All the girls standing in the line for the bathroom !!!

*** หมายเหตุ : สงวนลิขสิทธิ์ บทความและผลงาน ใน Blog นี้ครับ ***
Group Blog
 
<<
มกราคม 2563
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
7 มกราคม 2563
 
All Blogs
 
*** Star Wars: The Rise of Skywalker *** กำเนิดใหม่ ในสไตล์เก่า

*** Star Wars: The Rise of Skywalker ***






ปิดไตรภาคเป็นรอบที่ 3 ไปแล้วกับมหากาพย์ภาพยนตร์ Star Wars ที่มีอายุมาแล้วเกือบครึ่งศตวรรษ



ส่วนตัวแล้วไม่มีปัญหากับความไม่สมเหตุสมผลของหนังชุด Star Wars อยู่แล้ว เพราะหลายๆความไม่สมเหตุสมผลมันได้กลายเป็นหนึ่งในคุณลักษณะเด่นของหนังชุดนี้แบบไม่ตั้งใจไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Stormtrooper ที่แทบจะไม่เคยยิงใครโดน แต่กลับโดนยิงตายอย่างง่ายดาย

ในมุมมองส่วนตัว Star Wars ก็เหมือนนิยายแฟนตาซีที่ไม่ต้องสนใจไปที่ตรรกะหรือความเป็นไปได้มากนัก


ดังนั้นสิ่งที่น่าสนใจก็คือ หนังพยายามจะเล่าอะไรและพยายามจะนำเสนอสารอะไรกับผู้ชมมากกว่า

เหมือนกับนิทานอีสปที่เหนือจริง แต่สาระสำคัญอยู่ที่ "สาร" ที่ต้องการจะบอกเล่าหรือให้ข้อคิดกับผู้ชมมากกว่า






หลังจาก The Last Jedi หนังภาคที่แล้วของผู้กำกับ/เขียนบท Rian Johnson พยายามบอกกับผู้ชมว่า ใครๆก็สามารถเป็นคนสำคัญได้

โดยหนังกระจายเรื่องราวให้ตัวละครธรรมดามีโอกาสได้เป็นจุดสำคัญของหนังมากกว่าจะ focus ที่เรื่องของ Sith เรื่องของ Jedi หรือผู้ที่มีพลังพิเศษ


ขณะที่ตัวละคร Jedi คนสุดท้ายอย่าง Luke ก็ดูเป็นชายแก่ธรรมดาที่ทำผิดพลาดได้

อีกทั้งโลกในหนังก็ไม่ได้มีแค่ด้านมืดและด้านสว่างที่ชัดเจน คนด้านมืดก็มีมุมที่ดีได้ คนด้านสว่างก็มีด้านมืดได้ ทุกคนมีมิติของความเป็นมนุษย์ธรรมดาที่มากขึ้น





แต่พอกลับมาที่ภาคสุดท้ายอย่าง The Rise of Skywalker ของ J.J. Abrams หนังก็ยังวนเวียนกลับมาที่เรื่องของ Jedi เรื่องของ Sith โดยเฉพาะเรื่องของตระกูล Skywalker แถมด้วยการปลุกผี Palpatine มาเป็นตัวร้ายอีกด้วย

ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ติดใจอะไร แต่เห็นได้ชัดว่าแนวทางของผู้กำกับทั้งสองเรื่องต่างกันโดยสิ้นเชิง

(Johnson พยายามทำ Star Wars ในแนวทางใหม่ ที่ทุกตัวละครธรรมดาต่างก็มีบทบาทสำคัญในสงครามระดับจักรวาลครั้งนี้
ส่วน Abrams พยายามทำ Star Wars ในแบบดั้งเดิม ที่ว่าด้วยเรื่องราวของตระกูล Skywalker เรื่องของ Sith และ Jedi โดยมีฉากหลังเป็นสงครามดวงดาว ที่มีคนธรรมดาเป็นตัวประกอบ)



ดังนั้น ท่ามกลางสงครามระหว่างดวงดาว หนังภาคนี้เน้นไปที่การคลี่คลายปมและบทสรุปของตัวละครหลักๆมากกว่า โดยเฉพาะ Rey และ Ben ซึ่งทั้งคู่ต้องเอาชนะด้านมืดในจิตใจของตนเองให้ได้






จากภาคที่แล้ว Rey พยายามตามหาที่มาที่ไปของตัวเอง (ตามหาอดีต)

ส่วน Ben พยายามลืมที่มาที่ไปของตัวเอง (ลืมอดีต)



นั่นคือความต่างในการจัดการกับอดีตที่เป็นความทุกข์ของตัวเอง



มาในภาคนี้ Rey ค้นพบที่มาที่ไปของตัวเอง แม้จะไม่เป็นอย่างที่หวังแต่เธอก็ต้องยอมรับมันเพื่อก้าวข้ามไป (ยอมรับอดีต)

ส่วน Ben ที่พยายามลืมครอบครัว ก็กลับมายอมรับในตัวพ่อและแม่ในที่สุด (ยอมรับอดีต)



นั่นทำให้ทั้ง Rey และ Ben มีความคิดเดียวกันและหันมาเป็นพันธมิตรกันในท้ายที่สุด






ประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่างอยู่ตรงที่ว่า



"ตัวละคร Ben Solo หรือ Kylo Ren ผู้ซึ่งเป็นทายาทของตระกูล Skywalker มีแนวทางที่สอดคล้องกับหนังทั้งสองภาคหลัง"





- ใน The Last Jedi


Ben พยายามลืมอดีตและมีฉากที่ตัวละครนี้บอกให้ Rey ลืมอดีตไป รวมถึงบอกว่าสิ่งเก่าๆต้องตายแล้วมาเริ่มใหม่ ไม่ต้องสนใจ Sith ไม่ต้องสนใจ Jedi

[ตรงกับแนวทางของ The Last Jedi ที่พยายามทิ้งขนบเดิมๆแบบ Star Wars โดยกระจายความสำคัญให้ตัวละครธรรมดาๆมากกว่าจะมุ่งไปที่เรื่องของ Sith หรือ Jedi]



- ใน The Rise of Skywalker


Ben ยอมรับอดีตของตนเองในฐานะลูกหลานตระกูล Skywalker ที่มี่ทั้ง Sith และ Jedi

[ตรงกับแนวทางของ The Rise of Skywalker ที่หันมาเล่าเรื่องราวตามขนบเดิมๆของ Star Wars โดยกลับมาเน้นที่ Sith, Jedi และ ตระกูล Skywalker]






โดยรวมแล้วหนังมีฉาก action ที่ยิ่งใหญ่มากมาย แต่ไม่น่าจดจำเท่าที่ควร

นอกเหนือจากตัวละครหลัก ตัวละครสมทบหลายตัวถูกใช้เพื่อออกมาให้ผู้ชมที่เป็นแฟนเดนตายหายคิดถึงมากกว่าจะมีความสำคัญโดยตรงกับเนื้อเรื่อง

หนังยังเต็มไปด้วยฉากเก่าๆที่คารวะหนังภาคเก่าๆมากมาย ซึ่งน่าจะถูกใจแฟนบางกลุ่มอยู่ไม่น้อย



ในฐานะของแฟนหนังขาจร

Star Wars: The Rise of Skywalker เป็นหนังที่ดูสนุกเรื่องหนึ่ง


ซึ่งสาเหตุหลักก็มาจากเสน่ห์ของทั้งตัวละคร Rey และ Ben ที่มีมากพอที่จะทำให้หนังน่าสนใจไปจนถึงตอนสุดท้ายว่าทั้งคู่จะลงเอยกันอย่างไร แม้จะไม่ได้มีอะไรเกินคาดเดาก็ตาม





7 / 10 ครับ





Create Date : 07 มกราคม 2563
Last Update : 7 มกราคม 2563 1:20:18 น. 5 comments
Counter : 1572 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnewyorknurse, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณหอมกร


 
มาอ่านค่ะ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 7 มกราคม 2563 เวลา:5:05:55 น.  

 
ไม่รู้ช้าไปรึเปล่า แต่ผมก็เพิ่งได้ดูครับ 5555
ผมเป็นแฟนสตาร์วอร์ครับ ทำอะไรมาก็ชอบหมด
แต่ถ้าถามกันจริงๆ ภาคนี้เป็นภาคแรกที่ดูแล้วรู้สึก....เอ่อ...เมื่อไหร่จะจบ
มันยัดเยียดไปนิดครับ


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 7 มกราคม 2563 เวลา:14:55:50 น.  

 
ไม่ช้าหรอกครับ ผมเองก็ดูหลังปีใหม่เหมือนกัน


โดย: navagan วันที่: 7 มกราคม 2563 เวลา:21:00:05 น.  

 
navagan Movie Blog ดู Blog
หนังยาวเกินดูแล้วมีแอบหลับจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 8 มกราคม 2563 เวลา:9:13:02 น.  

 
กระทู้ที่ตั้งใน Pantip

https://pantip.com/topic/39545077


โดย: navagan วันที่: 30 มกราคม 2563 เวลา:3:28:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

navagan
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 73 คน [?]




นวกานต์ ราชานาค
Navagan Rachanark


สนใจใน ภาพยนตร์, การวิเคราะห์-วิจารณ์ ภาพยนตร์,ดนตรี, งานเขียน และ ศิลปะอื่นๆ

สร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ทดลอง และ งานดนตรีทดลอง และ งานเขียน


ปัจจุบันทำงานด้านการตลาด การวิจัยและพัฒนายางสังเคราะห์และยางธรรมชาติ

เริ่มจัดเก็บข้อมูลสถิติการเข้าชม

Time 09:00 Date 31/01/2010

by Histats.com

blogger web statistics

ถูกใจบทความ หรืออยากสนับสนุนเจ้าของ Blog

ก็ช่วย click ที่ Link โฆษณาครับ

ขอบคุณครับ

Friends' blogs
[Add navagan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.