ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
14 ธันวาคม 2549
 
All Blogs
 
~~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~~ ตอนที่ 16

คำเตือน(ซา'เคียว แอบซีเรียส)


เรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นทั้งหมด เนื้อหาบางตอนอาจมีบางส่วนที่รุนแรงเกินไป กรุณาอย่านำไปลอกเลียนแบบใช้ในชีวิตจริงเด็ดขาด




Chompoo talk…....…


หลังจากที่พริกออกจากห้องไปวันนั้น ฉันกับเขาก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ไม่รู้ว่าเขาหายไปไหน แต่วันนี้ฉันกับเขาต้องได้เจอกันแน่ ๆ เพราะวันนี้เราจะไปทัศนะศึกษากัน ไม่อยากจะบอกเลยค่ะ ว่าเรากำลังจะไปทัศนะศึกษากันที่ประเทศฝรั่งเศส เรากำลังจะไปขึ้นหอไอเฟล กรี๊ดดดด ดูหรูมั้ยคะ โฮ๊ะ ๆ หรูจริง ๆ ค่ะ .......

ที่บอกเมื่อกี้คือความฝันค่ะ-______-!!!!สถานที่ที่เราจะไปทัศนะศึกษากันจริง ๆ ก็คือ อุทยานแห่งชาติสันป่าเกี๊ยะ

รู้จักมั้ยคะ? ต้องรู้แน่ ๆ เพราะมันอยู่ในเมืองไทยนี่เอง จะว่าฉันโง่หรือเปล่าคะ ถ้าจะบอกว่า ยัยชมพู่คนนี้ไม่รู้ว่ามันอยู่ส่วนไหนของประเทศ ฮือ ๆ ......ทำไมมันน่าอนาถใจอย่างนี้นะ เรื่องแค่นี้ฉันก็ไม่รู้

“ไอ้เหมี่ยว........ไอ้พริกไม่มาเหรอวะ ไม่เห็นหัวมันเลย”

ฉันหันไปมองเสียงที่ถามมา โอ้.........แสงสว่างมันมาจากไหนนะ ทำไมมันแสบตาอย่างนี้ อ๋า.....ที่แท้ก็แสงสะท้อนความหล่อจากรอยยิ้มของไอย์สุดหล่อ แห่งสาขางานสำรวจนี่เอง จะว่าไปไอย์น่าจะเป็นหนุ่มหล่อสุดฮ๊อตแห่งวิทยาลัยนี้เลยก็ได้ เพราะเท่าที่เห็นมา ยังไม่มีใครหล่อสู้ไอย์ได้เลย (เฉพาะเพศชายนะคะ)

“ยังไม่เห็น” ฉันตอบเรียบ ๆ ไอย์แค่พนักหน้า

“สงสัยมาสายเพราะเมื่อคืนไปเที่ยวกะสาวมาแน่มันน่ะ” ไอย์พูด ฉันหูผึ่งทันที อะไรนะพริกไปกับสาวงั้นเหรอ

“อะไรของแกวะไอย์” เสียงของพัฒดังขึ้น เขามายืนอยู่ข้าง ๆ ฉันตั้งแต่เมื่อไหร่นะ

“ก็เมื่อคืนแถวไนท์บาร์ซ่า ฉันเห็นไอ้พริกอยู่กับสาวว่ะ สวยสุดยอด เอ็กซ์สุด ๆ ว่าจะเข้าไปทักแล้ว แต่มันขึ้นรถไปซะก่อน เลยไม่รู้เลยว่ามากับใคร”

คำบอกเล่าของไอย์ทำให้ฉันใจไหววูบทันที ที่พริกไม่กลับมาที่ห้องเพราะไปอยู่กับสาว ๆ นี่เอง แต่ก็นั่นแหละ เขาจะทำอะไรก็เป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อย.......ฉันไล่เขาไปเองนี่น่า

“ว่าก็มาเลย นั่นไง”

ไอย์พูดขึ้น ฉันหันไปทางเดียวกับที่ไอย์มอง รวมทั้งพัฒด้วย พริกกำลังลงจากรถคันหรูสีดำคันหนึ่งลงมา เขาเดินอ้อมมาทางประตูคนขับ กระจกรถค่อย ๆ เลื่อนลงมาทำให้พวกเราเห็นหน้าคนขับ

“คนนี้เหรอวะที่ไอ้พริกอยู่ด้วยเมื่อคืน” พัฒถามไอย์

“ช่ายแล้นนน คนนี้แหละ เป็นไงอึ้งเลยมั้ย” พวกไอย์พูด

“เฮ้ย!!!! ไอ้พริกมากับใครวะนั่น”

ต้นเดินมาถามพวกฉัน ฉันจะรู้มั้ยว่ายัยป้าคนนั้นคือใคร? ฉันไม่รู้หรอกย่ะ เชอะ!!! สวยตายเลยนะนั่นน่ะ แก่งักขนาดนั้น ก็แค่ดูดีนิดหน่อยเอง ทำไมเดี๋ยวนี้ฉันเป็นคนที่มีความคิดอิจฉาตาร้อนคนอื่นแบบนี้เนี๊ยะ -_____-!!!

“แม่เอ้ย...... สุดยอดว่ะ”

สุดยอดตรงไหนยะ ไม่เห็นจะสวยเลย (ภาพที่พวกพัฒและคนอื่น ๆ เห็นก็คือ สาวสวยอายุมากกว่าเขาคงหลายปีอยู่ แต่หน้าตาบอกว่าได้รับการดูแลอย่างดี ปากบางเฉียบ ถูกแต่งแต้มด้วยลิปติคสีแดงสด ใบหน้าเต่งตึงถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางยี่ห้อหรู ดวงตาถูกปิดบังดังแว่นกันแดดสีดำ)

“ทำไมโผล่แต่หน้าวะ อยากเห็นว่าหุ่นจะจ๊าบขนาดไหน” เสียงต้นยังพูดต่อไป

“36 24 38 ชัวร์ เมื่อคืนฉันเห็นคนนี้แหละ” เสียงไอย์บอกออกมา

“อู้หู!!!”

พวกพัฒกับต้นอุทานขึ้นมาพร้อมกัน คอยดูนะฉันจะฟ้องหนิงว่านายมองสาว นายต้น

“ไอ้พริกมันไปคว้ามาจากไหนวะ”

พัฒพูดขึ้น ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองอยากจะเดินไปกระชากตัวพริกออกมาจากผู้หญิงคนนั้น ฉันหึงใช่หรือเปล่าคะ?

พริกเดินมาทางเราแล้ว เขามองมาทางฉัน หรือเปล่าหรือไม่ใช่ -*-(ตกลงใช่หรือไม่ใช่ขอรับ) ฉันแค่มองเขาเฉย ๆ พอเขาสบตากับฉันเท่านั้นแหละ แล้วเขาก็หันกลับไปหายัยป้าคนนั้นอีก จากนั้นพวกพัฒ และเพื่อน ๆ ของเราแถวนั้นก็ส่งเสียงแซวกันเจี๊ยวจ้าว เมื่อพริกก้มหน้าไปจูบปากยัยป้าคนนั้นอวดพวกเรา

ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะร้องไห้ออกมาอย่างนั้นแหละ ฉันทนเห็นภาพแบบนี้ไม่ไหวแล้ว ฉันเดินไปที่รถบัสที่เราจะใช้ในการเดินทางครั้งนี้ก่อนจะก้าวขึ้นรถไป ฉันไม่สนใจแล้วว่าพริกจะจูบหรือจะทำอะไรกับใคร

ไอ้ฉันรึอุตส่าห์เฝ้าเป็นห่วง แต่กลับไปอยู่กับสาวแถมยังมากอดจูบกันให้เห็นอีก ฉันเดินมานั่งที่เบาะหลังสุดของคนรถเลยละ เรื่องของเรื่อง กะว่าถ้าร้องไห้จะได้ไม่ต้องมีใครสังเกตเห็น และว่าแล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาจริง ๆ

“บ้า ๆ ๆ ๆ ไอ้คนบ้า......ฮืออออ”









Prik talk……………………




พวกผมเดินขึ้นรถบัสมาหลังจากที่ถูกอาจารย์ไล่กวดมา

“ไอ้พริก....ตกลงไอ้คนที่แกจู....จู...จู๊บบบบบบบเมื่อกี้เนี๊ยะใครวะ.....เซ็กซี่ได้ใจข้าพเจ้ามากมายเลยวะ”

เสียงไอ้ไอย์ถามผม

“เออ...แกไปคว้ามาจากไหนวะ”

“แล้วไอ้ที่แกหายหัวไปไม่มาร่ำมาเรียนเพราะพี่เขาป่าววะ” ไอ้พัฒกับไอ้ต้นถามผมต่อไอ้ไอย์

“ก็......”

ผมพูดค้างซะเฉย ๆ สายตาของผมมองกวาดไปทั่วคันรถเพื่อหาที่นั่ง

“ไอ้เหมี่ยวอยู่นั่น ไปนั่งกับมันดีกว่า”

ไอ้พัฒพูดขึ้นพร้อมกับเดินเบียดผมไป มันดิ่งไปหาไอ้เหมี่ยวทันที

“ว่าไงยังไม่ได้ตอบคำถามเลยนะโว้ย”

“ไม่รู้โว้ย!!!!....”

ผมสวนไอ้ไอย์กับไอ้ต้นไป ก่อนจะเดินมานั่งแถวฝั่งตรงข้ามกับไอ้เหมี่ยว ไอ้ต้นตามมานั่งข้าง ๆ ผม เห๊อะ.....ไอ้บ้าพัฒจะจีบทอมอย่างไอ้เหมี่ยวหรือไงวะ??? >>>>>>ทำยังกะตัวเองไม่ชอบเขาอย่างนั้นแหละ อิโธ่.....

“เป็นอะไรวะไอ้พริก ทำหน้ายังกะจะกัดไอ้พัฒยังงั้น” ไอ้ต้นเอ่ยถามผม

“หมั่นไส้วะ”

แกดูเพื่อนแกสิ....ทำท่ายังกะจะจีบไอ้เหมี่ยวยังงั้นแหละ.............ผมก็ได้แต่พูดในใจเท่านั้นแหละครับ พูดอะไรไปตอนนี้ ก็โดนแซวเปล่า ๆ

“แกว่าไอ้พัฒจีบไอ้เหมี่ยวหรือเปล่าวะ?” .......อ้าว!!!! ไอ้เวร ย้อนกลับมาถามตูอีก

“ไม่รู้โว้ย!!!!” ผมตวาดใส่ไอ้ต้นไป จากนั้นก็หันหน้าออกนอกหน้าต่าง เลิกสนใจไอ้พวกนี้ดีกว่า ไม่อย่างนั้น ผมต้องบ้าไปจริง ๆ แน่ ๆ









รถเริ่มเคลื่อนตัวออกจากวิทยาลัย แต่ก็ต้องมาติดแหงกเพราะการจราจรในกรุงเทพฯ แล้วอย่างนี้อีกกี่ชาติกว่าจะถึงล่ะ

ไอ้ต้นบอกผมว่าเราจะไปทัศนะศึกษากันที่ อุทยานแห่งชาติสันป่าเกี๊ยะ ที่เชียงใหม่ ผีอะไรเข้าก็ไม่รู้ไปกันซะไกลเชียว แต่ก็ดีเหมือนกันอยู่ไกล ๆ กรุงเทพสักสามสี่วันจะได้สงบ ๆ กันซะบ้าง

เสียงไอ้เพื่อนหลาย ๆ คนหัวเราะเฮฮากันเต็มคันรถ ดูพวกมันกำลังสนุกกันจริง ๆ ไอ้ต้นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็หัวเราะซะจนตัวงอแล้วงออีก ไอ้ไอย์ที่นั่งอยู่ข้างหน้ากับไอ้ยักษ์ก็พอกัน ผมเหลือบไปมองคู่ที่นั่งอยู่อีกแถวหนึ่ง


ไอ้เหมี่ยวกับไอ้พัฒไม่ได้หัวเราะตามพวกไอ้ต้น แต่สองคนนั่นกำลังคุยอะไรกันก็ไม่รู้ ดูน่าสนุกตายห่_เลย ดูเอาเถอะ ไอ้เหมี่ยวทำหน้าตายังกับผู้หญิงถูกจีบยังงั้นแหละ ทำเป็นหน้าแดง.......>>> อาการเยี่ยงนี้ บ้านพี่เรียกหึงคัฟ พริก รู้ตัวมั้ยคัฟ หึงคัฟ อิอิ

“ไอ้คนทุเรศ” ผมพึมพำเบา ๆ

“แกว่าอะไรนะไอ้พริก” ไอ้ต้นถามผม

“ไม่มีอะไร”

แล้วผมก็หันหน้าออกไปนอกหน้าต่างอีกรอบ สุดท้ายผมก็หลับตาลง ขี้เกียจสนใจสิ่งรอบตัวแล้ว ลำพังแค่ไอ้พวกเพื่อน ๆ นะไม่เท่าไหร่หรอก แต่ไอ้คู่ที่นั่งอยู่อีกแถวนั่นต่างหากที่ทำให้ผมอยากตัดตัวเองออกจากโลกนี้.......ให้ตายเหอะนี่ผมเป็นบ้าอะไรเนี๊ยะ

ผมจะรักไอ้เหมี่ยวได้ยังไง ในเมื่อมันเป็นทอม และผมก็เป็นทอม ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ เลยที่หลงรักทอม แถมทอมคนนั้นยังคือไอ้เหมี่ยวอีก

พระเจ้า......แกล้งอะไรผมเนี๊ยะ ทำไมไอ้เหมี่ยวไม่เป็นดี้หรือผู้หญิงนะเนี๊ยะ ผมกลายเป็นคนวิกลจริตไปแล้วใช่มั้ยครับ?

^

^

^

“เฮ้ย....ไอ้พริก ลงไปข้างล่างมั้ย รถเขาจอดพัก สงสัยคนขับปวดขี้ว่ะ”

เสียงไอ้ต้นทำให้ผมค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ผมหลับไปนานเท่าไหร่แล้วนะ

“หืม.....กี่โมงแล้ววะ” ผมงัวเงียถามไอ้ต้นไป

“บ่าย 4 ฉันลงไปแล้วนะ แกก็ลงไปหาอะไรแด_ได้แล้ว ข้าวกลางวันก็ไม่ได้กินนี่นา”

ไอ้ต้นเดินผละออกไป แต่ผมยังอยากนอนอยู่เลย ไม่หิวเลยแฮะ อยากนอนต่อ.....ผมหันไปทางที่นั่งอีกแถวหนึ่ง ไม่มีร่างของไอ้เหมี่ยวอยู่ ไอ้พัฒก็ไม่อยู่ ไปกินข้าวกันมั้ง ผมหันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง ผมเห็นไอ้ไอย์ยืนคุยโทรศัพท์อยู่พร้อมกับไอ้ยักษ์ ไอ้ต้นกำลังเดินไปที่ร้านข้าว แล้วไอ้พัฒกับไอ้เหมี่ยวล่ะ.....

ภาพของไอ้เหมี่ยวกับไอ้พัฒกำลังสั่งข้าวอยู่ที่ร้านข้าว ดู ๆ ไปแล้วไอ้เหมี่ยวก็ดูเหมาะกับไอ้พัฒเหมือนกันนะ ผมพยายามหันหน้าออกจากภาพของสองคนนั้นแล้วนะ แต่มันทำไม่ได้เลย ผมยาว ๆ ของไอ้เหมี่ยวถูกมัดรวบขึ้น ต้นคอขาว ๆ นั้นผมเคยซุกไซร้มาแล้ว มันหอมมาก ๆ ริมฝีปากบาง ๆ นั้นผมก็เคยจูบ ผมรู้ดีว่ามันยั่วยวนใจขนาดไหน ผมค่อย ๆ หลับตาลงอีกครั้ง ไม่อยากเห็นไอ้เหมี่ยวอยู่ข้าง ๆ ใคร ผมต้องผิดปรกติไปแล้วแน่ ๆ









สัมผัสเย็น ๆ ที่แนบแก้ม มันทำให้ผมรู้สึกตัวอีกครั้ง ผมลืมตาตื่นขึ้นมา สายตาของผมปะทะเข้ากับใบหน้าสวยหวานของไอ้เหมี่ยว ที่ยื่นมาใกล้ ๆ ผมยาว ๆ ของมันถูกปล่อยออกมายาวสยาย มันกำลังยิ้มหวานให้ผม

“เหมี่ยว”

ผมเรียกชื่อมันอย่างแผ่วเบา มันยังคงยิ้มหวาน ผมชอบเวลามันยิ้มอย่างนี้จังเลย มันดูน่ารักมาก ๆ

“หิวมั้ย เอาช็อคฯมาให้”

เสียงไอ้เหมี่ยวพูด พร้อมกับชูช็อคโกแลตให้ผมดู ช็อคโกแลตมันถูกแกะแล้วนี่น่า ไอ้เหมี่ยวยังคงยิ้มหวาน ผมกำลังจะรับช็อคโกแลตนั่นมา แต่....ไอ้เหมี่ยวมันดันกินตัดหน้าผมซะงั้น เสียงหัวเราะของมันดังเบา ๆ มันนั่งลงข้าง ๆ ผม มันยังคงเคี้ยวช็อค ฯ อย่างอร่อย

“ไม่กินเหรอ” ดูมันพูดเคี้ยวอยู่ตุ้ย ๆ ไม่แบ่ง

“กินดิ”

ไอ้เหมี่ยวส่งช็อค ฯ มาให้ แต่ผมไม่ได้ต้องการจากมือของมัน ที่ผมอยากได้น่ะ ที่อยู่ในปากมันต่างหาก

ผมจูบปากมันอย่างรวดเร็ว มันก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรผม แถมยังให้ความร่วมมือให้ผมได้กินช็อคโกแลตในปากของมันอย่างง่ายดายด้วย

ช็อคโกแลตนะมันหวาน ยิ่งกินอย่างนี้ยิ่งหวาน ผมวนเวียนจูบไอ้เหมี่ยวอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้ว ผมไม่คิดจะหยุดจูบหรอกนะ พูดง่าย ๆ ผมหยุดไม่ได้ต่างหาก ไอ้เหมี่ยวหวานเกินไปจนผมห้ามใจตัวเองไม่อยู่ ใครจะว่าผมบ้าที่รักทอมด้วยกันก็ช่างหัวมันผมไม่สน ผมสนแค่ไอ้เหมี่ยวคนเดียวก็พอ

.......................แค่ไอ้เหมี่ยว..............................

“พริก......พริก....เฮ้ย!!!! ไอ้พริก”

ผมสะดุ้งสุดตัว มองไปทางต้นเสียง ไอ้ไอย์ทำหน้าสะใจเมื่อผมมองหน้ามัน ผมรีบหันไปข้าง ๆ ตัว ไอ้ต้นนั่งหัวเราะผมอยู่เอิ๊กอ้าก ส่วนไอ้พัฒมองผมนิ่ง ๆ

ไอ้เหมี่ยวละ...เมื่อกี้มันอยู่ข้าง ๆ ผมนี่น่า ผมยังจูบมันอยู่เลย แล้วทำไมกลายเป็นไอ้ต้นละ.....

“ฝันดีอยู่เหรอวะ...เรียกเป็นชาติไม่ตื่น”

เสียงไอ้ไอย์ดังขึ้นอีก....ฝันเหรอ เมื่อกี้ผมฝันเหรอ

“มันของแน่อยู่แล้ว หลับไปยิ้มไปอย่างนี้ไม่ดีฉันก็ไม่รู้ว่าจะว่ายังไงแล้วว่ะ” เสียงไอ้ต้นเอ่ยขึ้น

“ฝันอะไรอยู่วะ...ฝันถึงพี่สาวสุดสวยเมื่อเช้าหรือเปล่าวะ”

ไอ้ไอย์พูดพร้อม ๆ กับเสียงหัวเราะ

“เรียกทำไมวะ....กำลังดีอยู่เลยไอ้เวรเอ้ย!!!!”

ผมพูด เพราะไอ้ไอย์ปลุกผมแท้ ๆ ผมเลยไม่รู้เลยว่าต่อจากจูบผมทำยังไงต่อกับไอ้เหมี่ยว แล้วนี้ผมคิดอะไรอยู่เนี๊ยะ.......โว้ย.....ไอ้เหมี่ยวมันเป็นทอมนะโว้ย!!! แกจะจูบกับมันได้ยังไง (แต่ก็จูบกันไปหลายรอบแล้วนี่น่า : ซา’เคียว , ก็แล้วใครเขียนละ : ไอ้พริก)

“ความสุขขาดตอนเหรอวะ” ไอ้ไอย์ยังถามต่อ

“เออ”

“การที่แกไม่มีความสุขนั่นแหละคือความสุขของฉัน ดังนั้นฉันไม่ยอมให้แกฝันดีหรอก 555 ฝันค้างนะดีแล้ว สม” ไอ้ไอย์ ไอ้เพื่อนเลว

“ไอ้เลว”

“ขอยืมคำพูดไอ้เหมี่ยวมาใช้หน่อยนะโว้ย -ถึงจะเลว แต่ฉันก็หล่อว่ะ- 555”

ผมอยากเอากำปั้นยัดปากไอ้ไอย์ให้มันหมดหล่อไปเลยล่ะ ไอ้บ้าเอ้ย...ความสุขของพวกมันคือการที่เห็นความทุกข์ของผม ดูมันสิครับ ช่างรักเพื่อนเหลือเกิน แค่ฉันจะฝันดีสักหน่อยก็ไม่ได้ ขัดคอตั้งแต่ตื่นยันหลับเลยนะพวกมัน

ผมหันไปยังตัวต้นเหตุที่ทำให้ผมกลายเป็นเป้าไอ้เพื่อนขบวนการลิงนรก ดูไอ้เหมี่ยวมันทำ มันไม่สนใจผมเลย....นั่งทำหน้าเรียบเฉยมองออกไปนอกหน้าต่างซะอย่างงั้น โธ่โว้ย!!! ไอ้เวร...ฉันทรมานเพราะแกอยู่นะโว้ย สนใจฉันหน่อย......

^

^

^

^



Chompoo talk….......

ความมืดเริ่มปกคลุมแล้ว ฉันไม่ได้มองนาฬิกา แล้วก็ไม่รู้ว่าถึงไหนแล้วด้วย แต่ในรถของพวกเรายังคงครึกครื้น หลังจากที่เพื่อน ๆ เบื่อที่จะฟังเพลงจากเครื่องเสียง ก็เปลี่ยนเป็นการเล่นกีต้าร์แทน เสียงร้องเพลงดังเป็นระยะ รวมทั้งเสียงตะโกนขอให้เล่นเพลงนั้นเพลงนี้ มือกีตาร์ก็คือ ไอย์ ต้น และพัฒที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ฉัน

เสียงเฮฮายังคงไม่หยุด ฉันหันไปทางคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ต้น เขายังคงนิ่งเฉย ตั่งแต่ขึ้นรถมาฉันแทบจะไม่เห็นเขาพูดกับใครเลย

“นี่เราถึงไหนกันแล้ววะ” เสียงยักษ์ถามเพื่อนตัวเอง

“แพร่” เสียงไอย์ตอบ

“รู้ได้ไงวะ”

“ก็ฉันเป็นคนแพร่นี่หว่า ทำไมจะจำบ้านตัวเองไม่ได้วะ” หา.....จริงเหรอ ไอย์เป็นจังหวัดแพร่เหรอ มิน่าสำเนียงพูดของไอย์ถึงดูไม่เหมือนคนทางภาคกลาง

“พัฒ ไอย์เป็นคนแพร่เหรอ”

ฉันหันไปถามพัฒที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ เขาพยักหน้า

“ใช่ มันมาเรียนที่กรุงเทพ ฯ ตั้งแต่จบ ม.ต้นนะ เห็นว่าเบื่อแม่ขี้บ่นเลยหนีมาเรียนที่นี่” ฉันพยักหน้า

“ไอ้ไอย์จริงเหรอวะที่เขาบอกว่า คนแพร่แห่ระเบิดอะ” ต้นถามไอย์

อืม...ใช่ ๆ ฉันเคยได้ยินเหมือนกัน เห็นเขาบอกว่าคนแพร่เอาระเบิดมาแห่จริงหรือเปล่านะ แต่ไอย์ไม่ตอบอะไรนอกจากชูนิ้วกลางเป็นคำตอบ

“บอกหน่อยสิวะจริงหรือเปล่า” ต้นยังคงถามไอย์

“แกเลือกเอานะไอ้ต้น ว่าจะนั่งอยู่เฉย ๆ เล่นกีตาร์ไป หรือว่าจะฟังคำตอบจากฉันแล้วลงไปวัดพื้น”

นั่นไงละ.....เพื่อนเหมี่ยวแต่ละคนทำไมเถื่อนอย่างนี้นะ.....อย่าว่าแต่ไอย์เลย พริกก็เหมือนกัน เอะอะก็ท้าตีท้าต่อยกัน มันสนุกตรงไหน

“เฮ้ย!!! ก็อยากฟังเพลงนั่นนะ ของผี ละเมอ ที่ประกอบภาพยนต์นะ ใครเล่นเป็นมั่งวะ”

ยักษ์ขอเพลงจากนักร้องจำเป็นทั้งสาม

ว่าแต่ใครคือ ผี ละเมอ เพื่อนของเหมี่ยวมีสักคนมั้ยที่จะเรียกชื่อคนถูก

“พีช เมกเกอร์ ต่างหาก ไอ้โง่”

ไอย์พูดขึ้น นอกจากนายจะหล่อแล้วนายยังดูมีสติมากที่สุดแล้วไอย์

“เออ...นั่นแหละ เล่นทีดิ”

“เพลงไรวะ ใช่เพลงที่ประกอบหนังเรื่อง เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดปะวะ”

ไอย์ถาม มีด้วยเหรอชื่อหนังเรื่องนี้ ฉันเพิ่งชมนายไปเองนะ นายทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองตาถั่วยังไงไม่รู้

“ช่างไม่รู้อะไรเลย เรื่องเพื่อนสนิท” เสียงเรียบ ๆ ของพริกเอ่ยชื่อเพลงขึ้น

“ใช่ ๆ เพลงนั่นแหละ เล่นได้มั้ยวะไอย์”

ยักษ์หันมาถามไอย์ เขายิ้มอย่างมีเสน่ห์ หล่ออะไรอย่างนี้

“คนหล่ออย่างฉันเนี๊ยะนะ แกกล้าถามว่าฉันเล่นได้มั้ยงั้นเหรอ?”

ถามหน่อยเถอะว่า ไอ้การเล่นได้ไม่ได้เนี๊ยะมันเกี่ยวอะไรกับความหล่อเนี๊ยะ =___=”

“แล้วตกลงแกเล่นได้มั้ย?” ยักษ์ยังคงถามอีก

“ไม่ได้ว่ะ” ไอย์ตอบกลับมา

“ไอ้ทุเรศ แล้วพูดทำไมวะ” พัฒเอ่ยขึ้น

“ตกลงไม่มีใครเล่นได้เลยเหรอ”

ฉันพูดขึ้นบ้าง ทั้งไอย์ ต้น พัฒส่ายหน้า

“เหรอ...น่าเสียดาย ฉันอยากฟัง”

ฉันพูดอีก จริง ๆ นะฉันอยากฟังเพลงนี้ ฉันเคยฟังแล้วสองสามครั้ง เพราะมากเลย รู้สึกว่ามันตรงใจมาก ๆ

“ไอ้พริก แกเล่นได้มั้ยวะ”

ต้นหันไปถามพริก แต่เขาเล่นบทเงียบ พริกเล่นกีตาร์เป็นด้วยเหรอ ไม่เห็นรู้เลย ถ้าเป็นเหมี่ยวนะ แน่นอนว่าเขาเล่นได้แน่ เหมี่ยวเล่นกีตาร์เก่งจะตาย

“ใครอยากฟังก็ให้เล่นเองสิ จะมากวนคนอื่นทำไม”

นายแขวะฉันหรือเปล่าเนี๊ยะพริก ฉันมองหน้าพริก ซึ่งเขาก็มองฉันอยู่ นี่คงเป็นครั้งที่สองมั้งของวันนี้ที่เราสบตากัน หลังจากที่เราสองคน ต่างคนต่างหลบตากันมาตลอด

“ถ้าเล่นได้ จะกวนคนอื่นทำไมล่ะ”

ฉันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา ถ้าเป็นยัยป้าคนเมื่อเช้านายคงรีบกุลีกุจอเล่นให้ฟังใช่มั้ย

“งั้นก็หุบปากอย่าเรียกร้องสิ”

นั่นไง...สวนฉันกลับมาอีก ฉันไม่ยอมหรอกนะ

“มันเรื่องของฉัน ปากของฉันจะหุบไม่หุบก็เรื่องของฉันเกี่ยวอะไรด้วย”

“หนวกหูชาวบ้าน”

“นายก็ทำตัวเป็นคนหูหนวกซะสิ จะได้ไม่ต้องได้ยิน”

“แกลองทำตัวเป็นคนใบ้ให้ดูก่อนสิวะ เผื่อฉันจะอยากพิการทางหูบ้าง”

“เฮ้ย!!! อะไรกันวะ ตัวต้นเหตุนะคือไอ้ยักษ์ อยากฟัง เพลงช่างโง่จริง ๆ เลย ของหนังเรื่องเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดที่ ผี ละเมอร้องนะโว้ย!! ทำไมแกสองตัวต้องมาทะเลาะกันด้วยวะ” ไอย์พูดขัดขึ้น

“เพลง ช่างไม่รู้อะไรเลย หนังเรื่อง เพื่อนสนิท พีช เมกเกอร์เป็นคนร้อง!!!!”

ฉันกับพริกพูดขึ้นพร้อมกัน และเราก็หันไปที่ไอย์พร้อมกันด้วย

“เออ...นั่นแหละ แล้วพวกแกเป็นควายอะไรกันวะ ทะเลาะกันอยู่ได้ ตั้งแต่เช้าแล้วพูดกันฉันก็ไม่เห็นพวกแกพูดกัน อ้าปากใส่กันทีก็กัดกันยังกับหมาบ้า เป็นอะไรวะ ทำตัวยังกับว่าผัวเมียทะเลาะกันเรื่องเมียน้อยอย่างงั้นแหละ”

สิ้นเสียงไอย์ ฉันกับพริก ก็หันมาสบตากัน แล้วเราก็เบือนหน้าหนีไปคนละทาง ไม่มีใครพูดอะไรอีก

“เออ...ให้มันได้อย่างนี้ ฟังเพลง ๆ คนหล่อจะร้องแล้ว” ไอย์พูด

“เพลงไรวะ” ยักษ์ถาม

“เมียพี่มีชู้”

เฮ้อออ......ฉันเสียดายความหล่อของนายจริง ๆ เลยไอย์ แล้วเพลงที่ไอย์ร้องออกมาก็เป็นเพลงที่เขาว่าจริง ๆ เฮ้ย.......ไม่ไหว ฉันนอนดีกว่า ปวดประสาทกับเพื่อน ๆ









กี่ทุ่มกี่ยามแล้วนะ ปวดฉี่ ไปฉี่ดีกว่า ฉันลุกจากเบาะนั่งบิดขี้เกียจ ภายในรถมืดสนิท เพื่อน ๆ หลับกันหมด ฉันล้วงเอามือถือออกมา ตีสองแล้ว ยังไม่ถึงอีกเหรอเนี๊ยะ ฉันค่อย ๆ ลุกแล้วเดินข้ามพัฒที่นอนอยู่ข้าง ๆ จากนั้นก็เดินไปชั้นล่างของรถ เพื่อไปห้องน้ำข้างล่าง

ชั้นล่างของรถ เปิดไฟสลัว ๆ ฉันค่อย เดินลงบันไดเล็ก ๆ นั่น แล้วเดินไปที่ห้องน้ำ ปวดฉี่จังเลย

“ใครเข้าอยู่นะ”

ฉันพึมพำเบา ๆ ข้างล่างนี้มีที่สำหรับสูบบุหรี่ด้วยเหรอ เอ๋....แต่เขาห้ามสูบบุหรี่นี่ แน่นอนค่ะว่ากลิ่นมันต้องอยู่ในห้องน้ำแน่นอน ว่าแต่ใครอยู่นะ แล้วความสงสัยของฉันก็ถูกเฉลย เมื่อพริกเดินออกจากห้องน้ำมา เราสบตากันเป็นครั้งที่สาม ไม่มีคำพูดอะไรออกจากเราสองคน พริกเงียบฉันก็เงียบ จนกระทั่ง

“หลีกสิ จะใช้ห้องน้ำ”

ฉันพูดขึ้น พริกขยับตัวเดินออกมา ฉันเดินเลี่ยง ๆ พริกเพื่อที่จะไปเข้าห้องน้ำ มีกลิ่นบุหรี่ติดอยู่ที่ตัวพริก มันผสมกับกลิ่นโคโลญน์ที่พริกชอบใช้ ปรกติฉันไม่ชอบคนสูบบุหรี่เท่าไหร่มันเหม็น แต่กับพริกไม่ใช่ กลิ่นบุหรี่มันรวมเข้ากับกลิ่นโคโลญน์ที่เขาใช้มันหอมดีจังเลยแฮะ

ฉันค่อยเดินผ่านพริกไป แต่อยู่ ๆ ร่างของฉันก็ถูกกอดด้วยอ้อมแขนของพริกจากด้านหลัง

“อะไร”

ฉันหันไปถามพริก แต่เหมือนกับว่าฉันหันหน้าไปรับจูบของพริกยังไงอย่างงั้นเลย พริกกอดฉันแน่น เขาจูบฉันร้อนแรง เหมือนกับว่าไม่ได้จูบใครมานานแล้วอย่างนั้นแหละ ปลายลิ้นของเขาตวัดควานไปทั่วปากของฉัน จนฉันเริ่มเคลิ้ม ฉันยกมือขึ้นโอบรอบคอของพริกอย่างลืมตัวและฉันก็ตอบสนองจูบของเขาอย่างว่าง่าย มือของพริกลูบไปทั่วแผ่นหลังของฉัน

ฮัดชิ้ว......

เสียงคนจาม ทำให้เราผละออกจากกัน พริกหันหน้าไปทางต้นเสียง ซึ่งฉันก็หันไปด้วย เราไม่เห็นอะไร นอกจากร่างของเด็กรถที่นอนอยู่ตรงที่นอนของเขาพลิกตัวไปมา

“ปล่อย”

ฉันพูดเบา ๆ พริกหันมามองฉัน แต่เขาไม่ได้ปล่อยฉันอย่างที่ฉันคิด เขาดันร่างของฉันเข้าไปในห้องน้ำบนรถทัวร์ พร้อมกับที่เขาก้าวตามมาด้วย

นายจะบ้าหรือเปล่าพริก ในนี้มันแคบมากเลยนะ พริกปิดประตูห้องน้ำ เสียงล็อคลูกบิดดังกลิ๊ก ตอนนี้เรายืนเบียดกันอยู่ พริกเอื้อมมือไปปิดฝาชักโคก แล้วเขาก็นั่งลง พร้อมกับดึงฉันลงไปด้วย กลายเป็นว่าฉันนั่งอยู่บนตักของพริก และฉันก็อยู่ในท่าเหมือนกับซ้อนท้ายมอเตอร์ไซเลย พริกกอดเอวฉันไว้ แต่เขาไม่ได้กอดเฉย ๆ มือของเขาลูบเอวของฉันเบา ๆ แม้จะมีเสื้อยืดขวางอยู่ แต่ฉันก็รู้สึกวูบวาบอยู่ดี

“ไอ้เหมี่ยว....”

พริกเรียกชื่อเหมี่ยว ฉันอยากให้นายเรียกฉันว่าชมพู่มากกว่านะ แต่จะเป็นได้ยังไงล่ะ

“มีอะ.....ไร”

ฉันรู้สึกว่าขนมันลุกแทบทุกเส้นเลย เมื่อมือของพริกล้วงเข้าไปในเสื้อยืดไปสัมผัสกับผิวเนื้อของฉันตรง ๆ มันค่อย ๆ เลื่อนไปตามไขสันหลังของฉัน

“มะ...ไม่มีอะไร”

เสียงพริกสั่น ๆ เขาจูบที่ซอกคอของฉันเบา ๆ ฉันหลับตาพริ้ม พริกไม่หยุดแค่นั้น เขาใช้ลิ้นโลมไล้ไปตามซอกคอของฉันก่อนจะเลื่อนใบหน้าขึ้นมา แล้วเขาก็จูบฉัน

มือของพริกทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองจะละลาย ทุก ๆ ที่ที่มือของเขาลากผ่านมันทำให้ฉันร้อนรุ่ม ลิ้นของเขาที่กำลังเกี่ยวพันอยู่กับลิ้นของฉัน มันทำให้ฉันกระเจิดกระเจิง พริกถอดเสื้อยืดของฉันออกจากตัวอย่างง่ายดาย ซึ่งฉันก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร

พริกรั้งร่างของฉันเขาไปใกล้ตัวของเขาอีก ฉันเบียดร่างเข้าไปหาพริก เขาซุกหน้าอยู่กับซอกคอของฉัน และเลื่อนใบหน้าต่ำลงไปที่หน้าอก ตัวของฉันสั่นสะท้าน พริกกำลังจะทำให้ฉันละลาย

ฉันกัดริมฝีปากไว้แน่น ไม่อยากให้เสียงมันลอดผ่านออกมา ทั้ง ๆ ที่ฉันอยากจะกรีดร้องออกมาให้ดัง ๆ ฝ่ามือร้อนผ่าวของพริก กอบกุมที่หน้าอกของฉัน พริกบีบเคล้นเบาบ้างหนักบ้าง ก่อนจะค่อย ๆ ไล่ปลายนิ้ว ไปด้านหลังอีกครั้ง

พริกปลดตะขอบราของฉันออก ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ดึงมันออกจากร่างของฉัน ทันทีที่บราหลุดออกจากร่าง ริมฝีปากของพริกก็เข้ามาครอบครองยอดปทุมถันที่ตั้งชูชันอยู่

ปลายลิ้นของพริกตวัดรัวอยู่ตรงนั้น จนฉันทนแทบไม่ไหว ฉันกัดริมฝีปากไว้แน่น เพราะความเสียวซ่านที่พริกกำลังสร้างขึ้นอยู่ทำให้ฉันแทบจะระเบิดออกมา

ร่างกายเบียดชิดอยู่กับร่างของพริก นิ้วมือของเขา ไล้เกลี่ยยอดอกอีกข้างหนึ่ง ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นบีบเคล้น

“อะ....อื้อ”

ความวาบวามที่ก่อตัวอยู่ ทำให้ฉันเผลอร้องออกมา ก่อนจะรีบเม้มปากกั้นเสียงครางของตัวเองไว้

พริกเงยหน้าขึ้นมาสบตากับฉัน ก่อนที่เขาจะกระชับอ้อมกอดเข้าไปอีก และรั้งใบหน้าของฉันให้ลงไปจูบกับเขา

“อืม......”

พริกดูดกลืนเสียงร้องครางของฉันเข้าไปหมด ฉันรู้สึกว่า ตัวเองร้อนจนแทบจะละลายไปกับทุกสัมผัสที่พริกกำลังมอบให้อยู่

ฉันแอ่นร่างเข้าไปตามจังหวะมือของพริกที่เคล้นคลึงอยู่กับหน้าอกของฉันอยู่ ก่อนที่มือข้างหนึ่งของพริกจะเลื่อนไปตามหน้าท้องของฉัน มันตรงไปที่ขอบกางเกงที่ฉันใส่อยู่

“เหมี่ยว.......เหมี่ยว”

พริกเรียกฉันด้วยเสียงสั่นพร่า เราสบตากัน ก่อนที่พริกจะไปงับที่ติ่งหูของฉัน พร้อม ๆ กับไล้ปลายลิ้นไปตามใบหูนั้น

พริกที่ซบหน้าอยู่ที่ซอกคอของฉัน เขาพรมจูบไปตามซอกคอนั้น และหัวไหล่ ก่อนที่เขาจะซบหน้าอยู่นิ่ง ๆ

“ทำไม.....ต้องเป็นแกด้วยนะ”

เสียง แหบพร่าของพริกดังขึ้นเบา ๆ ไม่มีใครพูดอะไรอีก มีเพียงเสียงหายใจหอบถี่ที่ดังแผ่ว ๆ เท่านั้น ก่อนที่พริกจะพละหน้าออกจากไหล่ของฉัน เขาสบตากับฉันก่อนจะหลบตาฉันเอาซะดื้อ ๆ

พริกค่อย ๆ พยุงร่างขึ้นพร้อม ๆ กับฉัน เขาสวมเสื้อให้ฉันหลังจากที่เขาเป็นคนถอด เขาไม่สบตาฉันอีก เอาแต่ก้มหน้า

“ฉันต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ ๆ เลย ใช่ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ”

พริกพึมพำ ก่อนจะเบียดตัวออกจากห้องน้ำไป โดยที่ไม่มองหน้าฉันเลย

นี่มันเกิดอะไรกับฉันอีกเนี๊ยะ


^

^

^

^

แล้วการเดินทางที่แสนจะยาวไกลของพวกเราก็จบลง เมื่อเรามาถึง อุทยานแห่งชาติ สันป่าเกี๊ยะ ตอนนี้เรามาอยู่กันที่ส่วนที่ใช้ต้อนรับแขกอยู่

“เอาล่ะ เดี๋ยวพวกเธอก็นั่งพักกันก่อนนะ เดี๋ยวจะมีอาหารมาเสิร์ฟให้ แล้วตอนบ่าย ๆ เราจะเดินทางขึ้นเขากัน เราจะดูดาวกันคืนนี้ เตรียมตัวให้พร้อม อ้อ......แล้วเราจะกางเต้นนอนกันข้างบนโน้นด้วยนะ”

“เราต้องเดินหรือครับ’จารย์ ผมไม่ไปได้ป่าว” เสียงต้นถามขึ้น

“เธอจะบ้าเหรอนายต้น เรามีรถตู้ไปส่งบนเขา ที่นี่สามารถขี่รถขึ้นไปได้”

พวกเราถอนหายใจออกพร้อมกันอย่างโล่งอก

“นึกว่าต้องเดิน ไม่งั้นฉันขึ้นรถกลับแน่ ยอมตกวิชานี้”

เสียงไอย์พูดขึ้น ฉันหันไปทางไอย์ นี่ขนาดเพิ่งตื่นนะเนี๊ยะหมอนี่ยังหล่ออยู่เลย เฮ้ย.....เพื่อนของเหมี่ยวแต่ละคนทำไมหน้าตาดีอย่างนี้นะ

ฉันหันสายตาไปยังคนที่ยื่นอยู่ข้าง ๆ ไอย์ นี่ก็อีกคน ทำไมหน้าตาดีอย่างนี้นะ ขนาดหน้ามีรอยช้ำเพราะมีเรื่องกันมานะ ยังหล่อ ฉันมองใบหน้าของพริก ที่ยืนคุยอยู่กับต้น

“มองอะไรเหรอชมพู่” พัฒกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูของฉัน

“อย่าเรียกชื่อนี้ เดี๋ยวใครก็ได้ยินหรอก” ฉันพูดเบา ๆ สายตายังไม่ละ ไปจากใบหน้าของพริกที่ยังขยับปากคุยอยู่กับต้น

“ไม่เป็นไรหรอก ไอ้พวกนี้หูไม่ค่อยดีกันหรอก”

นั่น นินทาระยะเผาขน แต่ก็ท่าจะจริง เพราะดูจะไม่มีใครได้ยินเลย

“ว่าแต่มองไอ้พริกอยู่เหรอ?”

ฉันหันหน้าไปทางพัฒอย่างรวดเร็ว ดีนะว่าฉันขยับหน้าออกทัน ไม่งั้นต้องกลายเป็นว่าพัฒหอมแก้มฉันแน่ ๆ ฉันยิ้มแหย ๆ ให้พัฒ พัฒมองหน้าฉันนิ่ง ๆ จนฉันรู้สึกว่าเขาอยากจะบอกอะไรฉันสักอย่าง

“อะแฮ้ม!!!!” เสียงกระแอมของต้นทำให้เราหันไปทางนั้น

“ส้นTeen ติดคอเหรอ” พัฒกวนประสาทต้น

“ตอนแรกฉันก็คิดว่าส้นTeenวะ แต่ดูไปดูมามันกลายเป็นก้อนน้ำตาลได้ไงก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่าใครทำหกไว้ เน๊อะ...ไอ้พริก”

ต้นสวนกลับมาแถมยังหันไปถามพริกอีก พริกมองฉันนิ่ง แววตาของเขาไร้ความรู้สึกใด ๆ มันดูเย็นชายังไงก็ไม่รู้ ฉันไม่ชอบเลย มองแล้วมันเจ็บยังไงไม่รู้

“ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันนี่” ฉันอึ้งกับคำตอบของพริก

ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันนี่....อย่างนั้นเหรอ ใช่สิมันไม่เกี่ยวกับนายเลย ไม่เกี่ยวกัน ไม่เกี่ยวสักนิดเลย

ฉันเดินผ่านหน้าพริกไปโดยไม่พูดอะไร แต่ก่อนที่จะเดินเลยพริกนั้น ฉันเหยียบเท้า เรียกว่ากระแทกเท้าใส่เท้าพริกเลยดีกว่า

“โอ้ย!!!”

“ใช่......มันไม่เกี่ยวกับนาย ไม่เกี่ยวเลย” พูดเสร็จฉันก็เดินเร็ว ๆ ออกไป

“พวกแกเป็นอะไรกันวะ”

นี่คือเสียงไอย์ที่ฉันได้ยิน ก่อนที่ฉันจะหูอื้อเพราะความโกรธที่มีให้กับพริกจนไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก




>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>




กร้ากกกก......เจ็บมั้ยค่ะพริกขา.......มาให้คุณหมอซารักษาไหมจ๊ะ....รับรองตาย เอ้ย!!!!หายจ๊ะ ( หายไปจากโลกนี้อะดิ )

5555

สะใจ ๆ ABC-Z ก็ชวด แถบโดนเหยียบติงอีก กรั๊ก ๆ ตูมีความสุขว่ะ

ตอนนี้ก็เช่นเดิม เรายังจำกัดขอบเขตของฉากอีโรติคอยู่ เพื่อมิให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี และ ผู้ใหญ่อายุเกิน 20 ปี ใจแตก 555

เอ่อ!!! - -a ดูท่าซาจังจะขัดขวางความสุขผู้อ่านทุกเพศทุกวัยจังเลยเนอะ

แต่ช่วยไม่ได้นี่น่า มันเป็นความสุขของซาจังนี่ อย่างไอ้พริกนะ แทะโลมชมพู่ครั้งละนิดครั้งละหน่อยนะพอแล้ว

คิดจะเผด็จศึกนะเหรอ ฝันไปเถอะ.... ไม่มีทาง 55555

ชมพู่เป็นของฉานเว้ยยยยยย......<<<<<<ไอ้นี่บ้าไปแล้ว อย่าไปสนใจมันเลยท่าน ๆ ทั้งหลาย


"......อย่าลืมเม้นต์กันนะจ๊ะ....."


< ตอนที่ 15ตอนที่ 17>



Create Date : 14 ธันวาคม 2549
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2550 23:13:52 น. 0 comments
Counter : 1121 Pageviews.

samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.