เคยได้ยินคนเขาพูดกันไหมครับว่า "หัวหินมีมนต์ขลัง" ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะในระยะเวลาห่างจากที่มาเที่ยวหัวหินครั้งก่อนแค่เดือนเศษๆ ผมก็มีอันต้องกลับมาเยือนหัวหินอีกครั้ง ครั้งนี้ได้มาหัวหินก็เพราะมีการประชุมสัมมนาวิชาการเมื่อวันที่ 21-22 พย.52 ที่ผ่านมา งานนี้ผมมีสปอนเซอร์พักฟรีกินฟรีตลอดงาน แล้วอย่างนี้จะพลาดได้อย่างไรล่ะครับ ในคราวนี้เราจะได้เข้าพักที่โรงแรม "ไฮแอท รีเจนซี่ หัวหิน" และตั้งใจจะไปเก็บตก "เพลินวาน (เฟสสอง)" ซึ่งตอนที่ผมมาหัวหินครั้งก่อนยังไม่เปิดส่วนเฟสสองให้เข้าชม และถ้ามีเวลาก็จะไปเดินเล่นที่ "ซิเคด้า มาร์เก็ต หัวหิน (The Cicada Market)" หรือ "ตลาดจั๊กจั่น" ซึ่งเป็นตลาดเปิดใหม่แนวฮิปๆ อินเทรนด์ ตั้งอยู่บริเวณสวนศรี ด้านหน้าโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ ที่พักของเรานั่นเอง .....วันแรก : จากปราจีนบุรีถึงหัวหิน ครั้งนี้ผมก็กระเตงสองเด็กดื้อไปเที่ยวด้วยกันเหมือนเคย เราออกจากบ้านที่ปราจีนบุรีเวลาประมาณ 6:15 น. กะว่าจะได้ไปถึงเพลินวานเร็วหน่อย คนจะได้ไม่เยอะมาก โชคดีที่วันนี้การจราจรคล่องตัว ทำให้เราทำเวลาได้ดี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เราก็ได้มายืนอยู่หน้า "เพลินวาน" แล้ว แต่ขนาดเราไปถึงที่นั่นไม่สายมากนักแต่ก็มีนักท่องเที่ยวมากันเยอะแล้ว มาคราวนี้เราจะเน้นไปที่ "เพลินวานเฟสสอง" เป็นหลัก เพราะส่วนที่เป็นเฟสหนึ่งเราเพิ่งมาเที่ยวไปเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง ดูย้อนหลังได้ที่บล็อกนี้ครับ ++หัวหิน ไม่เคยสิ้นมนต์ขลัง++ .....เดินผ่านทางเข้ามาก็เจอกับที่ทำการเพลินวานเดินทางมาไกล ขอแวะพักดื่มกาแฟกันที่ร้านกาแฟก่อนแวะไปเก็บรูปร้านเหล้านิดนึงครับ เพราะตอนมาคราวที่แล้วลืมเดินไปดู ตอนที่เราไปถึงประมาณ 10:15 น. ส่วนเฟสสองยังมาเปิดร้านกันไม่หมดสงสัยยังเช้าไป พี่ยามเลยยังไม่เปิดทางให้เราเข้าไป ก็เลยต้องเดินเล่นที่ส่วนเฟสหนึ่งกันอยู่พักหนึ่ง จน 11 โมงเราถึงได้เข้าไปเที่ยวชมส่วนเฟสสองกัน สำหรับเพลินวานส่วนเฟสสองนั้น ชั้นบนจะทำเป็นห้องพัก ใช้ชื่อ "พิมานเพลินวาน" ราคาห้องพักแรงไม่ใช่เล่นตั้งไว้ที่ 3200 บาท/ห้อง ..... ชั้นล่างเป็นร้านค้าต่างๆ และชั้นใต้ดินทำเป็นที่จอดรถ ร้านส่วนใหญ่ในเฟสสองจะเป็นร้านขายอาหารซะเยอะ มีร้านอื่นๆ แทรกอยู่ประปราย อย่างเช่นร้านแผ่นซีดีเพลงเก่าๆ ร้านขายของชำ ร้านขายของแนวกิฟท์ช็อปและของที่ระลึกอื่นๆ ร้านเสื้อผ้า ร้านถ่ายรูป ร้านทองและร้านนวดแผนโบราณ และถัดจากส่วนร้านค้าก็จะเป็นลานกว้าง มีจอฉายหนังกลางแปลงและชิงช้าสวรรค์ด้วย ตามไปดูเพลินวานเฟสสองกันด้วยภาพเลยดีกว่า .....ก่อนเข้าส่วนเฟสสอง มีป้ายหัวหินให้ถ่ายรูปที่ระลึกด้วย มาครั้งก่อนยังไม่มีเลยครับตามดื้อใหญ่ไปดูเพลินวานเฟสสองกันเลยเข้ามาถึงก็เจอร้านขายซีดีเพลงเก่าเลยครับบรรยากาศในร้านขายซีดีเพลงเก่า จัดร้านได้ย้อนยุคดีดื้อเล็กได้ยินเสียงเพลงก็เริ่มคึกคักร้านถ่ายรูป มีให้แต่งตัวถ่ายรูปย้อนยุคด้วยถัดมาอีกนิดก็เป็นร้านขายของชำเก็บภาพหน้าร้านขายของชำซะหน่อยร้านคงไว้ มีพระบรมฉายาลักษณ์ที่หาดูยากอยู่เยอะเลยร้านนี้ขายพวกเครื่องหอม เทียนหอมร้านขายข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น เดินไปจนถึงด้านในสุดของห้องแถวร้านค้า ก็จะเจอกับ "ลานฉายหนังกลางแปลง" แต่ส่วนนี้จะเปิดเฉพาะช่วงเย็น วันอาทิตย์ถึงพฤหัสเปิด 15:00-22:00 น. ส่วนวันศุกร์และเสาร์เปิด 17:00-24:00 น. ต้องเสียค่าเข้าชมด้วยคนละ 20 บาท เด็กสูงไม่เกิน 120 ซม. เข้าฟรี ตรงส่วนที่เก็บค่าผ่านประตูตกแต่งเป็นโรงรับจำนำแบบย้อนยุค น่าเสียดายตอนที่เราไปเป็นช่วงเช้า ส่วนนี้ยังไม่เปิดให้เข้า ก็เลยไม่ได้ลงไปชม ได้แต่เก็บรูปจากด้านบนเท่านั้นเอง .....ทางเข้าลานฉายหนังกลางแปลง ตกแต่งเป็นโรงรับจำนำลานฉายหนังกลางแปลง มีชิงช้าสวรรค์ด้วยมีรถไฟจำลอง ไว้ให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วยเดินกลับไปอีกฟากของห้องแถวก็เจอร้านขายอาหารอีกแล้วร้านขายทองก็มีนะครับ ตั้งชื่อไว้ดีซะด้วย ชื่อร้านเซงลี้ฮ้อ ขอให้ขายดีเหมือนชื่อแล้วกันบางร้านก็ตกแต่งร้านไว้เฉยๆ แต่ยังไม่เห็นมีของขาย ใครที่เดินเที่ยวแล้วเมื่อย สามารถแวะนวดแผนไทยที่ร้านนี้ได้ เป็นที่น่าสังเกตได้ว่า หลังจากที่เพลินวานเปิดเฟสสองแล้ว การกระจายคนจะดีขึ้น ดูไม่แออัดยัดเยียดเหมือนช่วงแรกๆ ที่เพิ่งเปิดตัว คงเป็นเพราะมีพื้นที่ให้เดินเที่ยวมากขึ้นนั่นเอง วันนี้เราใช้เวลาเดินเที่ยวที่เพลินวานอยู่ชั่วโมงครึ่งก็ถึงเวลาเที่ยงแล้ว ได้เวลาเคลื่อนพลไปทานอาหารกลางวันกันแล้ว เราแวะทานอาหารกันที่ "ร้านอยู่เย็น" รสชาติอาหารก็อร่อยใช้ได้ หลังอิ่มหนำสำราญดีแล้ว ก็เดินทางต่อไปยังที่พักของเราวันนี้ ที่ "Hyatt Regency หัวหิน" ลานจอดรถของโรงแรมนี้จะอยู่ห่างจากส่วน Front พอสมควร เราต้องขับรถไปที่อาคาร lobby เพื่อขนกระเป๋าลงก่อน แล้วจึงค่อยขับรถไปจอดยังที่จอดรถ .....สองเด็กดื้อมาถึงโรงแรมที่พักซะทีกำแพงสีแดงสดที่เห็นเป็นสปาสุดหรูในเครือเดียวกัน ชื่อ The Baraiส่วน lobby เข้าไปเช็คอินกันก่อนนะครับตึกที่เราเข้าพักมีสามชั้น เราได้พักกันที่ชั้นสามด้านหน้าห้องพักตรงกับสนามเทนนิสพอดีภายในห้องพัก เตียงนุ่มกำลังดี แต่หมอนนิ่มไปหน่อยรูปที่หัวเตียง สวยดีเหมือนกันอีกฝั่งของเตียงนอน อยู่ติดกับห้องน้ำห้องน้ำมีหน้าต่างเลื่อนเปิดมาดูทีวีได้ภายในห้องน้ำ ใช้ฝักบัวเป็นแบบติดผนัง เลยอาบน้ำให้เด็กๆ ยากหน่อยมุมโต๊ะทำงาน ทีวีเป็นจอพลาสมาจอใหญ่จุใจดีสองเด็กดื้อถูกใจกับห้องพักวันนี้มากระเบียงด้านหลังห้อง มองออกไปจะเห็นเป็นวิวสวนดื้อเล็กเริ่มออกอาการดื้อ ปีนป่ายเป็นลูกลิงเลยครับ ช่วงบ่ายผมมีโปรแกรมต้องเข้าประชุมวิชาการ ดีที่โรงแรมมีห้องเด็ก "Camp Hyatt" ให้เด็กๆ ได้เล่นสนุกกันในช่วงที่ผมต้องเข้าประชุม แต่ห้องเด็กที่นี่จะไม่ใหญ่เท่าไหร่นัก และกิจกรรมก็มีไม่มาก เด็กๆ เลยเล่นได้ไม่นานนัก แม่บ้านผมต้องพามาเล่นกันที่สนามเด็กเล่นกันต่อ หลังผมประชุมเสร็จก็ออกมาสมทบ พาเด็กๆ เดินทัวร์ภายในบริเวณโรงแรมกัน .....ห้องเด็ก Camp Hyattภายในห้องเด็ก ตกแต่งได้น่ารักดีปล่อยเด็กดื้อเล่นกันไปก่อน พ่อขอไปประชุมก่อนนะลูกเล่นในห้องเด็กจนเบื่อแล้ว ก็ออกมาเล่นที่สนามเด็กเล่นได้สระว่ายน้ำ มีสไลเดอร์ด้วย น่าเล่นมาก เสียดายเวลาไม่พอ เลยอดเล่นน้ำพุกลางสวนรูปหัวช้าง สัญลักษณ์ของที่นี่ร้านอาหารของโรงแรม สร้างเป็นทรงไทยสวยดีเหมือนกัน หลังจากเดินเล่นในโรงแรมแล้ว ผมก็กะว่าจะพาสองเด็กดื้อไปเล่นทรายที่ริมทะเล แต่ปรากฏว่าวันนี้คลื่นลมแรงมาก น้ำทะเลสาดกระเซ็นไปทั่วเลยทีเดียว เลยต้องเปลี่ยนใจ พามาเล่นทรายที่ริมสระเด็ก ซึ่งจะมีการทำหาดทรายเทียมไว้ให้เด็กๆ เล่นกันด้วย สองเด็กดื้อเล่นกันเพลินจนเย็น ช่วงเย็นมีการจัดงานงานเลี้ยงสังสรรค์ให้ผู้ร่วมสัมนาวิชาการครั้งนี้ด้วย ก็เลยไม่มีเวลาลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำเลยครับ ก่อนไปร่วมงานเลี้ยงก็แวะเก็บภาพรอบๆ บริเวณโรงแรมซะหน่อย .....แสงสวยๆ ของห้องนอนในยามค่ำคืนออกไปเดินเล่นดูแสงสีกันหน่อย เดินตามมาเลยครับอาคาร Lobby ยามค่ำซุ้มสวยๆ ระหว่างทางเดินไปลานจอดรถหลังนี้เป็นอาคารห้องประชุม หลังจากร่วมงานเลี้ยงและทานอาหารเย็นกันเรียบร้อยแล้ว เราก็ไม่พลาดที่จะไปเดินเล่นที่ตลาดกลางคืนแนวฮิปๆ แห่งใหม่ของหัวหิน ซึ่งเพิ่งเปิดตัวมาได้แค่เดือนเศษๆ เท่านั้นเอง ตลาดนี้อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม Hyatt ที่เราพักเลย แค่เดินออกไปจากหน้าโรงแรมไม่ถึง 100 เมตร ก็มาถึงแล้ว ตลาดที่ว่าก็คือ "ซิเคด้า มาร์เก็ต หัวหิน (The Cicada Market)" ตลาดนัดเปิดเสื่อ เปิดใจ เปิดไอเดีย หรือเรียกชื่อแบบไทยๆ ว่า "ตลาดจั๊กจั่น" นั่นเอง .....มาถึงสวนศรีแล้วครับ เข้าไปเดินเที่ยวตลาดจั๊กจั่นกันดีกว่า ช่วงที่ผมไปตลาดแห่งนี้ยังเปิดเฉพาะวันเสาร์ ตั้งแต่บ่ายสามโมงเย็นถึงสี่ทุ่มเท่านั้น อย่าไปผิดวันไม่งั้นจะอดเที่ยว ตัวตลาดตั้งอยู่ที่สวนศรี ปากซอยทางเข้าโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ หัวหินเลยครับ ใครที่เอารถมาสามารถจอดรถได้ที่จุดจอดรถ ฝั่งถนนตรงข้ามกับตลาด ตลาด Cicada นี้ จะเป็นแหล่งรวมชิ้นงานศิลปะร่วมสมัยแขนงต่างๆ รวมถึงสิ่งประดิษฐ์ งานแฮนด์เมด ของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้มือสอง สินค้าเอสเอ็มอีที่มีแนวคิดสร้างสรรค์ เพื่อนำมาแสดงและจำหน่ายในสไตล์เปิดเสื่อ และยังมีกิจกรรม workshops จากชมรมต่างๆ เช่น กลุ่มเล่านิทาน กลุ่มละคร กลุ่มเต้นรำ กลุ่มถ่ายภาพ กลุ่มนักแสดงเปิดหมวก ฯลฯ ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาสร้างสีสันและเสริมสร้างสุนทรียภาพ ท่ามกลางบรรยากาศ Tropical Garden อันร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้งามอายุร่วมร้อยปีบนพื้นที่เกือบ 10 ไร่ของหัวหิน .....ที่นี่มีภาพวาดจิตรกรรมสวยๆ ร่วมสมัย เปิดแสดงให้ชมกันด้วยศิลปินวาดภาพเหมือนก็มาเป็นตลาดแนวเปิดเสื่อ ให้บรรยากาศดีจริงๆของที่ขายก็มีทั้งที่ขายไอเดียดีๆ อย่างป๊อปอัฟการ์ดสวยๆ แบบนี้หรือจะเป็นกล่องไม่ขีดไฟลายหัวหิน อันนี้ก็เข้าใจทำนะของเล่นสีสันสดใสก็มีให้เห็นพวงกุญแจน่ารักๆอันนี้ก็ดูเก๋ดีบ้านหอมเทียนที่นี่ก็มี ไม่ใช่มีแค่ที่สวนผึ้งซะแล้วสินค้าทั่วไปอย่างเสื้อยืดพิมพ์ลายหัวหินก็มีให้เห็นวันที่ไปมีโชว์ของวง Season Five ห้าหนุ่มศิลปินแนว A Cappella ด้วย ด้วยความที่อากาศเย็นสบายไปด้วยลมหนาว ทำให้เราสามารถเดินชมสินค้าตามร้านต่างๆ อย่างเพลิดเพลินเจริญใจไปเลย ตลาดฮิปๆ แบบนี้ ช่างเข้ากันได้ดีกับอากาศหนาวเย็นแบบนี้ เราเดินเที่ยวชมตลาดซิเคด้าไปได้ประมาณเกือบชั่วโมง ปรากฏว่าเดินไปเดินมาดื้อเล็กก็ง่วงหลับไปซะแล้ว เลยต้องกลับห้องพักพาดื้อเล็กไปนอน .....วันที่สอง : กลับบ้านกันแล้วล่ะ เช้าวันถัดมาก็เป็นวันเดินทางกลับกันแล้ว แวะไปทานอาหารเช้ากันก่อน ห้องอาหารจะอยู่ใต้ถุนอาคาร Lobby อาหารที่นี่ก็จัดว่าดีมาก มีให้เลือกทานหลากหลายอย่างตามมาตรฐานโรงแรมระดับนี้ เท่าที่จำได้ก็มีอาหารฝรั่งอย่างออมเล็ท ไส้กรอก ไข่ดาว หมูแฮม ขนมปัง วัฟเฟิล หรือจะเป็นอาหารไทยพวกข้าวและกับข้าว ข้าวต้มก็มี นอกจากนั้นก็มีก๋วยเตี๋ยวเนื้อ สลัดผัก ผลไม้สดและน้ำผลไม้หลากชนิด .....ทานอาหารเช้ากันที่นี่บรรยากาศในห้องอาหารอาหารเช้าน่าทานทั้งนั้นดื้อเล็กเพลิดเพลินเจริญอาหารมาก หลังทานอาหารเช้าแล้ว เราใช้เวลาก่อนเช็คเอ๊าท์เดินชมบรรยากาศในบริเวณโรงแรมกันอยู่อีกพักใหญ่ แล้วก็ถึงเวลาเดินทางกลับบ้านกันจริงๆ แล้ว ขากลับการจราจรก็ยังไหลลื่น ไม่ติดขัด ใช้เวลาเดินทางไม่ต่างจากขามาเท่าไหร่นัก ในที่สุดก็กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ ก็เป็นอันจบทริปหัวหินไปอีกหนึ่งทริป ถ้าหัวหินยังมีมนต์ขลังจริงๆ เราคงได้กลับไปเยือนหัวหินอีกอีกแน่ๆ เดี๋ยวสุดสัปดาห์นี้เราก็มีโปรแกรมเที่ยวอีกแล้ว เรียกว่าเที่ยวกันแทบทุกอาทิตย์เลยก็ว่าได้ ไว้กลับมาแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะครับ สวัสดีครับ .....