ตะลอนไป ตะลอนปาย

หมายเหตุ : ทริปนี้ผมไปมาตั้งแต่ พฤศจิกายน ปี 2553 ครับ ที่มารีวิวช้าเป็นเพราะว่ารูปเยอะมาก และไม่ว่างเลยครับ ถ้ารูปและข้อมูลไม่ทันสมัยแล้ว ผมต้องขออภัยด้วยครับ
---------------------------------------------------------------------------------

ใครๆ เขาก็เคยไป ปาย กันหมดแล้ว คงจะมีแต่ผมนี่แหละมั้งที่เชยอยู่คนเดียว หลังจากที่เฝ้ารอมาหลายปี ปีนี้ก็เจอโอกาสเหมาะที่จะได้ไปเหยียบ อ.ปาย เสียที คุณลูกสาวดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะครั้งนี้จะได้ขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรก พอได้ยินว่าจะขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวเท่านั้น คุณลูกสาวรีบจัดแจงบอกจะรีบไปเก็บเสื้อผ้า “หนูจะไปขึ้นเครื่องบิน” แต่แล้วความฝันของหนูน้อย ก็ต้องจบลงด้วยคำพูดของผู้เป็นพ่ออย่างผม “เรายังไปขึ้นเครื่องบินไม่ได้ลูก พ่อจ่ายค่าเครื่องบินน้อย เครื่องบินเลยยังสร้างไม่เสร็จ รออีกแค่ครึ่งปีเท่านั้นเอง” หลังจากนั้นทุกครั้งที่คุณเธอเห็นเครื่องบินบนท้องฟ้า ก็จะถามอยู่ตลอดว่า “เมื่อไหร่เราจะได้ไปขึ้นเครื่องบิน”

และแล้วก็ถึงวันที่เราจะได้ขึ้นเครื่องบินไปปายซะที จุดเริ่มต้นการตะลอนในครั้งนี้ก็เริ่มกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิเช่นเคย

คุณลูกสาวกับการขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรก จองที่นั่งริมหน้าต่างเลยครับ


บินกับ AirAsia อีกเช่นเคยกับโปรจองข้ามปี


มองผ่านหน้าต่างเครื่องบิน วันนี้เมฆเยอะพอสมควร เครื่องลงจอดที่สนามบินเชียงใหม่ หลังจากรับรถและจัดเตรียมเสบียงเพื่อฝ่าฝันขุนเขาเป็นที่เรียบร้อย ผมก็มุ่งหน้าสู่ อ.ปาย ในทันที


หลังจากที่ผ่าน อ.แม่ริม แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทางสายแม่มาลัย-ปาย เส้นทางก็เริ่มเปลี่ยนจากทางราบ เป็นถนนคดโค้งขึ้นเขา ผมใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็มาถึงโอเคมาร์ทที่ว่ากันว่าเป็นจุดพักครึ่งทางเชียงใหม่-ปาย


ที่นี่มีอาหาร ห้องน้ำ (น้ำเย็นมาก) พร้อมให้บริการ


มีหรือที่ผมจะพลาดการ "เติมเต็มชีวิต ด้วยกาแฟ"


ป้ายบอกระยะทางไปที่ต่างๆ แต่ดูจากระยะทางที่จะถึงปายแล้ว ผมว่าตรงจุดนี้ไม่น่าจะใช่ครึ่งทางนะครับ มันน่าจะเกินครึ่งมาแล้ว


เติมกาแฟแก้ง่วงสักหน่อย ยังต้องฟันฝ่าขุนเขาไปอีกไกล


ขับออกมาจากโอเคมาร์ทได้ไม่นาน สายตาก็เหลือบไปเห็นป้าย จุดชมวิวรักจัง เห็นแล้วจะพลาดได้อย่างไรจอดแวะเสียเลย


จุดชมวิวรักจัง มีลักษณะเป็นลานกว้างสามารถมองลงไปเห็นขุนเขาสลับซับซ้อน


รอบๆ บริเวณจะมีดอกบัวตองอยู่พอสมควร ถึงแม้ว่าจะไม่มากเท่าทุ่งบัวตองที่ดอยแม่อูคอ แต่ก็ดูแก้ขัดได้อยู่


ที่จอดรถจุดชมวิวรักจัง จอดรถได้หลายคัน ถ้าขับรถมาจากทางเชียงใหม่จุดชมวิวจะอยู่ด้านซ้ายครับ


มุมถ่ายรูปยอดฮิตที่เกือบทุกคนต้องมาถ่าย


ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน


มาครั้งนี้คุณลูกสาวไม่ขอเป็นนางแบบอย่างเดียว แต่จะขอเป็นตากล้องด้วย


ตากล้องฝึกหัดกำลังเล็งดอกไม้อยู่


ถ่ายเสร็จต้องเช็คภาพสักหน่อย


จับอากง อาม่า มาเป็นแบบบ้าง


ดอกไม้สีสวยที่จุดชมวิวรักจัง


ปล่อยให้คุณลูกสาววิ่งเล่น ถ่ายรูปได้สักพักก็ต้องออกเดินทางกันต่อ ผมใช้เวลาจากจุดชมวิวรักจังประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็เดินทางมาถึง อ.ปาย ถนนในช่วงก่อนถึงอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังจนถึงก่อนเข้า อ.ปาย เส้นทางจะคดเคี้ยวขึ้นเขาลงเขาสูงชันพอสมควร นับว่าเป็นจุดที่โหดที่สุดในเส้นทางนี้ แต่สำหรับผมธรรมดาครับ เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางที่ขับรถสนุกที่สุดอีกเส้นทางหนึ่ง แต่คนที่นั่งอยู่ในรถนี่สิครับ มึนกันไปเลย


ตอนนี้ก็ได้เวลาท่องราตรีกันแล้วครับ รถของรีสอร์ทมาส่งที่ถนนคนเดิน ใครที่เคยมาปายคงจะไม่มีใครที่พลาดถนนคนเดินนี้


ร้านค้ามากมายที่ถนนคนเดิน อ.ปาย


อีกร้าน


ร้านหมูสีชมพู


ร้าน Pai Siam


เสื้อผ้า "ปาย" เยอะจริงๆ


ผมมาถึงถนนคนเดิน 3 ทุ่ม ก็เรียกได้ว่าดึกพอสมควร แต่ก็ยังมีคนเดินกันมากอยู่ แถบไม่เชื่อสายตาว่านี่คือถนนคนเดินในช่วงวันธรรมดาที่ไม่ใช่วันหยุดเทศกาล “ทำไมคนถึงได้เยอะขนาดนี้”


ป้ายเท่ห์ๆ มีให้เลือกมากมาย


คุณตำรวจคนนี้กลายเป็นขวัญใจประจำถนนคนเดินไปซะแล้ว


ร้านกาแฟ ปาย


คนนี้เค้ายืนตัวไม่กระดิกจนเกือบจะนึกว่าเป็นหุ่นแล้ว


เจอข้าวปุกงาดำแล้ว ขนม 1 ในหลายอย่างที่อยากมาลอง


พอได้ลองแล้วก็ ฮืมมมม เฉยๆ ก็กินได้นะ ไม่ได้เลวร้ายอะไร


7-11 ตามไปทุกหนแห่ง


ใครจะไปไหนเดินตามลูกศรไปได้เลยครับ แต่ผมอยากขับรถไปลิเวอร์พูลจัง


น้องๆ ชนเผ่าลีซอ มาแสดงเพื่อหาทุนการศึกษา


น้ำสมุนไพรมีให้เห็นอยู่หลายร้าน


ชอบเจ้าหุ่นฟางตัวนี้มากเลยครับ ลองไปแหย่เล่นดูได้ครับ มันขยับได้ด้วย ฮิฮิ


ลานคนเมืองปาย


ร้านเค้กโกโอ น่าลองดีครับ แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว ท้องจะแตก


น้ำสมุนไพรอีกร้าน


ร้านนี้ดูแปลกสุดเลยลองสักหน่อย


พี่คนขายอัธยาศัยดี จัดเตรียมท่าทางเพื่อให้ผมถ่ายรูปโดยเฉพาะ


ปาย 0 มีให้เห็นอยู่ทั่วไป


ร้านเสื้อผ้าเยอะมากมายจริงๆ


ร้านมิตรไทย


รถตู้ประถม ๑


Black Canyon อยู่ตรงสี่แยกปายหนาว เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีคนมาถ่ายรูปค่อนข้างมาก


สี่แยกปายหนาว


การเดินถนนคนเดินปายของผมในครั้งแรกนี้ ทำให้ผมหลงเสน่ห์ที่นี่เข้าให้แล้ว เมื่อเทียบกับถนนคนเดินที่เชียงใหม่แล้ว ถึงแม้ว่าที่ปายจะดูเหมือนเล็กกว่า แต่ในความรู้สึกของผม ที่ปายน่าเดินกว่ามาก


5.30 น. ผมออกจากที่พักเพื่อมุ่งหน้าไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร เส้นทางมืดมาก ไม่มีรถวิ่งอยู่บนถนนเลย ถนนคดโค้งขึ้นเขาในตอนกลางวันเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับผม แต่ในยามนี้ขอบอกได้เลยครับว่าเกร็งมากๆ ทั้งอากาศที่หนาวเย็นจากนอกรถ ถนนที่มืดมากจนแถบไม่เห็นโค้ง บางช่วงขับๆ อยู่มองหาถนนไม่เจอซะงั้น ก็ต้องอาศัยคลำทางกันไป จากการสอบถามกับทางรีสอร์ทก็ได้ข้อมูลมาว่า ขับรถประมาณ 30 นาทีก็ถึงห้วยน้ำดัง แต่ผมต้องใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว ทำให้ไปถึงห้วยน้ำดังช้ากว่าที่คิดไว้ พอไปถึงก็ต้องตะลึงกับรถที่จอดเต็มไปหมด ผมเกือบจะไม่มีที่จอดซะแล้ว


ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ พระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า เป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจยิ่งนัก


ผมไม่ได้เห็นภาพแบบนี้มาหลายปีแล้ว ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะไม่ได้เห็นทะเลหมอก แต่ก็เป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่ต้องเก็บไว้ในใจ


แสงแดดเริ่มส่องแสงเจิดจ้า ผู้คนรอบกายก็เห็นชัดมากขึ้น นี่ขนาดผมตั้งใจมาเที่ยววันธรรมดาเพื่อหนีผู้คนแล้วนะ ผู้คนก็ยังแน่นขนัดไปหมด ถ้าเป็นช่วงปีใหม่นี่ผมนึกไม่ออกเลยว่าจะไปยืนตรงไหน


แสงแดดเริ่มแรงล่ะ


คุณลูกสาวสนุกกับการปีนป่ายเนินเขา


เล่นคนเดียวชักไม่สนุกล่ะ เลยลากคุณแม่มาเล่นด้วยซะเลย


ที่ห้วยน้ำดังก็มีดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย ให้ได้ชมกันพอสมควร


หลายคนสนุกสนานกับการชมดอกไม้และถ่ายรูป


จุดชมวิวดอยกิ่วลม อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง


คุณลูกสาววิ่งเล่นซะสนุกเลย


ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง


ด้านในศูนย์บริการนักท่องเที่ยว


ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวกับท้องฟ้าใสๆ


จุดชมวิวดอยกิ่วลมในมุมกว้าง


ใครหิวก็มีร้านสวัสดิการไว้คอยบริการ


รถจอดกันเต็มลานจอดเลย ผมต้องจอดรถไว้ด้านนอกแล้วเดินเข้ามาอีกที


คุณลูกสาวซนแบบไม่มีที่สิ้นสุด


ดูทำหน้าเข้าสิ


ต้นซากุระเมืองไทย (นางพญาเสือโคร่ง) มีให้เห็นอยู่หลายต้น


ต้นนี้อยู่ริมถนนเลย


เข้าไปดูใกล้ๆ สักหน่อย เห็นดวงจันทร์อยู่ด้านหลังด้วย


มาดูกันให้ถึงยอดเลย


ดอกสีชมพูสวยงามจริงๆ


เดินกลับออกไปลานจอดรถ ข้างทางก็มีดอกบัวตองให้ดูด้วย


ขับลงเขาเข้าเมืองมา ตอนนี้ขับง่ายแล้วครับ เห็นทางชัดแจ๋ว ก่อนเข้าถึงเมืองเห็นมีรถจอดอยู่ริมถนนมากมาย สงสัยว่าจอดแวะดูอะไรกัน ก็เลยถึงบางอ้อ สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย นี่เอง


กางเต้นท์นอนริมน้ำ ตอนเช้าได้บรรยากาศแบบสุดๆ


ดอกบัวตองตรงสะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย


ไปเดินเล่นบนสะพานกันครับ


กิจกรรมยอดฮิตของทุกคนที่มาเที่ยวที่นี่เห็นจะไม่พ้นการถ่ายรูปครับ มองไปทางไหนก็เห็นมีแต่คนตั้งท่าสวยๆ งามๆ ถ่ายรูปกันเต็มสะพาน


นี่ก็ครอบครัวสุขสันต์


ริมแม่น้ำปายยามเช้ายังคงมีหมอกให้ได้เห็นอยู่


แม่น้ำ สายหมอก และขุนเขา


คุณลูกสาวเดินเล่นอยู่บนสะพาน


ขอมีรูปผมบ้างสักรูปครับ ทริปนี้ถ่ายไปเกือบ 1200 รูป มีรูปผมอยู่แค่ 5 รูปเท่านั้นเอง น่่าเศร้าเหมือนกันนะเนี่ย


น้องสุขใจที่สะพานประวัติศาสตร์น่าสงสารจังเลย


หลังจากกลับเข้ารีสอร์ทกินข้าวพักผ่อนแล้ว ช่วงบ่ายผมออกจากรีสอร์ท มุ่งหน้าไปที่น้ำตกหมอแปงเป็นที่แรก ถนนขึ้นน้ำตกค่อนข้างแคบ รถเก๋งจะลำบากสักหน่อยเมื่อเทียบกับจักรยานยนต์ แต่ก็สามารถไปถึงตัวน้ำตกได้ครับ


น้ำตกหมอแปง


ลำธารน้ำตกหมอแปง


สายน้ำของน้ำตก


มีผีเสื้อให้ดูด้วย


ดูอย่างเดียวไม่สนุกครับ ผมจับมันเข้ากล้องมาให้ดูด้วย


ผีเสื้ออีกตัว


น้ำตกหมอแปง น้ำไม่ค่อยเยอะมาก แต่ก็ใสและเย็นชื่นใจ


มาดูน้ำตกอย่างเดียวมันน่าเบื่อ ก็เลยต้องตัวเปียกกันสักหน่อย


คุณลูกสาวดูคนเล่นสไลเดอร์ลงมาจากตัวน้ำตกอย่างสนุกสนาน


ออกจากน้ำตกกลับออกมาแวะที่หมู่บ้านสันติชล ซึ่งเป็นชุมชนชาวจีนยูนนาน ย้ายถื่นฐานจากจีนแผ่นดินใหญ่


ร้านขายชา


บ้านดินหมู่บ้านสันติชล


คุณลูกสาวแดดจะแรงขนาดไหนก็ไม่หวั่น


ใครอยากลองนั่งเกี้ยวลองได้เลยครับ


ขอลองบ้าง


เกาลัดคั่วด้วยแรงคน


โล้ชิงช้า เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง


น้องคนนี้กำลังสนุกสนานกับการนั่งชิงช้า


จุดเด่นของที่นี่นอกจากการมาจิบชา ชมบ้านดินแล้ว เห็นจะพลาดไม่ได้กับเมนูเด็ดขาหมู-หมั่วโถว และการโล้ชิงช้า ซึ่งผมพลาดทั้งสองอย่างเลยครับ


ปล่อยให้คุณลูกสาวสำรวจให้ทั่ว


วิ่งเล่นจนเหนื่อยแล้วขอนั่งพักสักหน่อย


นั่งพักแล้วไม่หายเหนื่อย นอนเลยดีกว่า


คุณลูกสาวกำลังสนุกกับการนอนตากแดด แต่ผมกลัวว่าคุณเธอจะตัวดำจริงๆ


ผมเดินทางกลับถึงที่พักเพื่อให้คุณลูกสาวได้พักผ่อน แต่ผมยังไม่หยุดพักอยู่เพียงเท่านี้ครับ ออกไปเดินถนนคนเดินกันต่อครับ ในที่สุดผมก็เจอร้าน All About Coffee แล้วครับ


สัญลักษณ์ของ All About Coffee


เมื่อคืนก็เดินผ่านแต่ทำไมถึงหาไม่เจอ พอเข้าไปในร้านก็เลยทราบว่าร้านนี้เปิดเฉพาะกลางวัน


พอได้ที่นั่งอย่างแรกที่ผมสั่งก็คือ บีนอฟฟี่ ที่เป็นขนมชื่อดังของทางร้านก่อน


ตามมาติดๆ ด้วย ฟัดจ์บราวนี่


คาปูชิโน่ร้อน และกาแฟเย็น อากาศเย็นๆ แบบนี้ นั่งกินขนม ดูผู้คนเดินผ่านไปมา สบายใจยิ่งนัก


ให้เห็นข้างในบีนอฟฟี่


ร้านนี้ดอกไม้สวยดี


เดินเล่นถนนคนเดินกันต่อ คืนนี้คนไม่ค่อยเยอะมาก


เล็งไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วกับขนมจีนนั่งยอง


ก็ตามชื่อร้านนะครับ เวลากินต้องนั่งยองๆ


จัดขนมจีนมาลองสักจาน


ขนมจีนน้ำเงี้ยวตามมาติดๆ รวมๆ ก็กินได้ครับ ไม่คิดไรมาก


ก่อนกลับต้องหาของที่ระลึกสักหน่อย


เอาทุ่งนาเมืองปายมาฝาก วันนี้ต้องออกเดินทางกลับเชียงใหม่กันแล้ว ผมเดินทางออกจาก อ.ปาย เกือบเที่ยง มุ่งหน้ากลับสู่เชียงใหม่เพื่อรอขึ้นเครื่องบินกลับในวันพรุ่งนี้


ก่อนที่จะออกจาก อ.ปาย ผมไม่ลืมที่จะแวะร้านกาแฟชื่อดังอีกแห่งของเมืองปายอย่างร้าน Coffee in Love


บ้านแสนสวยใกล้ๆ กับ Coffee in Love ถ้าได้เป็นเจ้าของสักหลังก็คงจะดี


มุมยอดฮิตของ Coffee in Love


ป้ายหน้าร้าน


หลักกิโลเมตรยักษ์ที่ใครมาก็ต้องถ่ายคู่ด้วย


วิวสวยๆ มองจาก Coffee in Love


เบื้องหน้าเป็นขุนเขา เบื้องล่างเป็นทุ่งนา


ชอบจริงๆ บ้านหลังนี้


ถึงแม้ว่ากาแฟรสชาติจะธรรมดาและแพงเกินไปสักหน่อย แต่เมื่อได้วิวสวยๆ ก็ช่วยให้ดูดีขึ้นได้


น้องสุขใจนั่งยิ้มต้อนรับนักท่องเที่ยว


ก่อนถึงเชียงใหม่ ยังพอมีเวลาเหลืออยู่ ผมจึงแวะเข้าไปที่น้ำพุร้อนโป่งเดือด หรือ โป่งเดือดป่าแป๋ จากถนนใหญ่ขับรถเข้าไประยะทางไกลพอสมควร พอไปถึงที่จอดรถมีรถจอดอยู่เพียงไม่กี่คันเท่านั้นเอง เดินตามทางเดินที่จัดไว้ให้เดินกันได้อย่างสะดวกสบาย


ห้องน้ำอยู่ระหว่างทางเดิน สะอาดใช้ได้


เข้าไปถึงก็จะเจอบ่อน้ำร้อนเล็กสำหรับไว้ต้มไข่


กำลังต้มใข่อยู่


มีคุณลงใจดีขายไข่และช่วยต้มไข่อยู่ตรงนี้ มาทริปนี้กินไข่มาก็มากแล้ว ตั้งใจว่าจะไม่ต้มแล้ว แต่คุณลูกสาวนี่สิ อยากเห็นว่าเค้าต้มไข่ยังไง ก็เลยต้องฝืนกินไข่ต้มต่อ


หน้าตาของไข่ต้มน้ำพุร้อน


ใกล้จะถึงแล้วครับ


เดินกันต่อไปอีกไม่นานก็จะพบกับน้ำพุร้อน


ลานน้ำพุร้อน


น้ำพุร้อนที่เดือดปุดๆ พ่นควันไปทั่วบริเวณ เป็นสิ่งมหัศจรรย์จากใต้พื้นพิภพเลยทีเดียว


ควันเยอะมาก


น้ำพุร้อนโป่งเดือด เดือดสมชื่อจริงๆ


ป้ายความรู้


เดินออกจากน้ำพุร้อนแล้วครับ


ป่าเขียวขจี


ใกล้จะถึงทางออกแล้วครับ


ลำธารเล็กๆ ใกล้ลานจอดรถ


ลองถ่ายพระอาทิตย์แฉกดูบ้าง แต่ยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่


ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่เงียบเหงา ตอนนี้ลานจอดรถมีรถผมจอดอยู่แค่คันเดียวแล้วครับ


ที่นี่มีสัญญาน DTAC ที่ใช้ได้


มาถึงเชียงใหม่ก็เริ่มมืดแล้ว มาแวะกินข้าวที่ร้านกาแลเช่นเคย


ไก่ย่าง


ขาดไม่ได้กับน้ำพริกหนุ่ม


อากาศเย็นๆ ต้องแกงเลียงร้อนๆ


ทอดมันกุ้ง


ดอกไม้ยามค่ำคืน


ก่อนขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ ต้องพาคุณลูกสาวไปดูหมีแพนด้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่เป็นการปิดทริปซะก่อน


อ้าวเผลอแปปเดียวไปปีนแพนด้าซะแล้ว


ระหว่างรอดูแพนด้าก็ดูสิงโตไปก่อน


ยืนจนเมื่อแล้ว นอนดีกว่า


แพนด้าน้อยหลินปิงในวันนี้ตัวไม่น้อยแล้วครับ ผมว่าตอนตัวเล็กๆ น่ารักกว่าเยอะเลย


สวนกุหลาบ


เข้าไปดูบ้านหมีโคอะล่ากัน


พึ่งจะเคยเห็นหมีโคอะล่าตัวจริงก็วันนี้แหละ


เจ้าตัวนี้นอนหลับอยู่


เจ้าตัวนี้ก็หลับเหมือนกัน เดินดูตั้งหลายตัวส่วนมากจะหลับหมดเลย


ตุ๊กตาลิงตัวใหญ่


มาต่อกันที่บ้านชะนี


สงสัยมันจะนั่งหลับอยู่


สระน้ำในสวนสัตว์


วิวเมืองเชียงใหม่


ถนนในสวนสัตว์เชียงใหม่


มีนกยูงเดินเล่นอยู่ข้างถนน


เข้ามาดูการแสดงแมวน้ำแสนรู้


แมวน้ำลอดห่วง น่ารักจัง


สุดท้ายแล้วครับ เจ้าแมวน้ำตัวนี้จะเป็นผู้อำลาทริปนี้ ถึงแม้ว่าในวันนี้การเดินทางสู่อ.ปายจะสิ้นสุดลง แต่ก็ใช่ว่าจบลงเพียงเท่านี้ ปายยังคงรอให้ผมได้กลับไปชื่นชมอยู่ หากมีโอกาสผมคงต้องกลับไปเยื่ยมเยือนปายอีกแน่นอน


ดูเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ รีวิว ตะลอนไป ตะลอนปาย



Create Date : 11 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 9 กรกฎาคม 2555 12:32:37 น. 3 comments
Counter : 5384 Pageviews.

 
WoWwww !!! ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆน่ะค่ะ.....บรรยากาศดี น่าไปจังเลย


โดย: น้ำพริกหนุ่ม IP: 192.168.88.219, 180.183.49.212 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:21:02 น.  

 
สวยครับ ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด สำหรับใครจะไป ปาย....
อ้อ...ไปเมื่อ พย.53 ถึงว่านึกอยู่เลยว่า ถ้าปีนี้คนจะเยอะมากขนาดนี้เชียวหรือ ยังไม่หนาวเท่าไรเลย อิ อิ
ขอบคุณที่นำมาฝาก....ครับ


โดย: พายุสุริยะ วันที่: 12 พฤศจิกายน 2554 เวลา:21:45:42 น.  

 
ดูภาพ สวย จุใจจริง ๆ ผมชอบมุมกล้อง ถ่ายสวย
น่าดู ที่ปายไปกี่ครั้งก็ไม่เบือครับ ผมชอบเดินเที่ยว
ตอนกลางคืน อากาศสบาย

บางทีก็ไปพัก รีสอร์ตริมน้ำปาย ยังคิดจะไปอีกหลาย ๆ
ครับ อ้อ. ลูกสาวน่ารักจัง


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 14 พฤศจิกายน 2554 เวลา:13:52:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Naaaa
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




บทความและภาพถ่ายทุกๆ ภาพสงวนลิขสิทธิ์ ห้ามเผยแพร่ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาต

หากผู้ใดมีความประสงค์ต้องการนำบทความและภาพถ่ายไปเผยแพร่ หรือเพื่อการอย่างอื่นอย่างใด ผมไม่หวงครับ แต่กรุณาขออนุญาตกันอย่างถูกต้องด้วยครับ ขอบคุณครับ


Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
11 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Naaaa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.