ช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ฝนตกแทบทุกวัน ส่วนวันที่ฝนไม่ตกก็อากาศร้อนสุดๆ ครอบครัวเราเลยไม่ได้ออกไปเที่ยวกันเท่าไหร่ บังเอิญช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขากลับจากพาสองเด็กดื้อไปบ้านแม่ผมที่ชลบุรี ขับรถผ่านฉะเชิงเทรา เห็นมีป้ายประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับ "โบสถ์สแตนเลส" ที่วัดหัวสวน น่าสนใจดี เพราะก่อนหน้านี้เคยได้ยินมาว่ามีโบสถ์สแตนเลสอยู่ที่วัดปากลำขาแข้ง จังหวัดกาญจนบุรี แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปชมซักทีเพราะอยู่ไกลจากบ้านผมมากทีเดียว ตอนนี้ที่แปดริ้วก็มีการสร้างโบสถ์สแตนเลสขึ้นมาหมือนกัน เลยต้องแวะเข้าไปชมกันซะหน่อยครับ .....+++ ไปชมโบสถ์สแตนเลสที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกกันนะครับ +++โบสถ์สแตนเลส ... อลังการงานสร้าง "โบสถ์สแตนเลส วัดหัวสวน" ตั้งอยูใน ต.เสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา สร้างด้วยสแตนเลสทั้งหลัง โดยพระครูภาวนาจริยกุลท่านเจ้าอาวาสวัด เห็นว่าโบสถ์หลังเก่ามีความชำรุดทรุดโทรมมากแล้ว อยากจะสร้างขึ้นมาใหม่ให้คงอยู่ยาวนาน จากการศึกษาพบว่าสแตนเลส เป็นวัสดุที่สามารถอยู่ได้เป็นพันปี ในขณะที่ปูนจะมีอายุอยู่เป็นร้อยปี .....ท่านจึงตัดสินใจออกแบบโบสถ์สแตนเลสขึ้นมา เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนเมษายน 2552 เสร็จสิ้นในเดือนธันวาคม 2553 โดยเจ้าอาวาสเป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างเองอย่างใกล้ชิด ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท ตัวโบสถ์กว้าง 7.50 เมตร ยาว 18 เมตร สูง 6.50 เมตร .....+++ น่าเสียดายวันที่เราไป อากาศไม่ค่อยดี ฟ้าเลยขาวซีดอย่างที่เห็น +++ โบสถ์แห่งนี้ จะตั้งอยู่บนฐานคอนกรีตสูงจากพื้นดิน สร้างด้วยฝีมือและแรงงานของพระลูกวัด รอบตัวโบสถ์มีรั้วสแตนเลสประดับลายธรรมจักร และมีเสาหงส์คาบโคมไฟอยู่โดยรอบ ตัวโบสถ์สร้างจากสแตนเลสทั้งหลัง ยกเว้นพื้นที่ปูด้วยหินแกรนิต ด้านหน้าประดิษฐานพระสิวลี ส่วนด้านหลังมีพระพุทธมหาลาภประดิษฐานอยู่ .....ภายในโบสถ์มีพระประฐานแบบทรงเครื่องสีทอง ซึ่งตอนที่ผมไป ยังตกแต่งไม่แล้วเสร็จดี เพราะเห็นที่ส่วนฐานล่างขององค์พระประธานยังมีกระดาษหนังสือพิมพ์ปิดอยู่เลย ส่วนพื้นโบสถ์บางส่วนยังเป็นหลุมใหญ่ ซึ่งเตรียมไว้สำหรับฝังลูกนิมิตรในโอกาสต่อไป ภายในโบสถ์ อากาศเย็นสบาย มีลมพัดผ่านตลอดเวลา ไม่ร้อนอย่างที่คิดเลยครับ .....+++ รอบโบสถ์มีรั้วสแตนเลสลายธรรมจักร ประดับด้วยเสาหงส์คาบโคมไฟ ++++++ พระอุโบสถทำด้วยสแตนเลสทั้งหลัง สีเงินของโบสถ์ตัดกับสีทองของพระพุทธรูปอย่างลงตัว ++++++ พระพุทธมหาลาภ ประดิษฐานอยู่ด้านหลังโบสถ์ ++++++ องค์พระมีลักษณะเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง สีทองอร่ามตา งดงามมาก ++++++ ด้านหน้าโบสถ์ เป็นที่ประดิษฐานพระสิวลีมหาลาภ ++++++ ขอเก็บภาพเป็นที่ระลึกกันหน่อยครับ ++++++ พระประธานภายในโบสถ์ เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องเช่นเดียวกัน +++ ประตูเข้าโบสถ์ มีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้านละ 2 ช่อง เหนือช่องประตูเป็นภาพพระพุทธโสธร หน้าบันและหน้าต่างทำเป็นรูปพระพุทธเจ้าและเทวดาต่างๆ ด้วยเทคนิคกัดกรดและลงสีเหลือง ส่วนด้านนอกโดยรอบโบสถ์แกะลายสแตนเลสเป็นรูปพระอรหันต์ 80 องค์ ชายล่างเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนัง แต่แตกต่างจากจิตรกรรมฝาผนังทั่วไปเพราะใช้วิธีพ่นแอร์บรัชคล้ายๆ กับที่เราเห็นตามด้านข้างรถทัวร์ และภายในโบสถ์ก็ยังมีภาพจิตรกรรมพระชาดก 10 ชาติของพระพุทธเจ้า ซึ่งก็ใช้วิธีพ่นแอร์บรัชเช่นเดียวกัน .....+++ ด้านนอกโดยรอบโบสถ์มีภาพแกะลายบนสแตนเลสเป็นภาพพระอรหันต์ 80 องค์ ++++++ หน้าต่างทำเป็นรูปเทวดาต่างๆ ด้วยเทคนิคกัดกรดและลงสีเหลือง ++++++ ชายล่างของโบสถ์เป็นภาพจิตรกรรมโดยใช้วิธีพ่นแอร์บรัช ++++++ ดื้อเล็ก นั่งพักเหนื่อย หลังจากวิ่งดื้อไปรอบโบสถ์ ++++++ จิตรกรรมฝาผนังภายในโบสถ์ สีสวยแปลกตาดีเหมือนกัน ++++++ ลายฉลุรูปครุฑบนสแตนเลส ประดับอยู่เหนือเสาค้ำยันด้านหน้าโบสถ์ ++++++ บริเวณลานด้านหน้าโบสถ์ มีต้นไม้จำลองให้เขียนบนกระดาษปล่อยความทุกข์ที่มีทิ้งไว้ที่นี่ ++++++ หนึ่งในใบไม้กระดาษ บางคนก็เขียนขอพร ขอโชคลาภ ++++++ มีพระพุทธรูปหลากสีสัน น่าจะทำจากเรซิ่น ให้เช่าบูชากันด้วยครับ +++ร่มไม้-สายธาร ... อิ่มท้อง ร่มรื่น ริมคลอง ออกจาก "วัดหัวสวน" เราแวะทานอาหารเย็นกันที่ "ร้านร่มไม้-สายธาร" ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ร้านหนึ่งในอำเภอบางคล้า ตัวร้านตั้งอยู่ติดกับพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งในย่านนี้ บรรยากาศร้านจะเป็นเรือนไม้ มีทั้งในร่มและกลางแจ้ง โต๊ะอาหารทำด้วยไม้ทั้งหมด ด้านข้างร้านจะเป็นคลองท่าลาดซึ่งแยกออกมาจากแม่น้ำบางปะกง ภายในบริเวณร้านมีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นดี แต่ถ้าไปช่วงค่ำๆ จะมียุงค่อนข้างชุมไปหน่อย .....+++ แวะทานอาหารเย็นกันที่ร้านร่มไม้-สายธารก่อนกลับบ้าน +++ +++ ตัวร้านจะตั้งอยู่ริมคลองท่าลาด บรรยากาศดีเหมือนกัน ++++++ เมนูแรก แกงส้มร่มไม้ เป็นแกงส้มผักรวมรสชาตเข้มข้น ใส่กุ้งและชะอมไข่ด้วย ++++++ ปูหลนทรงเครื่อง หนึ่งในเมนูแนะนำของที่นี่ รสชาติมาตรฐานแบบหลนทั่วไป ++++++ กุ้งพล่ากระเทียมสด จานนี้รสชาติไม่เหมือนพล่ากุ้งที่เราคุ้นเคย จะออกไปทางคล้ายกุ้งแช่น้ำปลาซะมากกว่าพล่า +++ หลังทานอาหารเสร็จ เราใช้เวลาก่อนกลับบ้านไปกราบ "พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ซึ่งอยู่ติดกับร้านร่มไม้-สายธาร พระสถูปเจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ได้รับชัยชนะในการสู้รบกับพม่าบริเวณปากน้ำโจ้โล้เมื่อครั้งทรงใช้เมืองฉะเชิงเทราเป็นเส้นทางเดินทัพผ่านรบกับในการกอบกู้เอกราชหลังเหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยา น่าเสียดายที่ไปถึงช่วงใกล้ค่ำแล้ว ก็เลยเก็บภาพดีๆ ไม่ค่อยได้ ไว้คงต้องมาแก้ตัวใหม่โอกาสหน้า สำหรับทริปนี้ก็คงต้องขอจบแบบดื้อๆ เพียงเท่านี้ ไว้พบกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีครับ
เพิ่งเคยเห็นและได้ยินจากที่นี่ที่แรกเลยค่ะ
องค์พระใส่เครื่องทรงสวยงามมากทีเดียวค่ะ
เคยไปบางคล้าอยู่เหมือนกันค่ะ
แปลกดีนะคะ..
เท่าที่เคยรู้จักคนปราจีนบุรีมารวมถึงคนที่บางคล้า
พี่คนหนึ่งมาทำไร่ที่บางคล้าก็มาจากชลบุรี
ตระกูลหนึ่งมาจากชลบุรีก็ย้ายมาอยู่ที่ปราจีนบุรี
สมัยก่อนคงเป็นการโยกย้ายกันหลายๆครอบครัวนะคะ
ร้านอาหารดูบรรยากาศดีนะคะ