space
space
space
 
ตุลาคม 2564
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
space
space
22 ตุลาคม 2564
space
space
space

วิธีฝึกภาษาอังกฤษ
เรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผลมากที่สุด คือ ต้องพูดคุยสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษกับคนอื่น ๆ ได้จริง ซึ่งการพูดอาจเป็นอุปสรรคของใครหลาย ๆ คน อาจเนื่องมาจากพูดไม่ออก ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี หรือไม่รู้ว่าจะต้องใช้คำศัพท์คำใด วันนี้ มีเทคนิคการปรับปรุงการพูดภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นมาฝากทุกคน เอาไปทำตามกันได้เลยค่ะ

1. หาคำศัพท์เยอะ ๆ จากการอ่าน
การอ่าน  toefl book  IELTS Book  ช่วยให้เราได้คำศัพท์มากขึ้น ในหนึ่งวันเราไม่ต้องอ่านบทความหลาย ๆ หน้ากระดาษ เพียงแค่อ่านประโยคสั้น ๆ เช่น ข่าวในเว็บไซต์ที่ติดตาม โพสต์บน Twitter หรือ ตามที่ต่าง ๆ ที่เราชอบ การอ่านวันละนิดวันละหน่อยแต่ต่อเนื่องและเป็นประจำจะทำให้เราได้คำศัพท์เยอะขึ้นและจำได้นานมากขึ้นด้วย

2. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
สิ่งที่ควรเตรียมก่อนจะเริ่มต้นฝึกอย่างจริงจังคือ การตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองในการฝึกครั้งนี้ว่าฝึกไปเพื่ออะไร หรือสร้างแรงจูงใจให้กับตัวเอง เช่น ฝึกครั้งนี้เพื่อใช้สื่อสารกับเจ้านายชาวต่างชาติ หรือใช้พรีเซนต์งานเป็นภาษาอังกฤษ เป็นต้น ซึ่งเป้าหมายเหล่านี้จะช่วยเป็นแนวทางในการเลือกประเภทของหนังหรือซีรีส์ที่เราจะดูนั่นเองครับ

3. ภาษาอังกฤษอยู่รอบตัวเรา
ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง ดูหนัง ดูซีรี่ส์ เราก็สามารถใช้เวลาเหล่านี้เป็นตัวช่วยฝึกฝนสกิลภาษาอังกฤษของเราได้ทั้งนั้น หรือถ้าไม่มีเวลาฟังจะเปิดทิ้งไว้ให้มีเสียงเพลง เสียงคนพูดภาษาอังกฤษอยู่ตลอดก็ยังได้ แล้วปล่อยให้สมองค่อยๆ ซึมซับเรื่องสำเนียง จังหวะการพูดต่างๆ ก็ช่วยได้ไม่น้อยเลยล่ะ ลองสังเกตดูสิคนที่ไปอยู่ต่างประเทศมักจะเก่งภาษาอังกฤษขึ้นมาก ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะได้ซึมซับภาษาอังกฤษที่อยู่รอบตัวตลอดเวลานั่นเอง

4. อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ
การอ่านเป็นการฝึก พัฒนา และลับคมความรู้ภาษาอังกฤษในระยะยาวได้เป็นอย่างดี คุณสามารถเลือกอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ เตรียมสอบ CMU-eTEGS , Chulalongkorn University Academic Testing Center , Chulalongkorn University Aptitude Test for Science ภาษาอังกฤษ TOEIC ได้มากมายตามใจชอบ สนใจเรื่องใดอ่านเรื่องนั้น เรื่องที่คุณสนใจจะเป็นแรงผลักดันให้อยากอ่านอยากศึกษา ส่วนข้อแนะนำในการอ่านหนังสือคือหลีกเลี่ยงหนังสือที่เป็นวิชาการมากเกินไป เพราะหนังสือเหล่านี้เป็นเนื้อหาหนัก เขียนโดยนักวิชาการ ด็อกเตอร์ และผู้มีความรู้สูง ซึ่งปัญหาของคนมีความรู้สูงมากเกินไปคือถ่ายทอดภาษาที่เข้าใจอยู่คนเดียว
ให้เลือกอ่านหนังสือที่เขียนโดยคนทั่วไปทีอยากแชร์ประสบการณ์และความรู้ของตัวเอง คนทั่วไปเหล่านี้เขียนด้วยภาษาง่ายๆเหมือนผมและคุณ อ่านง่าย เข้าถึงง่าย ช่วยพัฒนาทักษะทางภาษาได้เร็วเพราะไม่เครียดในความเป็นวิชาการอันซับซ้อน

5. เริ่มจากเรื่องที่จำเป็น
การเรียนภาษาอังกฤษจะไปได้เร็วกว่ามากถ้าคอยเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าเราเรียนไปเพื่ออะไร ถ้าคุณกำลังจะไปแลกเปลี่ยนก็เน้นคำศัพท์เกี่ยวกับการเรียน ถ้ากำลังจะไปงานสมนาต่างประเทศก็เน้นเรื่องการสนทนาไว้คุยกับเพื่อนร่วมงาน ไปในช่วงพักระหว่างม.ปลายกับมหาลัยก็เน้นคำคัพท์เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ถ้าคุณเริ่มเรียนภาษาอังกฤษโดยหวังจะเรียนรู้ได้ทุกอย่างราวกับมีเวทมนตร์ มีแต่จะหมดกำลังใจและสับสนเสียเปล่า



Create Date : 22 ตุลาคม 2564
Last Update : 22 ตุลาคม 2564 14:48:59 น. 0 comments
Counter : 686 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 1121054
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




IELTS คือ ข้อสอบทดสอบภาษาอังกฤษครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะ ได้แก่ การฟัง (Listening) การพูด (Speaking) การอ่าน (Reading) และการเขียน (Writing) คำว่า ไอเอลส์ ย่อมากจาก International English Language Testing System IELTS คะแนนเต็ม 9 โดยคะแนนจะแบ่งเป็นระดับต่าง ๆ เริ่มจากระดับ 1 คือไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้เลย ถึง ระดับ 9 คือความสามารถในการใช้ภาษาดีเลิศ ในปัจจุบันการสอบไอเอลส์ มีให้เลือกสอบอย่างหลายหลายตามวัตถุประสงค์ของการใช้คะแนน นอกจาก IELTS Academic และ General ที่เราได้ยินกันจนคุ้นหูและทราบดีว่าส่วนใหญ่มักใช้สำหรับการสมัครเรียนหรือสมัครงาน ยังมีการสอบ IELTS UKVI ซึ่งเป็นการสอบสำหรับทำวีซ่าเพื่อใช้เข้าประเทศในสหราชอาณาจักร หรือจะเป็น IELTS Life Skills เป็นการสอบสำหรับบุคคลที่ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าตนมีทักษะในการพูดและการฟังในระดับ A1 หรือ B1 ตามกรอบมาตรฐานการประเมินความสามารถทางภาษาจากประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป

space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 1121054's blog to your web]
space
space
space
space
space