สวัสดีค่านักเขียนหน้างามนามเพราะ mintangja ขอรายงานตัวค่ะ สำหรับวันนี้มิ้นไม่ได้มารีวิวหนังสืออะไรนะคะแต่วันนี้จะมาขอพูดถึงงานอดิเรกของตัวมิ้นเองสักหน่อยเพื่อแบ่งปันความสนุกแบบสงบให้กับเพื่อนที่มีไลฟ์สไตล์คล้ายๆ กันหรือใครที่ไม่คล้าย แต่อยากลองเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตก็ลองเข้ามาอ่านก่อนได้นะคะเพราะความสนุกในความสงบนี้ก็มีเสน่ห์มากเหมือนกันนะ!
ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนเลยว่างานอดิเรกเนี่ยมิ้นว่าทุกคนจะต้องมีอยู่แล้วนะบางคนอาจจะทำมันเพราะสบายใจที่อยู่กับสิ่งนั้นจนไม่รู้ตัวเลยว่ามันได้กลายเป็นงานอดิเรกของเราไปแล้วอย่างตัวมิ้นเอง งานอดิเรกของมิ้นคือการที่ได้อยู่กับเพลงโปรดสักหนึ่งเพลย์ลิสหรือหนังสือที่ภาษาสวยๆ เนื้อเรื่องฟีลกู๊ดสักเล่ม เดิมทีเนี่ย มิ้นเป็นคนอ่านหนังสือน้อยมากกกกกคือเป็นขี้เกียจอ่านหนังสือมากอ่ะเราเลยรู้สึกว่านิยายที่เพื่อนอ่านกันนี่มันบ้าบอคนอะไรจมอยู่กับหนังสือเล่มหนาเท่าฝามือได้เป็นวันๆ แต่ในวันนึงช่วง ป.6เพื่อนก็ฝากนิยายเราไว้เล่มนึง นางบอกว่าเดี๋ยวจะมาเอาพรุ่งนี้เพราะแม่ไม่อยากให้อ่านอะไรแบบนี้ แต่จะเอาไว้โรงเรียนก็กลัวหายแล้วด้วยความที่มิ้นเองเป็นคนดีมาก(?) เราก็เลยรับฝากจากเพื่อนมาแล้วตอนรอพ่อมารับหลังเลิกเรียนไม่มีอะไรทำก็ได้มีโอกาสหยิบหนังสือเล่มนี้มาเป็นเพื่อนฆ่าเวลาใครจะคิดว่านิยายฆ่าเวลาในวันนั้นจะกลายมาเป็นเพื่อนคู่ใจในวันนี้คือจากหนังสือที่หยิบมาอ่านขำๆ กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรารู้สึกว่า มันก็ไม่ได้ไร้สาระนะสิ่งที่เราได้มากกว่าความฟินของเนื้อหาในนิยายคือความรู้สึกที่เหมือนเราได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนั้นจริงๆอะไรทำนองนี้
กลับมาที่โจทย์ความสนุกแบบสงบที่เราเกริ่นไว้ตอนแรกสำหรับใครที่ยังมองภาพไม่ออก ว่ามันสนุกได้มากขนาดไหน เรื่องนี้ต้องขยายเลยจ้าการอ่านนิยายเนี่ย มันจะไม่คล้ายกับการ์ตูนนะในความคิดเรา คือการ์ตูนอ่ะเราเห็นเลยใช่ป่ะว่าฟันตรงนี้ เช้ง! ฟาดตรงนู้น ช้ง!ทุ่มลงโต๊ะตรงนี้ พลั่ก! แต่เสน่ห์ของนิยายสำหรับเราคือการจินตนาการไปพร้อมๆ กับคำบรรยายที่ผู้แต่งได้เรียบเรียงออกมาเป็นตัวหนังสือให้เราอ่านอ่ะเราจะมีภาพอยู่ในหัวที่สร้างขึ้นมาทีละนิดจากการไล่สายตาตามบทบรรยายไปเรื่อยๆก่อร่างจนกลายเป็นภาพที่สมบูรณ์ ซึ่งต่อให้รอบข้างเงียบแต่ในความคิดของเราอาจจะมีภาพ
รอยยิ้มซื่อๆปรากฏอยู่บนใบหน้าของคนที่มีกระดาษร้อยปอนด์ยับมุมหน่อยๆ ไว้ในมือชุดนักเรียนที่เต็มไปด้วยร่อยรอยปากกาหมึกซึมหลากสีไม่น่ามองนัก เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลธรรมชาติเม้มปากจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาสีเดียวกับท้องฟ้าตอนพลบค่ำ... (บทบรรยายจากนิยาย เรื่อง แล้วแต่ดาว โดย peachhplease )
จากบทบรรยายที่ได้ยกตัวอย่างมาใครที่คิดภาพตามจะรู้เลยว่ามันคือการสร้างภาพขึ้นมาทีละเล็กจริงๆ สิ่งนี้นี่แหละที่เรามองว่าเป็นเสน่ห์ มันเป็นความสนุกของเราเลยนะยิ่งเวลาที่เป็นนิยายแฟนตาซีนี่แบบ โอ้โห อย่างกับสร้างโรงเรียนเวทมนต์ได้ด้วยสมองและสองมือของตัวเองภาพความสวยงามมันยิ่งกว่าอะไรซะอีก55555555555555
ยิ่งเล่าไปก็ยิ่งมีความสุขและทุกๆครั้งที่เราได้รับความสุขจากสิ่งพวกนี้ เราก็คิดเสมอว่าอยากที่จะให้คนอื่นๆที่ยังไม่เคยรู้ และยังไม่เคยลองให้ได้ลองความสนุกแบบนี้บ้างนิยายบางเรื่องมันสอนเราได้ดีกว่าที่คิดนะ ได้ข้อคิดคติเตือนใจในการใช้ชีวิตหลายๆอย่างเลย เพราะมันต้องสะท้อนเหตุและผลของแต่ละตัวละครออกมาทำให้เรามองโลกได้หลายมุมขึ้นอีกต่างหาก
เอาหล่ะนี่ก็หน้ากระดาษที่สองละนะ ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็อยากให้ไปลองกันดูนะ ไม่พูดเยอะนะเจ็บคอ(ไม่พูดเยอะแบบสองหน้ากระดาษ?) 55555555555555 สำหรับวันนี้ คนหน้างามนามโคตรเพราะแบบมิ้นต้องลาไปก่อนแล้วเจอกันได้ในบล็อกหน้า มิ้นจะมาบอกเล่าเรื่องราวอะไรให้ฟังอย่าลืมติดตามกันน้า (●´□`)♡
Create Date : 24 มิถุนายน 2561 |
Last Update : 24 มิถุนายน 2561 22:32:52 น. |
|
0 comments
|
Counter : 370 Pageviews. |
|
|