ช่วงวันหยุดสงกรานต์ 2554 ที่ผ่านมา ผมแทบไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนเลย ปกติแล้วผมจะไม่เที่ยวในช่วงนั้น เพราะรถจะติดมากโดยเฉพาะช่วงที่คนเล่นสาดน้ำ อีกทั้งยังต้องคอยพะวงเวลาถ่ายภาพ กลัวว่าจะโดนสาดน้ำแล้วกล้องเปียกเสียหาย เลยตัดปัญหา นอนตากแอร์อยู่ที่บ้านสบายกว่า แต่ปีนี้วันหยุดยาววันสุดท้ายเป็นวันอาทิตย์ซึ่งเลยช่วงเล่นสาดน้ำไปแล้ว ..... อยู่ว่างๆ ก็ชักจะเบื่อ เลยหาเรื่องพาเด็กๆ ไปเที่ยวแถวจังหวัดฉะเชิงเทรา เพราะใกล้บ้าน ไปเช้าเย็นกลับได้ โดยมีโปรแกรมไปไหว้พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ "วัดสมานรัตนาราม" แล้วค่อยไปเที่ยว "คุ้มวิมานดิน" กันต่อ ก่อนจะแวะหาร้านอาหารอร่อยๆ แถวนั้นทานแล้วค่อยกลับบ้านครับ .....+++ วันนี้มาชวนไปไหว้พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ที่วัดสมานรัตนารามครับ +++พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข ตั้งอยู่ที่ "วัดสมานรัตนาราม" ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งปางนอนนั้นมีความหมายว่า เป็นปางที่ประทานความมีกินมีใช้ เงินทองไม่ขาดมือ อยู่อย่างสุขสบาย อิ่มหนำสำราญ ขจัดปัญหา ไม่มีเรื่องให้วุ่นวายใจ มีขนาดความสูง 16 เมตร และความกว้าง 14 เมตร ..... ลักษณะนั่งกึ่งนอนตะแคงบนฐาน พระหัตถ์ซ้ายถืองาที่หัก พระหัตถ์ขวาถือดอกบัว เนื้อองค์มีสีชมพู รอบฐานมีพระพิฆเนศปางต่างๆ ถึง 32 ปางให้ชม ภายใต้ฐานมีพระพิฆเนศองค์จำลองให้ประชาชนสักการะกราบไหว้ และมีองค์เล็กๆ ให้ผู้ศรัทธาได้เช่าบูชาด้วย และริมแม่น้ำมีศาลาที่ประดิษฐานองค์พระพิฆเนศปางนอน และมีพระพุทธรูปให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะขอพร .....+++ บริเวณรอบฐานมีพระพิฆเนศปางต่างๆ ให้ชมถึง 32 ปาง ++++++ วันที่ผมไปแดดแรงพอสมควร เลยได้ภาพแบบฟ้าใสๆ กลับมา +++ บริเวณด้านหน้าฐานพระพิฆเนศ จะเห็นปูนปั้นรูปหนูอยู่สองตัว ชื่อว่า "หนูมุสิกะ" ตามประวัติเล่าว่า พระพิฆเนศมีหนูเป็นบริวาร และในความเชื่อของผู้ที่เคารพและสักการะขอพรเป็นประจำ เชื่อว่าถ้าอยากได้สิ่งใด ขอพรสิ่งใดให้สมหวัง ให้ไปกระซิบที่หูหนู แล้วหนูจำนำความไปบอกท่านพระพิฆเนศให้ประทานสิ่งที่ต้องการกลับมา ..... และที่สำคัญอย่าลืมติดสินบนหนูด้วย โดยการทำบุญใส่ตู้ที่วางไว้ด้านหน้า คำขอพรจะได้สำเร็จไวๆ วันที่ผมไป ทางวัดกำลังจัดงานแก้ปีชงพอดี คนมากันเยอะมาก เห็นคนเข้าคิวรอกระซิบขอพรที่กับรูปปั้นหนูเป็นแถวยาวเหยียดท่ามกลางแดดร้อนจัด แค่เห็นก็ท้อแล้ว ผมเลยเลี่ยงไปกราบขอพรกับองค์พิฆเนศจำลอง ที่ห้องใต้ฐานรูปปั้นแทน .....+++ ด้านหน้าฐานองค์พระพิฆเนศ จะเห็นรูปปั้นหนูมุสิกะ ซึ่งมีคนมากระซิบขอพรกันตลอดเวลา ++++++ คนมาไหว้พระพิฆเนศกันมากมาย จนต้องถ่ายภาพแบบมุมสูงแบบนี้เพื่อหลบคน ++++++ ดูพระพักตร์กันแบบใกล้ๆ บ้าง ++++++ นอกจากพระพิฆเนศแล้ว ที่วัดนี้ยังมีรูปปั้นพระราหูองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วย +++คุ้มวิมานดิน ... ปั้นดินให้เป็นตัว เราใช้เวลาอยู่ที่วัดสมานรัตนารามไม่นานนัก เพราะแดดแรงและอากาศร้อนจัดมาก ต้องรีบหลบร้อนไปเที่ยวกันต่อที่ "คุ้มวิมานดิน" ซึ่งอยู่ท่ามกลางสวนมีต้นไม้ร่มรื่นนานาพันธุ์ คุ้มแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองเขื่อน อำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายเครื่องปั้นดินเผาที่ขึ้นชื่อของเมืองแปดริ้ว ที่นี่เขาเปิดให้เข้าชมเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดเทศกาล เวลา 9.00-18.00 น. อย่าเผลอแวะไปวันธรรมดานะครับ เดี๋ยวจะไปเสียเที่ยว อดเข้าชมเครื่องปั้นดินเผาสวยๆ .....+++ หลบร้อนไปเที่ยวคุ้มวิมานดินกันต่อ แวะซื้อบัตรเข้าชมที่ซุ้มด้านหน้าก่อนนะครับ ++++++ คุ้มวิมานดินแห่งนี้ นับเป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายเครื่องปั้นดินเผาที่ขึ้นชื่อของเมืองแปดริ้ว ++++++ ผลงานทุกชิ้นล้วนแล้วแต่เป็นงาน hand made ทั้งสิ้น ดังนั้นแต่ละชิ้นจะไม่เหมือนกันเลย ++++++ ตุ๊กตาดินเผาที่นี่ ดูอินเทรนด์มาก อย่างสาวน้อยคนนี้ ใส่เหล็กดัดฟันซะด้วย ++++++ ใครที่อยากหาซื้อเครื่องปั้นดินเผาสวยๆ ไปแต่งบ้าน มาที่นี่คงจะไม่ผิดหวัง +++ ภายใน "คุ้มวิมานดิน" ยังไม่มีที่สำหรับจอดรถ เราต้องจอดรถแอบๆ ไว้บนไหล่ทางข้างถนนด้านหน้า แล้วแวะซื้อบัตรเข้าชมในราคาคนละ 30 บาท ซึ่งบัตรนี้ใช้เป็นส่วนลดได้ 30 บาทเมื่อซื้อสินค้าครบทุก 200 บาท จากทางเข้าเดินเข้าไปก็จะพบกับร้านขายของที่ระลึก ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเครื่องปั้นดินเผาในรูปแบบต่างๆ หน้าร้านก็จะมีตุ๊กตาดินเผาน่ารัก ๆ จัดไว้บนสนามหญ้ามากมาย ..... ซึ่งตุ๊กตาทุกตัวทุกชิ้นสามารถซื้อนำกลับไปบ้านได้หมด มีทั้งตุ๊กตาเด็ก ดอกไม้ แจกัน โคมไฟ โมบาย ตุ๊กตารูปสัตว์ชนิดต่างๆ ทั้งหมดเป็นงาน hand made ปั้นด้วยมือทุกตัว ด้านขวามือมีสระน้ำและมีศาลาขนาดใหญ่ เป็นที่สำหรับนั่งพักผ่อน นั่งชมวิว ชมสวน พร้อมกับบริการอาหารเครื่องดื่มและกาแฟสด มีทั้งชุดโต๊ะที่นั่งและเปลไม้ไผ่ พร้อมห้องน้ำสะอาดกว้างขวาง เป็นมุมพักผ่อนได้เป็นอย่างดี .....+++ เราไปถึงคุ้มวิมานดินตอนเที่ยงพอดี เลยแวะทานอาหารกลางวันที่ร้านกาแฟภายในคุ้มกันก่อน ++++++ ภายในร้านมีทั้งอาหาร กาแฟสด และเครื่องดื่มน้ำผลไม้ smoothie เย็นๆ ให้เลือกดื่มกันด้วย ++++++ มุมน่ารักในร้าน ตกแต่งสวยงามด้วยเครื่องปั้นดินเผาผลงานของคุ้มวิมานดินเอง ++++++ แวะเก็บภาพกับโต๊ะน่านั่งและผนังสีสวยระหว่างรออาหาร ++++++ เปลไม้ไผ่ภายในร้านกาแฟ สำหรับนอนเล่น รับลมเย็นๆ ++++++ สองเด็กดื้อนั่งแกว่งเปลเล่น สนุกกันใหญ่เลยครับ ++++++ ตรงมุมนี้ มีโปสการ์ดจำหน่าย เขียนสร็จแล้วจะมีตู้ให้ฝากส่งด้วย ++++++ ทานอาหารเสร็จแล้ว ก็ไปเดินเที่ยวชมภายในคุ้มวิมานดินกันต่อ ++++++ มีมุมสวยๆ จัดไว้ให้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันด้วย ++++++ ดื้อเล็กชอบตุ๊กตาดินเผาสีสดพวกนี้เป็นพิเศษ ++++++ ด้านหน้าร้านจะมีตุ๊กตาดินเผาน่ารักๆ จัดไว้บนสนามหญ้ามากมาย ++++++ ตุ๊กตาดินเผาพวกนี้ ทุกตัวทุกชิ้นสามารถซื้อกลับบ้านได้ทั้งหมด ++++++ น่ารักทุกตัว เห็นแล้วอยากซื้อกลับไปแต่งสวนที่บ้าน ++++++ โมบายแบบเก๋ๆ เราซื้อกลับมาแขวนที่บ้านสองเส้น ++++++ อันนี้มีนกตัวเล็กๆ อยู่ข้างในด้วย น่ารักดี ++++++ ตุ๊กตาหมูน้อยสีสวยสด ++++++ ตุ๊กตาเด็กแว่นนั่งชิงช้า ++++++ ตุ๊กตากบอารมณ์ดี ++++++ ขอเก็บภาพกับตุ๊กตาดินเผาน่ารักกันซะหน่อย ++++++ ดื้อใหญ่กับซุ้มถ่ายภาพที่จัดไว้อย่างสวยงาม +++ นอกจากจะมีผลิตภัณฑ์ดินเผาให้เลือกชมเลือกซื้อกันแล้ว ภายในคุ้มวิมานดินยังมีสวนมะม่วงที่ปลูกไว้ให้ได้เลือกเก็บจากต้นซื้อติดมือกลับบ้าน หรือจะสั่งเป็นมะม่วงน้ำปลาหวานมาทานเล่นๆ ก็ได้ และอีกที่ซึ่งไม่ควรพลาดแวะไปชมก็คือ "บ้านดิน" ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างวิทยาการสมัยใหม่ และสิ่งที่ธรรมชาติให้มา นำมาเป็นสิ่งก่อสร้างที่น่าอัศจรรย์ ..... โดยบ้านดินนั้น วัสดุที่ใช้มีดินเป็นตัวชูโรงในการก่อสร้าง จึงนิยมเรียกว่าบ้านดิน ในบ้านดินนั้นเมื่อเข้าไปข้างในจะพบกับความโล่ง และเย็นสบาย อาจเป็นเพราะ "ดิน" นั้นเป็นตัวช่วยกักเก็บความเย็นและกันความร้อนจากด้านนอกส่วนหนึ่ง จึงทำให้ภายในบ้านรู้สึกได้ถึงความเย็นสบาย .....+++ บ้านดิน สิ่งก่อสร้างใกล้ชิดธรรมชาติจากภูมิปัญญาไทย ++++++ ภายในบ้านดินดูโล่งและเย็นสบาย +++ หากใครอยากมีผลงานเครื่องปั้นดินเผาเป็นของตัวเองแบบชิ้นเดียวในโลก ทางคุ้มวิมานดิน เขาก็เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจ ได้ลองปั้นดินด้วยตนเอง มีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ คอยแนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิด และยังคอยอธิบายถึงขั้นตอนต่างๆในการปั้นอีกด้วย โดยคิดค่าบริการคนละ 40 บาท จะมีดินเหนียวให้ 1 ถุงพร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ในการปั้นดิน อยากปั้นออกมาในรูปแบบใดก็แล้วแต่จินตนาการของแต่ละคน ปั้นเสร็จก็สามารถนำกลับบ้านได้เลย หรือจะฝากเข้าเตาเผาของที่นี่แล้วกลับมาเอาภายหลังก็ได้ .....+++ โรงปั้น จัดไว้เป็นสัดส่วน ให้นักท่องเที่ยวได้สร้างสรรค์ผลงานปั้นดินเป็นของตัวเอง ++++++ บรรดาตุ๊กตาที่ปั้นเสร็จแล้ว รอเข้าเตาเผา +++บ้าน-น้ำ-จันทร์ ... อิ่มอร่อยริมน้ำบางปะกง หลังออกจาก "คุ้มวิมานดิน" ก่อนเดินทางกลับบ้าน เราแวะหาอาหารอร่อยๆ ทานกันที่ร้าน "บ้าน-น้ำ-จันทร์" ซึ่งเป็นร้านอาหารบรรยากาศดีริมแม่น้ำบางปะกง ตั้งอยู่ที่อำเภอบางคล้า เลยตลาดน้ำบางคล้าไปนิดเดียว ตัวร้านสร้างเป็นอาคารสไตล์โมเดิร์น แต่ก็ยังคงมีกลิ่นอายของความคลาสสิกและโรแมนติก ผสมผสานอยู่ในรายละเอียดต่างๆของร้าน ..... เราเลือกนั่งกันที่ โซนริมน้ำ เพราะโซนนี้จะเป็นโซนที่ได้บรรยากาศของความเป็นธรรมชาติ และความโรแมนติกมากที่สุด เนื่องจากที่นั่งจะอยู่บนเขื่อนที่สร้างยื่นลงไปในแม่น้ำ ได้นั่งทานอาหารไปพลาง ชมวิวอาทิตย์ตกริมน้ำไปพลาง ทำให้เจริญอาหารมากขึ้นอีกเยอะ เราสั่งอาหารทานไปสามสี่อย่าง ส่วนใหญ่รสชาติอร่อยใช้ได้เลยล่ะครับ .....+++ แวะทานเย็นอาหารที่ร้าน บ้าน-น้ำ-จันทร์ ที่บางคล้า ก่อนเดินทางกลับบ้าน ++++++ เราเลือกนั่งโต๊ะติดริมแม่น้ำ บรรยากาศดีมาก ชมวิวอาทิตย์ตกได้ด้วย ++++++ เมนูแรก แกงส้มหน่อไม้ดองไข่ปลาเรียวเซียว รสชาติเปรี้ยวกลมกล่อมกำลังดี อร่อยมากครับ ++++++ กุ้งกรอบมะนาว รสชาติเหมือนไก่มะนาวแต่ใช้กุ้งทอดแทน อร่อยอีกเช่นกัน ++++++ ยำสามหลุม เหมือนเอากุ้ง หมึกและปลามาราดน้ำจิ้มซีฟู้ด จานนี้ไม่ถูกปากเท่าไหร่ ++++++ ยำคะน้ากุ้งสด จานนี้ปรุงรสเปรี้ยวกลมกล่อมกำลังดี อร่อยมากครับ ++++++ บ้าน-น้ำ-จันทร์ ในบรรยากาศยามค่ำคืน ดูสบายๆ นั่งกันได้เพลินๆ +++ ถึงแม้ทริปนี้จะเป็นเพียง One Day Trip แค่หนึ่งวันในฉะเชิงเทรา แต่เราก็ได้ทั้งเข้าวัดทำบุญ ได้ไปสัมผัสธรรมชาติแบบติดดิน แล้วยังได้อิ่มท้องกับอาหารอร่อยๆ ในร้านอาหารบรรยากาศดีๆ ริมแม่น้ำบางปะกง เพียงแค่นี้ก็ไม่เสียดายเวลาแล้วล่ะครับ ใครที่มีเวลาว่างช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่อยากเดินทางไปเที่ยวไหนไกลๆ ลองแวะมาเที่ยวที่แปดริ้วแบบผมบ้างก็ได้ รับรองจะได้ความประทับใจกลับไปอย่างแน่นอน สำหรับทริปนี้ก็คงต้องขอจบเพียงเท่านี้ ไว้พบกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีครับ .....
ภาพงามมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ว่าแล้วโหวตสาขาท่องเที่ยวและการเดินทางให้แล้วค่ะ