ขี้แดดนาเกลือ ปุ๋ยชั้นดีสำหรับพืช การทำนาเกลือคือการนำเอาน้ำทะเลเข้ามากักเก็บไว้ในบ่อพักน้ำ ซึ่งจะมีความกว้าง และความลึกพอสมควร พื้นที่โดยส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ประมาณ 2-5 ไร่ แล้วแต่ว่าเจ้าของนาเกลือนั้นจะมีที่มากน้อยแค่ไหน ในบ่อพักน้ำนี้ชาวนาเกลือมักเรียกว่าวัง ซึ่งมักจะใช้สำหรับเลี้ยงปลา หรือกุ้ง เป็นหลัก ก็จะเรียกติดปากกันว่า "วัง" น้ำเค็มที่อยู่ในวังนี้สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ เพราะยังมีความเค็มไม่เข้มข้นมากนัก แต่ก็ต้องบอกว่าเค็มเลยทีเดียว คือถ้าลงไปแช่น้ำในวังแล้วขึ้นมานั่งตากแดดสักพักก็จะมีคราบของเกลือเกาะตามแขน ขา หรือเสื้อผ้า พื้นที่รูปสี่เหลี่ยมที่ต่อจากวัง จะเรียกว่าประเทียบ จะเป็นนาที่รับน้ำมาจากวังอีกที นาประเทียบนี้น้ำจะเริ่มใสกว่าน้ำในวัง เนื่องจากมีความตื้นกว่าวังมาก ดินโคลนนั้นทำให้น้ำในวังขุ่น แต่เมื่อปล่อยน้ำเข้านาประเทียบแล้ว น้ำจะเริ่มใสมาก ๆ ใสจนเห็นพื้นดิน และใสจนเห็นสัตว์น้ำที่แหวกว่ายอยู่ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นปลาหมอเทศ หรือปลากระบอก น้ำในนาประเทียบนี้ยังพอที่สัตว์น้ำจะยังคงอาศัยอยู่ได้ แต่ต้องบอกว่าเริ่มมีความเค็มที่เข้มข้นขึ้นมากกว่าน้ำทะเลที่อยู่ในวัง เนื่องจากมีการระเหยของน้ำมากขึ้น พื้นที่สี่เหลี่ยมต่อจากนาประเทียบก็จะเป็นนาตาก ซึ่งนาตากนี้จะมีมากกว่า 1 ไร่ก็ได้ ผมต้องบอกก่อนว่าคำว่าไร่ของชาวนาเกลือนั้น จะหมายถึงพื้นที่สี่เหลี่ยม 1 พื้นที่ ๆ มีคันขาล้อมรอบ ไม่ใช่ไร่ตามมาตราส่วนการวันพื้นที่มาตรฐานแต่อย่างใด ในนาตากนี้น้ำจะเริ่มเค็มมาก และมีความตื้นจึงไม่ค่อยมีสัตว์น้ำวิ่งเข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ส่วนนี้ และในนาตากนี้เองจะมีสาหร่ายสีเขียวอมน้ำตาลเกิดขึ้น เมื่อไม่มีการทำนา ก็จะปล่อยน้ำออกจนนาแห้ง สาหร่ายเหล่านี้จะร่อนขึ้นมาเป็นแผ่น ๆ บีบแตกได้ด้วยมือ ชาวบ้านจะเรียกสาหร่ายเหล่านี้ว่าขี้แดด หรือ ดินหนังหมา เนื่องจากกลิ่นจะไม่ค่อยดีนั่นเอง เพราะจะเหม็นแบบแห้ง ๆ เค็ม ๆ ดินหนังหมา หรือขี้แดดนาเกลือนี้ ปัจจุบันมีการนำมาใช้เป็นปุ๋ยสำหรับปลูกพื้นกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งในขี้แดดนั้นมีจุลินทรีย์ที่ช่วยย่อยสลายซากพื้นซากสัตว์ต่าง ๆ แต่มีข้อแม้ว่าในการใส่นั้นจะต้องใส่ในปริมาณน้อย เนื่องจากขี้แดดจะมีความเค็ม เพราะจมอยู่ในน้ำเกลือนั่นเอง จะมีการสะสมเกลืออยู่ภายในขี้แดดในปริมาณมากพอสมควร ขี้แดดนาเกลือนี้ไม่ได้มีประโยชน์กับการทำนาเกลือ เนื่องจากจะทำให้พื้นที่ของนาตื้น และกักเก็บน้ำได้น้อย จึงต้องมีการขนทิ้งกันอยู่ทุกปี แต่เมื่อมีการนำมาทำปุ๋ย ก็ได้รับความสนใจจากคนที่รักต้นไม้เป็นจำนวนมาก ก็ทำให้ขี้แดดนาเกลือนี้มีมูลค่า แต่ก็คงไม่ได้ดีมูลค่ามากมายมหาศาลแต่อย่างใด เรียกว่าพอเอามาทำประโยชน์ได้ พอขายได้  หวังว่าเรื่องราวที่เขียนในวันนี้จะทำให้คุณผู้อ่านรู้จักนาเกลือมากขึ้นนะครับ หากมีเวลาจะแวะเข้ามาเขียนให้อ่านใหม่ ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยของนาเกลือนั้นมีมากมาย นอกจากนี้ถ้ามีเวลาอัดคลิปก็จะทำมาให้รับชมเพิ่มเติมกันครับ หากท่านใดยังไม่เคยดูคลิปาเกลือที่ผมเคยเอามาเผยแพร่สามารถติดตามได้จากคลิปนี้ครับ   Create Date : 07 ตุลาคม 2565 Last Update : 7 ตุลาคม 2565 9:35:50 น. 0 comments Counter : 579 Pageviews.   Share Tweet ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก Comment :   *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet