Bloggang.com : สายหมอกและก้อนเมฆ : วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร

วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร

วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เป็นวัดโบราณเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่พบหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้างวัดในสมัยโบราณ ตามหลักฐานเท่าที่ปรากฏมีเพียงว่า เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีมาก่อนรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พุทธศักราช ๒๑๙๙-๒๒๓๑) เพราะมีแผนที่เมืองธนบุรีซึ่งเรือเอก เดอ ฟอร์บัง (Claude de Forbin) กับนายช่าง เดอ ลามาร์ (de Lamare) ชาวฝรั่งเศส ทำขึ้นไว้เป็นหลักฐานในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช อีกทั้งวัดแห่งนี้ยังมีพระอุโบสถและพระวิหารของเก่าที่ตั้งอยู่ ณ บริเวณหน้าพระปรางค์ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นฝีมือช่างสมัยกรุงศรีอยุธยา

วัดนี้แต่เดิมว่า "วัดมะกอก" นั้น ตามทางสันนิษฐานเข้าใจว่า คงจะเรียกคล้อยตามชื่อตำบลที่ตั้งวัด ซึ่งสมัยนั้นมีชื่อว่า ตำบลบางมะกอก (เมื่อนำมาเรียกรวมกับคำว่า "วัด" ในตอนแรก ๆ คงเรียกว่า "วัดบางมะกอก" ภายหลังเสียงหดลงคงเรียกสั้นๆ ว่า "วัดมะกอก") ต่อมาเมื่อได้มีการสร้างวัดขึ้นใหม่อีกวัดหนึ่งในตำบลเดียวกัน แต่อยู่ลึกเข้าไปในคลองบางกอกใหญ่ ชาวบ้านเรียกชื่อวัดที่สร้างใหม่ว่า "วัดมะกอกใน" (ในปัจจุบันคือ วัดนวลนรดิศวรวิหาร) แล้วเรียก "วัดมะกอก" เดิมซึ่งอยู่ตอนปากคลองบางกอกใหญ่ ว่า "วัดมะกอกนอก" เพื่อให้ทราบว่าเป็นคนละวัด

ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๓๑๐ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงมีพระราชประสงค์จะย้ายราชธานีมาตั้ง ณ กรุงธนบุรี จึงเสด็จกรีฑาทัพล่องลงมาทางชลมารคถึงหน้า "วัดมะกอกนอก" แห่งนี้เมื่อเวลารุ่งอรุณพอดี จึงทรงเปลี่ยนชื่อวัดมะกอกนอกเป็น "วัดแจ้ง" เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงการได้เสด็จมาถึงวัดนี้เมื่อเวลาอรุณรุ่ง

เมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดให้ย้ายราชธานีจากกรุงศรีอยุธยามาตั้ง ณ กรุงธนบุรี ในปี พ.ศ.๒๓๑๑ และได้ทรงสร้างพระราชวังใหม่ มีการขยายเขตพระราชฐาน เป็นเหตุให้วัดแจ้งตกเข้ามาอยู่กลางพระราชวังจึงโปรดไม่ให้มีพระสงฆ์อยู่จำพรรษา การที่เอาวัดแจ้งเป็นวัดภายในพระราชวังนั้น คงจะทรงถือแบบอย่างพระราชวังในสมัยกรุงศรีอยุธยาที่มีวัดพระศรีสรรเพชญ์อยู่ในพระราชวัง การปฏิสังขรณ์วัดเท่าที่ปรากฏอยู่ตามหลักฐานในพระราชพงศาวดาร ก็คือ ปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ และพระวิหารหลังเก่าที่อยู่หน้าพระปรางค์กับโปรดให้สร้างกำแพงพระราชวังโอบล้อมวัด เพื่อให้สมกับที่เป็นวัดภายในพระราชวัง แต่ไม่ปรากฏรายการว่า ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์หรือก่อสร้างสิ่งใดขึ้นบ้าง

ในสมัยกรุงธนบุรีเป็นราชธานี ถือกันว่าวัดแจ้งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง เนื่องจากเป็นวัดที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตและพระบาง ซึ่ง สมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึก (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑) ไปตีเมืองเวียงจันทน์ได้ในปีกุน เอกศก จุลศักราช ๑๑๔๑ (พ.ศ.๒๓๒๒) แล้วอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญ ๒ องค์คือ พระแก้วมรกตและพระบาง ลงมากรุงธนบุรีด้วย และมีการสมโภชเป็นเวลา ๒ เดือน ๑๒ วัน จนกระทั่งถึงวันวิสาขปุณณมี วันเพ็ญกลางเดือน ๖ ปีชวด โทศก จุลศักราช ๑๑๔๒ (พุทธศักราช ๒๓๒๓) โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระแก้วมรกตและพระบางขึ้นประดิษฐานไว้ในมณฑป ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังพระอุโบสถเก่าและพระวิหารเก่า หน้าพระปรางค์ อยู่ในระยะกึ่งกลางพอดี มีการจัดงานสมโภชใหญ่ ๗ คืน ๗ วันด้วยกัน

เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ได้โปรดให้สร้างพระนครใหม่ข้างฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา และรื้อกำแพงพระราชวังกรุงธนบุรีออก ด้วยเหตุนี้วัดแจ้งจึงไม่ได้อยู่ในเขตพระราชวังอีกต่อไป พระองค์จึงโปรดให้วัดแจ้งเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษาอีกครั้งหนึ่ง โดยนิมนต์ พระโพธิวงศาจารย์ จากวัดบางหว้าใหญ่ (วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ) มาครองวัด พร้อมทั้งพระศรีสมโพธิและพระภิกษุสงฆ์จำนวนหนึ่งมาเป็นพระอันดับ

นอกจากนั้นพระองค์ทรงมอบหมายให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร (รัชกาลที่ ๒) เป็นผู้ดำเนินการปฏิสังขรณ์วัดแจ้ง แต่การปฏิสังขรณ์คงสำเร็จเพียงกุฏิสงฆ์ ส่วนพระอุโบสถและพระวิหารยังไม่ทันแล้วเสร็จ ก็พอดีสิ้นรัชกาลที่ ๑ ในปี พ.ศ.๒๓๕๒ เสียก่อน (เมื่อปี พ.ศ.๒๓๒๗ พระแก้วมรกตได้ย้ายมาประดิษฐาน ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ส่วนพระบางนั้นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้โปรดพระราชทานคืนไปยังนครเวียงจันทร์ ประเทศลาว)

ต่อมาในรัชกาล พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ พระองค์ทรงดำเนินการปฏิสังขรณ์ต่อจนเสร็จ มีการจัดงานสมโภชใหญ่ถึง ๗ วัน ๗ คืน แล้วโปรดพระราชทานพระนามวัดว่า "วัดอรุณราชธาราม" ในสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดอรุณฯ ใหม่หมดทั้งวัด พร้อมทั้งโปรด ให้ลงมือก่อสร้างพระปรางค์ตามแบบที่ทรงคิดขึ้นด้วย ซึ่งการก่อสร้างและปฏิสังขรณ์สิ่งต่าง ๆ ภายในวัดอรุณฯ นี้สำเร็จลงแล้ว แต่ยังไม่ทันมีงานฉลองก็สิ้นรัชกาลที่ ๓ ในปี พ.ศ.๒๓๙๔

เมื่อ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ในปี พ.ศ.๒๓๙๔ พระองค์ได้โปรดให้สร้างและปฏิสังขรณ์สิ่งต่าง ๆ ในวัดอรุณฯ เพิ่มเติมอีกหลายอย่าง อีกทั้งยังได้อัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มาบรรจุไว้ที่ พระพุทธอาสน์ของพระประธานในพระอุโบสถ ที่พระองค์ทรงพระราชทานนามว่า "พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก" และเมื่อได้ทรงปฏิสังขรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้พระราชทานนามวัดเสียใหม่ว่า "วัดอรุณราชวราราม" ดังที่เรียกกันมาจนถึงปัจจุบัน

๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๑ ออกจากพระราชวังเดิม มาวัดอรุณฯ ต่อเลยค่ะ

เดินกลับมาเลาะตามถนนวังเดิม เข้าวัดด้านข้าง

มณฑปพระพุทธบาทจำลอง อยู่ระหว่างพระอุโบสถและพระวิหาร ภายในมีพระพุทธบาทจำลองเป็นหินสลักจากกวางตุ้ง

พระพุทธรูปในระเบียงคดรอบพระอุโบสถ

พระอุโบสถ

พระอุโบสถ

ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของวัด เป็นสถาปัตยกรรมชิ้นสำคัญและสวยงามชิ้นหนึ่ง ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒

ลักษณะของพระอุโบสถ ยกพื้นสูง หลังคาลด ๒ ชั้น มุงด้วยกระเบื้องเคลือบสีเหลืองและเขียวใบไม้ ช่อฟ้าใบระกาหางหงส์ลงรักประดับกระจก หน้าบันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นรูปเทวดายืนถือพระขรรค์อยู่ในปราสาท เป็นไม้แกะ มีสังข์และคนโทน้ำวางอยู่บนพานข้างละพาน ประดับลายกระหนก ตามลายกระหนกลงรักปิดทองมีมุขยื่นทั้งด้านหน้าด้านหลัง มีเสาใหญ่รับเชิงชายทั้งด้านเหนือด้านใต้มีชานเดินได้

พื้นหน้ามุขและชานเดินรอบพระอุโบสถปูด้วยหินอ่อน บันไดและเสาบันไดเป็นหินทราย
ระหว่างเสารอบพระอุโบสถถึงหน้ามุขทั้งสองด้านมีกำแพงเตี้ย ๆ ประดับด้วยหินสลักเป็นรูปดอกไม้ใบไม้ ที่หุ้มกลองด้านหน้า

ระหว่างประตูมีบุษบกยอดปรางค์ประดิษฐานพระพุทธนฤมิตร เป็นพระพุทธรูปฉลองพระองค์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ โปรดให้หล่อขึ้น จำลองพระพุทธรูปฉลองพระองค์ในรัชกาลที่ ๒ ซึ่งประดิษฐานอยู่ในหอพระสุราลัยพิมาน และได้นำมาประดิษฐานในรัชกาลที่ ๕ ที่หุ้มกลองด้านหลังระหว่างประตูเหมือนกัน ก็เป็นบุษบกยอดปรางค์ มีพาน ๒ ชั้น ลงรักปิดทอง และมีพุ่มเทียนตั้งอยู่ เดิมพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริ ที่จะหล่อพระพุทธรูปฉลองพระองค์รัชกาลที่ ๓ และของพระองค์เองประดิษฐานไว้ แต่ค้างมามิได้ทำ ที่ซุ้มประตูพระอุโบสถ ๒ ประตูด้านหน้า เป็นซุ้มยอดปรางค์ แต่ด้านหลังเป็นซุ้มไม่มียอดทั้ง ๒ ประตู และด้านนอกของบานประตูเป็นของซ่อมใหม่ลายเทพพนมพุ่มข้าวบิณฑ์ ลงรักปิดทองทั้ง ๘ บาน มีชื่อผู้ซ่อมอยู่เฉพาะด้านหน้าว่า คุณหญิงเมนูเวทย์วิมลนาท (แฉล้ม สุมาวงศ์) เป็นผู้ออกทุน ผู้เขียนคือ นายจรินทร เลี่ยมหิรัญ เมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๙ เสาและผนังพระอุโบสถด้านนอกถือปูนประดับกระเบื้องจีนลายดอกไม้ร่วง ซึ่งทรงปฏิสังขรณ์ไว้ในรัชกาลที่ ๔ บัวหัวเสาและบัวเชิงเสา ลงรักปิดทอง หน้าต่างมีทั้งหมด ๑๔ ช่อง คือ ด้านเหนือ ๗ ช่อง และด้านใต้ ๗ ช่อง ด้านนอกของหน้าต่างเป็นลายรดน้ำซ่อมใหม่

ด้านในพระอุโบสถ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังทั้ง ๔ ด้าน ฝีมืองามมาก บนผนังตอนเหนือหน้าต่างกับผนังด้านหน้าพระประธาน และหลังพระประธาน เป็นภาพพุทธประวัติ มีข้อน่าสังเกตว่า เฉพาะหุ้มกลองด้านหน้าพระประธานนั้น ตามปกตินิยมเขียนเป็นภาพมารผจญทั้งผนัง แต่ที่พระอุโบสถวัดอรุณฯ นี้ กลับเขียนภาพมารผจญขึ้นไว้สูงสุดเหนือภาพพุทธประวัติ มีขนาดไม่สู้จะใหญ่นัก ผนังด้านใต้เหนือบานหน้าต่างเป็นภาพเวสสันดรชาดก ตามช่องระหว่างหน้าต่างทุกช่องเป็นภาพชาดกในเรื่องทศชาติ บานหน้าต่างด้านในเป็นภาพต้นไม้และสัตว์ทุกบาน และด้านในประตูพระอุโบสถทั้ง ๘ บาน เป็นภาพต้นมักกลีผลหรือนารีผลตามรักแร้ประตูและหน้าต่าง เป็นภาพในเมืองนรกและภาพเกี่ยวกับสุภาษิตโบราณ เช่น นิ้วด้วนได้แหวน เป็นต้น

ภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถดังกล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นภาพฝีมือจิตรกรเก่าครั้งรัชกาลที่ ๓ ก็มี เป็นภาพฝีมือจิตรกรในรัชกาลที่ ๕ เขียนซ่อมเมื่อภายหลังเกิดไฟไหม้พระอุโบสถก็มี สำหรับจิตรกรผู้วาดภาพผนังพระอุโบสถนี้ รุ่นเก่าเท่าที่ค้นชื่อได้มีเพชรวกรรม์ หลวงวิจิตรเจษฎา (ครูทองอยู่) คงเป๊ะ ตามี เป็นต้น

ส่วนจิตรกรที่ซ่อมใหม่นั้น มีชื่ออยู่ตามบานหน้าต่างด้านในดังนี้
๑. หมื่นเทพนิมิตร (ทองอยู่)
๒. นายศุกร (ขึ้นในกรมหมื่นสรรพศาสตร์)
๓. หลวงพินิจสรรพกร (ช่างฝ่ายพระราชวังบวร)
๔. หลวงพิศณุกรม (เล็ก)
๕. หลวงพรหมพิจิตร (เงียบ)
๖. หลวงนิมิตรเวศุกรรม (เล็ก ฝ่ายพระราชวังบวร)

แต่การซ่อมภายในพระอุโบสถต่อมา สืบได้ความว่า พระครูอรุณธรรมธาดา (เวศ) เป็นผู้คอยซ่อม เพราะท่านเป็นจิตรกรฝีมือดี เคยเขียนภาพในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามมาเหมือนกัน ปัจจุบันมรณภาพแล้ว

ตอนเหนือกรอบบนบานหน้าต่างและประตู มีภาพเครื่องโต๊ะหมู่บูชาแบบจีนติดกระจกใส่กรอบ รวมทั้งหมด ๑๘ ภาพ

พระประธาน ในพระอุโบสถ มีพระนามว่า "พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก" หล่อในรัชกาลที่ ๒ กล่าวกันว่า พระพักตร์เป็นฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงปั้นหุ่น เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๓ ศอกคืบ ประดิษฐานเหนือแท่นไพทีบนฐานชุกชี เบื้องพระพักตร์มีรูปพระอัครสาวก ๒ องค์ หันหน้าเข้าหาองค์พระประธาน ระหว่างกลางพระอัครสาวก มีพัดยศพระประธานตั้งอยู่

พัดยศดังกล่าวนี้ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงสันนิษฐานไว้ว่า "นึกได้ว่าในเรื่องพระพุทธประวัติ มีพระเจ้าแผ่นดินพระองค์หนึ่ง ดูเหมือนจะเป็นพระเจ้าปเสนทิ ได้ทำพัดงาถวายพระพุทธองค์สำหรับทรงถือในเวลาประทานพระธรรมเทศนา เรื่องนั้นพวกสร้างพระพุทธรูปได้เอามาเป็นคติ ทำพระพุทธรูปปางหนึ่งทรงถือพัดมีมาแต่โบราณ ยกตัวอย่างเช่นพระชัยนวรัฐ ที่เจ้าเชียงใหม่ถวายสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง เป็นต้น แลยังมีอยู่ในพิพิธภัณฑสถานอีกหลายองค์ แต่ชั้นเก่าทำพัดเป็นรูปกลมหรือรูปไข่ เช่น รูปพัดงาสาน พระชัยของหลวงสร้างประจำรัชกาล ก็คงมาแต่พระปางนั้น"

เป็นแต่แก้รูปพัดเป็นพัดแฉกคงเป็นพระชัยหลวง มาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกจึงทรงสร้างพระชัยประจำรัชกาลที่ ๑ เป็นปางทรงถือพัดแฉก ยังมีคติเนื่องกับพระพุทธรูปปางถือพัดต่อไปอีกอย่างหนึ่ง ที่พระเจ้าแผ่นดินถวายพัดแฉกเป็นพุทธบูชา ตั้งไว้บนฐานชุกชีข้างหน้าพระประธานในพระอารามหลวง เคยเห็นที่วัดอรุณฯ วัดราชบุรณะ และทำเป็นพัดแฉกขนาดใหญ่ถวายพระพุทธเทวปฏิมากรวัดพระเชตุพนฯ ยังปรากฏจนบัดนี้

พระบรมอัฐิในรัชกาลที่ ๒ ที่พระพุทธอาสน์พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก ตามประวัติกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ โปรดให้อัญเชิญมาบรรจุไว้เมื่อได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดนี้แล้ว ในปี ร.ศ.๑๑๔ (พ.ศ.๒๔๓๘) ในรัชกาลที่ ๕ เกิดไฟไหม้ขึ้นที่พระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินไป ทรงบัญชาการดับไฟด้วยพระองค์เอง ได้โปรดให้อัญเชิญพระบรมอัฐิออกได้ทัน ครั้นเมื่อทรงปฏิสังขรณ์พระอุโบสถใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงโปรดให้อัญเชิญพระบรมอัฐินำกลับไปบรรจุไว้ ณ ที่เดิม เมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ร.ศ.๑๑๗ (พ.ศ.๒๔๔๑) เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ

รูปปั้นยักษ์ยืน หน้าซุ้มประตูยอดมงกุฏ มี ๒ ตน ยักษ์กายสีขาวคือ สหัสเดชะ และยักษ์กายสีเขียว คือ ทศกัณฐ์

พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๒

พระปรางค์วัดอรุณ

ศาลาท่าน้ำรูปเก๋งจีน มี ๖ หลัง ตั้งอยู่ทีเขื่อนหน้าวัด สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓

ซุ้มประตูยอดมงกุฏ สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ เป็นซุ้มจตุรมุข หลังคาลด ๓ ชั้น มุงด้วยกระเบื้องเคลือบสี มียอดเป็นทรงมงกุฏ ประดับด้วยกระเบื้องถ้วยสลับสี

พระประธานในพระวิหารวัดอรุณนามว่า พระพุทธชัมภูนุทมหาบุรุษลักขณาอสีตยานุบพิตร
ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๖ ศอก หล่อด้วยทองแดงปิดทอง
มีประวัติว่ารัชกาลที่ ๓ โปรดให้หล่อขึ้นพร้อมกับพระประธานในพระอุโบสถ วัดสุทัศน์เทพวราราม ฝั่งพระนคร

พระอรุณ หรือพระแจ้ง ในพระวิหารวัดอรุณฯ เป็นพระพุทธปางมารวิชัย ทำด้วยทองสีต่าง ๆ หน้าตักกว้าง ๕๐ เซนติเมตร

และพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ประดิษฐานอยู่บนแท่น หน้าพระแจ้ง ในวิหาร หน้าตักกว้าง ๗๐ เซนติเมตร

ด้านนอกพระวิหารกำลังบูรณะค่ะ

ไม่หลบตาเลย

เขามอ...กำลังเดินไปท่าเรือค่ะ

กลับบ้านแล้วค่ะ

ชมวีดิโอ 360 องศาค่ะ https://wat360.com/watarun/ สวยมาก

Create Date : 27 กรกฎาคม 2562

Last Update : 27 กรกฎาคม 2562 17:04:05 น.

63 comments

Counter : 6784 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณtoor36, คุณเนินน้ำ, คุณวลีลักษณา, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณทนายอ้วน, คุณกะว่าก๋า, คุณJinnyTent, คุณhaiku, คุณtuk-tuk@korat, คุณเริงฤดีนะ, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณSweet_pills, คุณSai Eeuu, คุณผู้ชายในสายลมหนาว, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณkatoy, คุณThe Kop Civil, คุณRinsa Yoyolive, คุณKavanich96, คุณชมพร, คุณmcayenne94, คุณTui Laksi, คุณหอมกร, คุณkae+aoe, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณnewyorknurse, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณInsignia_Museum, คุณFreakGirL, คุณล้งเล้งลัลล้า, คุณmariabamboo, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณสองแผ่นดิน, คุณเรียวรุ้ง, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณญามี่, คุณอุ้มสี, คุณตุ๊กจ้ะ

ช่วงเย็นเมฆมากนะครับ ดูแล้วหวาดเสียวเหมือนกัน ฝนตกทีนี่แย่เลย

พระปรางค์วัดอรุณยังไงก็รู้สึกไม่สวยเหมือนของเก่า มันรู้สึกว่าไม่ละเอียดเท่าของเดิม

แมวเจ้าถิ่นนี่ไม่เกรงกลัวเราเลย~

พวกชุดที่เป็นเอกลักษณ์ใครเห็นก็อยากถ่ายรูปนะ~

โดย: คุณต่อ (toor36

) วันที่: 27 กรกฎาคม 2562 เวลา:17:38:59 น.

พระปรางค์วัดอรุณจะคุ้นตาตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นเด็กน้อยชั้นประถม เพราะเป็นหน้าปกหนังสือ oxford ไม่รู้คุณหนูจะทันมั๊ย

แล้วก็จะคุ้นเคยกับภาพที่มองจากฝั่งนี้ข้ามแม่น้ำไป วันนี้ได้ชมภายในก็งดงามมากค่ะ

โดย: เนินน้ำ

วันที่: 27 กรกฎาคม 2562 เวลา:18:33:58 น.

งดงามอลังการค่ะ

โดย: วลีลักษณา

วันที่: 27 กรกฎาคม 2562 เวลา:19:08:13 น.

สวยมากค่ะพี่หนู
มะเหมียวนี่ สายตานางจ้องไม่กระพริบเลย...

จากบล็อกกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วค่ะ..อิอิ

โดย: สันตะวาใบข้าว

วันที่: 27 กรกฎาคม 2562 เวลา:19:47:24 น.

ทีแรกคิดว่า วัดมะกอกใกล้ รพ.พระมงกุฏ
แหะ ๆ

โอ..กลายเป็นวัดอรุณฯ วัดที่ใหญ่มาก
การก่อสร้างที่น่าทึ่ง คุณหนูค้นคว้าเยอะ
เลย เยี่ยมครับ

โดย: ไวน์กับสายน้ำ

วันที่: 27 กรกฎาคม 2562 เวลา:20:35:59 น.

รูปสวยทุกรูปเลยค่ะคุณหนู

โดย: โอน่าจอมซ่าส์

วันที่: 27 กรกฎาคม 2562 เวลา:21:04:08 น.

เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนๆเลยครับ แม่แก่มากแล้ว งานบ้านก็เรียงคิวกันเข้ามา ที่โพสๆอยู่ก็รูปในคลังทั้งนั้นเรย ฮ่าๆๆ

โดย: ทนายอ้วน

วันที่: 27 กรกฎาคม 2562 เวลา:21:12:33 น.

ตอนแรกก็ชอบภาพตุ๊กตาหินจีนครับพี่หนู
แต่ไล่ดูมาเรื่อยๆ
เจอภาพที่ชอบที่สุด

ภาพแมวครับ

วัดอรุณยังไม่เคยไปถ่ายภาพเลยครับพี่
แต่ดูจากภาพที่พี่หนูถ่ายมา
มีอะไรให้ถ่ายได้เยอะเลยนะครับ

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 27 กรกฎาคม 2562 เวลา:21:17:39 น.

อยากไปมากเลยพี่หนู
จินอยากไปเห็นวัดอรุณจริง ๆ ที่ไม่ใช่จากรูปภาพ

จากที่ดูรูปพี่หนูในเฟชวันนี้
คือ สวยมากกกกกกก
เป็นสุดยอดของศิลปะ สถาปัตยกรรม
จิตรกรรมฝาผนัง
องค์พระพุทธรูปงดงาม
่ศิลปะอ่อนช้อย ผนังพระวิหาร อุโบสถวิจิตรงดงาม
สุดยอดของวัดสวยอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยเลย

ไม่รู้จะสรรหาคำใดมาสาธยายละ
รู้แต่ว่า ภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย นับถือศาสนาพุทธ
แล้วมีวัดอย่าง
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร แห่งนี้

โดย: JinnyTent

วันที่: 27 กรกฎาคม 2562 เวลา:21:29:24 น.

ต้องไปวัดนี้สักวันค่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 27 กรกฎาคม 2562 เวลา:22:30:33 น.

วัดประจำตัวค่ะ
(แน่ะ..ทำเนียน)
ส่วนใหญ่ปีใหม่หรือวันเกิด
จะประเดิมด้วยวัดแจ้ง/วัด รุณฯ นี้เพื่อเบิกฤกษ์เอาชัย

โดย: เริงฤดีนะ

วันที่: 27 กรกฎาคม 2562 เวลา:22:32:59 น.

กราบพระค่ะคุณหนู
เป็นวัดคู่บ้านเมืองเราที่งดงามน่าภูมิใจมากนะคะ
รูปสวยมากๆค่ะ

โดย: Sweet_pills

วันที่: 27 กรกฎาคม 2562 เวลา:23:16:27 น.

เที่ยวตุรกี แหม๊บๆ แว๊บมาญี่ปุ่น และแว๊บมาเที่ยววัดไทย ฮ่า คนดูสับสนเล็กน้อย

โดย: Sai Eeuu

วันที่: 28 กรกฎาคม 2562 เวลา:3:16:38 น.

อรุณสวัสดิ์ครับพี่หนู

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 28 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:33:00 น.

งดงามมากครับวัดอรุณฯ เป็นอีกวัดที่คนไทยต้องไปซักครั้งในชีวิต

โดย: IFINDNOI (Ces

) วันที่: 28 กรกฎาคม 2562 เวลา:11:25:53 น.

ภาพคม ราวกับใช้ขาตั้งกล้องทุกภาพเลย

ภาพจิตรกรรมฝาผนังภาพที่สอง เพิ่งผ่านตาจาก facebook : the cloud เค้ากล่าวถึงการใช้ผ้าลายอย่างในสังคมไทย ตั้งแต่ผ้านุ่ง ไปจนถึงผ้าม่าน

เป็นจิตรกรรมสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เขียนแบบไทยประเพณีน่าจะเป็นวัดสุดท้ายแล้วมั้งครับ เท่าที่เคยเห็นในกรุงเทพ เสียอย่างเดียว เค้ากั้นไม่ให้เราเข้าไปด้านหลังพระประธานได้ ทำให้ไม่สามารถถ่ายได้ครบทุกตอน

โดย: ผู้ชายในสายลมหนาว

วันที่: 28 กรกฎาคม 2562 เวลา:11:42:33 น.

สวัสดี จ้ะ น้องหนู

ตามมาเที่ยววัดอรุณราชวราราม เป็น
วัดที่นั่งเรือผ่านไปมา ยังไม่เคยได้เข้าไป
ไหว้พระและเดินชมเลย
วันนี้ได้รู้ประวัติความเป็นมาอย่าง
ละเอียดเลยภาพประกอบก็สวยสดงดงาม
สักวันต้องไปไหว้พระและเดินชมความ
สวยงามของวัดอรุณ ฯ จ้ะ
โหวดหมวด รูปภาพ
ขอบใจที่ชื่นชมบล็อกทวาทศมาส
และจะรออ่านปี 63 ต่อไป อิอิ

โดย: อาจารย์สุวิมล

วันที่: 28 กรกฎาคม 2562 เวลา:12:25:57 น.

เมื่อไรจะได้ไปก็ไม่รู้ค่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 28 กรกฎาคม 2562 เวลา:12:30:46 น.

เคยไปนานมากแล้ว แต่ไม่ได้เห็นรายละเอียดอะไรเท่าบล็อกนี้เลยค่ะ
พระพุทธรูปงดงามมากค่ะ

โดย: ฟ้าใสวันใหม่

วันที่: 28 กรกฎาคม 2562 เวลา:15:19:48 น.

ภาพสวย คมจัดๆเลยครับพี่ กล้องสุดยอดมากครับ ขนาดฟ้าหม่นๆ ยังคมกริบ

พอฟ้าใสแสงมาก็สวยจบครบหลังเลนส์เลยครับ
อยากมีกล้องแจ่มๆ เดินถ่ายวัดอรุณบ้าง ครุฑตรงพระปรางค์คือสวยมากครับ

วันหยุดอากาศดีๆ นั่งทานข้าวฝั่งตรงข้ามดูพระอาทิตย์ตกนี่ แจ่มเลยครับ

ผมเคยไปวัดอรุณฯตอน ม. ปลาย แล้วยังไม่มีโอกาสไปอีกเลยครับ อยากไปเดินดูงานศิลปะชิลๆเหมือนกันครับพี่

โดย: จันทราน็อคเทิร์น

วันที่: 28 กรกฎาคม 2562 เวลา:20:06:25 น.

นั่นสิคะ ใคร ๆ ถึงตกเป็นทาสแมวกันไปหมด 555
ที่ตัดเล็บก็ซื้อไว้แล้วค่ะ แต่ยังไม่กล้าตัดให้
เพราะซนไม่ยอมอยู่นิ่ง กลัวไปตัดโดนเนื้อ
รอไว้อีกซักพักจะลองดูนะคะ แหะ ๆ

เรื่องทำหมันแมว หมอบอก 6 เดือนก็ทำได้แล้วค่ะ
นี่หมอที่ รพ. สัตว์เลยนะคะ เร็วไปมั้ยเนี่ย แหะ ๆ

ขอบคุณโหวตด้วยค่ะ

โดย: ฟ้าใสวันใหม่

วันที่: 28 กรกฎาคม 2562 เวลา:20:29:18 น.

มีเงินมากๆ
พอมากเกินไป
พี่น้องยังทะเลาะกันได้เลยนะครับพี่หนู

มีมากเกินไปเป็นภาระ
ใช้ได้กับทุกเรื่องของชีวิตเลยครับ

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 28 กรกฎาคม 2562 เวลา:21:14:51 น.

เคยไปที่วัดแต่ยังไม่เคยเข้าไปข้างในเลยครับ มาชมภาพสวย ๆ จาก จขบ.เลยละกันครับ

โดย: The Kop Civil

วันที่: 28 กรกฎาคม 2562 เวลา:22:43:35 น.

รินยังไม่ได้ไปแบบจริงจังเลยค่า
เคยไปแค่ข้ามไปต่อเรือช้ามฟากเท่านั้น
เพื่อไปถ่ายรูปวัดอรุณ ตอนแสงเย็น สวยเหมือนกันค่า

โดย: Rinsa Yoyolive

วันที่: 28 กรกฎาคม 2562 เวลา:23:54:03 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่หนู

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 29 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:39:22 น.

ขอบคุณที่แบ่งปัน

โดย: Kavanich96

วันที่: 29 กรกฎาคม 2562 เวลา:10:02:46 น.

ข้อมูลแน่น รูปสวยมากเลยค่ะพี่หนู

โดย: sawkitty

วันที่: 29 กรกฎาคม 2562 เวลา:12:38:28 น.

แค่บรรยายก็อยากไปละค่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 29 กรกฎาคม 2562 เวลา:15:02:04 น.

โหวตค่ะ

ขอบคุณกำลังใจค่ะ
นานๆกลับมาทีเกือบลืมขั้นตอนหลายๆอย่าง
คงต้องฟื้นการทำใหม่ซะแล้ว

โดย: ป้าเก๋า (ชมพร

) วันที่: 29 กรกฎาคม 2562 เวลา:17:03:10 น.

เป็นอีกวัดที่ชอบมากๆ
สวยงามทั้งกลางวัน กลางคืน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทำเลสุดยอดอีก สวยงามไม่มีที่ติได้เลยค่ะ ถ้ามาทางเรือนั่งเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาและเข้าชมวัดอรุณเป็นทริปที่ประทับใจมากๆ

เคยไปหลายครั้งค่ะ มาเปิดชมเรื่องราวที่คุณหนูเขียนไว้ ถึงได้แปลกใจตัวเองว่า ทำไมไม่ได้เห็นละเอียดแบบนี้เลย ไปกี่ครั้งก็แค่เดินขึ้นพระปรางค์ เสร็จแล้วเดินไปส่วนของพระเจ้าตากสินมหาราช ชอบสิ่งก่อสร้างเล็กๆเหมือนห้องพระในบ้านส่วนตัว เงียบสงบโดดเด่นสวยงาม ถ้ามีโอกาสได้ไปเที่ยวอีกในฤดูหนาวคงจะได้เดินชมทั่วบ้างค่ะ

โดย: mcayenne94

วันที่: 29 กรกฎาคม 2562 เวลา:19:48:03 น.

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับพี่หนู

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 29 กรกฎาคม 2562 เวลา:20:34:38 น.

สวัสดียามค่ำค่ะคุณหนู
วัดอรุณไม่เคยได้เข้าไปชมใกล้ชิดขนาดนี้
ตั้งแต่บูรณะใหม่ยังไม่เคยไปเลยคร้า
ชอบภาพพระพุทธรูปมากที่สุดทุกภาพ
คุณหนูถ่ายได้สวยงาม งดงามมากๆคร้า

สวนรถไฟ...ไปไม่ยากค่ะ เดินได้ทั้งวันจริงๆ
อาจต้องมาต่ออีกก็ได้ เพราะมีสวนสวยตรงนี้ถึง 3 สวน
เดินทะลุติดกันได้ค่ะ แต่สวนอื่นๆไม่ให้นำจักรยาน
เข้าไปขี่นะคะ ต้องเดินอย่างเดียว กว้างมากๆ
แต่ดีต่อการออกกำลังกาย ช่วงเช้าช่วงเย็น
และวันหยุด คนมาเดิน-วิ่งเยอะมากๆสนุกดีค่ะ
ว่างๆคุณหนูลองมาดูค่ะ เดินถ่ายรูปได้มุมสวยของสถานที่
และต้นไม้ดอกไม้เยอะ ยิ่งช่วงมีงานเฉลิมฉลองต่างๆ
เขาจะปลูกดอกไม้ไว้สวยงามค่ะ

โดย: Tui Laksi

วันที่: 29 กรกฎาคม 2562 เวลา:21:27:38 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่หนู

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 30 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:25:04 น.

สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
ได้ความรู้เพิ่มคือชื่อวัดอรุณมาจากชื่อพระพุทธรูปค่ะคุณหนู

โดย: หอมกร

วันที่: 30 กรกฎาคม 2562 เวลา:8:43:29 น.

น้องซีก็ยังไม่ได้ไปซะทีค่ะ

โดย: kae+aoe

วันที่: 30 กรกฎาคม 2562 เวลา:13:47:57 น.

วีดิโอ 360 องศาสวยจริง ๆ ค่ะ

โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน

วันที่: 30 กรกฎาคม 2562 เวลา:15:41:57 น.

พาบอสไปทานข้าวริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นไอเดียที่ดีเลยครับ เผื่อจะอนุญาตให้เบิกเงินเดือนล่วงหน้าได้บ้าง 5555

ผมเล็งๆ ศาลารัตนโกสินทร์ไว้ครับ เย็นๆ พระอาทิตย์ตก ดูจากพันทิปมานี่...ยืนหนึ่งเรื่องบรรยากาศดีเลยครับ

โดย: จันทราน็อคเทิร์น

วันที่: 30 กรกฎาคม 2562 เวลา:16:06:41 น.

แวะมาชมภาพค่ะ

เพิ่งจะได้ไปวัดแจ้งในวันฝนฉ่ำ ถ่ายภาพออกมาไม่งามอย่างเจ้าของบล็อกเลย เห็นภาพสวยๆ แล้วอิจฉาริษยา อยากกลับไปถ่ายภาพใหม่อีกรอบจัง

โดย: เพรางาย

วันที่: 30 กรกฎาคม 2562 เวลา:16:52:16 น.

กราบๆๆๆ พระ
เที่ยวชมความงดงามพระปรางค์วัดอรุณ
เพื่อสิ่งดีๆในชีวิต

โดย: คนผ่านทางมาเจอ

วันที่: 30 กรกฎาคม 2562 เวลา:19:22:27 น.

ขอบคุณครับพี่หนู

หลังๆผมใช้มือถือถ่ายภาพดอกโป๊ยเซียนตลอดครับ
บวกกับแอพ prisma เข้าไป
ได้ภาพที่ถูกใจตัวเองเลยครับ
เพราะผมอยากให้รูปออกมา
คล้ายเป็นภาพวาดหน่อยๆ

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 30 กรกฎาคม 2562 เวลา:19:39:50 น.

ทีแรกจำตำแหน่งร้านแบล็กเบอเบอรี่ผิด เกือบชวดละค่ะ พอดีเห็นสีตึกดำ ๆ เลยเดินไปดู

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 30 กรกฎาคม 2562 เวลา:20:24:03 น.

อารมณ์อยากรู้ตอนจบผมก็เคยเป็นครับ อ่านการ์ตูนบางตอนนี่ต้องกรีดไปดูตอนท้ายๆ ก่อนเลยว่าสู้กันมันส์ไหม ถ้าพระเอกชนะ ก็มีกำลังใจอ่านครับ 5555 ถ้าแพ้ก็เฉาๆ หน่อยแต่ก็อ่านว่าทำไมมันแพ้

ผมจัดสรรค์เวลาไม่เก่งหรอกครับพี่ ^^ แต่ทำด้วยแรงบันดาลใจครับ
ออกกำลังกาย กับ การเขียน มีตัวเองเป็นแรงบันดาลใจครับ
สังสรรค์ มักมีเพื่อนอกหักหรืองานเหนื่อยเป็นแรงบันดาลใจ
สอนกีต้าร์ มีเด็ก ๆ เป็นแรงบันดาลใจ
พาบอสเที่ยว มีรอยยิ้มเป็นแรงบันดาลใจ ^^
ส่วนทำงาน....มี "หนี้" เป็นแรงบันดาลใจครับผม!

โดย: จันทราน็อคเทิร์น

วันที่: 30 กรกฎาคม 2562 เวลา:21:03:14 น.

อรุณสวัสดิ์ครับพี่หนู

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 31 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:19:28 น.

ชอบดอกหญ้าเหมือนกันค่ะ
ชอบวัดสวยๆ ด้วย แต่ชอบวัดที่ร่มรื่นมากกว่า

วัดอรุณนี่ยังไม่ได้ไปชมพระปรางค์ใกล้ๆ เลยค่ะ

โดย: เพรางาย

วันที่: 31 กรกฎาคม 2562 เวลา:8:20:55 น.

ไว้ต้องพาซีทัวร์ 9 วัน ใน กทม บ้าง

โดย: kae+aoe

วันที่: 31 กรกฎาคม 2562 เวลา:9:20:20 น.

วัดอรุณสวยสะอาดตามากเลยค่ะพี่หนู

ใช่ค่ะ คนชมเจนนิษฐ์เยอะเลยค่ะพี่

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ภาวิดา คนบ้านป่า Literature Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Review Food Blog ดู Blog
อุ้มสี Topical Blog ดู Blog
จันทราน็อคเทิร์น Diarist ดู Blog
The Kop Civil Sports Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 31 กรกฎาคม 2562 เวลา:9:40:56 น.

ได้ชมมุมสวยๆของวัดอรุณ ภายในวัดยังมีมนต์ขลังอยู่เหมือนเดิน ยิ่งอ่านประวัติด้วยแล้ว ทำให้อยากเดินชมส่วนหนึ่งของวังในสมัยกรุงธนบุรี
ถ่ายวัดได้สวย ผมขอเรียนรู้การจัดองค์ประกอบของการถ่ายในพระอุโบสถครับ

โดย: Insignia_Museum

วันที่: 31 กรกฎาคม 2562 เวลา:13:14:11 น.

ถ่ายรูปได้สวยชัดมากเลยจ้า
ไปกี่ทีก็ไม่เบื่อ

โดย: FreakGirL

วันที่: 31 กรกฎาคม 2562 เวลา:13:48:40 น.

พี่หนูยังไม่ได้อ่านเรื่องนี้เหรอะคะ
สนุกตามสไตล์คุณหญิงวิมลค่ะ
แต่ยังโดนเต็ม ๆ สำหรับจินนะคะ
เป็นให้ข้อคิดคิดดี มีคุณภาพเช่นเดิม

จินยังหา "ค่าของคน" ไม่ได้เลยค่ะ
ถ้าเจอมือสองจะสอยเก็บไว้
พี่หนูใช่มั้ย แนะนำทั้งที รึเอื้อ ไม่แน่ใจ 555

โดย: JinnyTent

วันที่: 31 กรกฎาคม 2562 เวลา:17:21:48 น.

เลยต้องย้อนกลับไปดูภาพประกอบใหม่
สถานีบ้านปิน อำเภอลอง ค่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 31 กรกฎาคม 2562 เวลา:20:34:26 น.

จากบล็อก

พี่หนูรองสังเกตดีๆ นะครับ จะเห็นว่าล็อตตารี่เกือบทุกใบเห็นแต่ตัวเลข มีแค่ใบแรกเท่านั้นที่เห็นวันที่

โดย: คุณต่อ (toor36

) วันที่: 31 กรกฎาคม 2562 เวลา:21:10:42 น.

ตอนนี้ผมเขียนนิยายเรื่องนี้ทุกวัน
เขียนได้ 25 ตอนแล้วครับพี่หนู
แต่ยังต้องรีไรท์ต้นฉบับอีกหลายรอบเลยครับ

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 31 กรกฎาคม 2562 เวลา:22:10:24 น.

ขอบคุณคุณหนูสำหรับกำลังใจนะคะ
คุณหนูนอนหลับฝันดีคืนนี้ค่ะ

โดย: Sweet_pills

วันที่: 31 กรกฎาคม 2562 เวลา:23:52:55 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่หนู

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 1 สิงหาคม 2562 เวลา:6:35:29 น.

แวะมาทักทายให้หายคิดถึงกันสักนิดค่ะ หวังว่าคุณหนู คงสบายดีนะคะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
หอมกร Movie Blog ดู Blog
ญามี่ Literature Blog ดู Blog
ภาวิดา คนบ้านป่า Diarist ดู Blog
โอน่าจอมซ่าส์ Diarist ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: ล้งเล้งลัลล้า

วันที่: 1 สิงหาคม 2562 เวลา:13:13:43 น.

สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog

สวยค่ะพี่หนุ
แม่โมเคยไปวัดนี้ค่ะ ขึ้นได้แต่ขาลงทำไมขาสั่น 555
นั่งเรือข้ามไปค่ะ คิดละก็น่าทัวร์ กทม.นะคะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะพี่

โดย: mariabamboo

วันที่: 1 สิงหาคม 2562 เวลา:19:13:19 น.

มาเที่ยว ไหว้พระด้วยครับ
แล้วจะตามรอยไปบ้างครับ เร็วๆนี้

โดย: สองแผ่นดิน

วันที่: 1 สิงหาคม 2562 เวลา:23:47:29 น.

มีแมวมองตลอด

โดย: kae+aoe

วันที่: 2 สิงหาคม 2562 เวลา:9:18:29 น.

ภาพสวยจังค่ะ

วัดอรุณเคยไปมาหลายรอบเหมือนกัน

แต่นั่นก็นานมากแล้ว

โดย: เรียวรุ้ง

วันที่: 2 สิงหาคม 2562 เวลา:10:01:23 น.

ขอบคุณที่แวะไปส่งกำลังใจเสมอ
แต่น้องหนูสบายดีไหมคะ
เหมือนจะเงียบๆไป
รักษาสุขภาพด้วยน้าาา

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า

วันที่: 2 สิงหาคม 2562 เวลา:10:14:11 น.

อรุณสวัสดิ์ครับพี่หนู

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 3 สิงหาคม 2562 เวลา:6:25:31 น.

ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะพี่หนู
ช่วงนี้สปีดการอัพบล็อกลดลงเน้อ
เตรียมตัวเดินทางอยุ่แน่ ๆ เลย

โดย: JinnyTent

วันที่: 3 สิงหาคม 2562 เวลา:11:53:24 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ทนายอ้วน Review Food Blog ดู Blog
สันตะวาใบข้าว Diarist ดู Blog
Rinsa Yoyolive Review Travel Blog ดู Blog
ภาวิดา คนบ้านป่า Diarist ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog

กราบ

โดย: อุ้มสี

วันที่: 3 สิงหาคม 2562 เวลา:12:31:58 น.