เดือนเมษายน เดือนที่อากาศร้อนที่สุดของไทย แต่ละวันผ่านไปอากาศมันช่างร้อนได้ร้อนดีจริงๆ ช่วงหลังสงกรานต์ แถวบ้านผมมีฝนตกมาช่วยคลายร้อนอยู่สองวัน พอฝนหายไปก็กลับมาร้อนอีกแล้ว วันอาทิตย์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่บ้านก็ทนร้อนไม่ไหว จะเปิดแอร์ทั้งวันก็เปลืองไฟ เลยต้องหาเรื่องเที่ยวคลายร้อนซะหน่อย นั่งคิดหาที่เย็นๆ อยู่นาน ทะเลก็เพิ่งไปมา น้ำตกแถวบ้านฤดูนี้ก็แทบไม่มีน้ำให้เล่นแล้ว พอคิดถึงสถานที่ที่ยังพอมีน้ำมากๆ ก็นึกไปถึงเขื่อนเก็บกักน้ำ ใกล้ๆ บ้านผมก็มีอยู่เขื่อนเดียว คือ "เขื่อนขุนด่านปราการชล" จ.นครนายก คิดได้แล้วก็ไม่รอช้า รีบบึ่งรถพาเด็กๆ ไปแช่น้ำเล่นเย็นๆ ใจที่ลำธารหน้าเขื่อนขุนด่านฯ กันทันที+++ อากาศร้อนๆ แบบนี้ ขอชวนไปแช่น้ำเล่นให้เย็นสบายที่เขื่อนขุนด่านปราการชล ++++++ เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก อยู่ไม่ไกลเดินทางได้สะดวก +++ จากปราจีนบุรีบ้านผม ไป "เขื่อนขุนด่านด่านปราการชล" จ. นครนายก ถือว่าใกล้มาก ใช้เวลาขับรถประมาณ 45 นาทีก็ถึงแล้ว ตอนนี้ถนนทางไปเขื่อนซ่อมแซมลาดยางเรียบตลอดสาย ขับรถสบายมาก ตอนขับผ่านสะพานด้านหน้าเขื่อนเห็นนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำกันที่ลำธารกันเต็มไปหมด ท่าทางน้ำจะเย็นสบายดี แต่ก่อนจะไปแช่น้ำเล่น ผมขอแวะขึ้นไปบริเวณสันเขื่อน เพื่อเก็บภาพอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนและภาพตัวเขื่อนไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อย เพราะผมยังไม่เคยมาเที่ยวเขื่อนขุนด่านเลยซักครั้ง ผมบอกเด็กๆ ให้ทนร้อนอีกนิดเดี๋ยวก็ได้ไปเล่นน้ำกันแล้ว+++ สันเขื่อนขุนด่านปราการชล มุมมองจากด้านล่าง ++++++ ก่อนถึงตัวเขื่อน จะผ่านพิพิภัณฑ์เขื่อนขุนด่านปราการชลก่อน แต่วันที่ไปเขาปิดเลยไม่ได้เข้าไปชม +++ "เขื่อนขุนด่านปราการชล" หลายคนคงคิดว่าเป็นเขื่อนเล็กๆ แต่จริงๆ แล้ว ที่นี่ถือว่าเป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดยาวที่สุดในประเทศไทยและในโลกเลยนะครับ ตัวเขื่อน ประกอบด้วยเขื่อนหลักและเขื่อนรองสร้างด้วยคอนกรีตบดอัด มีความยาวรวม 2,720 เมตร ความสูง (สูงสุด) 93 เมตร รับน้ำที่ไหลจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ผ่านน้ำตกเหวนรกลงสู่อ่างเก็บน้ำ มีความจุ 224 ล้าน ลบ.ม. สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากที่เกิดกับประชาชนชาวนครนายก และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งนอกจากจะใช้ประโยชน์ทางชลประทานแล้ว ปัจจุบันยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครนายกด้วย+++ วงเวียนน้ำพุก่อนถึงทางขึ้นสันเขื่อน ++++++ รูปปั้นโขลงช้างที่วงเวียนน้ำพุ จากมุมนี้จะเห็นตัวเขื่อนเป็นฉากหลัง สวยดีเหมือนกันนะ ++++++ สันเขื่อนอีกมุมมองหนึ่ง มุมนี้มองจากวงเวียนน้ำพุ +++ วันที่ผมไปอากาศบนสันเขื่อนก็ร้อนจัดตามที่คาดไว้ แดดแรงมากทีเดียว ผมพาสองเด็กดื้อฝ่าเปลวแดดไปเก็บภาพกับทัศนียภาพสวยๆ ของอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนได้ไม่นานก็ทนร้อนไม่ไหว ต้องหลบแดดเข้าไปนั่งพักในเต๊นท์อำนวยการใกล้สันเขื่อน ที่นี่มีบริการนั่งรถนำเที่ยวชมเขื่อนด้วย ค่าบริการคนละ 20 บาท แดดร้อนๆ แบบนี้ให้เดินเที่ยวเองทั้งหมดก็คงไม่ไหว ผมเลยต้องใช้บริการรถนำเที่ยวซะหน่อย รถจะพาเราวิ่งไปตามสันเขื่อน มีเจ้าหน้าที่คอยบรรยายประวัติความเป็นมาและแนะนำจุดน่าสนใจของเขื่อนให้ฟังกันด้วย นั่งรถไปชมบรรยากาศสองฟากเขื่อนไปก็ทำให้เพลินจนลืมร้อนไปได้เหมือนกัน+++ เห็นป้ายนี้เมือไหร่ก็แสดงว่าเราขึ้นมาถึงด้านบนสันเขื่อนกันแล้ว ++++++ มองจากด้านบนสันเขื่อน จะเห็นวิวอ่างเก็บน้ำสวยๆ แบบนี้ ++++++ ภาพอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนแบบแนวนอนบ้าง ++++++ อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนจะรับน้ำมาจากน้ำตกเหวนรก อช.เขาใหญ่ ++++++ หันไปอีกด้าน จะมองสันเขื่อนเป็นแนวยาวเลยล่ะครับ ++++++ ขอเก็บภาพกับวิวสวยๆ บนสันเขื่อนกันหน่อยนะครับ ++++++ พระตำหนักที่ประทับของพระราชวงศ์ ส่วนนี้ไม่เปิดให้ขึ้นไปชมนะครับ ++++++ ถนนบนสันเขื่อน เราเดินมาได้แค่ประตูที่เห็น ต่อจากประตูไม่อนุญาติให้ผ่านเข้าไป ++++++ ด้านล่างของเขื่อนอีกฝั่งหนึ่ง ด้านนี้จะปล่อยน้ำออกมาเป็นลำธารเล็กๆ ++++++ ประตูน้ำด้านล่างวันนี้ปล่อยน้ำไม่แรง เพราะน้ำในเขื่อนเหลือค่อนข้างน้อย ++++++ มีรถบริการนำเที่ยวชมเขื่อนด้วยครับ ราคาคนละ 20 บาท ++++++ พร้อมแล้วนั่งรถไปชมเขื่อนกันเลยดีกว่า ++++++ ทัศนียภาพสวยๆ ที่เห็นระหว่างนั่งรถไปตามสันเขื่อน +++ หลังเที่ยวชมและเก็บภาพบนสันเขื่อนจนเป็นที่พอใจแล้ว ก็ถึงเวลาที่ผมจะพาสองเด็กดื้อไปแช่น้ำเล่นเย็นๆ ใจกันแล้ว ผมขับรถจากสันเขื่อน กลับลงมาด้านล่างบริเวณด้านหน้าเขื่อน ซึ่งจะมีลำธารเล็กๆ เกิดจากน้ำที่ปล่อยออกมาจากเขื่อน สองฝั่งลำธารจะมีร้านค้าบริการอาหารและเครื่องดื่ม และให้เช่าห่วงยางด้วย ในวันที่อากาศร้อนๆ แบบนี้ มีนักท่องเที่ยวพาลูกเด็กเล็กแดงมาเล่นน้ำกันเต็มไปหมด กิจกรรมที่ฮิตที่สุดก็เห็นจะเป็น การล่องห่วงยางลอยไปตามลำน้ำ นอกจากนี้ยังมีแก่งเทียม และแก่งสามชั้นให้นักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยได้มาสัมผัสความตื่นเต้นจากการพายเรือยางล่องแก่งกันด้วยครับ+++ ลำธารด้านหน้าเขื่อน ที่เราจะไปนอนแช่น้ำกันในวันนี้ ++++++ บริเวณริมฝั่ง มีร้านขายอาหารและเครื่องดื่มเรียงรายเป็นแนวยาว ++++++ กิจกรรมยอดฮิตของที่นี่ ก็คือการล่องห่วงยางไปตามลำธารแบบนี้ +++ น้ำในลำธารที่ไหลมาจากเขื่อนนี้แม้จะไม่ใสแจ๋วแต่ก็สะอาดใช้ได้ การได้มานั่งแช่น้ำในลำธาร ปล่อยให้น้ำเย็นเฉียบไหลเอื่อยๆ ผ่านตัวเราไป ถือเป็นการคลายร้อนได้เป็นอย่างดี และลำธารที่นี่ยังตื้น เหมาะสำหรับเด็กๆ ด้วย สองดื้อของผมยืนเล่นน้ำได้อย่างสบาย สนุกกันใหญ่เลยล่ะครับ เล่นน้ำกันอยู่พักใหญ่ เด็กๆ เริ่มหนาวก็เลยต้องพาขึ้นจากน้ำ เช็ดเนื้อเช็ดตัวเปลี่ยนชุดเรียบร้อย ก่อนกลับบ้านหาเสื่อมาปู ซื้ออาหารว่างมามานั่งทานกันริมน้ำ ได้บรรยากาศเหมือนไปปิ๊กนิกยังไงยังงั้นเลยครับ+++ ลงไปเล่นน้ำในลำธารด้วยกันเลยนะครับ ++++++ สองดื้อลงเล่นน้ำสนุกกันใหญ่เลยล่ะครับ ++++++ น้ำตื้นมาก เด็กๆ เล่นกันได้อย่างปลอดภัย++++++ ดื้อใหญ่เดินลุยน้ำเล่น เพลินไปเลย ++++++ ดื้อเล็กไม่กล้าเดินไปไหน ขอนั่งแช่น้ำอย่างเดียว +++ "เขื่อนขุนด่านปราการชล" เป็นเขื่อนอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ใครอยู่แถวๆ นี้ หากทนร้อนไม่ไหว ก็อยากให้ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาแช่น้ำเย็นๆ คลายร้อนกันที่นี่ แล้วจะลืมคำว่าร้อนไปได้ชั่วคราวเลยล่ะครับ สำหรับทริปสั้นๆ นี้ก็คงจะจบเพียงเท่านี้ ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีครับ
เห็นแล้วอยากไปมั่ง
เคยเห็นภาพถ่ายเขื่อนตอนหน้าหนาวจาก FW mail
สวยมากเลย ... จดๆๆๆๆๆ ไว้ .. เก็บตังค์เที่ยวๆๆ อิอิ