สำหรับในการซื้อขายที่ดินนั้น บางบุคคลอาจจะต้องการขายที่ดินโดยขาดมือหรือเปลี่ยนมือไป แต่ว่าบางบุคคลบางครั้งก็อาจจะอยากขายที่ดินเพื่อเป็นทุนในการประกอบธุรกิจของตัวเองให้งอกงามมากยิ่งขึ้นแล้วค่อยนำเงินที่ได้จากการประกอบกิจการนั้นมาซื้อที่ดินกลับไป ส่งผลให้เกิดการทำความตกลงขายฝากกันขึ้น ธรรมศาสตร์ที่เกี่ยวกับวิธีขายฝากนั้น เป็นการค้าขายที่ดินโดยการโอนกรรมสิทธิ์ไปยังผู้ซื้อที่ดิน แล้วมีข้อตกลงว่าจะไถ่ทรัพย์สมบัติหรือที่ดินคืน ภายในเท่านั้นเท่านี้คราว จะเห็นได้ว่า การซื้อขายที่ดินโดยแนวทางการขายฝากนั้น ต้องมีเจ้าของอยู่ในขณะขายฝาก ไม่เหมือนกับทำความตกลงจะซื้อขายที่ดิน ซึ่งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีกรรมสิทธิ์ในขณะทำความตกลงก็ได้ การทำข้อตกลงขายฝากก็เลยมีบุคคลเข้าใจผิดว่า ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเป็นเจ้าของเจ้าของ เนื่องจากสามารถไถ่คืนได้ในภายหลัง เพราะฉะนั้น ความเข้าใจดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นจึงมีผลต่อข้อบังคับทำให้นิติกรรมที่ทำนั้น ผู้มีส่วนได้เสียหรือโจทก์สามารถยกเลิกนิติกรรมได้ให้ตอนหลัง ดังคำพิพากษาดังต่อไปนี้ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2536 โจทก์ลงชื่อในหนังสือมอบอำนาจ เพื่อให้จำเลยที่ 1 นำที่พิพาทไปจำนองธนาคารโดยมิได้กรอกข้อความ จำเลยที่ 1 นำหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวไปทำนิติกรรมซื้อขายที่พิพาท หนังสือมอบอำนาจดังกล่าวจึงเป็นเอกสารปลอม ต้องถือว่านิติกรรมการซื้อขายที่พิพาทมิได้เกิดขึ้น กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทคงเป็นของโจทก์ ไม่ตกเป็นของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ไม่มีสิทธิขายฝากที่พิพาท แม้จำเลยที่ 2และที่ 3 จะจดทะเบียนรับซื้อฝากที่พิพาทจากจำเลยที่ 1 ไว้โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนหรือไม่ก็ตาม จำเลยที่ 2 และที่ 3ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ โจทก์มีสิทธิขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายและขายฝากที่จำเลยที่ 1 ทำไปได้ ด้วยเหตุดังกล่าว การทำความตกลงขายฝากคนซื้อต้องสำรวจความการมีกรรมสิทธิ์ของผู้ขายด้วย ส่วนคนขายเองก็จำต้องรับผิดชอบต่อผู้บริโภคโดยการกระทำการอย่างสุจริตกล่าวอีกนัยหนึ่ง ต้องให้ได้เจ้าของในที่ดินโดยถูกการโอนขายฝากให้แก่คนซื้อ คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทนายความเชียงใหม่
เครดิตบทความจาก : https://www.นพนภัสทนายความเชียงใหม่.com/
Tags : ทนายความเชียงใหม่,ทนายเชียงใหม่,ปรึกกฎหมายเชียงใหม่
Create Date : 16 กันยายน 2561 |
Last Update : 16 กันยายน 2561 8:41:13 น. |
|
0 comments
|
Counter : 923 Pageviews. |
|
|