Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

 
กรกฏาคม 2563
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
24 กรกฏาคม 2563

Tohoku in White D2 : Entsu-in and Zuganji temple




หลังอาหารกลางวันจะไปล่องอ่าว Matsushima แต่ว่าให้ไปเที่ยววัดสองแห่งก่อน
วัด Ensuin เป็นวัดเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1647 ตั้งอยู่ติดกับวัด Zuiganji
ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสุสานให้แก่ Date Mitsumune หลาน Data Masamune
เป็นวัดในสาย Myoshin-ji ในนิกาย Rinzai zen
 
สิ่งที่โดดเด่นในวัดนี้คือ สวนกุหลาบ ซึ่งออกแบบโดย Kobori Enshu
เพื่อรำลึกถึงการเดินทางไปตะวันตกของ Date Masamune  
เพราะเค้าชื่นชอบวิทยาการของชาวโปรตุเกสที่เข้ามาค้าขายในสมัยนั้น
กล่าวกันกันว่าได้เข้ารีตเป็นคริสตัง และยังสร้างเรือที่เดินทางไปยังวาติกันสำเร็จ
 
สองคือภาพเขียนภายในสุสานที่เรียกว่า Namban ที่สร้างสำหรับให้ผู้คนรำลึกถึง
Date Mitsumune ภาพในมีภาพเขียนด้วยแทคนิคและสัญลักษณ์แบบตะวันตก
ประกอบไปด้วยรูปหัวใจ ข้าวหลามตัด โพธิ์ดำ ดอกจิก และรูปดอกกุหลาบ
อาคารนี้ไม่เปิดให้เข้าไป แต่สามารถภ่ายภาพภายในจากข้างนอกได้
 
อาคารหลักคือวิหารที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมศิลปะสมัย Muromaschi
บนฐานรูปดอกบัวที่สร้างจากต้นสนเคลือบแลกเกอร์สีทองแบบงานช่างญี่ปุ่น
ลักษณะเป็นหลังคามุงหญ้าแบบบ้าน แต่เดิมคือที่อยู่ของ Mitsummune
ที่ต้องไปพักอาศัยที่ Edo ในฐานะตัวประกัน แต่เค้าก็ตายตั้งแต่วัยรุ่น
 
Date Tadamune ผู้เป็นพ่อเสียใจมาก จึงสร้างวัดนี้ในปี 1646
และถอดบ้านที่พำนักมาประกอบเป็นวิหารของวัด Entsu-in ในปี 1647
วิหารนี้จึงได้ชื่อว่า Daihi-tei แปลว่า วิหารแห่งความเสียใจอย่างใหญ่หลวง
 

 
ด้านข้างคือวัด Zuiganji ซึ่งสร้างในนิกายเดียวกับวัด Entsu-in
วัดนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 828 ในนิกาย Tendai โดยคำสั่งของจักรพรรดิ Junna
ซึ่งในช่วงเวลานั้นได้เกิดระบบสภาที่เกิดจากเหล่าตระกูลขุนนางที่ครองอำนาจ
ตั้งเป็นระบบการปกครองแบบรัฐรวมศูนย์หรือ Ritsuryo แบบราชวงศ์ถังของจีน
 
การนี้จึงมีการส่งทหารออกไปปราบปรามหัวเมืองต่างๆ รวมถึงภูมิภาค Tohoku
ซึ่งเดิมเป็นที่อยู่ของชนพื้นเมืองเผ่า Emishi ซึ่งตระกูล Oshu Fujiwara
ได้ปราบปรามและครอบครองพื้นที่ส่วนนี้ได้ เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลสำคัญในสมัยเฮอัน
จึงมีการสร้างวัดจำนวนมากขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนพุทธศาสนาที่เข้ามาเผยแพร่ในญี่ปุ่น
 
ตระกูล Oshu Fujiwara ส่ง Jikaku Daishi ไปศึกษาศาสนาพุทธในจีน
แล้วกลับมาญี่ปุ่น สร้างนิกาย Tendai ขึ้น
ต่อมาตระกูล Oshu Fujiwara ก็ถูกตระกูล Minamoto กวาดล้างไป
จนเข้าสู่สมัย Kamakura ตระกูล Hojoได้เข้ามาอุปถัมถ์วัดนี้แต่ได้เปลี่ยนมาเป็นนิกายเซน
 
ในสมัย  Edo ถูกปรับปรุงโดย Date Masamune ในปี 1604
ที่ใช้ไม้สนจากเขาKumano จังหวัด Wakayama
และช่างฝีมือจากเมือง  Kyoto และ Kii ราว 130 คน
ตระกูล Date ได้อุปถัมถ์วัดนี้ตลอดมาจนกระทั่งสมัยปฏิวัติเมจิ
 

 
เมื่อเดินผ่านประตูเข้าไป เราจะเห็น Hondo ซึ่งเป็นอาคารหลัก ภายในมีการจัดแสดง
ห้ามถ่ายภาพ ส่วนกลางอาคารคือ ห้องแท่นบูชาที่มีภาพนกยูงรำแพนเขียนโดยซากุมะชุริ
นกยูงถือเป็นนกที่เป็นต้นกำเนิดของพุทธศาสนา  แสดงถึงสวรรค์ในดินแดนสุขาวดี
 
ด้านหน้าของอาคารคือโรงครัวขนาดใหญ่ ซึ่งยังมีการใช้งานจริงมาจนถึงปัจจุบัน
ภายในมีห้องมีบันไดที่สามารถขึ้นไปชั้นบน เป็นที่พำนักของตระกูล Date เวลามาที่วัดนี้
เป็นห้องนอนที่หรูหรา ขอบประตูทาสีดำ หน้าต่างมีกรอบเป็นรูปไฟ และภาพเขียนบน
ประตูกระดาษโดย Date Yohimura ซึ่งเป็นไดเมียวคนที่ 5 พร้อมปิดทองอย่างสวยงาม
 
ออกจากอาคารหลักที่ฝั่งตรงข้าม ดูเป็นอาคารสมัยใหม่ธรรมดา แต่ที่จริงคือ Seiryuden
หรือ Zuiganji art museum มีศิลปวัตถุมากกว่า 30,000 ชิ้นที่หมุนเวียนในการจัดแสดง
เราไม่ได้เข้าไปเพราะเดินมา 2 วัดแล้ว รีบออกจากวัดเพราะจิตใจอยู่ที่อาหารขึ้นชื่อของเมือง
นั่นก็คือลิ้นวัวย่าง ไม่ผิดไปจากที่คิด เพราะไกด์ยืนรอสั่งอาหารให้ลูกทัวร์อยู่ฝั่งตรงข้ามท่าเรือ
 
เราสั่งมาพร้อมกับหอยเชลล์ตัวโตที่ได้มาจากอ่าว Matsushima อร่อยหรือไม่อร่อยไม่รู้
 รู้แต่ว่ามาถึงเมือง Sendai ควรจะลองลิ้นวัวย่าง ไม่งั้น จะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง



จากนั้นก็ไปล่องเรือชมเกาะที่อยู่รอบอ่าว มีเสียงบรรยายชื่อเกาะโน้นเกาะนี้เป็นภาษาไทย
ดูในทีวีก็ตื่นเต้นแต่ของจริงก็เฉยๆ คุ้นอย่างเดียวคือ highlight ของที่นี่

คือการให้ข้าวเกรียบนกนางนวล แต่ทริปนี้ ทำไมไม่มีนะ 
มาตามอ่านทีหลังเค้าบอกว่าไม่มีมาสองปีแล้ว
เพราะนกนางนวลจิกนักท่องเที่ยวบาดเจ็บ ก็เลยห้าม

ทางเดินไปที่จอดรถจะผ่านวัดสำคัญ คือ Godaido Temple แต่ว่าไม่ได้เข้าไป
เป็นวัดที่อยู่บนเกาะเล็กๆ ในอ่าว มีพระพุทธรูปที่จะเปิดให้เข้าชม 33 ปีครั้งอยู่
ซึ่งก็ไม่น่าจะใช่เรื่องแปลก เพราะเคยเห็นวัดในทางแคชเมียร์ก็แบบนี้ล่ะ 12 ปีครั้ง
คืนนี้เราเดินทางไกลกลับไปนอนที่โรงแรม Urabandai เพื่อจะลุ้นไปดูบึง 5 สีอีกครั้ง

 



Create Date : 24 กรกฎาคม 2563
Last Update : 24 กรกฎาคม 2563 12:41:57 น. 1 comments
Counter : 915 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtuk-tuk@korat, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณhaiku, คุณKavanich96


 
ชอบต้นไม้บนเกาะค่ะ มันสวยอ่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 24 กรกฎาคม 2563 เวลา:17:16:10 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]