...ผู้ชายกลางสายฝน...นั่นเป็นคำนิยามที่เธอนึกขึ้นได้ ตั้งแต่ได้พบกับเขาครั้งแรกเมื่อต้นเดือนก่อน ขณะที่กำลังวิ่งฝ่าสายฝนจากลานจอดรถเข้ามาที่ร้านในเช้าตรู่วันนั้น ผู้ชายตัวสูงคนหนึ่งกำลังยืนกางร่มอย่างกระสับกระส่ายอยู่ที่ด้านนอกหน้าร้านดอกไม้ของเธอเอง เสื้อผ้าของเขาชื้นฝน เพราะร่มคันสีขาวสะอาดตาคันที่เขาถืออยู่นั้นไม่เหมาะกับเขาเลยซักนิด ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ส่วนร่มในมือกลับอันนิดเดียว แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจมากนัก เขาแจ้งจำนงค์ว่าต้องการดอกกุหลาบสีแดงสดทั้งหมดที่ร้านมี ซึ่งหญิงสาวเองก็อดจะประหลาดใจมิได้ แต่ก็รีบจัดการให้แต่โดยดี มิวายแอบมองเขาอยู่เป็นระยะๆ ขณะที่กำลังจัดห่อดอกไม้เขาจากไปพร้อมกับสายตาของเธอที่ยืนมองจากด้านในของร้าน นั่งมองจนเขาหายลับไปกับสายฝนที่กระหน่ำมาอย่างรุนแรง ผู้ชายสูงในสูทตัวสวย ร่มคันสีขาวเล็กๆในมือ แขนอีกข้างหอบกุหลาบสีแดงหอบใหญ่เต็มอ้อมแขน ...ภาพที่เขาเดินหายไปในม่านฝนตรึงให้หญิงนั่งอยู่ตรงนั้นนิ่งนาน...ใครกันนะคือคนที่จะได้เป็นเจ้าของกุหลาบหอบนั้น ช่างน่าอิจฉาเสียจริงๆ...คิดถึงเช้าวันนั้นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะแอบอมยิ้มกับตัวเองคนเดียว รอยยิ้มยังไม่ทันจางหาย ประตูก็ถูกเปิดเข้าอย่างแรง พร้อมกับร่างสูงโปร่งของใครคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วแล้วปิดประตูลงอย่างแรง "ฝนตกแรงจังเลย" เขาว่าน้ำเสียงทักทายนั้นก็สดใสเหมือนหน้าตาและเสื้อผ้าสีเจ็บๆที่เขาสวมใส่ "โหย..ย เจ๊ ผมว่าผมมาเช้าแล้ว ยังสู้เจ๊ไม่ได้ มาเช้ากว่าผมอีก"วิสามองนุกุล เด็กหนุ่มพนักงานชั่วคราวของเธอแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า พร้อมกับเดินตามนุกุลเข้าไปยังหลังร้าน หยิบผ้าเช็ดหน้ามาโยนคลุมหัวให้อย่างแรงๆ "นี่ เอาไป เช็ดหน้า เช็ดตัวให้แห้ง แล้วก็รีบๆหล่ะ วันนี้ดอกกุหลาบหมดแล้วนะ มีคนมาเหมาไปหมดแล้ว"นุกุลนี้ รู้จักกันมาก็นาน เพราะบ้านอยู่ติดกัน เห็นกันมาตั้งแต่ยังเล็กๆ ช่วงม.ปลายที่พ่อกับแม่ของเขาไม่อยู่ ชายหนุ่มรุ่นน้องคนนี้ก็มากินข้าวเป็นประจำ บางครั้งก็มานอนกับน้องชายของวิสา เรียกได้ว่าแทบจะเป็นครอบครัวเดียวกัน เพราะแม่ของวิสาก็เอ็นดูนักหนา เปรียบเสมือนลูกชายอีกคนนึงเลยทีเดียวเห็นคนหัวกระเซิง ชุ่มฝนไปทั้งตัว ก็อดไม่ได้ที่จะบ่น "ไม่รู้ทำไมน้า ก็เห็นอยู่ว่าฝนตก ทำไมยังชอบขับมอเตอร์ไซค์มา หมั่นไส้นักพวกชอบซิ่ง ไม่รู้จักห่วงตัวเองซะบ้าง ไม่กลัวเป็นหวัดเพราะตากฝน ก็น่าจะรู้จักกลัวอุบัติเหตุบ้าง"ก่อนจะเดินกลับไปที่หน้าร้าน ยังได้ยินเสียงดังออกมาจากข้างใน ยานคางล้อเลียน... "คร๊าบ..บ..บ.. ขอบคุณเจ๊นะคร๊าบ...บ..บ..บ..ที่เจ๊เป็นห่วง""ไม่ได้ห่วงหรอกย่ะ กลัวว่าจะไม่มีคนมาช่วยงานมากกว่า ทาสีด้านในให้เสร็จเร็วๆนะ ห้ามเกินพรุ่งนี้"ก่อนจะชี้นิ้วไปยังตู้เก็บของเอนกประสงค์ "เปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วๆด้วย เดี๋ยวจะไม่สบายไปซะก่อน กลัวแม่นายจะมาได้ ว่าฉันใช้งานหนักเกินไป"อากาศยามเช้าของวันนี้ยังเป็นเหมือนเช่นเคย ทั้งเดือนนี้ฝนรินเกือบตลอดเวลา เช้า สาย บ่าย เย็น มีหยุดบ้างเป็นช่วงๆ ให้ได้หายใจหายคอ ตั้งแต่เช้าตรู่เมื่อวานนี้จนถึงยามบ่ายแก่ๆ หยุดไปได้ซักพักก็เริ่มรินอีกครั้งจนถึงยามเย็น วันนี้ก็คงเหมือนเดิมอีกเช่นเคย หญิงสาวออกจะรำคาญกับความเฉอะแฉะอยู่บ้าง ยามที่ต้องวุ่นวายกับการขนดอกไม้มาลงที่ร้าน แต่ก็ต้องยอมรับแหล่ะว่า ฝนตกแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะเวลาที่ไม่มีลูกค้าอยู่ในร้านยามนี้ อย่างน้อยการนั่งดูเม็ดฝนโตๆแต่ละเม็ด กระเซ็นเป็นฝอยสาดเข้ามาที่กระจกด้านข้างของร้าน ด้านขวามือที่เธอนั่งอยู่ก็ออกจะเพลิดเพลิน และเป็นการคั่นเวลาที่ดีเหมือนกัน ปรอยฝนแต่ละปรอย ปะทะกระจกใสจนเป็นฝ้าฟาง เมื่อเวลาที่ฝนหยุด กระจกก็คงจะขุ่นมัวรอการเช็ดถูอีกครั้ง อาจเป็นงานง่ายๆที่น่าเบื่อหน่าย แต่ใครจะรู้เล่า ว่าเวลานั้นแหล่ะ เป็นเวลาที่หญิงสาวชอบที่สุดเลย ...อยากเปิดเผยใจตัวเองเท่าไร ต้องกลั้นใจทำเฉยๆ เท่านั้น บ่อยครั้งก็ถามตัวเอง แต่แล้วก็ไม่พบคำตอบเหมือนกัน ทำไมต้องเก็บซ่อนใจไว้อย่างนี้ ที่เราทำไม่ดียังไง ต่างก็รู้ว่าเราห่วงใย และคิดถึงกันมากแค่ไหน แต่ต้องซ่อนไว้ทุกวัน เราทำสิ่งไหนที่ผิด ถึงต้องปิดไว้ลึกๆ แค่นั้น จะมีไหมสักวัน ได้เผยมันไปทุกความรู้สึกดีๆ... เสียงเพลงหวานๆ เพลงโปรดของเธอดังขึ้นเหมือนดังเช่นทุกเช้า เพราะนุกุลจะทิ้งแผ่นซีดีเพลงนี้ไว้ที่นี่และเปิดทุกครั้งที่เขามาถึง...แหม ช่างรู้ใจดีจริงๆ บางทีอาจจะต้องขึ้นค่าแรงให้ซักหน่อยแล้ว...ประตูถูกเปิดออก เมื่อมีใครบางคนก้าวเข้ามา ชายหนุ่มคนเดิม ชายหนุ่มที่คุ้นตาเพราะว่าตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าลูกค้ารายใหม่คนนี้จะหลงเสน่ห์ของร้านดอกไม้ของเธอซะแล้ว เพราะเห็นแวะเวียนมาเป็นประจำ ถ้าจำไม่ผิด เขาชอบต้นกระบองเพชรแน่ๆ เพราะภายในเดือนเดือนเดียว เขาซื้อมันไปแล้วสี่กระถาง ยังไม่รวมดอกกุหลาบสีขาว บ้างก็สีแดงที่ถูกสั่งจัดเป็นพิเศษอีกหลายต่อหลายช่อ"ขอกุหลาบสีแดงและสีขาวปนกันซักช่อนะครับวันนี้ ไม่ต้องใหญ่มาก""เอ วันนี้วันพิเศษหรือคะ ถึงสั่งทั้งสองสีคละกันเลย" หญิงสาวถามยิ้มๆ ชายหนุ่มจึงเพียงอมยิ้มตอบ"ได้ค่ะ เชิญนั่งรอทางนั้นนะคะ กาแฟซักถ้วยไหมคะคุณวัช" หญิงสาวบอกต่ออีก อย่างคนที่เริ่มคุ้นเคยกัน เนื่องจากชายหนุ่มเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี แม้ไม่ใช่คนคุยเก่ง ออกจะเงียบๆด้วยซ้ำ แต่ในความเป็นเขา กลับแผ่รัศมีความอบอุ่นเป็นการเองที่เธอสัมผัสได้ เขายังคงยืนอยู่ที่เดิม เฝ้ามองดูเธอหยิบจับ ตัดแต่งก้านและใบให้ดอกกุหลาบอย่างรวดเร็ว แต่ก็ระมัดระวัง ราวกับกลัวว่ากลีบบางๆของแต่ละดอกนั้นจะบุบสลาย " ไม่เป็นไรครับ ตรงนี้ก็ได้ ถ้าไม่เป็นการรบกวน หรือเกะกะขวางทางคุณทำงาน" ชายหนุ่มบอก พร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆดังเช่นเคย รอยยิ้มที่ใครๆเห็น ก็คงต้องลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า...อบอุ่นน่าดูชม..ยิ่งเห็นก็ยิ่งอดปลื้มใจไม่ได้ ท่าทางเขาเป็นผู้ชายที่คงจะรักคนรักของตนเองน่าดู มาซื้อดอกไม้ให้หลายต่อหลายครั้งในรอบเดือนเดียว ... ผู้ชายมาดดี บุคลิกเด่น ตัวสูง ดูดีมีฐานะ อบอุ่น และท่าทางรักครอบครัวแบบนี้ จะมีอีกซักคนไหม สองคนไหมหนอ ผู้หญิงคนนั้นช่างโชคดีอะไรเช่นนี้ ...ครั้งล่าสุดที่ได้คุยกัน เขาบอกว่าอย่างไรนะ ผู้หญิงคนนั้นของเขาเป็นผู้หญิงธรรมดาๆ น่ารักในแบบของเธอ แต่ดูพิเศษที่สุด...อยากเจอชายหนุ่มดีๆ แบบนี้ซักคนในชีวิตบ้างจัง...แต่หญิงสาวอายุยี่สิบปลายๆ ที่มองเห็นคานทองอยู่รอมร่ออย่างวิสา จะมีบ้างไหมวันนั้น เพราะ วันๆก็หมกตัวอยู่แต่ที่ร้านของตัวเอง วันดีคืนดี จะมาหนุ่มๆ หน้าตาดีๆ โผล่เข้าในร้านซักราย พูดถึงหนุ่มๆในฝัน ว่าแล้วก็อดนึกไปถึงรูปโอ อนุชิตที่แอบเซฟไว้ในคอมพ์เครื่องของตัวเองไม่ได้ ตั้งแต่ได้ดูละคร "เปลวไฟในฝัน" จบไปเมื่อหลายปีดีดัก จากสาวน้อยไม่ถึงวัยเบญจเพส ที่หลงใหลคลั่งไคล้ "นายกุหลาบ" จนโง่หัวไม่ขึ้น ผู้ชายอะไรหนอ ช่างน่ารัก ติดดิน เท่ห์ก็ได้ ร้ายก็ดี เวลาอ่อนโยนที ก็ชวนหัวใจละลาย จนมาถึงปีนี้ ผู้ชายคนนนั้นที่เฝ้าฝันถึงมานาน ยังอุตส่าห์ตามมาขโมยหัวใจดวงน้อยๆไปอีก แม่จ้าว..ว..ว ตั้งแต่"พรุ่งนี้ก็รักเธอ" ลงจอ ทุกวันหญิงสาวต้องรีบปิดร้านแต่หัวค่ำ บึ่งรถกลับบ้านเพื่อเขาโดยเฉพาะ "พีรวิชญ์" ผู้ชายคนนึงที่ตอบโจทย์ทุกโจทย์ที่ผู้หญิงคนหนึ่งต้องการในชีวิตได้เป็นอย่างดี ผู้ชายที่แสนดี อบอุ่น อ่อนโยน โรแมนติก รู้สึกยังไงก็แสดงออกอย่างนั้น รักก็คือรัก โกรธก็ยอมง้อแม้ไม่ผิด ทุ่มเทสุดใจแม้ว่ายากจะสมหวัง...ผู้ชายที่สาวๆนักดูละครทั้งหลายนิยามเขาว่า ...ดีที่สุดในสามโลก...วันดีคืนดี วิสาก็หยิบโน๊ตบุ๊คส่วนตัวมาเปิดดูคลิปละครเรื่องนี้ย้อนหลัง เวลาที่ไม่มีลูกค้าอีกต่างหาก จนนายนุกุลแซวใหญ่ ว่าผู้ชายแบบนี้ มีแต่ในละคร ไม่มีหรอกในชีวิตจริง...ว่าแล้ว วิสาก็อยากจะเรียกนุกุลให้ออกมาดูเสียเลย ว่าผู้ชายแบบนั้นน่ะมีจริง ก็คุณธวัชชัย คนที่ยืนอยู่ตรงหน้านี่ไงหล่ะไม่ทันขาดคำ(ความคิด)...เสียงบางอย่างก็ดังมาจากด้านหลัง พอดีกับที่วิสากำลังยื่นช่อกุหลาบที่เสร็จสมบูรณ์ให้กับลูกค้าหนุ่มสุดหล่ออยู่พอดี "เดี๋ยวครับคุณสา คือผม..""ขอตัวก่อนนะคะ" อารามตกใจกับเสียงครูดอย่างแรงของโลหะ ทำให้วิสารุดเข้าไปด้านในทันที เห็นคนตัวยุ่งกำลังนอนกองอยู่ที่พื้น "ตายแล้ว...นี่นุ ทำไมไม่ระวังนะ เป็นอะไรมากรึเปล่า เจ็บมากไหม ลุกไหวมั๊ย มานี่มา เดี๋ยวฉันจะใส่ยาให้ เลือดออกเสียด้วย"ห้านาทีถัดมา ณ หลังเค้าเตอร์ นุกุลนั่งกอดอก หน้ามุ่ยอยู่บนเก้าอี้ ขณะที่วิสายืนค้ำหัวกำลังใช้ปลายนิ้วก้อย ค่อยๆแต้มยาลงบนปลายหางคิ้วให้อย่างเบามือ พร้อมกับเสียงบ่นที่ยังดังไม่ขาดปาก "เด็กบ้า ทำอะไรไม่ระมัดระวังเลย ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย เจ็บล่ะสิ" เหลือบมองคนทำหน้าตาเหยเกเพราะแสบแผล"ไม่เจ็บเท่าไหร่หรอก ไกลหัวใจ" ตอบห้วนๆ ก่อนสายตาคมดื้อดึงจะตวัดกลับมาจากหน้าจอคอมพ์ของร้าน ที่ตั้งหน้าจอเป็นภาพผู้ชายมีเขี้ยว ยิ้มชวนละลายใจ(ตามที่วิสาเคยบอกเขาไว้) มาจ้องหน้าหญิงสาวอย่างยียวนแทน"เจ๊...เจ๊ว่าผมกับนายอนุชิตอะไรนี่ ใครหล่อกว่ากัน" วิสาเหลือบตามองหนุ่มน้อยหน้าเข้มตาคมอย่างสงสัย หันไปเห็นรูปโอ อนุชิตบนหน้าจอคอมพ์ ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างกั้นไม่อยู่ "ถามอะไรแปลกๆ ถามได้ โอสิย๊ะหล่อกว่า ในหัวใจฉันน่ะนะ โอหล่อที่สุดในสามโลกเลยจ้ะ" ก่อนจะค่อยๆแปะพลาสเตอร์ลายกระต่ายน้อยน่ารักตามลงไป"ว่าแต่ว่า ถามทำไมนี่ จะไปสมัครเป็นพระเอกของค่ายละครช่องห้าของคุณบอยหรือไง" แกล้งจับใบหน้าของนุกุลหันซ้ายหันขวา พิศดูทางนั้นที ทางนี้ที ก่อนจะเอ่ยต่อ "นายก็หน้าตาไม่เลวนะ น่ารักกว่าพี่แท่งตั้งเยอะ เข้มยิ่งกว่าพี่มอสเสียอีก แถมหุ่นก็ดีกว่าสน ยุกต์ซะด้วย จริงๆนะ นายก็หล่อดีนั่นแหล่ะ แต่บังเอิญฉันมอบหัวใจให้โอ อนุชิตไปแล้ว เลยไม่เคยเห็นใครหล่อกว่าเขาอีก เสียใจด้วย เข้าใจ๊""เจ๊อย่าล้อเล่นสิ..ผมซีเรียสนะนี่ ""ฉันก็ซีเรียสย่ะ""ผมถามจริงๆ เถอะ ที่เจ๊บอกว่าเจ๊ชอบนายอนุชิตนั้น เพราะเขาเป็นเขา หรือเพราะบทบาทที่เขาเล่นกันแน่ ถามจริงนะเจ๊ ถ้านายนั่น เป็นนายนั่นจริงๆ แบบที่ไม่ได้สวมบทบาทเป็นนายกุหลาบ หรือนายพีรวิชญ์ที่แสนดี เจ๊ยังจะปลื้มอยู่รึเปล่า ถ้านายนั่นเป็นแค่ใครคนนึง แล้วชอบเจ๊ เจ๊จะชอบ จะยอมคบกับเขาไหม?"วิสาครุ่นคิด "นั่นสินะ ไม่รู้สิ ขอให้ได้เจอซะก่อนก็แล้วกัน" ตอบแล้วแสร้งทำตาเคลิ้มฝันก่อนจะใช้นิ้วจิ้มหน้าผากจนนุกุลหน้าหงาย "เอ้าๆ..เสร็จแล้ว สงสัยวันนี้ตกบันได้คิ้วแตกจนเพี้ยน ถามอะไรมากมายก็ไม่รู้ ไป๊ ไป๊ ไปทำงาน" ก่อนจะหันกลับไปทางประตู "เจ๊ เดี๋ยวก่อนดิ" เสียงเรียกอย่างดังนั้น ยังไม่ทำให้ตกใจเท่ากับข้อมือที่ถูกนุกุลดึงไว้อย่างกระทันหัน พอดีกับที่บานประตูถูกเปิดเข้ามา วิสารีบสะบัดข้อมือจากการถูกนุกุลเกาะกุมทันที เมื่อเห็นว่าคนที่ก้าวเข้ามาเป็นใครนุกุลก้มศีรษะลงนิดๆเป็นเชิงทักทายลูกค้า ก่อนจะหันหลัง เดินกลับไปทางด้านในทันทีทันใด"เอ่อ..คือ ..มีอะไรหรือคะ"วิสาถาม"คือเมื่อกี้ คุณยังไม่ได้คิดค่าดอกไม้เลยครับ""อ้า.." หญิงสาวอุทาน ก่อนจะยกมือขึ้นอังหน้าผากอย่างเขินอาย ที่ทำตัวเปิ่นเช่นนั้น "ตายจริง ฉันนี่แย่จังเลย ลืมซะได้ ขอโทษนะคะ เพื่อเป็นการไถ่โทษที่ทำให้คุณต้องเสียเวลากลับมา ฉันจะลดให้ยี่สิบเปอร์เซ็นต์เลยค่ะ""ไม่เป็นไรครับ ถึงยังไงผมก็ต้องกลับมาอยู่แล้ว " เขายิ้ม "เพราะผมต่างหากที่เป็นคนลืมจ่ายสตังค์ค่าดอกไม้ให้คุณ"จากนั้นเสียหัวเราะของทั้งสองคนก็ประสานกันเบาๆ เพราะขำที่ต่างคนก็ต่างเปิ่น ลืมในสิ่งที่ไม่น่าลืมทั้งคู่ ก่อนที่ชายหนุ่มจะจ้องมองหญิงสาวนิ่งไป จนวิสาสงสัย"ผมไม่ได้ลืมหรอกครับ ผมกลับออกไปตั้งหลัก คือจริงๆ วันนี้ผมตั้งใจว่า..." เงียบไปอีกหญิงสาวเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม "คะ?""คือว่า...นี่ครับ" พูดจบ ธวัชชัยก็ยื่นดอกไม้ช่อเดิมที่เขามาสั่งให้หญิงสาวจัดให้เมื่อก่อนหน้านี้ "คือว่า จริงๆแล้ว ดอกไม้ช่อนี้ ผมตั้งใจจะสั่งให้คุณน่ะครับ แต่ว่าผมไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี..." ทั้งๆที่เขาดูนิ่งๆ สุภาพ ไม่น่าจะมีอารมณ์แบบนี้ แต่นี่คือสิ่งแปลกใหม่ที่เธอเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้จักเขาจนถึงบัดนี้ ผู้ชายที่บางอารมณ์ก็ดูขี้อาย ...น่ารักจัง..."ผมบอกตามตรงนะครับ และก็ขอยอมรับว่าผมไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี ความจริงผมอยากให้ดอกไม้กับคุณมาตั้งนานแล้ว แต่ผมไม่เคยให้ดอกไม้กับใครซักที ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตรงไหนดี" ชายหนุ่มพูดประโยคเดิมซ้ำๆ เหมือแผ่นเสียงตกร่องคราวนี้เป็นคราวที่หญิงสาวต้องอึ้งไปบ้าง ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่าง "คือ...แต่ว่า คุณมีคนรักแล้วไม่ใช่หรือคะ ""เปล่านี่ครับ""ก็คุณบอกฉันว่า...ผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงธรรมดาๆ น่ารักในแบบของเธอ...คนนั้นไงคะ""ผมไม่ได้บอกว่าเธอเป็นคนรักของผมซักหน่อย เธอเป็นคนที่ผมแอบรักต่างหาก""คุณหมายถึง...." ถามพร้อมกับชี้นิ้วมาที่ตัวเอง "...คุณมาซื้อดอกไม้ที่นี่เพราะฉันหรือคะ" "ผมรู้ว่ามันเร็วไป แต่เราพอจะเป็นเพื่อนกันได้ไหมครับ ขออนุญาติให้ผมได้เป็นเพื่อนของคุณก่อน ขออนุญาติให้ผมเป็นคนซื้อดอกไม้ให้คุณ"จำไม่ได้ว่าเธอตอบเขาไปว่าอย่างไร รู้แต่ว่าอย่างน้อยๆ เธอก็มองตามหลังเขาไปจนลับตา ...เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ชื้นฝนน้อยๆ ...มือที่ว่างเปล่า เพราะกุหลาบในมือเขามาอยู่ตรงนี้แล้ว...ในมือของเธอเอง...ภาพตรงหน้า ช่างเหมือนภาพฝันในละครเสียจริงๆ ผู้ชายรอยยิ้มอบอุ่น กับแผ่นหลังที่มองเห็นจางๆท่ามกลางสายฝนโปรยปราย...หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ขณะที่รินน้ำใส่แจกันบนเค้าเตอร์ แล้วค่อยๆจัดดอกไม้แสนสวยทั้งสีแดงและสีขาวลงไปในแจกัน นุกุลก็เดินออกมาจากหลังร้านพอดี พร้อมๆ กล่องใบโต ที่บรรจุด้วยของสำหรับประดับประดามากมาย เพื่อใช้สำหรับตกแต่งร้าน ก่อนที่จะถึงวันวาเลนไทน์ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเมื่อคนตัวสูง จอมยียวน ที่มีรอยยิ้มติดปากอยู่เป็นนิจ ไม่พูดไม่จา วิสาจึงร้องถาม "เมื่อกี้นุจะบอกอะไรเหรอ บอกใหม่สิ""เปล่านี่" นุกุลเพียงแต่ยักไหล่เบาๆ"เปล่าอะไร ก็เมื่อกี้ กระตุกข้อมือซะแรงเชียว" เมื่อคนตัวสูงยังเฉย "เชอะ ไม่บอกก็ตามใจ นี่ เอาโมบายล์รูปหัวใจมาให้หน่อย เดี๋ยวจะแขวนไว้ที่ประตูดีกว่า" ถามชวนคุย "นี่นุ นายว่า ถ้ามีคนให้ดอกกุกลาบสีขาวและสีแดงทั้งสองสี หมายความว่าอะไรเหรอ"นุกุลยังคงก้มหน้าก้มตาเลือกของในกล่อง ไม่ยอมหันมาสบตา ทำราวกับว่าของในกล่องนั้นมีความสำคัญเสียเต็มประดา "ความหมายของคนอื่นเหรอ ไม่รู้สิ ที่เคยได้ยินมา เค้าว่ากันว่ากุหลาบขาวหมายถึงความบริสุทธ์ใจไม่หวังผลตอบแทน ส่วนกุหลาบแดงหมายความว่า ผมหลงรักคุณเข้าแล้ว"...คำตอบนั้น ทำให้หญิงสาวนิ่งไป ก่อนที่จะหันหลับมามองดอกกุหลาบในแจกันอีกครั้ง เขาคนนั้น ผู้ชายกลางสายฝนคนนั้นมีความบริสุทธิใจ ไม่หวังผลตอบแทนและกำลังหลงรักเธองั้นหรือ ความหมายที่ได้รับนี้ จริงจังขนาดไหนกันนะ..."แต่ถ้าทั้งสองอย่างรวมกัน หมายความว่า.." เขานิ่งไปชั่วครู่ "สองเรารวมเป็นหนึ่งเดียว""สองเรารวมเป็นหนึ่งเดียว หวานจัง" พูดทวนเบาๆคนเดียว ก่อนจะหันมาแซวนุกุล "แหม จะว่าไป นายก็รู้เรื่องแบบนี้เหมือนกันเหรอ แปลกดี"หันไปรับโมบายล์ยาวระโยงระยางรูปหัวใจมาจากจากมือของนุกุล ก่อนจะก้าวขึ้นเก้าอี้ตัวเตี้ยที่หยิบมาวางไว้เมื่อครู่ แต่ดูเหมือนว่าความสูงนั้นจะยังไม่เพียงพอจะแตะถึงกรอบบนของประตู ชายหนุ่มจึงแย่งสิ่งนั้นออกไปจากมือ ก่อนผลักหญิงสาวลงมา แล้วก้าวขึ้นไปติดโมบายล์แทน ก่อนจะถอยลงมายืนเคียงข้างกัน ใกล้จนแทบได้ยินเสียงของลมหายใจ"ดีจัง ยังเด็กกว่าแท้ๆ แต่ตัวสูงชะมัด น่าอิจฉา สูงๆแบบนี้ ทำอะไรก็สะดวกไปหมด" "ก็ไม่หมดทุกอย่างหรอกนะ สูงๆนะดี แต่เด็กกว่านี่ ไม่ดีเลย" เขาแย้ง"ทำไมหล่ะ นายอยากทำอะไรเหรอ อะไรเหรอที่นายทำไม่ได้""อยากรู้เหรอ" เขาถามยิ้มๆอย่างกวนๆ ก่อนจะยักคิ้วแผลบ "ยิ่งเจ๊อยากรู้เท่าไหร่ ยิ่งไม่บอกหรอก ไม่อยากเห็นคนแก่หัวใจวาย แต่อยากให้กระวนกระวายเล่น"ว่าแล้วก็เดินเลี่ยงไปรื้อ ไปค้นของในกล่องใบใหญ่ต่อ ได้ยินเสียงคนแก่กว่าตามหลัง "เด็กบ้า..""รู้ความหมายเรื่องดอกกุหลาบไปแล้ว ไม่อยากรู้ความหมายของอย่างอื่นบ้างหรือ" คนถามยังก้มหายก้มตาอยู่ที่กล่อง"หืม..ม.." ไม่เข้าใจ"รู้ไหม ตกบันไดคิ้วแตก หมายความว่าอะไร""...หมายความว่าอะไรหล่ะ""ก็หมายความว่า กำลังเรียกร้องความสนใจจากใครบางคนน่ะสิ""นายกำลังล้อเล่นใช่ไหม" "ถึงผมจะเด็กกว่าเจ๊ ทำงานได้เงินเดือนไม่มาก แต่ถ้าเจ๊อยากจะได้ดอกกุหลาบ ผมก็สามารถซื้อให้ได้นะ""...นุ...""และถ้าต่อไป ไม่ว่ากุหลาบของผม ที่ผมซื้อให้เจ๊จะเป็นสีอะไรก็ตามแต่ ขอให้เจ๊รู้ไว้นะ ว่ามันมีแค่ความหมายเดียว""นั่น..."ความเงียบที่เกิดขึ้นยาวนาน ทำให้นุกุลต้องเงยหน้าขึ้นมา กับวิสาที่กำลังมองมายังคนตรงหน้าอย่างอึ้งไป ...ตาสบตา..เสียงเพลงดังขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งที่ไม่มีใครเปิดเพลง......อยากเปิดเผยใจตัวเองเท่าไร ต้องกลั้นใจทำเฉยๆ เท่านั้น บ่อยครั้งก็ถามตัวเอง แต่แล้วก็ไม่พบคำตอบเหมือนกัน ทำไมต้องเก็บซ่อนใจไว้อย่างนี้ ที่เราทำไม่ดียังไง ต่างก็รู้ว่าเราห่วงใย และคิดถึงกันมากแค่ไหน แต่ต้องซ่อนไว้ทุกวัน เราทำสิ่งไหนที่ผิด ถึงต้องปิดไว้ลึกๆ แค่นั้น จะมีไหมสักวัน ได้เผยมันไปทุกความรู้สึกดีๆ... ...นี่เธอคงไม่ได้ตีความหมายคำพูดของเขาผิดไปใช่ไหม เขาบอกเธอว่า เขากำลังเรียกร้องความสนใจจากเธอหรือ เขาหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆหรือเปล่า หรือเขาแค่กำลังล้อเล่นในวันฝนตก...ท่ามกลางความคิดที่สับสนวุ่นวาย ประตูถูกเปิดอีกครั้ง พร้อมๆกับผู้ชายที่มากับสายฝนชะโงกหน้าเข้ามา เพราะตัวเขาเปียกปอน "เอ่อ กำลังยุ่งอยู่หรือเปล่าครับ ขอโทษนะ พอดีผมลืมร่ม" ธวัชชัยชี้ไปที่ร่มสีขาวขาวคันเดิม ซึ่งวางเติ่งอยู่บนโต๊ะตัวเล็กข้างเค้าเตอร์ วิสาได้แต่มองหน้าผู้ชายตัวสูงสองคนสลับไปสลับมา คนหนึ่ง คิ้วเข้มแบบหนุ่มวัยรุ่น ตาคมมีแววมุ่งมั่นจริงใจ เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยสีที่เริ่มแห้ง และปลายคิ้วเข้มมีพาสเตอร์ปิดไว้...กับอีกคนที่เป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สุภาพเรียบร้อย เปี่ยมไปด้วยมิตรไมตรี ดูหล่อเหลาดึงดูดใจยิ่งกว่าเคย เพราะทรงผมที่เคยเนี๊ยบเริ่มยุ่งเหยิงจากการเปียกฝนผู้ชายกลางสายฝน...กับ...ผู้ชายใกล้ตัว ใครกันนะที่จะมาเป็นผู้ชายในฝันคนต่อไป แทนผู้ชายที่ชื่อ อนุชิต สพันธ์พงษ์ หรือวันนี้จะเป็นแค่ April Fools' Day วันแห่งการโกหกและล้อเล่น แต่ไม่เป็นไรหรอก ชีวิตไม่จำเป็นต้องรีบร้อนไม่ใช่หรือ รอใครซักคนมาได้ตั้งยี่สิบเก้าปี รออีกหน่อยเพื่อความชัดเจนจะเป็นไรไป ซักวันคงได้รู้กัน...ซักวัน...ซักวัน...คุยกันท้ายเรื่องหน่อย เนทยังช้ามากเหมือนเดิม ไม่ทันใจวัยรุ่นอย่างเราเสียเลย ...วันฝนตกก็ดีเหมือนกันนะ ถ้าเจอเรื่องราวอย่างสาววิสา คงเป็นปลื้มน่าดู ถึงวิสาจะไม่รู้ตัว ว่าใครคือผู้ชายของเธอ แต่คุณผู้อ่านก็คงรู้ใช่ไหมคะ ว่าเป็นใคร...ดูสิ ว่ามีใครใจตรงกับผู้เขียนบ้างเมื่อเกือบ 1 ปีก่อน..."ถนนสายนี้...มีมิตรภาพ" ได้ก่อกำเนิดขึ้นด้วยมิตรภาพแห่งตัวอักษรจากสาว สาว สาวชักชวนเพื่อนในบลอคมาร่วมก่อสร้างมิตรภาพจากงานเขียนทุก ๆ สองอาทิตย์ในวันจันทร์ ตามแต่หัวข้อที่กำหนดและพาไป วันนี้ที่ถนนสายนี้ปูยาวมาถึงเกือบขวบปี...ได้รับการตอบรับจากมิตรภาพแสนดี หลากหลาย อบอุ่นและนานยาวงานเขียนที่หลากหลาย สนุกสนาน รอยยิ้ม น้ำตา มิตรภาพใหม่ จากลอคอินที่ไม่คุ้นเคยกลายเป็นสนิทสนม ตัวอักษรผ่านกล่องสี่เหลี่ยม หยอกล้อ ให้กำลังใจ ชื่นชมแต่ขณะที่เดินทางมาถึงจุดหนึ่ง...ถนนสายมิตรภาพที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่น ด้วยเหตุผลหลายประการของคนหลายคน สาวทั้งสามตกลงใจกันหยุดพักถนนเส้นนี้เอาไว้ชั่วคราวสักระยะหนึ่ง ปล่อยให้ความอบอุ่นอวลอยู่ในใจ ปล่อยให้มิตรภาพที่เกิดขึ้นแล้วดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ปล่อยให้ถนนสายนี้ทอดยาวไปตามทางของมัน ปล่อยให้งานเขียนต่าง ๆ คงอยู่อย่างงดงามอย่างนั้นขอขอบคุณเพื่อนชาวบลอคแก๊งค์ที่ร่วมโครงการ ร่วมอ่าน และร่วมผ่านไปผ่านมาทุกท่านนะคะ เราสาวสาวสาวซาบซึ้งใจในมิตรภาพที่ได้รับ...แล้วในวันหนึ่งที่เหตุผลทุกประการกลับมาตรงกันอีกครั้ง ถนนสายนี้...จะมีมิตรภาพอีกครั้งค่ะ ซึ่งในครั้งสุดท้ายจะเป็นวันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์นี้นะคะ ในหัวข้อที่ว่า "วาเลนไทน์ในความทรงจำ"อยากเชิญชวนเพื่อน ๆ มาร่วมเขียนส่งท้ายด้วยกันนะคะ ในกติกาเดิมว่า -ลงชื่อบอกกล่าวกันไว้-เขียนเรื่องอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ และอัพบลอคในหมวดงานเขียน/บทประพันธ์-อัพบลอคในวันจันทร์ที่ 18 มกราคมนี้ เวลาใดก็ได้-เมื่ออัพบลอคแล้ว กรุณามาแจ้งอีกครั้งในบลอคของคนใดคนหนึ่ง และเราจะทำการรวบรวมลิงค์อีกทีค่ะขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ หวังว่าจะได้ร่วมเดินทาง ในถนนสายมิตรภาพโรยตัวอักษรนี้ด้วยกันนะคะรายชื่อผู้ร่วมโครงการBeCoffeenikandaนางสาวดุ่บดั่บJewNidกะว่าก๋าแม่ซองขาวเบอร์9peeampSongPeeเป็ดสวรรค์บุยบุยส้มแช่อิ่มLittle KnightPauloท่านหญิงน่าเกลียดSummer Flowerinmemoirปีศาจความฝันธาร นาวาKOok_kนัทธ์
รายชื่อผู้ร่วมโครงการBeCoffeenikandaนางสาวดุ่บดั่บJewNidกะว่าก๋าแม่ซองขาวเบอร์9peeampSongPeeเป็ดสวรรค์บุยบุยส้มแช่อิ่มLittle KnightPauloท่านหญิงน่าเกลียดSummer Flowerinmemoirปีศาจความฝันธาร นาวาKOok_kนัทธ์
questo volta forse io non scrivo...troppo difficile per me...ma vediamo domani...forse viene buona idea!
Buona notte....
Zia Pukina.