ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
 
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
26 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
~Secret Love~ ตอนที่ 2


“คิดถึงจังเลยค่ะ”

เสียงกระซิบแผ่วเบาของมัลลิกาเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากบางของเธอ ที่ตอนนี้มันคลอเคลียอยู่แทบจะชิดกับริมฝีปากของศรัญรัตน์

“คิดถึงมาก......”

ก่อนที่ร่างบางในอ้อมกอดของมัลลิกาจะได้ตอบโต้คำคิดถึงของมัลลิกา เรียวปากสวยของมัลลิกาก็ปิดริมฝีปากสวยของศรัญรัตน์ซะก่อน.....

มีเพียงเสียงครางกระเส่าเบา ๆ ภายในลำคอเท่านั้น ที่ดูเหมือนจะประท้วงในครั้งแรก แต่ก็แปรเปลี่ยนเป็นยินยอม และพึงพอใจกับรสสัมผัสที่อ่อนหวาน นุ่มนวล ที่มัลลิกาตั้งใจถ่ายทอดให้กับศรัญรัตน์

จากริมฝีปากสวยของศรัญรัตน์ มัลลิกาไล่สัมผัสอุ่นตรงเรียวปากของตนไปตามแก้มเนียน และที่ใบหู เธองับเล่นเบา ๆ พร้อมกับเป่าลมใส่หูของศรัญรัตน์ จนเธอต้องห่อตัว และช้อนตาขึ้นมอง ตัวต้นเหตุที่รอสบตาเธออยู่แล้ว

“แกล้งจังเลยนะ.....”

ศรัญรัตน์ค้อนใส่มัลลิกาอย่างไม่จริงจังเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะ ฝ่ามือของมัลลิกาที่ลูบไล้อยู่ที่ช่วงเอวขอดกิ่วของเธอก็เป็นได้ ฝ่ามือร้อน ๆ ของมัลลิกาทำให้เธอรู้สึกหมดแรงเอาดื้อ ๆ

ร่างของศรัญรัตน์ถูกดันให้ล้มลงนอนบนเตียงนุ่มหลังจากที่เธอถูกมัลลิกาจับลอกคราบออกจนเหลือเพียงชั้นในเนื้อผ้าบางเบาลายลูกไม้สีสวย แต่ไม่นานบราเซียสีหวานของเธอก็ถูกคนมือดีปลดและโยนทิ้งไปข้างเตียง.........

“ไม่เอาค่ะไหม......เดี๋ยวค่ะ โทรศัพท์พี่ดังค่ะ”

ว่าแล้วศรัญรัตน์ก็ดันตัวของมัลลิกาออกแล้วก็พลิกตัว ลงจากเตียง เดินมาค้นเอาโทรศัพท์จากกระเป๋าถือของเธอออกมากดรับ

“ฮัลโหล......ค่ะ หม่อนเพิ่งมาถึงค่ะ พวกพี่อยู่ที่ไหนกันคะ?......อ่อค่ะ.....หม่อนเปิดบังกะโลเองค่ะ พอดีมีน้องมาด้วยอีกคนน่ะค่ะ เลยไม่อยากรบกวนทีมงานน่ะ......คะ งานเลี้ยงเหรอคะ?.........”

มัลลิกาค่อย ๆ ยันกายขึ้นมานั่งมองร่างเกือบเปลือยของศรัญรัตน์ที่ยืนหันหลังให้กับเธอ ถ้อยคำสนทนาทางโทรศัพท์นั้นบอกไว้เป็นอย่างดีว่า คนที่โทรมาคงเป็นคนของทีมงานกองถ่ายมิวสิควิดีโอของศรัญรัตน์

~หึ......น้องงั้นเหรอ.....ใครเขาอยากเป็นกันละ~

มัลลิกาลุกขึ้นจากเตียงเดินตรงมายังร่างของศรัญรัตน์ เธอสวมกอดร่างนั้นจากด้านหลัง....... ก่อนจะจรดปลายจมูกกับซอกคอขาวของศรัญรัตน์

สัมผัสที่แม้จะแผ่วเบา แต่กลับมีอิทธิพลอย่างล้นเหลือกับเธอ ไม่ว่าเมื่อไหร่มัลลิกาก็สามารถทำให้เธอรู้สึกใจสั่นสะท้านได้ตลอดจริง ๆ

“ตอนนี้เลยเหรอคะพี่.......”

ศรัญรัตน์หันมาปราบมัลลิกาด้วยสายตาเมื่อเห็นว่าร่างบางของมัลลิกาดูจะไม่หยุดแค่จูบที่ซอกคอของเธอซะแล้ว

“กะ................”

เสียงของศรัญรัตน์ที่กำลังจะเปล่งตอบคำถามของปลายสายถูกดูดกลืนหายเข้าไปในอุ้งปากของมัลลิกาอย่างรวดเร็ว

“อื้อ......” ศรัญรัตน์หลุดเสียงครางลงไปในโทรศัพท์ เมื่อเธอถูกรุกเร้าด้วยจูบ และฝ่ามือของมัลลิกาที่รุกเร้ามากขึ้นเรื่อย ๆ

เสียงไต่ถามจากปลายสายโทรศัพท์ของเธอ ทำให้ศรัญรัตน์รีบเอาตัวเองออกจากอ้อมกอดของมัลลิกาถอยห่างไปจนแทบจะติดประตูห้องพัก

“มะ.....ไม่มีอะไรค่ะ พอดีอยู่กับน้องเขา แล้วน้องเขาแกล้งนะคะ......”

มัลลิกายิ้มให้กับอาการของศรัญรัตน์ ก่อนจะก้าวตรงไปหาเธอสายตากรุ้มกริ่มที่เธอมองศรัญรัญรัตน์นั้น มันฉายแววปรารถนาอย่างชัดเจน

ศรัญรัตน์ส่ายหน้าเป็นเชิงปรามมัลลิกาช้า ๆ แต่เจ้าตัวกลับแค่เลิกคิ้วขึ้น และยิ้มหวานให้เท่านั้น ศรัญรัตน์เอามือดันอกมัลลิกาไว้ เมื่อเธอก้าวเข้ามาใกล้กับศรัญรัตน์เรื่อย ๆ

ตอนนี้ศรัญรันต์เดินหนีคนตรงหน้าไปไหนไม่ได้แล้วเพราะเธอถูกแขนทั้งสองข้างที่มัลลิกายกขึ้นมากันร่างของเธอทั้งซ้ายขวาจนเธอไม่สามารถย่างก้าวหนีไปไหนได้อีกแล้ว

ไหนจะร่างของมัลลิกาที่มายืนเบียดกับร่างของเธอจนแนบชิดทำให้เธอยิ่งขยับไปไหนไม่ได้.....มัลลิกายื่นหน้าเข้าไปหาริมฝีปากของศรัญรัตน์ที่ยังคงคุยกับโทรศัพท์อยู่ แต่ศรัญรัตน์เบี่ยงหน้าหลบ เป้าหมายจึงพลาดไปอย่างฉิดเฉียด

แต่ก็คงไม่มีปัญหาอะไรมาก เพราะเธอซุกใบหน้าเข้ากับลำคอขาวของศรัญรัตน์ ปลายลิ้นของเธอไล้ไปตามผิวขาวเนียนของศรัญรัตน์จนอีกฝ่ายขนลุกชันขึ้น

เปลือกตาของศรัญรัตน์ปิดลง และเธอเม้มปากไว้แน่นมัลลิกากำลังทำให้เธออยากกรีดร้องออกมา เมื่อฝ่ามือร้อนของมัลลิกาสัมผัสเคล้นคลึงที่อกสวยไร้อาภรณ์ปิดกั้นอยู่

“อะ....ค่ะ...ได้ค่ะ เดี๋ยวหม่อนออกไปสมทบค่ะ......ค่ะ ได้ค่ะ.......งั้นแค่นี้นะคะ....”

ศรัญรัตน์กดวางสาย ก่อนที่จะเอื้อมเอาโทรศัพท์เครื่องจิ๋วไปวางกับโต๊ะโชว์ใกล้ ๆ ประตูก่อนที่มันจะร่วงหล่นลงพื้น เพราะตอนนี้เธอแทบหมดแรงจะถือมันไว้ สาเหตุก็มาจากคนตรงหน้าที่ไม่ยอมห่างจากร่างของเธอเลย

“ตัวไหมคะ..........อืม.........”

ศรัญรัตน์ตั้งใจจะบอกเรื่องที่เธอจะออกไปร่วมงานกับบรรดาทีมงานของเธอที่อยู่ในบริเวณใกล้ ๆ กับบังกาโลที่เธอพักอยู่ แต่เสียงบอกเล่ากลับแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางรัญจวนใจ เมื่อมัลลิกาไม่ต้องการให้เธอเอื้อนเอ่ยอะไรออกมานอกจากเสียงครางกระเส่านั้น

มัลลิกาเคล้นคลึงอกสวยของศรัญรัตน์พร้อม ๆ กับที่เธอเลื่อนใบหน้าลงมาที่อกสวยของเธอ เรียวปากบางของมัลลิกาครอบครองยอดปทุมถันสีชมพู่อ่อนของศรัญรัตน์ เธอขบเม้มตวัดปลายลิ้นถี่รัวจนศรัญรัตน์จำต้องแอ่นร่างให้รับสัมผัสนี้อย่างถนัดถนี่

“มะ.....มะ....ไหม....อื้ออออ........ดะ...เดี๋ยวสิ......คะ......”

มัลลิกาขืนตัวไว้ไม่ยอมถอยหนีตามแรงผลักดันอันน้อยนิดของศรัญรัตน์ เธอละเรียวปากจากอกสวยอย่างแสนเสียดายก่อนจะไปประกบกับริมฝีปากของศรัญรัตน์ที่พยายามจะบอกกล่าวเรื่องที่ทำให้เธอต้องออกจากห้วงอารมณ์พิศวาสนี้

ฝ่ามืออีกข้างที่ดันประตูห้องพักของมัลลิกาเลื่อนมาลูบไล้เรียวขาสวยของศรัญรัตน์ก่อนจะรั้งท่อนขานั้นขึ้นมาตวัดเกี่ยวที่เอวของตนเองไว้ แล้วเลื่อนฝ่ามือร้อนผ่าวไปยังจุดรักของศรัญรัตน์ที่มีอุปสรรคเป็นผ้าลูกไม้ขวางกั้นอยู่

มัลลิกาลูบไล้ตรงนั้นแผ่วเบาพรางกดควานผ่านผ้าลูกไม้เนื้อดีนั้น ทำเอาศรัญรัตน์บิดสะโพกไปมาตามจังหวะที่มัลลิกากำลังดำเนินอยู่ ฝ่ามือที่เคยผลักดันมัลลิกากลับกลายเป็นโอบกอดร่างของมัลลิกาเข้าไปหาอีก....

“ตะ.....ตัว..ไหม......เดี๋ยว.....หม่อนต้อง......ออกไป.....ข้าง......นอก......อื้ออออ”

แต่ละคำพูดของศรัญรัตน์ที่พูดออกมาช่างยากเย็นนัก เมื่อมัลลิกาขัดขวางอย่างเต็มที่

“ไม่......ไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น”

คำปฏิเสธของมัลลิกาทำศรัญรัตน์แทบหมดแรง แต่เธอก็ต้องหยุดเกมส์รักนี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นเธอต้องกลายเป็นคนเสียคำพูดแน่ ๆ เพราะบทรักของมัลลิกาคือยาเสพติดชนิดรุนแรงสำหรับเธอ เพียงแค่เริ่มสักครั้งก็หยุดไม่ได้.....ดังนั้นเธอต้องหยุด......ตอนนี้

“พะ......พอแล้วค่ะ”

ศรัญรัตน์รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายผลักดันร่างของมัลลิกาให้ถอยห่างออกจนได้ มัลลิกาขมวดคิ้วอย่างขัดใจที่ร่างของหญิงสาวตรงหน้าพยายามขัดความต้องการของตนเองจนได้.......

“พี่ต้องออกไปหาทีมงานก่อนค่ะ...มีปาร์ตี้นิดหน่อย อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิคะ”

ศรัญรัญรัตน์เดินเข้ามาหาร่างของมัลลิกา ฝ่ามือของเธอลูบไล้ใบหน้าเนียนใสของมัลลิกาที่แดงเรื่อเพราะแรงอารมณ์ที่เธอขัดขวางไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้ ก่อนจะเลื่อนมาวางที่บ่าสวยภายใต้เสื้อยืดสีขาวนั้น

“เข้ามีปาร์ตี้กันนิดหน่อยน่ะค่ะ พี่ไปไม่นานหรอกนะ นี่ก็เพิ่งหัวค่ำเอง คงกลับไม่ดึกหรอกค่ะ....นะคะ.....”

ศรัญรัตน์บอกกล่าวมัลลิกาที่ยังคงเงียบอยู่ ใครจะรู้ว่าภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉยของมัลลิกานั้นแฝงไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เมื่อถูกขัดใจ ศรัญรัตน์คบหากับมัลลิกามานานพอที่จะรู้ว่า คนหน้าหวานคนนี้เป็นคนเอาแต่ใจ และดื้อเงียบขนาดไหน........

ศรัญรัตน์ดันร่างของมัลลิกาให้เดินถอยหลังไปที่เตียงช้า ๆ และร่างของมัลลิกาก็ทรุดลงนั่งกับเตียง เธอเท้าเขียนยันกายกับเตียง สายตากระเง้ากระงอดช้อนตาขึ้นมองศรัญรัตน์ หญิงสาวยิ้มกับกิริยานั้น

“อย่ามองอย่างนั้นสิคะ บอกแล้วไงว่าไปเดี๋ยวเดียว แล้วจะรีบกลับมา......ไม่เอานะคะ”

ศรัญรัตน์พูดอ่อนหวานเอาใจคนขี้งอนตรงหน้า พร้อม ๆ กับที่เธอก้าวขึ้นมานั่งคร่อมบนตักของมัลลิกา เบียดชิดร่างกายที่เกือบจะไร้อาภรณ์ปิดกั้นเข้ากับร่างของมัลลิกา

มัลลิกาขยับกายนั่งให้มั่นคงกว่าเดิม แขนทั้งสองโอบกระชับร่างของศรัญรัตน์ทันทีที่เธอก้าวขึ้นมานั่งบนตักของตน ก่อนจะค่อย ๆ ดึงกระชับให้ร่างนั้นเบียดเข้ามาหาร่างกายของตนอีก

“แล้ว......จะตามใจตัวไหมทุกอย่างเลยคะ”

เสียงกระซิบแผ่วเบาของศรัญรัตน์ที่ดังอยู่ข้าง ๆ ใบหูของมัลลิกาทำให้เลือดในกายของเธอฉีดพล่าน เธองับเบาที่ปลายติ่งหูของศรัญรัตน์เบา ๆ ลมหายใจที่ร้อนระอุของมัลลิกาเป่ารดกกหูของศรัญรัตน์ ทำเอาร่างของศรัญรัตน์สะท้านได้ทีเดียว

อารมณ์ปรารถนาของเธอเริ่มก่อตัวขึ้นอีกหลังจากที่เธอคิดว่าเธอจัดการเก็บมันไว้มิดชิดเป็นอย่างดีแล้ว แต่รู้สึกว่าเธอจะตีค่าความต้องการของตัวเองต่ำไปสักนิด ยิ่งเสียงกระซิบออดอ้อนของมัลลิกาที่ดังแผ่วเบาอยู่ตอนนี้กำลังกระตุ้นอารมณ์ของเธออีกครั้ง

“อีกเดี๋ยวค่อยออกไปไม่ได้เหรอคะ......ไหมคิดถึงพี่ใจจะขาดอยู่แล้วนะ อย่าทรมานไหมได้หรือเปล่า?.....”

ศรัญรัตน์หลับตานิ่ง ก่อนจะค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้น แล้วสบกับสายตาเว้าวอนของมัลลิกา ซึ่งนั้นคือสิ่งที่อันตรายมหันต์.......เธอไม่เคยปฏิเสธมัลลิกาได้จริง ๆ

“เอาแต่ใจจริง ๆ เลยเชียว”

“แล้วตามใจมั้ยละคะ”

ไม่มีเสียงตอบจากศรัญรัตน์ในคำถามของมัลลิกา การแสดงออกทางร่างกายเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เธอไม่ปฏิเสธคำร้องขอของมัลลิกา พูดให้ถูกเธอไม่อยากปฏิเสธ และต้องการที่จะอยู่กับมัลลิกามากกว่างานปาร์ตี้

“งั้นรอเดี๋ยวนะคะ”

ศรัญรัตน์พูดหลังจากที่ถอนริมฝีปากออกจากรสจูบของมัลลิกา เธอเดินย้อนกลับไปหยิบโทรศัพท์ที่เธอทิ้งไว้ ไม่นานเสียงการพูดตอบโต้ระหว่างเธอกับใครสักคนที่มัลลิกาเดาได้ว่าคงเป็นคนที่โทรมาชวนศรัญรัตน์ไปงานก่อนหน้านี้ และต่อมาไม่กี่นาที เสียงขอบคุณและตามด้วยการวางโทรศัพท์ของศรัญรัตน์ก็ตามมา

“เอาละค่ะ ที่นี้เราก็ได้อยู่ด้วยกันทั้งคืนโดยไม่มีปาร์ตี้แล้วคะ”

ศรัญรัตน์เอ่ยขึ้นระหว่างที่เดินมายืนอยู่ตรงหน้าของมัลลิกา รอยยิ้มพอใจปรากฏบนใบหน้าของมัลลิกา เธอยกมือขึ้นลูบไล้เรียวขาสวยของศรัญรัตน์ ก่อนจะมาหยุดที่ขอบผ้าลายลูกไม้ที่ปกปิกส่วนเร้นลับของศรัญรัตน์ไว้

มัลลิกาไม่ต้องคิดอะไรให้มาก เธอรูดเจ้าอันเดอร์แวร์ตัวจิ๋วนั้นลงมาตามเรียวขาของศรัญรัตน์อย่างรวดเร็ว ซึ่งเจ้าตัวก็มิได้ว่ากล่าวอะไรแถมท้ายด้วยการช่วยเหลือให้มันหลุดออกง่ายขึ้นกว่าเดิมซะอีก

มัลลิการั้งสะโพกของศรัญรัตน์เข้ามาหาตัวเอง ก่อนที่ใบหน้าของเธอจะพุ่งตรงไปที่หน้าท้องแบนราบของศรัญรัตน์ ปลายลิ้นของมัลลิกาออกมาโลมเลียไปตามผิวเนียนของศรัญรัตน์ ก่อนที่มันจะค่อย ๆ เคลื่อนลงต่ำลงมา

ท่อนขาของศรัญรัตน์ถูกยกขึ้นให้ตั้งชันอยู่บนเตียง ตอนนี้ฝ่ามือของเธอข้างหนึ่งยึดบ่าของมัลลิกาไว้ อีกข้างก็ขยุ้มผมยาวสวยของมัลลิกาอย่างลืมตัว เธอเงยหน้า เม้มริมฝีปากจนแทบจะกลายเป็นเส้นตรง ก่อนจะก้มลงมามองมัลลิกาที่สนใจอยู่กับช่วงล่างของเธออยู่ด้วยสายตาฉ่ำเยิ้ม

เธอเผยอปากออกและเปล่งเสียงร้องอย่างสุดจะกลั้นได้ เมื่อปลายลิ้นของมัลลิกากำลังชำแรกแทรกสัมผัสกับจุดปรารถนาของเธอ มันตวัดไล้ถี่รัวจะเธอต้องส่ายสะโพกรับจังหวะนั้น ปลายเล็บของเธอจิกรั้งศีรษะของมัลลิกาให้เข้าหาร่างของเธออีก

“มะ.....มะ....ไหม....พี่ไม่ไหวแล้วนะ”

เสียงกระเส่าของศรัญรัตน์ดังขึ้น พร้อม ๆ กับที่ร่างของเธอค่อย ๆ ทรุดลงนั้งลงกับตักของมัลลิกกา เธอจูบปากกับมัลลิกาอย่างเร่าร้อน เมื่อสะโพกของเธอค่อย ๆ ขยับตามจังหวะมือที่ปลายนิ้วของมันจมดิ่งอยู่ในร่างกายของเธอ

ศรัญรัตน์ยึดไหล่ของมัลลิกาไว้แน่น เธอขยับร่างกายตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน โดยมีมัลลิกาเป็นตัวเติมเชื้อเพลิงอยู่ไม่ขาด จังหวะที่โยกส่ายเริ่มเร็วขึ้นตามความตั้งการให้เป็นไปของเธอ

“รีบไปไหนคะ.....”

เสียงของมัลลิกาเอ่ยถามเบา ๆ แต่ไม่ได้รับคำตอบในทันที เธอตอนนี้ดูเหมือนร่างที่ขยับอยู่จะไม่รับรู้อะไรแล้วนอกจากอารมณ์ที่ปลิวกระเจิงออกไป นั่นคือสิ่งที่มัลลิกาต้องการ

“ถาม......ทั้งที่รู้คำตอบ.......มันน่ามั้ย???.....พี่ทรมานนะคะ....ตัวไหม”

เสียงสะท้านสั่นของศรัญรัตน์ตอบกลับมา มัลลิกายิ้มเธออ้าปากงับและดูดเม้มพร้อมกับตวัดลิ้นกับยอดปทุมถันที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้าและนั่นก็เป็นการกระตุ้นอารมณ์หวามให้กับศรัญรัตน์เข้าไปอีก เสียงครางของเธอดังขึ้นอย่างพึงพอใจ

ปลายนิ้วเรียวที่ค่อย ๆ แทรกเพิ่มเข้าไปในร่างกายของศรัญรัตน์ทำให้เธอบิดร่างด้วยความเสียวซ่าน มันคับแน่นจนเธอเผลอร้องออกมา แต่ก็ต้องตามด้วยการร้องครางขึ้นมาอีก เมื่อปลายลิ้นของมัลลิกาตวัดเร็วที่ยอดอกของเธอ

ศรัญรัตน์เกร็งสั่น ก่อนที่ร่างของเธอจะขยับอีกครั้งและคราวนี้ไม่มีอะไรจะหยุดความต้องการของเธออีกแล้ว.......ซึ่งมัลลิกาก็ต้องการให้เป็นอย่างนั้น บทรักบทนี้ดำเนินไปอย่างเร่าร้อน และไม่นานมันก็หยุดลงเมื่อร่างของศรัญรัตน์กระตุก ความหฤหรรษ์ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเธอ

ศรัญรัตน์ซบหน้าลงกับไหล่ของมัลลิกา ลมหายใจของเธอหอบถี่ ปลายเล็บที่จิกอยู่ที่บ่าของมัลลิกาค่อย ๆ คลายออก พร้อม ๆ กับอารมณ์หวามที่ค่อย ๆ ลดดีกรีลง แต่ก็ลดได้เพียงไม่นาน เมื่อมัลลิกาพลิกร่างของเธอให้นอนหงายลงกับเตียง และตามมาเบียดร่างของตนกับเธอ

บทรักบทต่อไประหว่างคนทั้งคู่เริ่มขึ้นอีกครั้ง........









“นี่.....นี่คุณ.......คุณจะให้ฉันนอนบนพื้นจริงหรือ?”

เสียงของไอรดาเอ่ยถามร่างเพรียวของปิรัญที่นั่งพิงหมอนใบโตอยู่บนเตียง เขาเหลือบมองไอรดาที่ยืนกอดหมอนยืนมองเขาอยู่

......ถ้าไปป่าวประกาศให้ชาวโลกรู้จะมีใครเชื่อบ้างเนี่ย ว่าสาวสวยเซ็กซี่อย่างไอรดาจะสวมชุดนอนลายปิกาจู.......

ปิรัญคิดขำ ๆ เมื่อร่างของไอรดาที่มีชุดนอนลายปิกาจูเพ่งมองเขาราวกับจะกลืนกินเขาเข้าไป

“ช่วยไม่ได้คุณวิ่งช้าเองนี่ ให้โอกาสแล้วนะ........แต่ถ้าอยากนอนบนเตียงนี้จริง ๆ ก็ไม่ว่านะ แต่เราต้องนอนเบียดกันหน่อยละ แล้วบังเอิญนางสาวปิรัญคนนี้ไม่ชอบนอนเบียดสาว ๆ เฉย ๆ ซะด้วยสิ ใกล้ทีไรเป็นได้เรื่อง”

ปิรัญเอ่ยตอบสาวสวยที่มองมายังร่างของเขา สายตางุนงงของเธอทำให้เขาขำออกมาเบา ๆ ก่อนที่เขาจะหันมามองสบตากับเธอ

“มองอะไรคะคุณคนสวย ถ้าเราเป็นปลากัดสงสัยรัญต้องท้องแน่ ๆ จ้องยังกะจะจับกิน”

“ก็คุณทำฉันสงสัยนี่ แล้วเวลาคุณคุยกับคนอื่นแทนตัวเองว่ารัญตลอดเลยหรอ?”

“ไม่..... มีไม่กี่คนหรอก ส่วนมากพูดกับคนที่บ้าน แล้วก็เจ้าไหมบ้าง....บางครั้งถ้าเจ้านั่นทำตัวน่ารักน่ะนะ....ทำไมเหรอ?”

ไอรดาส่ายหน้า เธอเดินมานั่งบนฟูกที่ปิรัญจัดการปูให้สำหรับคนที่ต้องนอนพื้นอย่างเธอ ไอรดาจ้องมองปิรัญที่สนใจกับตัวหนังสือต่าง ๆ ที่อยู่บนหน้าจอโน้ตบุ๊ก ที่วางบนหน้าตักของตัวเอง

“กับคุณไหมคุณแทนตัวเองว่าอะไรเหรอ”

ไอรดาถามเรื่อย ๆ ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนสอดรู้สอดเห็นอะไร แต่การที่อยู่ด้วยกันสองคนอย่างนี้กับปิรัญทำให้เธอรู้สึกเขินประหม่าชอบกล..... เธอคิดว่าการอยู่เงียบ ๆ ยิ่งทำให้เธอประหม่าและเก้อเขินมากกว่าเดิม

“ฉัน....กับแก เหลือทนจริง ๆ ก็ กู กับมึง”

“คุณไหมเนี่ยนะ พูดกูกับมึง”

“อะ ๆ คุณดาราคนสวย อย่าหลงในภาพมายาของเจ้าไหมที่มันสร้างขึ้นมาเด็ดขาด เจ้านั่นนะ เถื่อนกว่าที่คุณคิดไว้เยอะ”

“ฉันนึกภาพคุณไหมแบบนั้นไม่ออกเลย คุณล้อเล่นหรือเปล่า??”

ไอรดาถามย้ำเพื่อความแน่ใจว่าคนที่นั่งเล่นอยู่บนที่นอนตอนนี้ไม่ได้อำเธอเล่น ปิรัญหันมามองสบตากับไอรดา สายตาคม ๆ ของเขาสั่นหัวใจของไอรดาได้ไม่น้อย จนเธอต้องรีบหันหน้ากลับมาที่ที่นอนของตัวเอง แกล้งทำเป็นจัดหมอนปัดผ้าห่มแก้เขิน

“เอางี้ดีกว่า ถ้าคุณไม่เชื่อนะ ลองทำบ้านเจ้าไหมพัง ไม่ก็เลอะเทอะจนต้องทำสีใหม่ดูสิ แล้วคุณจะรู้ว่าคำว่า......เถื่อน......เป็นยังไง? อะ!!!......ไม่ก็เปิดตู้เสื้อผ้าของเจ้านั่นทิ้งไว้ก็ได้ง่ายดี โทษเบากว่าสองวิธีแรกเยอะ แต่ก็เถื่อนอยู่ดี”

“ไม่ละ....ฉันยังอยากมีที่ซุกหัวนอนอยู่”

ปิรัญยิ้มขำกับร่างบางที่กำลังปัดที่นอนอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำไมเขาจะไม่ทันเห็นแววตาที่แสดงความเขินอายเมื่อกี้ แม้เธอจะหลบตาแสร้งทำโน้นทำนี้ แต่มีหรืออาการที่เจ้าตัวพยายามปิดปังจะรอดพ้นคนตาไวอย่างเขาไปได้

“พรุ่งนี้คุณจะไปทำงานหรือเปล่า?”

ไอรดาหันมาสบตากับปิรัญเธอไม่ตอบทันที แต่กลับล้มตัวลงนอน เธอหันมามองเขา

“มีถ่ายยาวตั้งแต่ตอน 8 โมงเช้าจนเย็นเลยละ พูดถึงพรุ่งนี้ฉันละเหนื่อยล่วงหน้า”

ปิรัญเลิกคิ้วสงสัยกับคำพูดของไอรดา

“เหนื่อยล่วงหน้า????”

“ก็พรุ่งนี้มีแต่ฉากโหด ๆ ทั้งนั้น ฉันละเหนื่อย ผู้กำกับคนนี้ก็โหดมาก ๆ เลย แถมดาราที่เข้าฉากแต่ละคนพรุ่งนี้ก็ฝีมือสุด ๆ กันทั้งนั้น ที่สำคัญ......พ่อพระเอกคู่กรณีของฉันก็เข้าฉากด้วย.....”

“พระเอกคู่กรณี????......คุณอนุกูลอะไรนั่นนะเหรอ?”

“ใช่ที่ไหนละ...อนุวัฒน์”

“ก็บอกแล้วว่าไม่เคยจำชื่อผู้ชายที่ไม่ได้สำคัญกับชีวิต”

ปิรัญสวนกลับไอรดามาเรื่องชื่อของดาราชายที่เขาเรียกผิด ๆ ไป

“ฉันไม่อยากจะนึกเลยว่าพรุ่งนี้พวกนักข่าวที่คอยมาทำข่าวจะเยอะขนาดไหน เมื่อเย็นเชอร์รี่ก็โทรมาบอกว่า จะจัดแถลงการณ์เรื่องข่าวพรุ่งนี้ตอนเย็น โอ้ย......วิญญาณออกจากร่างแน่ ๆ”

ไอรดาบ่นออกมา พร้อม ๆ กับก้มเอาหน้าซุกหมอน ปิรัญยิ้มกับอาการนั้น

“แล้วพรุ่งนี้จะไปยังไง รถไม่ได้เอามานี่...”

“แท็กซี่ไงคะคุณ.....ตอนกลับก็คงนั่งแท็กซี่กลับฉันไม่อยากให้ใครรู้ว่าพักอยู่ที่นี่”

“นั่นเป็นความคิดที่ถูกต้อง....เอางี้ พรุ่งนี้รัญจะเป็นสารถีให้เอามั้ย แลกกับการเลี้ยงข้าวมื้อเที่ยงกับเย็น”

ไอรดาหันไปมองปิรัญที่ยิ้มแฉ่งอยู่ก่อนแล้ว โดยปรกติปิรัญไม่ใช่คนประเภทที่จะมาอาสาเป็นคนขับรถให้ใคร นอกจากสาว ๆ ที่เขาควงโฉบไปโฉบมา แต่คงเป็นเพราะเหตุการณ์ที่เขาได้รับฟังจากพี่ชายของเขามาเมื่อเย็น ทำให้เขาต้องรับหน้าที่ดูแลเป็นบอร์ดี้การ์ดให้คุณดาราใหญ่คนนี้สักระยะ

“จะดีเหรอ แล้วงานของคุณละ”

“รัญลาพักร้อนอยู่นะ”

คำตอบพร้อมรอยยิ้มของปิรัญถูกส่งมาให้ไอรดาทันทีที่เธอถามจบ ไอรดาจึงได้แต่พยักหน้าช้า ๆ

“แค่ข้าวกลางวันกับ เย็นเท่านั้นนะ”

“อาฮะ”

“งั้นก็โอเคค่ะ ขอบคุณที่ช่วยเหลือด้วยนะคะ......ฉันต้องพักแล้วค่ะ”

“ตามสบาย พรุ่งนี้คุณต้องเจองานหนักอีกเยอะ ฝันดีนะจ๊ะ”

“เหมือนกันค่ะ ฝันดี........พรุ่งนี้ฉันต้องเจองานหนักจริง ๆ ทั้งฉากใช้อารมณ์ ทั้งเลิฟซีน เฮ้อ....”

หากไอรดาไม่รีบหลับตาลงก่อน เธอคงเห็นใบหน้าที่ยิ้มกริ่มของปิรัญหุบยิ้มลงอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินคำว่าเลิฟซีน

......พรุ่งนี้แม่ดาราคนนี้ต้องแสดงฉากเลิฟซีนงั้นเหรอ.............

หัวใจของปิรัญกระตุกวูบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนตัวเองยังตกใจ เขาสลัดหน้าไปมาเพื่อไล่ภาพความคิดฉากเลิฟซีนที่ไอรดาต้องแสดงพรุ่งนี้ออกจากหัว

.......ไม่เอาน่ารัญ มันก็แค่งานของเธอไม่ใช่เหรอ มันเป็นงาน ๆ ....คงไม่ได้จูบจริง ๆ หรอกมั้ง เดี๋ยวเขาก็เอามุมกล้องช่วยเองแหละ แล้วนี้แกเป็นบ้าอะไรของแกเนี่ย!?!? แกกับเธอไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ท่าจะบ้าไปแล้วจริง ๆ............

ปิรัญสลัดความคิดงุ่นง่านของตัวเองออกจากหัว แต่มันไม่สำเร็จ ใจก็อยากจะปลุกคนที่นอนหลับอยู่ขึ้นมาถามให้รู้เรื่อง ว่าการถ่ายเลิฟซีนพรุ่งนี้เป็นยังไง แต่พอเห็นใบหน้าที่หลับพริ้มอยู่นั้น ความเกรงใจก็บังเกิดขึ้นกับตัวเอง

......เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยถามละกัน.......









“นี่คุณ.....คุณรัญ.....รัญ.....ตื่นได้แล้วค่ะ”

ร่างของปิรัญถูกเขย่าเบา ๆ ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา เขามองใบหน้าสวยที่จ้องมองเขาอยู่ไม่ห่างอย่างงง ๆ

............ผู้หญิงคนนี้ ใครกัน????..............

ความง่วงทำให้เขาลืมไปชั่วขณะว่าคนที่ปลุกเขาคือใคร เขาหลับตาลงอีกครั้ง ภาพของการพบปะ พุดคุยระหว่างเขาและไอรดาโผล่ขึ้นมาในความคิด

.......วันนี้ต้องไปส่งไอรดาที่กองถ่ายนี่นา...........

พรึบ!!!!

ปิรัญเด้งตัวขึ้นจากที่นอนอย่างรวดเร็ว เมื่อนึกได้ว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง การที่เขาพรวดพราดลุกขึ้นเล่นเอาไอรดาที่เป็นฝ่ายปลุกตกใจจนต้องถอยหนี

“อะ...โทษทีนะ พอดีลืมนะ กี่โมงแล้ว? สายหรือเปล่า?”

“ตีห้าครึ่งค่ะ คงไม่สายถ้าคุณสามารถอาบน้ำแต่งตัวภายในครึ่งชั่งโมงแล้วเราออกจากที่นี่ก่อน 6.30 น.”

“โอเค...แค่สิบห้านาทีก็เกินพอ”

ว่าแล้วปิรัญก็พยุงตัวเองเข้าไปทำธุระของตัวเองภายในห้องน้ำ โดยที่ไอรดาจัดการกับตัวเองที่ห้องแต่งตัวหน้าห้องน้ำ

“ดา.....”

เสียงเรียกของปิรัญที่ในห้องน้ำทำให้ไอรดาหันไปมองที่ประตูห้องน้ำ

“รัญเห็นดาเอาเสื้อผ้าตัวเองใส่กระเป๋าเดินทางอยู่ ดาเอาไปแขวนในตู้ของรัญก่อนก็ได้นะ เสื้อผ้าจะได้ไม่ยับ”

ปิรัญบอกจุดประสงค์ที่เขาเรียกหาไอรดา ทำให้ดาราสาวยิ้มหวานกับความห่วงใยที่ได้รับจากปิรัญเพื่อนใหม่

......เพื่อนใหม่งั้นเหรอ แล้วทำไมเราใจเต้นอย่างนี้ละ....

“ดา......ดาได้ยินที่รัญพูดมั้ยคะ?”

เสียงของปิรัญถามย้ำขึ้นมาอีก เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากร่างที่เขาทวงถาม

“ค่ะ ดาได้ยินค่ะ......แต่เดี๋ยวเย็น ๆ ค่อยทำก็ได้ค่ะ ทำตอนนี้ไม่ทันแน่ ๆ”

“โอเค.......ตามใจค่ะ”

แล้วเสียงปิรัญก็เงียบไป ไอรดาได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัวไหลลงมา ปิรัญคงกำลังจัดการกับตัวเองอยู่ เธอจึงจัดการกับตัวเองบ้าง ไม่นานปิรัญก็ออกมาจากห้องน้ำ ในสภาพที่ไอรดาไม่คิดว่าจะได้เห็น

ปิรัญในชุดเสื้อกล้ามสีขาวในท่อนบน และกางเกงบ็อคเซอร์สีเทาท่อนล่างไอรดาตาค้าง อ้าปากเล็กน้อย เธอไม่นึกว่าเขาจะกล้าแต่งตัวอย่างนี้ออกมาทั้งที่เธออยู่ตรงนี้ ตรงหน้าห้องน้ำ

“อย่ามามองแบบนี้คนสวย เดี๋ยวก็จับโยนขึ้นเตียงซะหรอก”

ปิรัญแซวยิ้ม ๆ เมื่อเห็นไอรดาจ้องเขาตาไม่กระพริบ ไม่ใช่สายตาแบบเสน่หา แต่เป็นสายตาตกใจและเขินอายมากกว่า.....

“คนบ้า”

ไอรดาบ่นอุบ ก่อนที่จะเดินเลี่ยงออกจากห้องแต่งตัวผ่านห้องนอน และมารอปิรัญแต่งตัวที่ห้องรับแขก

“โทษทีนะ.....รอนานมั้ย?”

ปิรัญโผล่ออกมาพร้อมกับคำขอโทษ เขาเหลือบตามองนาฬิกาที่ฝาผนัง 6.15 น.

“ไม่เป็นไรยังทันอยู่คะ”

“งั้นก็ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทัน ว่าแต่กองถ่ายอยู่ที่ไหน?”

“สาธรคะ”

“เข้าใจเลยว่าทำไมถึงตื่นตั้งแต่ตีห้า”

“ฉันไม่ชอบผิดเวลานะคะ คนรอเขาเสียความรู้สึก เชื่อเถอะถึงวันนี้เราจะไปถึงกองตอนแปดโมงเช้าแต่กว่าจะได้ถ่ายก็โน้นคะ บ่ายแก่ ๆ โน้นแหละ”

ไอรดาพูดให้ปิรัญฟัง พร้อม ๆ กับที่ก้าวออกจากบ้านของมัลลิกา ปิรัญทำการล็อคบ้านจนเรียบร้อย

“แทนตัวเองว่า ดา ได้ไหม? มันน่ารักกว่านะ เหมือนเมื่อกี้”

ปิรัญพูดขึ้นมาเขาชอบการพูดที่แทนตัวเองโดยใช้ชื่อ หรือไม่ก็เค้ากับตัว มากกว่าคำว่า ฉันกับเธอ มันฟังดูสบายหูและน่ารักกว่า.......แต่การพูดลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นระหว่างเขากับมัลลิกาแน่นอน

“ค่ะ”

“แล้วทำไมทั้งที่เราไปตั้งแต่เช้า แต่กว่าจะได้ถ่ายก็บ่ายละ”


ปิรัญเอ่ยถามไอรดาขณะที่เดินมาใกล้ ๆ กับรถคันหรูของเขา พร้อม ๆ กับที่เขาเปิดประตูทางฝั่งคนนั่งให้กับไอรดา

“ขอบคุณค่ะ”

ปิรัญปิดประตูรถและเดินก้าวขึ้นมานั่งคู่กับไอรดาในตำแหน่งคนขับ

“ยังไม่ได้ตอบคำถามเลยนะ”

ปิรัญทวงคำตอบจากไอรดา แต่ที่เขาได้รับกลับเป็นรอยยิ้มหวานของเธอ และคำพูดที่ว่า

“ถ้าวันนี้รัญอยู่ที่กองถ่ายตลอดจะรู้ค่ะ...ว่าทำไม?”

“บอกตอนนี้ไม่ได้เหรอ....”

“ไม่ค่ะ เห็นเองกับตาดีกว่า ไม่อยากนินทาใครลับหลังค่ะ”

“โอเค.......คอยดูนะ มื้อกลางวันกับมื้อเย็นจะเอาให้กระเป๋าฉีกเลย”

เสียงหัวเราะคิกคักของไอรดาและปิรัญดังในรถ ทั้งคู่คุยกันไปเรื่อยพร้อม ๆ กับที่รถของทั้งสองแล่นไปตามท้องถนนมุ่งหน้าไปสู่จุดหมายปลายทาง.................









เอ่อ......คือ............มาแบบเร่งด่วนเลยค่ะทุกท่าน

พอได้เรื่องมาก็รีบเอามาลงเลย.....ไม่ได้ตรวจว่ามีคำผิดหรือเปล่า?.....อ่านไปเจอแล้วอย่างโวยกันนะคะ -/|\-

ก็นะ เรื่องเพิ่งได้มาด่วน ๆ ก็เลยรีบเอามาลงแบบด่วน ๆ

ดูเหมือนจะมีหลาย ๆ คนนะที่เดาออกว่าเป็นใครที่เขียนเรื่องนี้.....รู้แล้วก็เหยียบไว้เลยค่ะ อิอิ......เก็บเอาไว้ เป็นความลับ ให้เหมือนกับชื่อเรื่องนะคะ หุหุ

พูดมากไม่ดีเน๊อะ.....ไปก่อนละค่ะ ไว้เจอกับอัคจังได้ตอนหน้านะคะ....ตอนที่คนพิเศษของอัคจังปั่นตอนที่ 3 เสร็จ.....

แล้วมันเมื่อไหร่ละน้อ......

~Mibu Akari~




"......อย่าลืมเม้นต์กันนะจ๊ะ....."


< ตอนที่ 1ตอนที่ 3 >



Create Date : 26 มกราคม 2550
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2550 17:29:08 น. 0 comments
Counter : 828 Pageviews.

samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.