ทริปนี้พาคน กล้อง และ แมว ไปเที่ยวโครงการของพ่อที่ โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ จ.เพชรบุรี
⦁ อุปกรณ์ถ่ายภาพใช้ Canon EOS 6D Mark II ติดเลนส์ EF 24-105L II ซึ่งเป็นเลนส์ Kit ที่ติดมากับกล้อง ใช้เป็นเลนส์ตัวเดียวเที่ยวทั่วไทยได้เลย
⦁ ซึ่งทริปนี้เดินทาง 2 วัน 1 คืน เน้นไปถ่ายภาพในหน้าฝน กับธรรมชาติสวยๆที่โครงการชั่งหัวมัน
⦁ ดูตัวภายนอกกล้องก่อนนะคะ เป็นกล้องฟูลเฟรมขนาดไม่ใหญ่ พกพาง่ายทีเดียว ที่เพิ่มมาคือจอพับ หมุนได้รอบทิศ
⦁ ตัวจอ LCD เป็นระบบทัชกรีน สามารถปรับเปลี่ยนโหมดต่างๆในจอได้ทั้งหมด ขยายภาพเช็คภาพได้ และแตะถ่ายภาพได้จากในจอได้เลยค่ะ
⦁ มีระบบ Wi-Fi ส่งผ่านภาพถ่ายเข้ามือถือได้ทันที
......................................................................................................
ทริปนี้เดินทางมาถึงโครงการชั่งหัวมัน พักกางเต็นท์ที่นี่ 1 คืน บรรยากาศเต็มไปด้วยต้นไม้ เราจะได้นอนริมอ่างเก็บน้ำและภูเขา เริ่มถ่ายภาพกันก่อนที่หน้าโครงการ
กระปุกออมสินรูปรถทรงงานของในหลวง พามาถ่ายรูปด้วย
สันเขื่อน ถ่ายที่ระยะ 105 mm f4 กึ่งย้อนแสง เลนส์ตัวนี้ไล่โทนแสงทำได้ดี ถ่ายย้อนแสงโฟกัสไม่รวน
สัญลักษณ์โครงการ กังหันลมผลิตไฟฟ้า
มุมทางเดินสะพาน ถ่ายแล้วลองปรับสี2แบบ สีธรรมชาติ กับขาวดำ
ลองปรับเป็นโทนขาวดำให้มิติที่แปลกตาไป การไล่โทนแสงให้ความละมุนตา
บรรยากาศดีมากค่ะที่นี่ มีมุมถ่ายรูปมากมาย ทั้งสะพาน ริมน้ำ ภูเขา
มุมมุดหญ้า ด้วยที่กล้องไม่หนักมาก ถือง่าย เดินถ่ายชิวๆได้สบายสำหรับสไตล์นักท่องเที่ยว
ในช่วงแสงกลางวันบ้างค่ะ เซตค่าเป็น auto wb ถ่ายซุ้มต้นบวบ
เดินเข้าไปด้านในซุ้ม ถ่ายมุมย้อนออกมา ดูมิติของแสงเงา การวัดแสงแม่นยำกว่าเดิม
ในเช้าวันใหม่ มีฝนตกเบาๆ ถือกล้องออกไปลุยถ่ายตากฝน กล้องตัวนี้กันละอองน้ำได้ดีค่ะ ไม่มีปัญหาเลย ได้ถ่ายภาพน้ำค้างเกาะบนใบหญ้าบนสนาม ถ่ายที่ช่วง 105mm เปิด f4 สุดช่วง แล้วครอปภาพมาอีกที
สีสันของธรรมชาติยามเช้า
ปรับเป็นขาวดำ เพื่อดูมิติของภาพ แสงและเงา
ถ่ายบนสนามหญ้า มีดอกเล็กๆ เลนส์ละลายฉากหลัง ได้เนียนตามาก เปิด f4 ตลอดช่วง
ถ่ายแมวนี่ยากเหมือนกัน เค้าไม่อยู่นิ่งเลย ลองตั้งสปีดต่ำ แพนกล้อง จับจังหวะตอนเค้าเดิน ให้ Background ดูเคลื่อนไหวนิดๆ
การถ่ายย้อนแสง เลนส์ไม่ค่อยวืด โฟกัสเข้าไว รู้สึกว่าการวัดแสงแม่นยำขึ้น
นายแบบดื้อมาก ต้องอุ้มละ
ลองปรับเป็นโทนขาวดำอีกที ไฟล์ภาพคมกริบ
แมวเจ้าถิ่น ตาสีเหลืองสวยมากก
ลองถ่าย Portrait เด็กค่ะ เลนส์ kit ตัวนี้ที่ติดมากับกล้อง ถือว่า ถ่ายทุกสิ่งทุกอย่างได้เลย จบในตัว ทั้ง Portrait ภาพวิว ละลายหลังได้สวย
อุดหนุนสินค้าโครงการแล้ว ก็พามาถ่ายภาพต่อ
นมชั่งหัวมัน เปิด f4 ละลายได้โบเก้เป็นฉากหลังอยู่
ภาพธรรมชาติ สีสวยละมุนตา
วิวอาทิตย์ตกริมทาง ซูมสุดช่วงของเลนส์ที่ 105mm ไปที่อาทิตย์ไข่แดง
ริมทางมีไอหมอกบางๆกับทิวต้นตาล ซูมสุดช่วงของเลนส์ ตอนนี้เริ่มมืดแล้ว ดัน ISO ไปที่ 2500 นอยส์ยังเนียนดีค่ะ สามารถดันได้ถึง ISO 40000
มาดูแฟลร์ที่เกิดจากกล้องค่ะ เด็กคนนี้วิ่งบนสันเขื่อน จับโฟกัสแบบระบบติดตามตัว โฟกัสไม่วืด
เม็ดฝนที่เกาะเต็นท์ ภาพสีสวยเนียนตามาก
ภาพนี้ถ่ายลูกเจี๊ยบลอดกรงเข้าไป รู้สึกว่าได้ภาพที่มีมิติมากขึ้น ความชัด โทนสีการไล่โทนสีและแสงที่ดีขึ้น
ดอกไม้ริมทางในยามเย็น
อีกมุม เปิดถ่ายจากจอพับ เพราะมุมนี้มุดเข้าไปถ่าย ไม่ได้ ใช้วิธีซ่อนกล้องในพุ่งไม้ แล้วเปิดถ่ายจากในจอ
ลองถ่าย silhouette แสงด้านหลังจ้ามาก ถ่ายติด under โดยโฟกัสไปที่ลวดหนาม ปกติถ่ายการย้อนแสงเลนส์จะรวน เลยทดสอบถ่ายย้อนแสงส่วนมาก เพื่อดูประสิทธิภาพของกล้องและเลนส์ ซึ่งทำได้ดี
ลองถ่ายสิ่งเคลื่อนไหวกันบ้าง
เล็งเจ้าสุนัขวิ่งเล่น 2 ตัวนี้อยู่ เปิดจอพับออกมา แล้วเซ็ตค่าถ่ายต่อเนื่องแบบติดตามสิ่งเคลื่อนไหว แล้วแตะหน้าจอค้างไว้ให้ลั่นชัตเตอร์ โฟกัสจับไวมาก ไม่ต้องมองผ่านช่องมองภาพเลย การถ่ายจากในจอยังให้อารมณ์เหมือนถ่ายภาพจากมือถือ ง่ายและเร็วมาก และยังอัพโหลดผ่าน Wi-Fi เข้าโทรศัพท์ได้ทันที
ทดลองถ่ายนกบินลองใช้โหมดแตะถ่ายจากในจอ กล้องลั่นชัตเตอร์เร็วมาก ได้ 6.5 เฟรม ต่อวินาที
ชอบโหมดถ่ายโดยการแตะถ่ายในจอ และจอพับที่แยกจากกล้องออกมาได้ ทำให้เราถ่ายภาพได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
ทีนี้มาลองถ่ายหยดน้ำบ้าง ใช้แสงธรรมชาติ เซ็ตค่า speed 1/640
จับจังหวะได้ทันใจมากค่ะ กล้องรัวได้เร็วขึ้น จำนวน 6.5 ภาพ ต่อ 1 วินาที ภาพนี้เซ็ต speed 1/4000
ภาพนี้ speed 1/4000 เช่นกัน กดถ่ายรัวๆแล้วมาเลือกภาพอีกที เพื่อดูการหยุดของน้ำ
กลุ่มดอกดาวเรืองหน้าทางเข้าโครงการ ลองถ่ายด้วย jpeg file แล้วโทนสีรู้สึกว่าอิ่มกว่าเดิม
ในการถ่ายดอกไม้ เราคงเอาตัวมุดเข้าไปพุ่มไม้ไม่ได้ ปกติจะใช้วิธียื่นกล้องเข้าแล้วแล้วสุ่มถ่ายออกมา แต่พอมีจอพับแล้วช่วยได้มาก ที่จะหามุมถ่ายแปลกๆ ที่เราเข้าไม่ถึง
ลองยื่นกล้องเข้าไปในดงดอกไม้ เปิดจอพับออกมาแล้ว บิดจอให้อยู่ในระดับสายตามองเห็น แตะถ่ายจากหน้าจอ ความรู้สึกเหมือนถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ
มุมนี้ซ่อนกล้องใต้ดอกไม้ แล้วแตะถ่ายจากหน้าจอค่ะ ได้ภาพมุมเสย มีภูเขาเป็นแบคกราวด์หลัง
อีกมุมค่ะ รู้สึกสนุกกับการถ่ายจากจอพับมากๆตอนนี้ เช่นมุมนี้เราถ่ายราบไปกับพื้นถนน ปกตินี่จะก้มตัวลงนอนไปกับพื้นถ่ายด้วย พอมีจอพับ แค่วางกล้องกับพื้น แล้วพลิกจอให้อยู่ในสายตามองเห็น เพื่อจัดองค์ประกอบภาพได้จากในจอ เห็นพื้นถนนตรงนี้มีกลีบดอกไม้สีเหลืองสดร่วงโรยเต็มไปหมด ใช้เลนส์ถ่ายที่ระยะ 105mm f4 ก็ได้ภาพละลายหน้า และลายหลังพร้อมกัน
พักทานไอติมสักครู่ ลองเลนส์ไปด้วยในตัว เปิด f4 ละลายหลังเนียนๆ
ที่มาของ โครงการชั่งหัวมัน
ครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จไปประทับที่พระราชวังไกลกังวล ทรงมีพระราชประสงค์ให้
นำมันเทศที่ชาวบ้านนำมาถวาย วางไว้บนตาชั่งแบบโบราณ แล้วพระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพฯ
พอพระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับไปยังพระราชวังไกลกังวล จึงพบว่า มันเทศที่วางบนตัวชั่ง
มีใบงอกออกมา จึงรับสั่งให้นำหัวมันนั้นไปปลูกใส่กระถางไว้ในวังไกลกังวล แล้วทรงมีพระราชดำรัสให้หา
พื้นที่เพื่อทดลองปลูกมันเทศ
มาที่นี่บ่อยมาก เปลี่ยนแปลงตลอด บ้างก็ปลูกข้าว ปลูกผักสวนครัว มาคราวนี้มีบ่อเลี้ยงกบเพิ่มมาอีก เห็นแสงลงที่ตัวกบพอดี
ถ่ายกบในบ่อ กล้องให้ภาพที่มีมิติสวยขึ้นกว่าเดิม การให้โทนสี แสงและเงา ความคมชัด
ไม้ที่เหลาไว้นี้ จนท.เหลาไว้ใช้เป็นโครงยึดต้นไม้ คล้ายดินสอไม้ ดูโทนสี และมิติภาพ เลนสละลายหน้า ละลายหลังได้เนียนตาดี
ช่วงแสงบ่ายๆ เห็นมีกลุ่มควันลอยอยู่กระทบกับแสงที่สาดผ่านเข้ามา หยิบกล้องมาถ่ายทันที
ถ่ายวิวเปล่าๆ เลยนึกอยากหาคนหรือสิ่งของสักอย่างไปอยู่ในภาพ หาใครไม่ได้ก็ถ่ายตัวเองละกัน เลยปรับกล้องมาที่โหมดถ่ายภาพตัวเอง
self-timer ซึ่งกล้องมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งตั้งถ่าย 10 วินาที / 2วินาที และล่าสุดที่พึ่งเคยเห็น คือ สามารถถ่ายได้ถึง 10 ภาพต่อเนื่องกัน
ส่วนตัวชอบโหมดนี้มากๆค่ะ กดทีเดียว คิดท่ารอไปเยอะๆ แล้วเลือกภาพที่ชอบทีหลัง โหมดนี้เลือกได้จำนวน 2-10 ภาพค่ะ จัดไปเต็มแมกซ์
แค่นี้ก็มีภาพตัวเองเก็บไว้แบบง่ายๆแล้ว เวลาเจอวิวอะไรสวยๆแปลกตา ถ่ายได้ทันที
จบทริปเที่ยวโครงการของพ่อแล้ว ที่โครงการชั่งหัวมัน จ.เพชรบุรี วิวระหว่างทางสวยงามมีแต่ทิวเขาและต้นไม้ ได้เก็บภาพอาทิตย์ตกระหว่างกลับพอ
พูดถึงความรู้สึกที่ได้ใช้กล้องตัวนี้นะคะ สำหรับออกทริปท่องเที่ยว มีหลายอย่างที่ชอบและ ตอบโจทย์การใช้งานมาก เช่น
1.จอพับที่เพิ่มเข้ามา ทำให้ถ่ายภาพมุมยากๆแปลกๆ ได้ เช่น มุมที่ต้องก้มลงต่ำ หรือมุมสูง ที่สายตาเรามองช่องมองภาพไม่ถึง แค่พลิกจอออกมา
2.จอทัชกรีนหมุนได้360องศา ชอบมากๆ ส่วนใหญ่เราชินกับการถ่ายภาพจากจอมือถือ พอกล้องตัวนี้มีจอพับเข้ามาเพิ่ม ทำให้ถ่ายภาพกับกล้อง DSLR ยิ่งง่ายขึ้น เราสามารถแตะถ่ายจากหน้าจอได้ทันที กล้องจับโฟกัสไว สามารถเปิดภาพที่ถ่ายเพื่อเช็ครูป ขยายรูป และปรับโหมดต่างๆจากในจอได้ทั้งหมด
3.ด้วยขนาดกล้องระดับฟูลเฟรมที่ไม่ใหญ่มาก น้ำหนักเบา ทำให้พกพาง่าย ใส่กระเป๋าใบเล็กๆได้ ลดภาระการแบกของหนักไปได้มาก เหมาะกับนักเดินทางดีค่ะ
ส่วนตัวเคยใช้กล้อง DSLR ระดับตัวคุณมาก่อน พอได้ใช้ระดับฟูลเฟรมแล้วมันเลิกไม่ได้ค่ะ 555+ แต่ติดปัญหาเรื่องน้ำหนักกล้องที่มากขึ้น เพราะชอบถ่ายภาพเที่ยวแต่ไม่อยากแบกกล้องที่หนักมาก เจ้า EOS 6D Mark II ตัวนี้ตอบโจทย์ได้ดีค่ะ คล่องตัว น้ำหนักไม่เยอะ รู้สึกอยากหยิบออกมาถ่ายภาพ พักหลังเวลาเที่ยวจะถ่ายแต่จากโทรศัพท์มือถือ
4.แบตทนและอึดใช้นานกว่าเดิม ทริปนี้ใช้แบตก้อนเดียว หมดไปแค่ 2 ขีด เพราะเปิดจอ LCD บ่อยมาก แต่แบตหมดไปนิดเดียว
5.กล้องตอบสนองไวมาก ทั้งระบบโฟกัสที่ไวและเร็วขึ้นในการถ่ายสภาพแสงน้อย และจับสิ่งเคลื่อนไหวเช่น สัตว์วิ่ง สิ่งของเคลื่อนไหว จุดเด่นที่ชอบคือถ่ายย้อนแสงแล้วกล้องไม่ค่อยรวนหรือโฟกัสวืดจนหลุดโฟกัส
6.โทนสีภาพอิ่มและคมขึ้นกว่าเดิม เพราะทั้งทริปนี้ถ่ายเป็นไฟล์ jpeg ทั้งหมดค่ะ อยากเห็นภาพที่จบจากการกล้องประมวลผลให้เลย และการวัดแสงที่แม่นยำขึ้น
7.สามารถดัน ISO ได้ถึง 40000 ถ่ายที่สภาพแสงน้อย การจัดการน้อยส์ทำได้เนียนดี และการลั่นสับชัตเตอร์ที่เร็วขึ้น 6.5 ภาพต่อวินาที
สรุปโดยรวมแล้วเป็นกล้องที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวเดินทาง ที่ต้องการใช้กล้องระดับฟูลเฟรมขนาดพกพาไม่ใหญ่มาก แต่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบ ยิ่งมีจอพับที่หมุนได้360องศา เพิ่มเข้ามาอีก ทำให้ถ่ายภาพได้ทุกมุมที่ต้องการ ทั้งมุมแปลกๆยากๆ ที่เกินสายตาเรามองเห็น กล้องตัวนี้ทำให้การถ่ายภาพสนุกขึ้นกว่าเดิมมากค่ะ
ขอบคุณ Canon Marketing (Thailand) สำหรับการยืมกล้องและเลนส์ชุดนี้ค่ะ
