต่อเนื่องจากตอนที่หนึ่ง ท่านเล่าให้ฟังถึงการที่ท่านได้มาเยือนอเมริกา ตอนที่ท่านอยู่เมืองไทย ท่านทำงานหนักทุกวันเป็นระยะเวลานาน เพราะฉะนั้นท่านก็ขออนุญาตเจ้านายของท่าน ลาได้หนึ่งเดือนเต็ม เชิญอ่านความต่อไปดังนี้


“ใครเป็นเจ้านายอาตมา ก็อาตมานีแหละ ทำงานโดยขึ้นต่อตัวเอง เวลาทำงานก็ทำจริง ๆ เป็นพายุบุแคม แต่เราก็ต้องพักเพื่ออะไร เราไม่ใช่หุ่นยนต์ ถ้าเห็นว่าร่างกายมันเริ่มไม่ไหวแล้ว โอเวอร์โหลดแ้ล้วต้องหาเวลาที่จะพัก

แต่พักทั้งทีอาตมาก็ถือหลักว่า เรียนให้สนุกและก็เล่นให้ได้ความรู้ อาตมาจึงมาอเมริกา ตามที่โยมอาราธนา และถือโอกาสทัศนศึกษา ดูบ้าน ดูเมือง ดูพิพิธภัณฑ์ และก็ได้ความรู้กลับไป ก็ไปเทศน์ ไปสอนออกรายการโทรทัศน์ได้อีก นี่เรียกว่าในการพักผ่อนก็ได้มีการได้รับความรู้ด้วย

ฉะนั้นเราทุกคนกำลังเป็นรถที่วิ่งอยู่นะ ตราบใดที่เรายังไม่ตาย เราทุกคนคือรถที่วิ่งอยู่ แต่รถที่ดีนั้นต้องวิ่งด้วยและก็หยุดด้วย อย่าวิ่งจนกระทั่งว่าเครื่องมันพัง และก็ไฟไหม้ และก็ระเบิดกันบนท้องถนนนะ ก่อนที่อาตมาจะมาก็มีรถระเบิดบนท้องถนน วิ่งเร็วมากและก็มันหยุดหย่อน ฉะนั้นเราทุกคนดูแลรถของเราให้ดี ๆ

ภาษาพระพุทธเจ้าเค้าเรียกว่าสรีระยนต์ ยนต์คือร่างกายคน ร่างกายของเราก็เป็นรถยนต์ มันก็วิ่งทุกวันทุกคืน ก็ขอให้เรียนรู้ที่จำทำงานให้เป็น หยุดให้เป็น และสิ่งสำคัญที่สุดคือการให้รางวัลกับตัวเองด้วย เราทำงานหนักมาก เราไม่ค่อยให้รางวัลกับตัวเองเท่าไหร่

อย่างอาตมาทำงานก็มีคนให้รางวัลเรื่อยๆ แต่ก่อนที่คนอื่นจะให้รางวัลอาตมาให้ตัวเองแล้ว ทำยังไง อาตมาพยายามที่จะดูแลตัวเอง คือให้มีช่วงเวลาที่เป็นของเรา ดังนั้นในหนึ่งวัน อาตมาอยากให้เราทุกคน หัดให้มีชั่วโมงคุณภาพของตัวเอง ชั่วโมงคุณภาพคือยังไง คือมีเวลาสักช่วงหนึ่งที่เป็นของเราจริง ๆ อาจจะก่อนนอนก็ได้ เพื่ออะไร เพื่อพักผ่อน นั่งสมาธิเงียบ ๆ นิ่ง ๆ หรือไม่งั้นก็ทำงานอดิเรกที่เรารักจริง ๆ เพราะอะไร เพราะว่าทั้งวันเราให้เป็นชั่วโมงของการทำงาน ชั่วโมงของการเทคแคร์คนอื่น ลูกค้าคือพระเจ้า คนอื่นคือพระเจ้า แต่เราลืมไปว่า ถ้าคนอื่นคือพระเจ้าแล้วเราจะเป็นบ่าวไปทั้งชีวิตนี่ ตายนะ เราก็บอกตอนลูกค้ากลับ ฉันคือพระเจ้า หันมาดูแลตัวเอง เพื่อที่จะได้มีสุขภาพยั่งยืน มนุษย์เรานี่ถ้ามีทุกอย่างแต่สุขภาพไม่ดี นี่จบเลยนะ

ที่เมืองไทยปีที่แล้วมีข่าวเกรียวกราวมาก คือมีดาราคนหนึ่งซึ่งมีชื่อดังมาก เป็นคนดำเนินรายการคนค้นคน ดร.อภิวัฒน์ วัฒนางกูร นะ มาเรียนที่อเมริกา เป็นคนเพอร์เฟคชั่นนิส ทำงานทุกอย่างต้องดูดีที่สุดแม้กระทั้งล้างจาน ล้างเสร็จแล้วแกต้องเอามาดมดู ว่าสะอาดจริงมั้ย กลับไปเมืองไทยก็ไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย มีแฟนก็จีบดาวมหาวิทยาลัยเลย ต้องให้ดีที่สุด เวลาแกไปเสนองานอะไรต่าง ๆ เขียนไว้สามแผน แผนที่หนึ่งลูกค้าไม่ซื้อ แกเสนอแผนที่สอง แผนที่สองลูกค้าไม่ซื้อแกเสนอแผนที่สาม ใครไปดีลงานกับแกติดทุกราย แกมีบ้าน มีรถ มีลูก มีภรรยา มีธุรกิจ มีชื่อเสียงทุกอย่าง แกมีทุกอย่าง วันหนึ่งแกพักผ่อน หลังจากที่ทำงานแบบไม่ได้พักเลย ลุกเมียไปขอพบ บอกไปเจอพ่อที่ออฟฟิต วันหนึ่งแกไปพักที่ปากช่อง ตื่นขึ้นมากลางวันล้มฟุ๊บลงไป ภรรยาพาเข้าโรงบาล ตรวจพบมะเร็ง พอพบปุ๊บเป็นระยะสุดท้ายเลย จริง ๆ เค้าก็เตือนตลอด แต่พอไม่มีเวลาไปตรวจมันก็แก้ไม่ได้ แกไปนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล แล้วก็สารภาพให้รายการคนค้นคน บันทึกชีวิตแก ก่อนจะเสียชีวิต แกก็ไปนอนให้พ่อแม่เช็ดเนื้อเช็ดตัว แกก็บอกว่าสังเวชตัวเองมากแทนที่ลูกจะได้ดูแลพ่อแม่ กลับมาเป็นว่าพ่อแม่ต้องมาดูแลลูก

ก่อนจะเสียชีวิตแกให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์คมชัดลึกบอกว่า พ่อผมเคยบอกว่าเกิดเป็นคนต้องได้ปริญญาสองใบ


ปริญญาใบที่หนึ่ง "ปริญญาวิชาชีพ" เราจะต้องทำมาหากินเป็น กินอิ่ม นอนอุ่น พูดง่าย ๆ ล้วงไปในกระเป๋าแล้วมีเงินใช้ อยากจะนอนมีบ้านเป็นของตัวเอง แค่นี้คือปริญญาวิชาชีพ

แต่"ปริญญาวิชาชีวิต" ซึ่งเป็นปริญญาใบที่สองที่พ่อแกบอกไว้ แกบอกว่าผมสอบตกโดยสิ้นเชิง ผมเป็นดอกเตอร์จากอเมริกาได้ปริญญาวิชาชีพ แต่ปริญญาวิชาชีวิตสอบตก เพราะอะไร เพราะทำงานจนป่วยตาย

ก่อนที่จะเสียชีวิตแกได้สารภาพว่าผมได้เตรียมทุกอย่าง บ้าน รถ มอบมันให้กับลูกและภรรยา แต่ในวันที่ผมมีทุกสิ่งทุกอย่าง ผมกลับลืมมอบหนึ่งอย่างให้กับลูกและภรรยา สิ่งนั้นคือสิ่งที่ผมลืมและทำให้ผมล้มเจ็บใหญ่ครั้งนี้ สิ่งที่ว่านี้คือผมลืมมอบตัวเองเป็นของขวัญให้กับลูกและเมีย เพราะทำงานหนักจนกระทั่งป่วยตาย

นี่คือปริญญาวิชาชีวิต ธรรมะเราจะต้องมี ถ้าเราไม่มีธรรมะ เราจะกลายเป็นหุ่นยนต์เท่านั้นเอง ที่ทำงานแทบล้มประดาตายแล้วสุขภาพไม่ดี ดังนั้นเมื่อเราทุกคนทำงานแล้ว อย่าลืมชั่วโมงสุขภาพของตัวเองในแต่ละวันนะ แต่ละวันควรจะมี ให้ดูแลตัวเอง ดูจิต ดูใจตัวเอง ว่าเราเอ๊ะมันทุกข์ มันทุกข์มากเกินไปรึเปล่า แบกเรื่องโน้นเรื่องนี้ เกินไปหรือเปล่า พยายามลดลงในแต่ละวัน ๆ เพื่อที่ว่าอะไร เพื่อที่ว่าเราจะได้ปริญญาสองใบในชีวิต หนึ่งปริญญาวิชาชีพ เราทำมาหากินจนประสบความสำเร็จร่ำรวยมั่งคั่ง มีเงินมีทองใช้มีบ้านอยู่ แต่ต้องไม่ลืมปริญญาใบที่สอง คือวิชาธรรมะ สำหรับจะดูแลชีวิตให้ดำเนินอยู่ในทางสายกลาง ไม่ทุกข์เกินไปไม่เดือนร้อนเกินไป ทำอะไรให้พอดี พอดีอยู่ดีมีสุข อยากเที่ยวให้ได้เที่ยว อยากพักให้ได้พัก อยากทำบุญให้ได้ทำบุญ ลูกหลานมาหาก็ให้ได้มีเวลากับลูกกับหลานบ้าง อย่าวิ่งไปจนซ้ายสุด ขวาสุด และมารู้สึกตัวอีกทำจนล้มเจ็บใหญ่ไม่ดี เพราะอะไร เพราะว่าสิ่งสูงค่าทีสุดในชีวิตของเรา

เคยมีคนไปทูลถามพระพุทธเ้จ้า ว่าอะไรคือสิ่งสูงค่่าที่สุด บางคนก็ตอบเงิน บางคนก็ตอบเพชร บางคนก็ตอบทอง บางคนก็ตอบอำนาจ บางคนก็ตอบราชบัลลังก์ พระพุทธเจ้าบอกไม่ใช่ สิ่งสูงค่าที่สุดในชีวิตของพวกเธอคือสุขภาพและชีวิต สุขภาพก็คือการที่เราไม่เจ็บไข้ได้ป่วย คนที่สุขภาพดีดื่มน้ำธรรมดาก็อร่อยนะ และก็ชีวิตของเรา

กว่าจะเกิดเป็นคนนี่มันยากเหลือแสน พระพุทธเจ้าบอกว่า เรามีหินก้อนใหญ่อยู่ก้อนหนึ่ง กว้างคูณยาวเอาง่าย ๆ เท่าสนามฟุตบอลขนาดนั้น ร้อยปีมีเทวดาออกมาแล้วเอาผ้าขาวมาเช็ดหินก้อนนั้นหนึ่งครั้ง เช็ดอยู่อย่างนี้ร้อยปีครั้ง ร้อยปีครั้งจนกระทั่ง หินก้อนนั้นละลายไปกินเวลานานมาก กว่าจะเกิดเป็นคนนานยิ่งกว่านั้นนับร้อยเท่านับพันเท่า เพราะฉะนั้นเราได้ชีวิตมาเป็นคน รักษาชีิวิตนี้ให้ดี ไม่ว่ามันจะทุกข์หนักหนาสาหัสอย่างไรก็ตาม แทบล้มประดาตาย เจ้าหนี้ทวงยังไงก็ตาม อย่าเพิ่งทำร้ายตัวเอง ถือหลักไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ถ้าเค้าทวง อย่าไปฆ่าตัวเองนะ ก็ไม่มีทำยังไงนะ หนีก็ไม่มีที่ไป รักษาชีวิตไว้นะ รักษาชีิวิตไว้ นี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าคุณจะตันแค่ไหนก็ตาม ทางออกมีเสมอ จำไว้เลยนะ

อาตมาไปเทศน์ที่คุกบางขวาง มีนักโทษคดีอุกฉกรรจ์คนหนึ่ง ถูกสั่งประหาร รอประหารอยู่ มองนอนพัดลมทุกวัน เมื่อไหร่เค้าจะเรียกไปประหารก็ไม่รู้ รอให้คำสั่งมาถึง สามปี เซ็งมาก ตัดใจตายแต่มันไม่ตาย คำสั่งไม่มา วันหนึ่งไปเดินเล่น กลางสนามในคุกแคบ ๆ นะอาตมาก็เข้าไป เห็นพื้นซีเมนต์แห่งหนึ่งมันมีรอยปริแตกขึ้นมา และก็มียอดมันเทศโผล่ขึ้นมา"


บันทึกได้ถึงตรงนี้ เมมโมรี่คาร์ด(แผ่นบันทึกข้อมูล)เต็มค่ะเลยไม่ได้บันทึกพระธรรมะเทศนาต่อ

จำความได้ว่า ท่านได้เล่าต่อว่านักโทษอุกฉกรรจ์คนนั้นพอเห็นยอดมันเทศ ก็คิดได้ว่าขนาดยอดมันมันพยายามที่จะมีชีวิตอยู่โดยโผล่จากพื้นซีเมนต์ ทำไมตัวของเขาเองจึงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ คิดได้เช่นนั้นเขาจึงได้เริ่มแต่งเพลง แล้วส่งไปตามสถานีวิทยุและค่ายเพลงต่าง ๆ แต่งเป็นร้อย ๆ เพลง จนกระทั่งมีคนสงสัยอย่างเจอตัวคนแต่งเพลงคนนี้ และในที่สุดก็มีคนคิดที่จะนำเพลงเหล่านั้นไปทำเทปออกจำหน่าย ความถึงเจ้าหน้าที่ผู้คุมคุกที่เห็นว่านักคนนี้ทำชื่อเสียงให้กับคุก จึงทำเรื่องยื่นขอพิจารณาผ่อนผันโทษจาก โทษประหารชีวิต เป็นโทษที่เบาบางลง นักโทษคนนี้รอดตายเพราะเห็นตัวอย่างจากยอดมันเทศที่เดียว

จบจากการฟังพระธรรมเทศนา คณะพระสงฆ์ก็ให้พร และแผ่เมตตา คณะญาติโยมก็กรวดน้ำเป็นอันเสร็จพิธี


- รับชมวีดีโอตอนที่สอง

» วีดีโอประกอบตอนที่สอง ช่วงที่หนึ่ง


» วีดีโอประกอบตอนที่สอง ช่วงที่สอง

Spring Flower
Picture 3 – Spring Flower





Create Date : 06 พฤษภาคม 2550
Last Update : 2 มกราคม 2553 3:36:44 น. 13 comments
Counter : 2424 Pageviews.

 
haven't got any "ปริญญา" yet. :(


โดย: Lek IP: 71.84.213.96 วันที่: 6 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:12:43 น.  

 
อ่านแล้วได้ข้อคิดดีจังค่ะ ทั้งเรื่อง ดร. อภิวัฒน์ และเรื่องยอดมันเทศ ...ขอบคุณนะคะ


โดย: the Vicky วันที่: 6 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:12:47 น.  

 
~Lek
ขอให้ได้ปริญญาทั้งสองใบพร้อม ๆ กันเลยนะครับ

~ the Vicky
ยินดีมากค่ะ


โดย: Noshka วันที่: 10 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:10:40 น.  

 
Hello From Australia

Long time no see la ..
Still miss U naka
I'm planing to go back Thailand ka so hav 2 work T^T See ya na ka ...OXOXOXOXO


โดย: mare IP: 138.217.240.151 วันที่: 11 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:55:19 น.  

 
อ่านแล้วก็ได้ข้อคิดดีๆให้กับชีวิตเนอะ

ขอบคุณนอร์ชก้ามากๆที่เอามาแปะให้เพื่อนๆได้อ่านกันจ้า

ปล.รูปพี่เดฟในกล่องเม้นท์น่ารักโฮกกกกกก


โดย: tokei/tookei วันที่: 12 พฤษภาคม 2550 เวลา:19:49:44 น.  

 
สิ่งสูงค่าที่สุดในชีวิตของพวกเธอคือสุขภาพและชีวิต//ใช่เลยคะ หวังว่านอร์ชก้าก็อย่าทำงานจนลืมดูแลสุขภาพของตัวเองนะคะ


โดย: Arnie IP: 124.121.161.140 วันที่: 13 พฤษภาคม 2550 เวลา:0:17:35 น.  

 
หวัดดีคับคุณ noshka หายไปนานเลยแวะมาทักทายคับ ^ ^



โดย: บรึ๋ยศักดิ์ วันที่: 15 พฤษภาคม 2550 เวลา:3:02:35 น.  

 
~Ar'Mare
กลับเมืองไทยแล้ว อย่าลืมมาแวะทักทายนอร์ชก้าอีกนะ เดินทางกลับปลอดภัยนะ
~J'Tokei
ยินดีจ๊าดนักเจ้ นอร์ชก้าเองก็ได้ประโยชน์จากบทความนี้เหมือนกัน และเห็นด้วยว่าพี่เดฟในกล่องคอมเม้นต์น่ารักโฮกกกกกก (เลียนแบบเสียงเจ้)
~Arnie
ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงนะฮับ ต่อไปนอร์ชก้าก็จะพยายามบาลานส์ชีวิต จะได้ปริญญาชีวิตกับเค้าซะที
~MrBrui
ดีใจมากมาย ที่คุณMrBrui มาเยี่ยม สอบเสร็จแล้วพักผ่อนให้เต็มที่ ก่อนที่จะลุยต่อในเทอมหน้านะฮับ


โดย: Noshka วันที่: 16 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:26:58 น.  

 
อ่านจบได้สองเรื่องเลยครับเนี่ย
การทำชีวิตให้มีค่าดีกว่าอยู่ไปวันๆ
กับการทำชีวิตให้มีค่ามากเกินไป จนลืมคิดถึงคุณค่าการใช้ชีวิต

ผมว่าทางสายกลางเป็นคำสอนที่เป็นอมตะจริงๆ ครับ


โดย: พลทหารไรอั้นรู้สึกดีที่ได้อ่าน IP: 210.246.72.9 วันที่: 30 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:51:24 น.  

 
~พลทหารไรอั้น
มาพร้อมกับคำคมเลยนะ
ดีใจที่แวะมาอ่านเช่นกันจ้า
เห็นด้วยว่าทางสายกลางดีที่สุด


โดย: Noshka วันที่: 2 มิถุนายน 2550 เวลา:7:34:13 น.  

 
ได้ข้อคิด และช่วยในการดำเนินชีวิตดีจิงๆคะ ขอขอบพระคุณในคำสอนของท่าน


โดย: jib IP: 58.8.57.184 วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:15:37:22 น.  

 
ขออนุญาติก๊อปข้อมูลไปไว้ใน Blog เพื่อเก็บอ่านและให้เพื่อนๆได้อ่านนะคะ ขอบพระคุณค่ะ


โดย: kae IP: 203.146.157.164 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:37:46 น.  

 

~ Jib + Kae
นอร์ชก้าเข้ามาแก้ไขรูปประกอบแล้วนะคะ

ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ
ยินดีเสมอถ้าจะนำธรรมะไปช่วยเผยแผ่
ขอเพียงแต่นำข้อความดั้งเดิมไปใช้โดยโดยไม่มีการตัดตอนหรือเปลี่ยนแปลงใด ๆ นะคะ


โดย: Noshka วันที่: 29 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:00:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Noshka
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





"ทุกข์เกิดขึ้นเมื่อคุณเสียนาทีนี้ให้นาทีอื่น ชีวิตเป็นได้แค่สิ่งลวงตา ถ้าคุณไม่เคยมีนาทีนี้อยู่จริง" ดังตฤณ 7/15/2010

☼ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ☼
ношкa โนชาก้า (ru)
=Noshka (en)
=潘晶宁
พานจิงหนิง (中文)
=นอร์ชก้า(ไทย)

ชื่อเล่น=นอร์ช,หนิงๆ,Puccaไฉไล

☼ Dhamma Board ☼





Noshka’s Recent Blogs


» 泰(tài)ไทย, 和(hé)สามัคคี
» Sign Noshka's Guestbook



Click to view more info...泰(tài)ไทย และ 和(hé)สามัคคี : สองอักษรจีนจากใจ


Disclaimer
Some contents on this site have been collected from other Internet sources. Those items are only being used for educational purposes. All items copyright to their respective owner, no copyright infringement intended. If you are the copyright holder and would like to receive credit, or do not approve of it being shown on the site, please contact me.
You must not use any part of the materials on my site for commercial purposes.



Thank you
^^Profile picture by Noshka
^^Comment box picture
Pucca Cupid (อาหมวยไฉไล)
Friends' blogs
[Add Noshka's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.