ลุยมั่วๆ 2 คน @ KANSAI (วันที่ 4 Wakayama)
ย้อนดูวันที่ 3 NARA + KYOTO คลิ๊กเลย
วันจันทร์ที่ 1 เม.ย.62
 06.15 น.วันนี้ออกจากโรงแรม APA Hotel Namba Shinsaibashi เช้าหน่อย อากาศ 4 องศา เราจะไปเที่ยวเมือง WAKAYAMA ครั้งนี้ไม่ได้ลง SUBWAY ประตู 25 แต่เดินตรงยาวไปสถานี NANKAI ทีเดียวเลย (เหมือนขามาวันแรก)
ผ่านคลองที่คุ้นเคย ขอแชะซักภาพ แสงสวยดีวันนี้ไม่ได้ใช้ PASS ใดๆ ใช้บัตร SUICA เติมเงินไปเป็นเที่ยวๆ เข้าสถานี NANKAI แวะเติมเงินคนละ 1,000 เยนก่อน (บัตรเก่าเหลือ 500 กว่าเยน)
 วันนี้เปลี่ยนแผนนิดหน่อย ที่จริงวันนี้ต้องไปเที่ยวปราสาทฮิเมจิ-โกเบ ดูพยากรณ์วันนี้ปราสาทฮิเมจิ ฝนตกทั้งวัน ส่วนวากายามาฝนไม่ตกเลยสลับวันเที่ยว
วันนี้ WAKAYAMA 4 องศาเติมเงินในบัตรเสร็จ แตะบัตรเข้าสถานีได้เลย
มาถึงดูป้ายขึ้นไปลงสถานี WAKAYAMASHI ขึ้นขบวน LTD. EXP. SOUTHERN 1  ชานชาลาที่ 5 ออกเวลา 6.38 น. มีเวลา 5 นาที สบายๆเดินหล่อๆ ขึ้นไปรอชิวๆบนรถไฟ แนะนำให้ขึ้นขบวน LTD. EXP แต่นั่งตู้แบบไม่ได้จองที่นั่งนะครับ ราคา 920 เยน เท่ากับขบวน LOCAL แต่ไปถึงเร็วกว่านั่งยาวไม่ต้องเปลี่ยนขบวน ไม้เดียวถึง จากต้นทางไปสุดทาง ใช้เวลาเดินทาง 1.03 น.  ออก 6.38 น.  ถึง 7.43 น.  ใครจะไปนั่งรถไฟ Super Eki-cho Tamachan Densha (แมวทามะ) นั่งขบวนนี้ไปลงสถานี JR ได้เลย จอดอยู่ในสถานีเดียวกัน
 อย่าสับสนนะครับ ที่วากายามามี 2 สถานี อยู่คนละทาง ของ NANKAI  สถานีจะใช้ชื่อ WAKAYAMASHI (NANKAI) ส่วนค่าย JR  ใช้ชื่อสถานี JR WAKAYAMA ส่วนผมก็จะไปนั่งรถไฟ Super Eki-cho Tamachan Densha (แมวทามะ) เหมือนกัน แต่ไปเที่ยวที่อื่นด้วย เลยขอซื้อบัตร ONE DAY PASS คุ้มกว่า
แตะบัตรออกจากสถานีได้เลย  ถึง Wakayamashi เวลา 07.46 น. ข้างหน้าสถานีกำลังปรับปรุงใหม่เดินออกมาทางขวา จะมีสำนักงาน(แอบเล็กไปหน่อย) เข้าไปขอซื้อบัตร WAKAYAMA BUS 1 DAY PASS ใบละ 1,000 เยนได้มาแล้ว หน้าตาบัตรเป็นอย่างนี้ อย่าทำหายนะครับ วันนี้ใช้บัตรตลอดทริป ค่ารถเมืองนี้แพงเหมือนกันเนาะ  ดูป้ายรถบัสกับสายที่เราจะไปเที่ยวก่อนนั่งรถบัสสาย 11  ไปลงสถานี JR จะผ่าน ปราสาทวากายามาใครจะแวะก่อนก็ได้ เมืองวากายาม่า รถบัสไม่รับบัตร IC ทุกชนิด
ขึ้นรถตรงกลางประตู จะมีช่องเสียบบัตร ให้ใช้บัตร 1 DAY PASS เสียบตรงเครื่องได้เลย (เหมือนเสียบบัตรเข้าสถานีรถไฟ) แล้วบัตรจะเด้งคืน เอากลับมาด้วยนะครับรถบัสจะเข้ามาจอดที่หน้าสถานี JR ราคา 230 เยน ตอนลงไม่ต้องจ่ายตังค์ เดินไปลงประตูหน้า ใช้บัตร 1 DAY PASS เสียบตรงเครื่องเก็บเงินข้างคนขับได้เลย มันจะเด้งบัตรคืนเหมือนเดิม
เวลาใช้ ใช้บัตร 1 DAY PASS ขึ้นรถบัส ให้ทำอย่างนี้ทุกครั้งนะครับ แต่วันนี้ทั้งวันผมไม่ได้เสียบตอนขาขึ้น มาเสียบตอนขาลงอย่างเดียวเลย ก็ไม่เห็นคนขับว่าอะไร ครั้งแรกไม่รู้เนอะ เพิ่งมารู้วันสุดท้ายก่อนกลับถึงแล้วเดินเข้าไปในสถานี JR ได้เลย บอกนายสถานีว่าจะไปหา ทามะ เค้าจะเปิดให้เราเดินเข้าไปในสถานีเข้ามาในสถานีแล้วเลี้ยวซ้าย เจอป้ายเจ้า ทามะ เป็นรูปแมวตลอดทางตอนดูรีวิวในเวป จะเป็นรอยเท้าแมว  ตอนนี้เปลี่ยนเป็นรูปแมวทั้งตัวในอริยะบทต่างๆ ติดตามกำแพงตลอดทาง น่ารักดีสำหรับพวกทาสแมวทั้งหลายเดินตามแมวไปเลยครับ จะอยู่ชานชาลาที่ 9
ถึงแล้วขึ้นบันไดตามรอยเท้าแมวได้เลย ซื้อตั๋วแบบ 1 DAY FREE PASSPORT ราคา 780 เยนนั่งได้ตลอดวัน ทุกขบวน เพลินเลยทีนี้มีทั้งหมด 4 ขบวนตกแต่งตามสไตล์แต่ละแนว แต่วันนึงเค้าวิ่งแค่ 3 ขบวน สลับกันไป
 TAMA DEN รถไฟธีม ทามะ (แมวเมี้ยว)
 ICHIKO DEN รถไฟธีม สตรอเบอร์รี่
 OMOCHA DEN รถไฟธีม ของเล่น
 UMEBOSHI DEN รถไฟธีม ดอกบ๊วย
วันนี้ขบวนสตรอเบอร์รี่ไม่วิ่ง  ดูตารางก็เห็นวิ่งทุกวัน เสียดายไม่งั้นเก็บครบแน่ มาถึงสถานีประมาณ 8.30 น. เจอเจ้า OMOCHA DEN จอดรออยู่ รออะไรละครับ โดดขึ้นเลย
 OMOCHA DEN มี 2 ตู้ ตู้แรกเป็นพื้นไม้ หลังคาตกแต่งธรรมดา ที่นั่งเป็นแบบโซฟาตกแต่งลายน่ารัก มีหลายแบบสลับกันเป็นทางยาวหันหน้าชนกัน ตรงประตูมีตู้กาชาปอง แค่นี้ผมกับแฟนตื่นเต้นกันอยู่ 2 คน เดินถ่ายรูปตลอดไม่ได้หยุด   ตู้กาชาปอง ใครพาลูกพาหลานมาอย่านั่งตู้นี้เด็ดขาด กว่าจะถึงสถานีสุดท้ายอาจหมดตัวไปกับกาชาปองได้เดินมาอีกตู้ มีตู้โชว์ของเล่นน่ารักๆ จัดไว้ในตู้อย่างสวยงามอีกด้านเป็นเคาเตอร์ มีกระจกบานใหญ่ 2 บาน ติดสติกเกอร์ OMD สัญลักษณ์ของรถไฟขบวนนี้ตู้นี้แต่งสไตล์เรียบๆ แต่น่ารัก ตรงกลางตู้จะมีเหมือนเตียงหรือคอกหว่า  ไว้สำหรับเด็กๆเข้าไปนั่งเล่นวิ่งมาได้ 2 สถานีเจอขบวน UMEBOSHI DEN จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังจะกลับเข้าสถานี ไม่รอช้าโดดเข้า UMEBOSHI DEN ต่อเลย
ขบวนนี้มี 2 ตู้ มีตู้โชว์เหมือนกันแต่น่าจะเป็นเหล้าบ๊วย แล้วเจ้าแมวเหมียว  สารภาพเลยครับ ไม่ได้สนใจวิวข้างทาง จะจอดสถานีไหนบ้าง ยังไงไม่รู้ เดินเล่นในขบวนรถไฟกันอยู่ 2 คนนอกจากรับนักท่องเที่ยวแล้ว ทุกขบวนยังบริการรับ-ส่ง คนท้องถิ่นสัญจรระหว่างเมืองด้วย
ถึงว่าดูเค้าไม่ค่อยตื่นเต้น นั่งกันสงบเรียบร้อยเชียว มีผมกับแฟนเดินถ่ายรูปตลอด ถ่ายรูปมากก็ไม่ได้เกรงใจ รอว่างๆค่อยเดินสำรวจ ไม่ต้องกลัว วันนี้มาเพื่อรถไฟโดยเฉพาะ เหมาเที่ยวตลอดวัน สบายๆ  นั่งซักพักรถกลับมาส่งผู้โดยสารที่สถานี JR WAKAYAMAผู้โดยสารโล่งแล้ว รถไฟเป็นของเรา 
ตู้แรกเป็นพื้นไม้ ที่นั่งเรียงยาวหันหน้าชนกัน เบาะเป็นลายดอกบ๊วย ตรงกลางทำกรงไม้ไว้ให้เด็กๆเข้าไปนั่งเล่นเหมือนขบวนที่แล้ว แต่เป็นทรงกลมเล็กกว่า ชอบๆอีกตู้แต่งเรียบๆแต่น่ารัก ที่ชอบคือหลังคาจะเป็นลายดอกบ๊วย สีน้ำตาลเข้มตัดกับพื้นไม้ คลาสสิคมากที่นั่งเก๋ๆรอรับผู้โดยสารและนักเที่ยวรอบต่อไป  ถ่ายรูปเล่นแถวสถานีไม่นาน รถเจ้าทามะก็มา  โดดขึ้นเลย มี 2 ตู้เหมือนกัน  จะมีตู้หนังสือแมว ไว้ให้อ่าน แต่เป็นภาษาญี่ปุ่น อ่านไม่ออก  โซฟาภายในตู้ขบวนข้างใต้จะติดฮีตเตอร์อุ่นดีที่นั่งเป็นแถวยาวแบบหันหน้าชนกันโดเรม่อนก็มาโคมไฟแมวมีทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นนั่งเยอะอยู่เหมือนกัน  รถไฟน่ารักจัง ขนาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นยังพูดคาวาอี้ตลอดเลย
นั่งเพลินมาก มาถึงสถานี IDAKISO เจ้าหน้าที่ขับรถไฟเดินมาบอกว่าถ้าจะไปอีกต้องรอเปลี่ยนขบวนใหม่  รถไฟเจ้าทามะ สิ้นสุดทีสถานีนี้ ไม่ได้ไปถึงสถานี KICHI  สถานี IDAKISO  นี้จะมีเจ้าแมวเหมี่ยวประจำการ แต่วันนี้หยุด ถ้าอยากเจอครบทั้ง 2 ตัวต้องมาพรุ่งนี้วันอังคาร
ไม่ใช่น่ารักแค่ภายใน ภายนอกขบวนก็ตกแต่งน่ารัก  มีเวลาประมาณ 15 นาที เดินเล่นภายในสถานีก่อนจะนั่งขบวนอื่นไปยังสถานี KISHI  ใกล้เวลาไปรอที่สถานี รอบนี้ได้เจ้า OMOCHA DEN นั่งยาวไปจนถึงสถานี KISHI ศาลเจ้าทามะรุ่นแรกเดินเข้าไปในสถานีเจอเจ้านิทามะ รุ่นที่ 2 ตัวอ้วนปุ๊กเลย เสียดายที่เค้าไม่ได้เอามาโชว์ข้างนอก
นอนอย่างเดียว ดูขี้เกียจเหมือนกันนะเรา  เดินออกมาด้านนอกสถานี เป็นรูปหน้าแมว ทามะลองกดกาแฟกระป๋องดู อร่อยใช้ได้ 120 เยนด้านซ้ายจะเป็น SHOP เจ้าทามะ มีของเกี่ยวกับแมวและขนม ของกินจำหน่าย    ด้านขวาจะเป็นพิพิธภัณฑ์ เจ้าทามะ ภายในเป็นร้านกาแฟ เดินเล่นประมาณครึ่งชั่วโมง ขึ้นรถไฟกลับวากายามา 
ตอนออกจากสถานี นายสถานีจะให้ตั๋วใบเล็ก เพื่อใช้ออกจากสถานี JR WAKAYAMA  ส่วนบัตรรถไฟทามะ ถ้ามีเวลาตอนเย็นจะกลับมาใช้บริการอีกก็ได้ครับ เที่ยวได้ทั้งวันไม่จำกัดเวลาเป้าหมายต่อไป มาริน่า ซิตี้ 
ออกจากสถานี JR เดินไปรอรถบัสป้ายที่ 2นั่งไปไกลเหมือนกันครับ ประมาณเกือบชั่วโมงได้ จาก JR ถึงมาริน่า ซิตี้ ราคา 510 เยน ดีนะซื้อบัตร ONE DAY PASS ประหยัดค่ารถบัสไปได้เยอะ ตอนลงเสียบบัตรหน้าคนขับได้เลยนั่งสาย 121 หน้าตารถบัสจะเป็นแบบนี้ 
บรรยากาศติดทะเล ลมตึง อากาศหนาวสะท้านเลยครับ 12.10 น. มาถึงเป้าหมาย Kuroshio Fish Marketด้านซ้ายมือเป็นเหมือนซุปเปอร์มาร์เก็ต ขายพวกผลไม้ 
ผ่านก่อน ยังไม่ใช่เป้าหมาย  เข้าไปข้างในกัน อลังการมาก หมายถึงของกินนะครับ    ข้างในจะมีโชว์แล่ปลาทูน่าทุกวัน 3 เวลา
รอบแรก 11.00 น. 12.30 น. รอบสุดท้าย 15.00 น.ผมมาถึงตลาด 12.20 น. หิวก็หิว  อยากดูโชว์ก็อยาก อีก 10 นาทีเอง เดินวนดูอาหารก่อน 1 รอบ
มีทั้งแบบจ่ายตังค์หน้าร้านและเดินเลือกแล้วรวมๆไปจ่ายที่เค้าเตอร์   เดินชมอาหารไป  ก็แสบท้องไป เห็นแล้วก็อยากกินแต่ต้องรอดูโชว์ก่อน ทรมานเหมือนกันเนอะ
ใกล้เวลาโชว์แล่ปลา เดินไปรอข้างหน้าเลย ปลาตัวใหญ่มากระหว่างแล่ก็บรรยายเป็นภาษาญี่ปุ่น ว่าตรงนี้คืออะไร เอาไปทำอะไรบ้าง ฟังไม่ออกหรอกครับ อาศัยเดามั่วเอา  มีดคมหรือคนแล่ปลาเก่งไม่รู้ ทำเร็วมาก คล่องด้วยปลาสดมากพอแล่ปลาเสร็จ เค้าก็ตัดขายกันสดๆเลยครับดูโชว์เสร็จได้เวลาลุย 
หอยเชลล์ ตัวใหญ่ สดมาก เนื้อแน่นตุ๊บเลยหนวดปลาหมึก เอามาย่างกลิ่นหอมมาก เนื้อหวาน เคี้ยวเด้งในปาก ไม่คาว ไม่เค็มเลย แต่หอม มัน อร่อย พิมพ์ไปอยากจะกลับไปปิ้งอีกซัก 10 ไม้ ใช่เบคอนเปล่าไม่รู้ ราดซอสมาด้วยเวลาย่างเสร็จ จิ้มน้ำจิ้ม เนื้อแทบละลายในปาก อร่อยอีกแล้วเนื้อหมู ก็อร่อยอยู่แต่ยังไม่ว๊าวววว เหมือนไม้ข้างบนไส้กรอก ที่เป็นวงๆ อร่อยมากกกกกกก ถ้าใครชอบไส้กรอกแนะนำชิ้นนี้เลย ห้ามพลาด  พวกผัก เห็ด พริก หยิบไปย่างได้เลย ไม่ผิดหวังหยิบใส่ถาดแล้วเดินมาจ่ายที่เค้าเตอร์ตรงนี้ เค้าจะถามมากี่คนแล้วจะแจกจานโฟมพร้อมช้อน ตะเกียบแถมมาให้ครบจำนวนคนที่มา   ส่วนพวกซูชิ เนื้อปลาดิบที่เค้าติดราคาหยิบแล้วจ่ายตังค์ที่ร้านนั้นได้เลย
ได้อาหารครบแล้ว เดินไปด้านหลังจะมีเตาปิ้งให้ฟรี เลือกที่นั่ง เจ้าหน้าที่เค้าจะเดินมาจุดแก๊สให้พร้อม ซอส ที่คีบและกรรไกร  ได้เวลานั่งปิ้งกินแล้วน้ำจิ้มซีฟูดลงทุนหิ้วมาจากเมืองไทยเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ไม่ผิดหวังที่หอบมา ฟินมากกกบรรยากาศภายในโรงปิ้ง B.B.Q จะเป็นโรงมีโต๊ะเรียงๆกัน ตรงกลางเป็นเตาย่าง ใครซื้ออาหารสดไปย่างจะเปิดเตาย่างให้ฟรี
ใครกินเสร็จ ยกถาด อุปกรณ์ต่างๆไปเก็บด้านหลัง จะมีถังขยะไว้ให้ แยกประเภทให้ด้วยค่าเสียหาย ค่าอาหารมื้อนี้ 13,563 เยน ยังไม่รวมเครื่องดื่มอีก 850 เยน สบายตัวไป แต่อร่อยมากกกกกก อาหารทุกอย่างสด ไม่มีกลิ่นคาว คุ้มค่าเสียหาย ไม่เสียดายราคาเลยครับ  อิ่มแล้วเดินตัวเบาออกมารอรถบัสที่ป้าย 1
ตรงนี้จะมีป้ายจอดรถบัสป้าย 1  กับป้าย 2  ที่ต่อไปคือวัดคิมิอิเดระ (Kimii-dera Temple)  ที่จริงรถบัสคันไหนมาก็ไปได้หมดทุกสาย เป็นทางผ่านอยู่แล้ว ถ้าไม่แน่ใจให้ถามคนขับรถหรือนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ยืนรอตามป้ายก็ได้ครับ
ระหว่างรอรถ มีเวลานิดหน่อย ตรงข้างๆตลาดมี Porto Europa เข้าไปเดินดูหน่อยเงียบๆอ่ะ แต่ข้างในจะมีสวนสนุก มีโชว์ต่างๆให้ดูหลายอย่างเหมือนกัน แต่ไม่มีเวลาต้องไปต่อ เลยเข้าชมแค่ด้านหน้าอย่างเดียวประมาณบ่ายสามมาขึ้นรถไปวัดคิมิอิ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที มาลงป้าย Kimiidera ป้ายจะโชว์ตรงหน้ารถเห็นชัดเจน ค่ารถ 260 เยน
เราใช่บัตร 1 DAY Pass เสียบช่องได้เลย เหมาจ่ายแล้ว สบายไป มาถึงป้าย Kimiidera เวลา 15.11 น. ลงป้ายเสร็จให้เดินข้ามถนนไป จะเห็นเขาอยู่ข้างหน้ามีต้นดอกซากุระเต็มเขา ตรงนั้นแหละคือวัดที่เราจะไป เดินประมาณ 1 กม. อากาศ 7 องศา  เดินสบายๆ
ถึงวัดแล้ว ซื้อบัตรบำรุงวัดคนละ 200 เยน  ได้บัตรมาแล้วเดินขึ้นบันไดสูง 321 ขั้น ทอดยาวขึ้นไปยังบนเนินเขา Ketsuen ที่เชื่อกันว่า หากเดินขึ้นไปด้วยใจบริสุทธิ์จะทำให้พบแต่ความสุขและความมั่งคั่ง เหมือนกับ ชายหนุ่มผู้หนึ่งในสมัยเอโดะที่แบกมารดาขึ้นหลังปีนเขาไปนมัสการพระบนยอด ผู้ซึ่งประสบความสำเร็จทั้งทางด้านความรัก และการค้าขาย
บันไดดูเหมือนสูงแต่เดินจริงๆเพลินมากไม่รู้สึกเหนื่อยเลยเพราะมีต้นซากุระตลอดทางขึ้น สวยมากกกก มองจากข้างบนลงไปข้างล่างขึ้นมาจนสุดซ้ายมือจะเป็น Hondo หรือศาลาหลัก มีต้นซากุระบานต้อนรับนักท่องเที่ยวด้านข้างโบสถ์จะมีถนนให้รถขับขึ้นมาได้ จะอยู่คนละด้านกับทางบันไดเดินขึ้น ขากลับผมก็ลงเดินทางนี้Kimiidera Temple หนึ่งในที่ชมซากุระบานที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าชื่อเดิมคือ Kongohiji แต่คนที่นี่มักเรียกวัดนี้ว่า Kimiidera คำว่า “mi-i" หมายถึงบ่อน้ำสามบ่อ ซึ่งคือ จำนวนบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดนี้ ได้แก่ Well of Puity (Seijomizu), Well of Healing(Yoryu) และ Well of good fortune(Kissho)
ที่มาวัดนี้ก็เพราะเจ้าต้นซากุระนี่แหละ  ลานจอดรถอันนี้ไม่ทราบคืออะไร ใครรู้ช่วยบอกด้วยครับ    ซากุระบานเต็มทุกจุดเลยShin-butsuden อันเป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิมพันมือ ซึ่งแกะสลักจากไม้ และปิดด้วยทองคำเปลวทั้งองค์ข้างบนจะเป็นจุดชมวิว สวยมากเดินเล่นภายในวัด 2 ชั่วโมงเต็มๆ ไม่รู้ว่าทำไมเวลาผ่านไปเร็วมาก
17.00 น.ได้เวลากลับแล้ว ลงทางที่ถนนรถขึ้นมาได้เดินกลับมาขึ้นรถที่ป้ายรถบัสที่เดิมรถจะมาจอดที่ สถานี JR ป้าย 4 เดินมาขึ้นป้าย 3 เพื่อกลับสถานี WAKAYAMASHI เที่ยวนี้ราคาประมาณ 300 เยน (ไม่แน่ใจ ลืมถ่ายรูปมา)
ป้ายนี้อยู่หน้าสถานี JR ฝนตกอีกต่างหาก  รอรถบัสประมาณ 10 นาที นั่งไป WAKAYAMASHI ใช้บัตร SUICA แตะบัตรเข้าไป ราคา 920 เยน นั่งขบวน LTD. EXP. SOUTHERN 1 มีเวลา 10 นาที ชิวๆหน้าตารถไฟจะเป็นแบบนี้ ให้สังเกตตรงหัวรถไฟ จะมีป้ายบอกไปนัมบะ ขึ้นได้เลย
Local ก็ไปได้เหมือนกัน ราคาเท่ากัน จะจอดเกือบทุกสถานีหลีกเลี่ยงได้ก็ดี แต่ถ้ามีเวลาอยากนั่งชิวๆชมวิวไปเรื่อยๆก็แล้วแต่สะดวกครับ  ถึงนัมบะประมาณ 2 ทุ่ม เดินช้อปปิ้งแถวคลองดงทงโบริ ได้ของมานิดหน่อย เข้าที่พัก สลบยาว  
 ค่าใช้จ่ายวันนี้
 กาแฟกระป๋อง 120 เยน
ค่าอาหาร 13,563 เยน
เบียร์ 500 เยน (1 แก้ว)
เป็ปซี่ 350 เยน (1 กระป๋อง+น้ำแข็ง 1 แก้ว)
ค่าเข้าวัด Kimii-dera Temple 400 เยน (คนละ 200 เยน)
สรุป ค่าใช้จ่ายวันนี้ 14,933 เยน ไม่รวมค่าช้อปปิ้ง
ค่าเดินทางวันนี้ใช้บัตร SUICA เป็นเที่ยวๆ + 1 DAY PASS ในเมืองวากายามา รวมทั้งหมด 7,240 เยน/2 คน
 จากสถานี NANKAI NAMBA ลงสถานี WAKAYAMASHI ขึ้นขบวน LTD. EXP. SOUTHERN 1 ราคา 1,840 เยน (คนละ 920 เยน)
1 DAY FREE PASSPORT (รถไฟท่องเที่ยว) ราคา 1,560 เยน (คนละ 780 เยน)
จากสถานี WAKAYAMASHI ลงสถานี NANKAI NAMBA ขึ้นขบวน LTD. EXP. SOUTHERN 1 ราคา 1,840 เยน (คนละ 920 เยน)
บัตร WAKAYAMA BUS 1 DAY PASS 2,000 เยน (คนละ 1,000 เยน) เหมาจ่ายรถบัสทุกสายตลอดวัน
 ถ้าจ่ายรถบัสเป็นเที่ยวๆ ในเมืองวากายามา รวมทั้งหมดประมาณ 1,530 เยน ค่าพาส 1,000 เยน ใช้เกิน 530 เยน ใช้พาสคุ้มครับ
 จากป้าย WAKAYAMASHI – ป้าย JR WAKAYAMA 230 เยน
จากป้าย JR WAKAYAMA – ป้าย Marina City 510 เยน
จากป้าย Marina City – ป้าย Kimiidera 260 เยน
จากป้าย Kimiidera - ป้าย WAKAYAMA ประมาณ 300 เยน
จากป้าย WAKAYAMA - ป้าย WAKAYAMASHI 230 เยน
| Create Date : 12 เมษายน 2562 |
| Last Update : 20 ตุลาคม 2563 15:40:15 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 4643 Pageviews. |
 |
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [
คนแล่ปลา ตอนผมไปอีกคนเด็กกว่า คล่องมากพูดเร็วด้วย 555
ตรงข้ามตลาดปลา ข้างในสวยครับ ผมเข้าไปคนเดียวถ่ายมาเพียบเป็นแบบ
ยุโรปโบราณ... คนไม่มีเลย ลึกเข้าไปมีของเล่นพวกปลาหมึกหมุน กับนั่ง
รถรางลงน้ำ แต่ผมไม่.. เสียว
สงสารแมว อยู่ข้างในตู้ครับ ไม่ได้ขยับไปไหนไขมันคงจะพอกเต็มตัว