++พาเที่ยวตามคำขวัญจังหวัดปราจีนบุรี ต้อนรับปีแห่งการท่องเที่ยวปราจีนบุรี 2553++







          คำขวัญข้างต้น บางคนอาจเคยได้ยิน บางคนก็อาจไม่คุ้นเคย ก็ขอบอกให้ทราบตรงนี้เลยแล้วกันครับ ว่าคำขวัญดังกล่าว เป็น "คำขวัญของจังหวัดปราจีนบุรี" สถานที่ทำงานของผมเองครับ วันนี้อยู่ว่างๆ ในวันหยุด ผมขอถือโอกาสนี้พาเที่ยวจังหวัดปราจีนบุรีไปตามสถานที่หรือจุดน่าสนใจที่ปรากฎอยู่คำขวัญจังหวัด เผื่อจะได้เป็นข้อมูลให้กับผู้สนใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดปราจีนบุรีต่อไปครับ


"ศรีมหาโพธิ์คู่บ้าน"

          ประโยคแรกในคำขวัญหมายถึง "ต้นศรีมหาโพธิ์" ซึ่งเป็นกิ่งพันธุ์ของต้นพระศรีมหาโพธิ์อันเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า กิ่งพันธุ์นี้เจริญเติบโตแผ่กิ่งก้านสาขามาแต่สมัยเมืองโบราณศรีมโหสถจวบจนปัจจุบัน ตั้งอยู่ในเขตวัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ นับเป็นต้นไม้ที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานนับพันปี และมีความสำคัญจนถูกนำไปใช้เป็นตราประจำจังหวัดปราจีนบุรีเลยครับ




+++ ภาพต้นศรีมหาโพธิ์ ที่ปรากฏอยู่ในตราประจำจังหวัดปราจีนบุรี +++





+++ ต้นศรีมหาโพธิ์ อยู่ในบริเวณวัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ แห่งนี้ +++



          "ต้นศรีมหาโพธิ์" เป็นต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ลำต้นวัดโดยรอบประมาณ 20 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 25 เมตร มีเรื่องราวเล่าว่าเป็นหน่อจากต้นโพธิ์ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับนั่งบำเพ็ญเพียรและตรัสรู้ ต่อมาสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ภิกษุณีสังฆมิตาเถรี ซึ่งไปเผยแพร่พระพุทธศาสนายังลังกาทวีปพร้อมกับพระมหินทร์เถระ ได้นำเอาหน่อโพธิ์ไปปลูกยังลังกา


และในระยะหลังพุทธศาสนิกชนในบริเวณอื่นที่อยู่ไกล ก็ได้นำเอาหน่อพระศรีมหาโพธิ์นี้ไปปลูกยังท้องถิ่นของตนเพื่อเป็นพุทธานุสติ และสันนิษฐานว่าต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิต้นนี้นำหน่อพระศรีมหาโพธิ์มาจากเมืองอนุราชปุระ ประเทศลังกา มาปลูกเป็นต้นแรกเมื่อประมาณ 2,000 ปีมาแล้ว ต้นศรีมหาโพธิ์นี้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดปราจีนบุรี เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวปราจีนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง มีงานนมัสการเวียนเทียนรอบพระศรีมหาโพธิในวันวิสาขบูชาเป็นประจำทุกปี




+++ ต้นศรีมหาโพธิ์ เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย +++





+++ ใบโพธิ์บนต้นศรีมหาโพธิ์ สืบทอด DNA มาจากต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับเมื่อคราวตรัสรู้ +++






"ไผ่ตงหวานคู่เมือง"

ประโยคที่สองในคำขวัญ หมายถึง "ไผ่ตงหวาน" ของ จ. ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ นับเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัด มีการปลูกเป็นสวนขนาดใหญ่แห่งแรกของประเทศ


ปราจีนบุรีปลูกไผ่ตงมากในเขต อ. เมือง ไผ่ตงปราจีนบุรีมีรสหวานมากกว่ารสขื่น ด้วยสภาพภูมิอากาศซึ่งได้รับอิทธิพลความชื้นจากเทือกเขาใหญ่ เอื้อต่อการเจริญเติบโตของไผ่ตง ประกอบกับการคัดเลือกสายพันธุ์รวมถึงวิธีการปลูกของชาวสวนซึ่งเป็นภูมิปัญญาถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นกล่าวคือ เป็นการปลูกแบบ "ไผ่หมก" เมื่อไผ่เริ่มแทงหน่อชาวสวนจะใช้ถุงพลาสติกที่เรียกกันว่าถุงดำ บรรจุขี้เถ้าหรือแกลบ แล้วคว่ำถุงครอบหน่อไผ่ไว้จนกระทั่งหน่อโต วิธีนี้นอกจากป้องกันแมลงแล้วยังทำให้หน่อไม้มีสีขาว เนื้อนุ่มไร้เสี้ยน และรสชาติหวานอร่อย


ไผ่ตงจะเริ่มแตกหน่อเมื่อมีอายุ 3 ปี และจะขุดหน่อได้ตั้งแต่เดือน มี.ค.-ต.ค. ปัจจุบันไผ่ตงที่นิยมปลูกมากที่สุดในปราจีนบุรีมี 2 สายพันธุ์ คือ ตงหม้อหรือตงใหญ่ และตงดำหรือตงกลาง ทั้งสองพันธุ์นี้ให้หน่อใหญ่ น้ำหนักดี เนื้อหน่อไม้ละเอียด ไม่มีเสี้ยน รสชาติหวาน นอกจากนี้ยังปลูกไผ่ตงพันธุ์ตงเขียวและพันธุ์ตงเล็กด้วย

ข้อมูลจาก : //www.nairobroo.com




+++ ไผ่ตงหวาน ผลผลิตทางการเกษตรที่ขึ้นชื่อของจังหวัดปราจีนบุรี +++





+++ มาปราจีนบุรี อย่าลืมแวะซื้อหน่อไม้ไผ่ตงหวาน รสชาติดีกลับบ้านด้วยนะครับ +++






"ผลไม้ลือเลื่อง"

ประโยคที่สามในคำขวัญ หมายถึง "ผลไม้ของเมืองปราจีนบุรี" ที่ได้ชื่อว่ารสชาติดีไม่เป็นรองใครครับ

จังหวัดปราจีนบุรีมีแม่น้ำปราจีนบุรีไหลผ่าน จึงมีความชุ่มชื้นอุดมสมบูรณ์ เหมาะสมกับการทำสวนผลไม้นานาชนิด ผลไม้ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดปราจีนบุรีมีหลายชนิด ได้แก่ "ทุเรียนปราจีน" ที่มีเนื้อหวาน กลิ่นไม่แรง เก็บไว้ได้นานกว่าทุเรียนพันธุ์อื่น ผลไม้อื่นๆ ที่ขึ้นชื่อก็คือ "กระท้อนพันธุ์อีล่าและพันธุ์ปุยฝ้าย" ซึ่งมีผลโต เนื้อในสีขาวนวลเป็นปุยนุ่มหนา รสชาติถูกปากผู้บริโภค "มะปรางหวานปราจีนบุรี" ที่มีลักษณะเด่นกว่าที่อื่นคือ ผลโต ผิวสวย เปลือกบาง เนื้อหนา เมล็ดเล็ก รสชาติหวานมัน และมีกลิ่นหอม น้ำหนักโดยเฉลี่ยประมาณ 12-13 ผล (ผลขนาดเท่าไข่ไก่) ต่อกิโลกรัม




+++ ผลไม้หลากหลายชนิด เลือกซื้อได้ที่ปราจีนบุรี +++



          สำหรับท่านที่สนใจ อยากหาซื้อผลไม้เป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน ผมขอแนะนำให้ไปที่ "ตลาดผลไม้หนองชะอม" ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสุวรรณศร (รังสิต-นครนายก) กม. 151 บริเวณทางแยกที่จะเลี้ยวมาทางจังหวัดปราจีนบุรีครับ ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดกลางขายสินค้าพื้นเมือง ผลไม้ ของฝากจังหวัดปราจีนบุรีและจากจังหวัดอื่น ๆ ของขายในตลาดส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าภายในจังหวัดปราจีนบุรี โดดเด่นด้วยผลไม้ตามฤดูกาล - ทุเรียนเนื้อหนา กระท้อนเนื้อนุ่ม มังคุดหวานหอม ส้มโอ มะไฟ และหน่อไม้ไผ่ตงซึ่งปัจจุบันมีขายตลอดทั้งปี




+++ ตลาดหนองชะอม แหล่งขายผลไม้และของฝากแหล่งใหญ่ของปราจีนบุรี +++



          นอกจากนี้แม่ค้ายังรับสินค้าจากต่างถิ่นมาจำหน่ายในช่วงนอกฤดูผลไม้ของปราจีนบุรี สินค้าจึงมีความหลากหลายผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล นักท่องเที่ยวที่เดินทางจะขากลับหรือขาไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวในเขตจังหวัดปราจีนบุรีหรือจังหวัดใกล้เคียง เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติทับลาน กิจกรรมล่องแก่งหินเพิง ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นต้น จะแวะเลือกซื้อไปรับประทานระหว่างการเดินทางหรือเป็นของฝากกลับบ้านสามารถซื้อได้ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ แม่ค้าเปิดขายทุกวันไม่เว้นวันหยุดครับ




+++ แวะมาเที่ยวปราจีนบุรีแล้ว อย่าลืมเลือกซื้อผลไม้กลับบ้านกันนะครับ +++






"เขตเมืองทวารวดี"

ประโยคสุดท้ายในคำขวัญ หมายถึง จังหวัดปราจีนบุรีมีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน นับย้อนไปได้ถึงสมัยทวารวดี โดยมีการพบหลักฐานทางโบราณคดีหลายแห่ง ที่สำคัญคือ เมืองโบราณศรีมโหสถและเมืองโบราณสระมรกต ที่มีอายุกว่า 2,500 ปี ซึ่งผมจะพาไปเที่ยวชมกันในวันนี้ครับ

กลุ่มโบราณสถานเมืองศรีมโหสถ

          ตั้งอยู่ที่บ้านโคกวัด ตำบลโคกปีบ เป็นเมืองโบราณสมัยทวารวดีขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นรูปไข่ หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมมน มีเนื้อที่ประมาณ 700 ไร่ ลักษณะของเมืองมีคูเมือง และคันดินกำแพงเมืองล้อมรอบคูน้ำ ภายในเมืองมีโบราณสถาน เนินดิน สระน้ำ บ่อน้ำ กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปกว่า 100 แห่ง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยทวารวดี หลักฐานส่วนใหญ่ที่พบมักจะเกี่ยวเนื่องกับศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู เช่น เทวาลัย เทวรูป ศิวลึงค์


ภายในเมืองโบราณแห่งนี้ยังคงปรากฏสระน้ำโบราณ 2 แห่ง คือ "สระแก้วและสระขวัญ" อยู่ห่างจากคูเมืองประมาณ 100 ม. ลักษณะเป็นสระรูปสี่เหลี่ยม ที่ขอบสระแก้วมีภาพสลักรูปสัตว์บนศิลาแลง เช่น ช้าง สิงห์ เสือ มกร ฯลฯ นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าเป็นสระน้ำที่ใช้ประกอบพิธีกรรม




+++ สระแก้ว เป็นสระน้ำโบราณที่อยู่ในเขตเมืองโบราณศรีมโหสถ +++





+++ ที่ดื้อใหญ่ชี้อยู่ เป็นแผ่นหินจำลองแสดงภาพสลักรูปสัตว์ที่อยู่ตามขอบสระแก้ว +++



กลุ่มโบราณสถานสระมรกต

          ตั้งอยู่ที่วัดสระมรกต ตำบลโคกไทย อำเภอศรีมโหสถ เป็นกลุ่มโบราณสถานทางพุทธศาสนาขนาดใหญ่ ที่สร้างซ้อนทับกันหลายสมัย เริ่มตั้งแต่ก่อนพุทธศตวรรษที่ 14 เป็นต้นมาจนถึงพุทธศตวรรษที่ 18 ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างศิลาแลงและอิฐ ส่วนใหญ่คงเหลือเฉพาะรากฐานอาคารเท่านั้น




+++ ซุ้มทางเข้าวัดสระมรกตซึ่งเป็นที่ตั้งโบราณสถานสระมรกต +++





+++ โบสถ์วัดสระมรกต จะเห็นซุ้มประตูเป็นโลหะ สวยแปลกตาดี +++





+++ พระประธานภายในโบสถ์วัดสระมรกต +++





+++ ดื้อใหญ่ขอไหว้พระก่อน เดี๋ยวค่อยไปชมโบราณสถานกัน +++



          ก่อนที่จะเดินทางไปชมสถานที่จริงของกลุ่มโบราณสถานสระมรกต ขอแนะนำให้เข้าเยี่ยมชม "อาคารศรีมโหสถ" ที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเมืองศรีมโหสถ เพื่อเป็นแนวทางในการเยี่ยมชมและปูพื้นทำความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพภูมิประเทศและความสัมพันธ์กับกลุ่มเมืองโดยรอบ ซึ่งจะช่วยให้เราได้มีจินตนาการย้อนกลับไปเมื่ออดีตก่อนพุทธศตวรรษที่ 11 ได้เป็นอย่างดีเลยครับ




+++ เข้าชมนิทรรศการในอาคารศรีมโหสถแห่งนี้ ก่อนไปชมสถานที่จริง +++





+++ แผนผังแสดงสภาพภูมิประเทศและความสัมพันธ์กับกลุ่มเมืองโดยรอบ +++





+++ วัตถุโบราณบางส่วนที่จัดแสดงอยู่ในอาคารศรีมโหสถ +++





+++ ดื้อเล็กยิ้มดีใจที่ได้มาเที่ยวอีกแล้ว +++





+++ แบบจำลองเมืองโบราณสระมรกต อยู่หน้าอาคารศรีมโหสถ +++



          "กลุ่มโบราณสถานสระมรกต" อยู่ห่างมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จากเมืองมโหสถราว 3 กิโลเมตร ตั้งชื่อตามสระน้ำขนาดใหญ่ เรียกตามภาษาปากชาวบ้านว่า สระมรกต เป็นกลุ่มโบราณสถานที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมเขมรโบราณ กำหนดอายุราว พ.ศ. 1400-1800 ประกอบไปด้วย สระมรกต สระบัวล้า ศาสนสถานประจำโรงพยาบาล และร่องรอยของสถูปเก่า ต่อมามีการสร้างวัดขึ้นใหม่ชื่อวัดสระมรกต อยู่ภายในบริเวณกลุ่มโบราณสถานด้วย




+++ ศิลาแลงที่เห็นเป็นส่วนหนึ่งของโบราณสถานสระมรกต +++



"สระมรกต" เป็นอ่างเก็บน้ำ อย่างที่เรียกว่า “บาราย” กว้าง 115 เมตร ยาว 214 เมตร ลึก 3.5 เมตร เนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการบริโภคน้ำของชาวเมืองในราวพุทธศตวรรษที่ 15 - 18 ปัจจุบันมีน้ำตลอดปี กรมศิลปากรดูแลให้คงสภาพเดิมไว้




+++ สระมรกต ในปัจจุบันเห็นเป็นเพียงสระน้ำขนาดย่อมๆ +++



          อาคารส่วนใหญ่ที่โบราณสถานแห่งนี้พังทลายลงเหลือเพียงส่วนฐาน แต่เมื่อพิจารณาจากแผนผังแล้วก็ถือว่าอยู่ในแบบมาตรฐานการวางแผนผังศาสนสถานประจำโรงพยาบาล(อโรคยาศาล) ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่าทั่วไป โดยเพิ่มเติมบ่อน้ำทางด้านหลังของปราสาทประธาน และอาคารอิฐ ที่ปัจจุบันเรียกว่าวิหารรอยพระพุทธบาท อยู่ทางด้านในสุด ซึ่งคงเป็นเพราะว่าศาสนสถานประจำโรงพยาบาลแห่งนี้สร้างทับลงบนวิหารสำหรับประดิษฐานรอยพระพุทธบาทที่มีมาก่อนนั่นเอง




+++ อดีตอาคารโบราณสถาน ขณะนี้หลงเหลือให้เห็นเพียงแค่ส่วนฐานเท่านั้นเอง +++





+++ ศิลาแลงก้อนนี้เคยเป็นส่วนเศียรพญานาคเจ็ดเศียร +++





+++ วันนี้พาสองเด็กดื้อมาชมอดีตที่เคยรุ่งเรืองของจังหวัดบ้านเกิดของเค้า +++





+++ ดื้อใหญ่บริเวณเสานางเรียงด้านข้างโบราณสถาน +++





+++ ที่เห็นล้อมรั้วกั้นอยู่เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่บริเวณด้านหลังของปราสาทประธาน +++





+++ ในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ทุกวันนี้ก็ยังมีน้ำอยู่ +++



"รอยพระพุทธบาทคู่" อยู่ภายในวิหารรอยพระพุทธบาทในเขตโบราณาสถานสระมรกต สลักลึกลงไปในพื้นศิลาแลงธรรมชาติ วัดขนาดความกว้างรวมของพระบาททั้งสองข้างรวม 3.10 เมตร พระบาทข้างซ้ายยาว 3.50 เมตร พระบาทข้างขวายาว 3.30 เมตร กำหนดอายุอยู่ช่วงราว พ.ศ. 1484 เมื่อเทียบจากจารึกเนินสระบัว


ภายในรอยพระพุทธบาททั้งสองข้างสลักรูปธรรมจักรอยู่ตรงกึ่งกลาง แสดงให้เห็นถึงลักษณะทางประติมาวิทยาอย่างเก่าแก่ที่นิยมอยู่ในงานช่างอินเดีย และลังกา ซึ่งมักจะจำหลักรูปธรรมจักรไว้ที่กึ่งกลางของพระบาท เพื่อแสดงเป็นสัญลักษณ์ว่ารอยพระบาทนี้เป็นของพระพุทธเจ้า หลายครั้งอาจจะสลักลวดลายมงคลอื่นๆ แวดล้อม เช่น ศรีวัตสะ ตรีรัตน์ สวัสดิกะ ฯลฯ ประกอบอยู่ด้วย ระหว่างพระบาทขุดเซาะเป็นร่องรูปกากบาทมีหลุมกลมอยู่ตรงกึ่งกลาง นักวิชาการสันนิษฐานว่ามีไว้สำหรับปักเสาฉัตรหรือเสาเพลิงรองรับเครื่องหมายตรีรัตน์หรือธรรมจักร


รอยพระพุทธบาทคู่เมืองศรีมโหสถนี้ สันนิษฐานว่ามีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 14 เป็นบริโภคเจดีย์สมมติตามคติลังกา เพื่อแสดงว่าพระพุทธศาสนาได้เผยแพร่มา ณ ดินแดนแห่งนี้แล้ว รอยพระพุทธบาทคู่แห่งนี้ เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวปราจีนบุรีเป็นอย่างมาก และทุกปีในช่วงวันมาฆบูชา ชาวปราจีนพร้อมใจกันจัดงานแสดงแสงเสียงยิ่งใหญ่ และมีพิธีเวียนเทียนรอบรอยพระพุทธบาทคู่ เรียกชื่องานว่า "มาฆปูรมีศรีปราจีน" ซึ่งผมจะได้มาแนะนำให้รู้จักกับงานนี้ในโอกาสต่อๆ ไปครับ




+++ รอยพระพุทธบาทคู่ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในอาคารหลังคาคลุมแห่งนี้ +++





+++ ให้ดูภาพรอยพระพุทธบาทคู่องค์จำลองก่อนไปดูของจริงนะครับ +++





+++ อันนี้เป็นภาพรอยพระพุทธบาทคู่ของจริง ปัจจุบันรอยสลักดูเลือนลางลงไปมากแล้ว +++



          หลังจากชมเมืองโบราณของในเขตอำเภอศรีมโหสถทั้งสองแห่งแล้ว แนะนำให้ไปกราบนมัสการพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยทวารวดี นั่นก็คือ"หลวงพ่อทวารวดี" ซึ่งปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ในวิหารหน้าสถานีตำรวจศรีมโหสถ พระพุทธรูปองค์นี้พบที่เนินดินที่อยู่อาศัยนอกเมืองศร๊มโหสถทางทิศตะวันออก ภายในนิคมโรคเรื้อน พบโดยผู้ป่วยโรคเรื้อนขณะพรวนดินเพื่อทำเกษตรกรรม เมื่อปี พ.ศ. 2514




+++ วิหารหลวงพ่อทวารวดี อยู่หน้าสถานีตำรวจอำเภอศรีมโหสถ +++



องค์พระมีลักษณะเป็นพระพุทธรูปยืนปางประธานธรรม ทำจากหินทรายสีเขียวสูง 1.63 เมตร ลักษณะพระพักตร์แบน ริมฝีปากแบะ คิ้วต่อกันเป็นรูปปีกกา เม็ดพระศกใหญ่ พระทวารวดีองค์นี้เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวอำเภอศร๊มโหสถและชาวปราจีนบุรีเป็นอย่างมากเลยครับ




+++ หลวงพ่อทวารวดี พระพุทธรูปเก่าแก่อายุนับพันปี +++





+++ วันนี้สองดื้อได้มากราบขอพรหลวงพ่อทวารวดีด้วย +++



          ไม่ไกลจากอำเภอศรีมโหสถ ก็ยังมีโบราณสถานที่น่าสนใจให้ชมกันอีก ซึ่งโบราณสถานดังกล่าวจะอยู่ในเขต "อำเภอศรีมหาโพธิ" ห่างจากอำเภอศรีมโหสถประมาณ 14 กิโลเมตร ซึ่งสามารถจัดเป็นทริปเดียวกันได้หากมาเที่ยวชมโบราณสถานในจังหวัดปราจีนบุรีครับ แหล่งโบราณคดีในเขตอำเภอนี้ได้แก่

"โบราณสถานลายพระหัตถ์"

          ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองโพรง อำเภอศรีมหาโพธิ เลยที่ว่าการอำเภอศรีมหาโพธิไปทางบ้านโคกขวาง ประมาณ 1.5 กิโลเมตร เป็นลายพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงจารึกไว้บนแผ่นศิลาแลงซึ่งเป็นซากโบราณวัตถุสมัยลพบุรี อายุราวพุทธสตวรรษที่ 12-13 ครั้งเมื่อเสด็จประพาสปราจีนบุรี ปี พ.ศ. 2451




+++ โบราณสถานลายพระหัตถ์ +++





+++ ลายพระหัตถ์รัชกาลที่ 5 ที่จารึกอยู่บนศิลาแลงโบราณ+++





+++ วันนี้พาดื้อใหญ่มากราบนมัสการลายพระหัตถ์ด้วย+++



"โบราณสถานหลุมเมือง"

          อยู่ฝั่งถนนตรงข้ามกับโบราณสถานลายพระหัตถ์ ลักษณะเป็นหลุมขนาดต่างๆ ขุดเจาะลึกลงไปในศิลาแลงธรรมชาติ ไม่ทราบว่าขุดขึ้นในสมัยใดและทำขึ้นเพื่อเหตุอะไร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2451 มีพระราชสันนิษฐานว่า "เป็นหลุมสำหรับโขลกปูนที่จะปั้นลวดลายประดับปรางค์ปราสาท" แต่คำบอกเล่าของคนรุ่นเก่ากล่าวว่า เป็นหลุมสำหรับเล่นกีฬาพื้นบ้านเรียกว่า "การเล่นหลุมเมือง"




+++ หลุมตื้นๆ บนศิลาแลง ที่โบราณสถานหลุมเมือง +++





+++ สองดื้อ กำลังดื้ออยู่ในหลุมเมือง +++



"เทวสถานพานหิน"

          ตั้งอยู่ที่บ้านโคกขวาง ตำบลหนองโพรง อำเภอศรีมหาโพธิ เลยที่ว่าการอำเภอไปทางบ้านโคกขวางประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วแยกขวาเข้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร สันนิษฐานว่าเป็นเทวาลัยประดิษฐานเทวรูปพระนารายณ์ มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 11-12 ในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 1 แห่งเจนละ ตรงกลางของซากเทวาลัยมีฐานของเทวรูป ตะแคงอยู่มีลักษณะคล้ายพานจึงเรียก "พานหิน"




+++ สองดื้อขออาสาพาไปชมเทวสถานพานหินกันนะครับ +++





+++ ส่วนฐานของเทวรูปลักษณะคล้ายพาน เป็นที่มาของชื่อเทวสถานพานหิน +++



          ถึงตรงนี้ก็เป็นอันว่าผมได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวตามคำขวัญจังหวัดปราจีนบุรีครบถ้วนแล้วนะครับ หวังว่าการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวจากการที่ผมได้ไปสัมผัสมาด้วยตัวเองครั้งนี้ คงจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่แวะเวียนผ่านมาท่องเที่ยวที่จังหวัดปราจีนบุรีได้มากพอสมควรนะครับ เพราะเท่าที่ผมค้นดูข้อมูลตาม website ต่างๆ พบว่าข้อมูลจากประสบการณ์จริงของสถานที่ท่องเที่ยวหล่านี้ยังมีค่อนข้างน้อยเลยล่ะครับ สำหรับบล็อกนี้ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ ไว้พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีครับ










Create Date : 02 มีนาคม 2553
Last Update : 30 มิถุนายน 2556 1:59:58 น. 49 comments
Counter : 21271 Pageviews.

 
สวัสดียามค่ำค่ะ..

เหมือนได้มาเที่ยวเมืองปราจีนบุรีจนครบเลยนะคะ
จำได้ว่าตอนนั้นที่ไปวังน้ำเขียว
ก็ผ่านเส้นทางนี้เหมือนกันค่ะ
แต่เวลามีน้อย เลยไม่ได้แวะเที่ยวอ่ะ...

ผ่านปราจีนทีไร
ก็ซื้อหน่อไม้กลับมาทุกทีค่ะ
เอามาให้แม่ต้มกับกระดูกหมู หวาน อร่อยจริงๆ
(ไม่พ้นเรื่องกินอีกแล้วสิเรา....)


โดย: chenyuye วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:0:38:12 น.  

 

มาชมเมื่อไหร่..ไม่เคยผิดหวังจริงๆ ค่ะ
สำหรับบล็อกนี้ ....
ยิ่งกว่าได้ไปเที่ยวเองอีกค่ะ 555++


โดย: star_paradise วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:0:43:43 น.  

 
แวะมาเที่ยวด้วยคนค่ะ

น้องน่ารักมากๆค่ะ


โดย: นาฬิกาสีชมพู วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:1:07:19 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะ

ไม่เคยไปเที่ยวปราจีนบุรีเลยค่ะ ขอเที่ยวผ่านบลอคนี้ละกัน โบราณสถานเนี่ยก็มีเยอะเหมือนกันนะคะ นึกว่าจะมีแค่ที่อยุธยา สุโขทัยประมาณนั้น

อากาศคงร้อนน่าดูเลยนะคะ น้องดื้อ เหงื่อท่วมเชียว


โดย: อาราเล่ กะ กั๊ตจัง วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:7:41:44 น.  

 
แวะมาทักทายค่า ^.^


ขอตามไปเที่ยวปราจีนบุรีด้วยเลย ... ชอบรูปใบโพธิ์มาก ๆ สวยจัง ว่าแต่อายุสองพันปีเชียว ตกใจเลยค่ะ

โบราณสถานสวยงามจังค่ะ ไม่เคยรู้เลย ว่าที่นี่ก็มีเหมือนกัน


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: phety talon วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:10:05:45 น.  

 
ไปปราจีนไม่เคยได้เที่ยวเจาะลึกแบบนี้เลย
เพราะไม่รู้ว่าที่ไหนมีอะไร
อ่านบล๊อกนี้แล้ว ปราจีนฯ มีอะไรน่าสนใจแยะเลย

ตอนนี้มะปรางออกแล้ว
คงต้องได้หาเรื่องไปเที่ยวปราจีนฯ แล้วล่ะค่ะ

(รูปสวยและข้อมูลดีมากเลย ขอบคุณนะคะ)


โดย: narellan วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:10:27:48 น.  

 
ตามมาชมปราจีนเป็นคนที่ 7

เหมือนได้ไปเที่ยวอย่างคุณหนึ่งว่าเลยค่ะ



โดย: มิลเม วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:10:46:25 น.  

 
ผ่านก็บ่อย คราวหน้าต้องแวะบ้างแล้วค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:12:08:09 น.  

 
แวะมาชมเมืองศรีมหาโพธิครับ
เคยแต่ผ่าน แบ่อยมากด้ว
แต่ไม่เคยแวะเที่ยวซักครั้ง
ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ

ปล. สองดื้ออยู่หลุมเมืองน่ารักดีเน๊าะ



โดย: wicsir วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:14:24:12 น.  

 
ขอตามไปเที่ยวปราจีนด้วยค่ะ
เมืองผลไม้จริง ๆ ผลไม้น่าทาน โบราณสถานก็น่าเที่ยว
เห็นไผ่ตงหวานแล้วอยากทานจัง

ขอบคุณที่นำเที่ยวนะคะ ข้อมูลเพียบเลย ดื้อเล็กดื้อใหญ่น่ารักจังเลยค่ะ^o^


โดย: pathy kp วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:14:45:31 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ขอบคุณข้อมูลก่อนเลยค่ะ
ละเอียดแน่นปึ๊ก

ดื้อใหญ่ ดูยังไงก็ไม่ดื้อนะคะ
ดูท่าไหว้พระสิคะ สำรวมอย่างนั้น
จิตใจตั้งมั่นแน่วแน่

ดื้อเล็กก็ตาแป๋วแหวว น่าฟัดชะมัด

มีความสุขกันนะคะเด็ก ๆ
ขอบคุณค่ะ


โดย: raya-a วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:10:23:22 น.  

 


โดย: นาฬิกาสีชมพู วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:11:50:41 น.  

 
ตามสองดื้อเที่ยวด้วยคนนะคะ
ภาพสวยมากๆ
เหมือนได้ไปด้วยตัวเองเลย
คิดถึงสองดื้อมากค่า


โดย: มาดามเฟย IP: 203.144.144.165 วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:12:55:53 น.  

 
น่าไปเที่ยวเหมือนกันนะคะ

"ปราจีนบุรี" มีที่น่าไปทุกอำเภอเลยมั้งคะ

เจ้าตัวโตแก้มแดงเชียว แดดร้อนหล่ะสิ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:15:30:45 น.  

 
ภาพสวยใส ดีจังเลย คราฟฟ


โดย: พระจันทร์สัญจร วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:23:06:35 น.  

 
สุดยอดคะ ภาพสวยมาก แจ่มเลยคะ
เด็กๆน่ารักจังเลยอ่ะคะ

ปล.จะแวะมาเยี่ยมชมบ่อยๆนะคะ


โดย: thi_noi วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:23:09:38 น.  

 
รูปสวย แจ่ม แหล่มสุดๆค่ะ

นางแบบและนายแบบตัวน้อยน่ารักเหมือนเดิมเลย ชอบๆ


โดย: ด.ญ คณิตกร วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:2:27:49 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะ...พ่อของเด็กดื้อ

มาตามไปเที่ยวปราจีนด้วยคนค่ะ ข้อมูลเพียบเลย

ไม่เคยไปปราจีน ไม่เคยรู้ข้อมูลที่เที่ยวที่จังหวัดนี้เลย

พ่อเด็กดื้อเอาข้อมูลมาให้เยอะเลย รูปสวยอย่างกับไปเที่ยวเอง

ไม่เคยผิดหวังเลย

หนูเห่งชอบรูปดื้อน้อย ตาแป๋วจังเลยค่ะ เด็กดื้อยิ่งโตยิ่งน่ารัก


โดย: BiBie IndyGirl วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:8:36:34 น.  

 
ละเอียดกว่า ททท. อีก น่าไปแต่คงร้อนง่ะ


โดย: Tree Rose วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:12:23:57 น.  

 
ขอบคุณ คุณNET-MANIA ที่แวะไปเยื่ยม blog เรา
ที่ Palio เคยแวะไปครั้งหนึ่ง แต่คนเยอะมากๆเลย
ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่
แต่ที่นี่ ก็โอเค เลย ไม่ถึงกับต้องแย่งกันถ่ายรูป อิอิ

อ้อ..ถ้ามีโอกาส จะไปเที่ยว จ.ปราจีน นะคะ


โดย: tobeLove วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:13:21:07 น.  

 
หวัดดีครับ
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบล็อก
ปราจีน มีของดีมากมายเลย เห็นมะปรางหวานน่าแวะไปกิน
ภาพสวยๆ ทั้งนั้นเลยครับ


โดย: the mynas วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:15:53:00 น.  

 
ตามสองเด็กดื้อมาเที่ยวด้วยคนคะ


โดย: WikiPK วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:19:31:02 น.  

 
สวัสดีค่า มาชมรูปสวยๆ เรื่องเยี่ยม ๆ ..

ใบโพธิ์ก็สวย.. ต้นไผ่ก็สวย.. มะปราง.. วู้.. พุทธา..

.. จับเด็กลงหลุมด้วย..คิคิ เดี๋ยวจะจับผู้ใหญ่ลงหลุมสามพันโบกให้ดูนะคะ ..

เสาร์นี้แหละ ไม่พลาด..


โดย: poongie วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:21:34:50 น.  

 
สวัสดียามหัวค่ำค่ะ

แวะมาตามสองดื้อไปเที่ยวด้วย
ไม่รู้มาก่อนเลยนะคะ ว่าปราจีนมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่างนี้ด้วย
(ทำไมตอนไปเที่ยวเพื่อนไม่นำเสนอนะ บ้านเกิดตัวเองแท้ๆ)

แต่สิ่งหนึ่งที่จำได้ คือหน่อไม้อ่ะค่ะ
เอามาต้มจืดกระดูกหมู หร่อยดีแท้ๆ



โดย: แก่นฝัน วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:21:59:11 น.  

 
ดื้อเล็กตาแป๋วแหววมากเลยค่ะ ไปอ.นาดีบ่อยๆค่ะน้ามีรีสอร์ทอยู่ที่นั่นแต่ไม่ค่อยมีคนไปเที่ยวที่รีสอร์ทของน้าหลอกค่ะไม่ค่อยมีอะไรดึงดูดเท่าไร เคยคิดเหมือนกันว่าอยากลองขับรถไปเที่ยวแถวศรีมหาโพธิดูบ้างแต่ก็ยังไม่ได้ไปซักทีเพราะปราจีนบุรีนี่เป็นเมืองโบราณมากๆทีเดียวและก็ขับรถไปไม่ไกลด้วย ถ่ายรูปสวยมากๆเลยนะคะ สาระก็เยอะดีด้วย


โดย: hellojaae (hellojaae ) วันที่: 5 มีนาคม 2553 เวลา:1:15:10 น.  

 
สวัสดีค่ะ
เกิดที่ปราจีนบุรีค่ะ แต่มาโตชลบุรีอยู่ระยะหนึ่ง
ก่อนจะมาอยู่กรุงเทพฯแบบถาวร
แต่ก็ยังแวะเวียนไปเยี่ยมญาติที่ปราจีนอยู่บ่อยๆ

รูปสวยมากเลยค่ะนายแบบนางแบบตัวน้อยก็น่ารักมากๆ

ขอบคุณที่ชมว่าปั้นลีลาวดีสวยนะคะ
เป็นกำลังใจที่ดีมากค่ะแต่ก็ยังอยากทำให้ดีกว่านี้
คือยังไม่เข้าเกณฑ์ที่ตัวเองหวังไว้น่ะค่ะ
ต้องกลับไปแก้ตัวใหม่อีกซักครั้ง
ว่างๆลองพาเด็กๆไปปั้นดูนะคะไม่ไกลจากปราจีนด้วย
ได้สมาธิดีค่ะ เด็กๆได้วิ่งเล่นปลดปล่อยพลังงานในสวนด้วย


โดย: ขนมไทยห่อใบตอง วันที่: 5 มีนาคม 2553 เวลา:15:00:07 น.  

 
รูปสวย ๆ ทั้งนั้นเลย
ไม่เคยไปปราจีนฯซะที คงต้องหาโอกาสไปแวะบ้าง
..ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมกันนะคับ


โดย: ibozla วันที่: 5 มีนาคม 2553 เวลา:15:23:01 น.  

 
ขอบคุณที่ไปเยี่ยมบล็อกนะคะ ^^

รูปที่บล็อกนี้สวยมากกกกกก น้องๆน่ารักมากค่ะ แล้วจะมาเยี่ยมบ่อยๆแน่นอนค่ะ


โดย: INDYINDARE.IC วันที่: 5 มีนาคม 2553 เวลา:15:53:15 น.  

 
ภาพสวยจังค่ะ



โดย: จีนี่ในกระจกแก้ว วันที่: 5 มีนาคม 2553 เวลา:20:04:11 น.  

 
แวะมาเยี่ยมตอนสายๆ ก่อนจะไปทัวร์กรุงเทพอีกรอบค่ะ

Happy weekend นะคะ



โดย: จีนี่ในกระจกแก้ว วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:8:47:45 น.  

 
ขอบคุณที่ไปเยี่ยมบล๊อคนะคะ
เด็กๆ น่ารักมากเลยค่ะ
ไว้มีโอกาสจะไปเที่ยวปราจีนบ้างนะคะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ


โดย: Lovely December วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:9:30:29 น.  

 
อืม..มิน่าขับรถผ่านปราจีน..ทีไรมีหน่อไม้ขายตลอดทาง เราก็ชอบซื้อกลับมาทุกที เพราะทำอาหารได้หลายอย่าง เคยแวะเที่ยวเมืองโบราณ คะ สระมรกตก็ไป แต่ไม่ค่อยมีอะไร ..หาทางออกไม่ถูกเลย ..รูปบล็อกนี้ สวยมากเข้าใจว่ามืออาชีพ ขอถามที่สงสัยมานาน หน่อย ว่า.. เวลา ลงรูปทำไมได้รูปใหญ่จัง. ตอนย่อ เราก็ ทำใ้ห้ขนาด ใหญ่แล้วนะ แต่พอมาลง.บ. รูปจะเล็ก ทุกที ไม่รู้เราผิดพลาดตรงไหน..รบกวนนะคะ. หวัดดียามเย็นอากาศร้อน จริง ค่ะวันนี้ ..แต่อย่าใจร้อนนะคะ..


โดย: tifun วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:18:03:50 น.  

 
สวัสดีค่ะ ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ ภาพสวยดีนะคะอยากให้ถ่ายภาพสวยๆอย่างนี้ให้ดูเยอะๆด้วยนะคะฝีมือการถ่ายภาพก็ดีเลยทีเดียวค่ะ


โดย: ลำธาร สายลม ขุนเขา วันที่: 7 มีนาคม 2553 เวลา:9:56:33 น.  

 
เอาห้อยจ๊อจากงานทำบุญบริษัทมาฝากค่ะ



โดย: chenyuye วันที่: 7 มีนาคม 2553 เวลา:11:42:07 น.  

 
หวัดดีค่่ะ คุณพ่อ ของเด็กดื้อ ..
อื ม...ขอบคุณ จริง ๆที่แนะนำ ลองไปแก้ไขแล้ว ใช้ได้ แล้ว ตอ้งบอกตรง ๆ เลยว่าไม่ค่อยสันทัดเลย เรื่องนี้ ไม่รู้มาตั้งนาน เชื่อไหมคะ ว่าตอนทำบล็อก ใหม่ ๆ กว่าจะออกมาได้ ใช้เวลานาน มาก ..แต่ตอนนี้ค่อย ๆเก็บข้อมูล มาเรื่อย ๆ ..เอาเท่าที่พอดูได้ ก็พอ.. เดี๋ยวว่าง ๆต้องกลับไป แก้ ไข บล็อก เก่า ๆ บ้างค่ะ ..ขอบคุณที่มาเยี่ยม และ ให้ ความรู้ จ้า..


โดย: tifun วันที่: 7 มีนาคม 2553 เวลา:12:30:31 น.  

 
ไปสุโขทัยกันต่อนะครับ


โดย: ibozla วันที่: 7 มีนาคม 2553 เวลา:14:56:37 น.  

 
หาโอกาสไปนะคะ

องค์พระจริงๆ งามมากๆ เลยค่ะ



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 7 มีนาคม 2553 เวลา:15:39:36 น.  

 
ผมยังเสียดายชมศรีสัชนาลัยยังไม่จุใจเลย เพราะต้องรีบไปขึ้นเครื่อง
วันหลังมีโอกาสดี ๆ คงต้องหาโอกาสไปใหม่
...ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมกันนะครับ


โดย: ibozla วันที่: 7 มีนาคม 2553 เวลา:17:18:33 น.  

 
แวะมาชมอีกรอบจ้า


โดย: thi_noi วันที่: 7 มีนาคม 2553 เวลา:18:49:16 น.  

 
คิดถึงที่นั่นจังจำได้ว่าตอนเด็กๆเคยไปอยู่ที่นั่น
ที่บ้านลุงบ้านอยู่ติดกับวัดสระมรกตเล้ยครับ
เคยไปเที่ยวมาแล้ว
อืมม
คิดเถิงจัง


โดย: ร็อคๆ IP: 202.149.25.234 วันที่: 24 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:05:16 น.  

 
ดื้อใหญ่ฉายาหรือว่าชื่อจริงคะ


โดย: ชาวใต้ IP: 118.173.32.164 วันที่: 14 สิงหาคม 2553 เวลา:17:12:11 น.  

 
ตอบคุณ ชาวใต้ .............. ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมบล็อกนะครับ ดื้อใหญ่เป็นแค่ฉายาเรียกกันเล่นๆ เพราะความดื้อครับ ไม่ใช่ชื่อจริงๆ หรอกครับ


โดย: NET-MANIA วันที่: 14 สิงหาคม 2553 เวลา:20:11:54 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยครับ คงต้องขอย้อนรอยบ้างแล้ว


โดย: อาเสือ IP: 115.87.45.225 วันที่: 23 กันยายน 2553 เวลา:21:56:32 น.  

 
เด็กๆ น่ารักมากค่ะ
ภาพก็ถ่ายสวย


โดย: ทีสิส IP: 192.168.0.80, 182.52.101.74 วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:0:48:19 น.  

 
ขอให้ยอยกพุทธศาสนา รักษาขอบขัณฑเสมา


โดย: พุทธมามะกะ IP: 113.53.102.113 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2553 เวลา:14:59:31 น.  

 
รูปสระแก้วไม่รู้ตั้งใจให้เห็นตัวเองหรือเปล่า
ส่วนรูปดื้อเล็กกับโม่น่ารักมากครับ


โดย: China_Jull IP: 125.24.224.59 วันที่: 15 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:07:25 น.  

 
ตอบ คุณ China_Jull ..... ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันนะครับ

จริงๆ แล้วรูปสระแก้วที่เห็นเงาผมนั่น ไม่ได้อยากให้เห็นเลยครับ แต่มุมมันบังคับ เลยติดเงาผมมาด้วยซะอย่างงั้น ....



โดย: NET-MANIA วันที่: 19 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:44:03 น.  

 
...โบสถ์สร้างด้วยวัสดุ สแตนเลส(ทอแสงเงิน-ทรัพย์) ทองสัมฤทธิ์(ความสำเร็จ)หินแกรนิต...พระประธานด้วยช่างนิมิต...ร่วมแรงกาย-ใจ ของอุบาสก-อุบาสิกา ชาวบ้านร้านค้า...ช่วยสร้างช่วยทำด้วยแรงจิตศรัทธาโดยแท้จริง...ฉลองฝังลูกนิมิตแบบชาวบ้านพอเพียงเมื่อปี 2555...เพื่อเป็นสถานที่สร้างบุญกุศลถวายเป็นพุทธบูชาธรรมบูชาและสังฆบูชา...บูชาผู้กระทำคุณแก่ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์...และผู้เป็นเจ้าของผืนแผ่นดินสยามโดยแท้จริง...ตลอดถึงเจ้ากรรมนายเวร...และบรรพบุรุษทุกท่าน...สาธุ...สาธุ...สาธุ อนุโมทา มิ.


โดย: R-JADE. IP: 125.25.119.94 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:10:06:31 น.  

 
ตอบ คุณ R-JADE .....

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับโบสถ์วัดสระมรกตนะครับ ปีนี้ก็มีจัดงานมาฆปูรมีศรีปราจีนที่วัดสระมรกตอีกเช่นเคย น่าเสียดายที่ผมติดภารกิจไม่สามารถไปร่วมด้วยได้ ขออนุโมทนาบุญไปกับผู้ที่ได้ไปด้วยนะครับ .....





โดย: NET-MANIA วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:37:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

NET-MANIA
Location :
ปราจีนบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 109 คน [?]




เริ่มเขียนบล็อก : 30 กรกฎาคม 2552


...... ด้วยความที่เป็นคนชอบเที่ยว ตอนที่ยังไม่มีลูกก็ได้ไปเที่ยวมาแล้วหลายที่ทั่วเมืองไทย จนมาวันนี้มีลูกแล้วสอง ก็ยังคงชอบเที่ยว และอยากให้เจ้าตัวเล็กรักการท่องเที่ยวด้วย ตอนนี้จะไปเที่ยวไหนเลยต้องกระเตงกันไปทั้งหมด เหนื่อยกว่าเที่ยวตอนยังไม่มีลูก แต่ก็มีความสุขมากกว่าเดิมเช่นกันครับ ......


สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามละเมิดไม่ว่าการลอกเลียน นำรูป ข้อความที่เขียนไว้หรือส่วนหนึ่งส่วนใดในบล็อกแห่งนี้ ไปเผยแพร่อ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก














New Comments
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
2 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add NET-MANIA's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.