ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
7 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
~~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~~ ตอนที่ 11

"......อ่านแล้วไม่เม้นต์ไม่ว่า ก็แค่ไม่อัพแค่นั้นเอง....."



Joy talk……

นี่ฉันกำลังทำอะไรของฉันอยู่เนี๊ยะ ชีวิตฉันมันว่างขนาดนี้เลยเหรอไง นอกจากเรียนแล้วก็มาซ้อมวอลเลย์บอล ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ทำอะไรมากมาย เพราะชมพู่ไม่ค่อยจิกหัวใช้ฉันสักเท่าไหร่ ก็มัวแต่ซ้อมบาส แล้วไหนจะจี๋จ๋ากับขิง แถมบางทีก็แอบชิ่งไปหาอาจารย์ปริญญาอีก ไอ้บ้านี้...เจ้าชู้จริง ๆ แต่ดูท่าคงจะชอบขิงมากแน่ ๆ เพราะดูเอาอกเอาใจขิงซะเหลือเกิน

ส่วนฉันก็เป็นเพียงแค่ที่ระบายอารมณ์ของตานั่นเท่านั้นแหละ จะว่าไปแล้วตั้งแต่คราวที่แล้วชมพู่ก็ไม่เคยแตะตัวฉันเลยสักครั้ง แม้แต่นิดก็ไม่เคยเลย มีแต่ใช้ กับใช้ แค่ช่วงนี้แหละที่ห่าง ๆ ฉันไป ก็ดีเหมือนกันฉันจะได้เลิกฟุ้งซ่านซะที

“นี่เธอดูสีม่วงที่ซ้อมบาสอยู่สิ” เสียงของพวกที่มาซ้อมวอลเลย์บอลสนามเดียวกับฉัน

“ทำไมเหรอ” อีกคนถามกลับมา

“สีม่วงนี้ห้องคิง ม.5หมดเลยใช่ป่ะ ทอมเยอะจังเลยเนอะ”

“อืม ฉันก็ว่างั้นแหละพี่ก้อยเท่ห์จังเนอะ พี่อัพหล่อเนอะ”

จริงอย่างเธอแหละก้อยกับอัพดูดีมาก ๆ เลย ฉันเห็นด้วยกับสองสาวนั้น

“ไม่นะ ฉันว่าคนนั้นเท่ห์กว่าเยอะเลย น่าตาก็น่ารัก แต่ไม่รู้เป็นทอมป่าว”

“ไหนอ่ะ?”

“คนนั้นไง ผมยาว ๆ นะ ใส่เสื้อเบอร์ 4 น่ะ เท่ห์ดีนะ เมื่อก่อนออกสาวนะ แต่ตอนนี้เหมือนทอมมากเลยนะ ไม่รู้จะใช่หรือเปล่า”

ฉันกวาดสายตาตามผู้หญิงสองคนนั้น ผมยาว เบอร์ 4 ใครอ่ะ เอ๊ะ....ชมพู่

กรี๊ด......ทำไมตอนเล่นบาสถึงดูเท่ห์อย่างนี้นะ ชมพู่กำลังเลี้ยงลูกบาสวิ่งหลบผ่านอัพแล้วก็ก้อยอย่างรวดเร็ว พีก็สกัดไม่อยู่แล้วกระโดดขึ้นจะทำแต้ม แต่บูมาบังไว้ ชมพู่เหมือนจะรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ท่าเตรียมชู๊ตถูกเปลี่ยนเป็นการส่งอย่างรวดเร็ว และจีก็รับไว้

“ชู๊ตซะเร็วเข้า!!!!!!” เสียงชมพู่ตะโกน

“ไม่เอา ท่าไม่สวย”

ยัยจีขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ห่วงสวยจนเวอร์ แหกปากกว้าง ๆ สวนกลับมา

“ถ้าเธอไม่ชู๊ต ฉันจะกรีดหน้าเธอซะ!!!!”

น้ำเสียงโหด ๆ ของชมพู่ทำให้ยัยจีรีบชู๊ตทันที ผลก็ลงตามคาด เพราะยัยจีถนัดการชู๊ตไกล ๆ อยู่แล้ว จากนั้นทีมฝ่ายของก้อยก็เป็นฝ่ายบุกกลับมาบ้าง ชมพู่วิ่งกลับมาตั้งรับ

“นี่...เธอว่ามั้ย เบอร์ 4 นะเท่ห์จังเลยเนอะ ดูเด่นมากเลยอ่ะชื่ออะไรเธอรู้ป่ะ”

“ชื่อชมพู่มั้งเมื่อปีที่แล้วได้ใส่ชุดเอื้องดอยด้วย”

“น่ารักแล้วก็เท่ห์มากเลยเน๊อะ”

พวกเธอไม่รู้อะไรนั่นน่ะจอมปีศาจเลยล่ะ ฉันเลิกสนใจคำพูดของยัยสองคนนั้น หันมามองพวกชมพู่ต่อ เอ้.....ดูแปลก ๆ แฮะ ทำไมยืนกันเป็นกลุ่มอย่างนั้นล่ะ ฉันลุกขึ้นไปดูใกล้ ๆ

“พวกแกมันงี่เง่า!!!!! ต่อให้เก่งกว่านี้อีกร้อยเท่าก็ไม่มีทางชนะหรอก!!!!”

ไม่ใช่เสียงใครที่ไหนหรอกค่ะ เสียงของชมพู่เองแหละ ด่าชาวบ้านแบบไม่รักษาหน้าอย่างนี้มีแต่เขาคนเดียวแหละ

“อ้าว...ไหงมาว่ากันอย่างนี้วะ??” อัพพูดแทรกขึ้น

“แล้วมันจริงมั้ยล่ะ พวกแกนะเก่งกันก็จริง แต่เคยคิดบ้างมั้ยว่าทำไมถึงไม่เคยผ่านเข้ารอบสักที”

ชมพู่หยุดมองกราดทั่วกันทุกคน สาเหตุที่สติแตกอย่างนี้คงเป็นเมื่อกี้ ที่ฝ่ายก้อยและอัพบุกกลับมา แต่มีโอกาสชู๊ต 3 ครั้งไม่ลงสักครั้ง

“เพราะอะไรรู้มั้ย ?? เพราะพวกแกนะเห็นแก่ตัวกันไอ้กองกอยมัวแต่ห่วงหล่ออยู่นั้นแหละ ก่อนจะชู๊ตนะจะห่วงมันทำไมหล่อไม่หล่อน่ะ แกชู๊ตลงเดี๋ยวสาวมันก็กรี๊ดให้อยู่แล้ว ไม่ต้องหัวเราะคนอื่นเธอก็เหมือนกันยัยจู้จี้เหมือนกันนั่นแหละ”

ชมพู่หันมาแหวใส่ยัยจีที่ตั้งท่าจะหัวเราะใส่กองกอยที่ชมพู่เรียก คงหมายถึงก้อยแหละมั้ง

“พูดอย่างนี้หมายความว่าไงวะ ? หาเรื่องเหรอไง?”

ว่าแล้วก้อยก็ผลักไหล่ข้างหนึ่งของชมพู่ ชมพู่มองหน้านิ่ง สายตาที่มองก้อยไม่ธรรมดาเลย อ๊ายย.....ฉันรีบเดินเข้าไปหาชมพู่ ฉันไม่อยากให้หน้าตาสวย ๆ หรือหล่ออะไรก็ได้ของชมพู่เป็นแผลช้ำหรอกนะ

“ฉันไม่ได้หาเรื่อง แต่ฉันพูดความจริง แต่ถ้าแกอยากมีเรื่องฉันก็ไม่ขัด”

นั่นไง ยัยชมพู่ท้าเขาซะงั้น แถมยังผลักกลับอีก ฉันรีบวิ่งเข้าไปหาชมพู่ ฉันเห็นก้อยง้างหมัดใส่ชมพู่ก่อนที่จะปล่อยใส่ชมพู่

“อย่านะ!!!!!” ฉันตะโกนสุดเสียง

ผลัวะ!!!!.....

ฉันหลับตาปี๋....ตายแล้ว หน้าหวาน ๆ ของชมพู่ ฉันค่อย ๆ ลืมตามอง

เอ๊ะ....อ้าว ทำไมคนที่กลิ้งไม่เป็นท่าแถมยังมีเลือดกลบปากถึงกลายเป็นก้อยล่ะ ยัยพีประคองก้อยพร้อม ๆ กับบู ส่วนอัพก็หันมามองหน้าชมพู่

“แกมีสิทธิ์อะไรไปชกก้อย!!!”

เสียงอัพตะโกนขึ้น ฉันสาวเท้ามายื่นข้าง ๆ ชมพู่ที่มีเพื่อนยืนอยู่ 2-3 คนด้านหลังรวมทั้งยัยจี พวกนี้คงเข้าข้างชมพู่มั้ง

“แล้วแกมีสิทธิ์อะไรมาแหกปากแสดงความโง่ใส่ฉันวะ??”

ฉันละเชื่อปากเขาเลย ปากจัดมากจริงตาคนนี้

“ไอ้นี้!!!!”

“อยากหน้าแหกก็เข้ามา” ชมพู่เตรียมพร้อม อัพชะงัก

“ทำไมต้องลงไม้ลงมือกันด้วย!!!!!” เสียงยัยพีดังสนั่น ยัยนั้นส่งสายตาเขม่นมาให้ชมพู่

“เธอก็เหมือนกันยัยผี” ตานี่ไล่เปลี่ยนชื่อชาวบ้านเขาหมดเลยหรือไง

“ฉันจะพูดทีเดียวและครั้งเดียวนะ ที่ทีมมันไม่ชนะน่ะเพราะอะไร???”

ชมพู่หยุด แล้วก็พูดอะไรออกมากเยอะแยะ ฉันไม่ค่อยเข้าใจหรอกเรื่องบาสน่ะ แต่ฉันคิดว่าที่ชมพู่พูดนะน่าจะถูกอะนะ เพราะทุกคนนิ่งเงียบฟังกันหมด แถมบางคนยังพยักหน้ารับด้วย

“ฉันเห็นด้วยกับชมพู่นะ พวกเราเป็นแบบนั้นกันจริง ๆ” เสียงยัยจีเอ่ยขึ้น

“เธอเข้าข้างมันเหรอจี??” อัพพูดขึ้น

“จีไม่ได้เข้าข้างใครนะ แต่เห็นด้วยกับที่ชมพู่บอก พวกเราลองคิดดูสิ ที่เป็นอย่างทุกวันนี้ ไม่เคยได้แชมป์เลยน่ะเพราะอะไร?? ไม่ใช่เหตุผลที่ชมพู่พูดมาเหรอ?”

ทุกคนเงียบ ชมพู่ไม่พูดอะไร ได้แต่เฉย

“ยังไงก็ตาม ฉันจะไม่เล่นให้ทีมที่มีมันเล่น!!!!” ก้อยพูดเสียงดัง

“ก็เรื่องของแก ฉันไม่อยากจะบอกหรอกนะว่าฉันนะเล่นตำแหน่งเดียวกับแก ไม่มีแกก็ดีจะได้ไม่ต้องแย่งตำแหน่งกับใคร”

ชมพู่พูดลอยหน้าลอยตา ก้อยชี้หน้าอย่างอาฆาต

“ใครที่คิดว่าเป็นพวกเค้าก็ตามเค้าออกมาเลย!!!”

เสียงก้อยพูดขึ้น ตายล่ะ ก้อยมีเพื่อนที่เป็นนักบาสมากซะด้วยสิ ที่แน่ ๆ ยัยพีคนหนึ่งแหละ ใครก็รู้ว่ายัยนี่น่ะชอบก้อยอยู่ ชมพู่แย่แน่ถ้าคนออกจากทีมบาสหมด คนพวกนี้ยิ่งชอบเล่นพรรคเล่นพวกกันอยู่ด้วย แต่ก็คงมีแต่คนโง่แหละที่เป็นพวกกับก้อย

“คนที่ไม่มีรอยหยักในสมองเท่านั้นแหละที่จะตามเธอไปนะก้อย”

ใครพูดนะช่างกล้าหาญอะไรอย่างนี้


"......70 % ที่เหลือเอามาลงให้แล้วนะจ๊ะ....."


แต่ทำไมทุกคนมองมาทางฉันล่ะ หรือว่าไอ้ที่พูดเมื่อกี้น่ะ ฉันพูดเองเหรอ............นี่ฉันพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดออกไปเหรอเนี๊ยะ????.......ม่ายยยยยย

“เธอ....ฉลาดขึ้นนี้ยัยเบ๊” ชมพู่ยิ้มเห็นเขี้ยว เท่ห์จัง แถมยังขยี้หัวฉันอีก

“ก็มันเป็นความจริงนี้ พอตัวเองไม่พอใจอะไรก็หาพรรคพวกต่อต้านคนอื่น พูดท่าโน้นท่านี้ แต่ความจริงก็แค่สนองตอบความต้องการของตัวเองเท่านั้นแหละ ทำยังกับคนอื่นเขาไม่มีความคิดอย่างนั้นแหละ คนอื่นเค้ามีสมองคิดนะ มีแต่คนโง่ ๆ เท่านั่นแหละที่ทำตามเธอนะ”

ชมพู่มองฉันอย่างทึ่ง ๆ หลังจากที่ฉันร่ายยาว

“เธอเกี่ยวอะไรกับทีมบาส ห๊ะ!!!!!...”

ก้อยตะโกนใส่หน้าฉัน ว๋ายยยย....ฉันว่าชมพู่ป่าเถื่อนแล้วนะ ทำไมแกทำตัวไร้อารยธรรมอย่างนี้ล่ะยะ

“ถึงจอยจะไม่ใช่นักบาส แต่ก็เป็นคน ๆ หนึ่งที่เป็นสมาชิกของสีม่วงนะ เค้าเป็นห่วงทีมเพราะเราแตกแยกกัน ก็ยังดีกว่าบางคนแหละที่คิดจะทำให้ทีมแย่ลง”

เสียงของเพื่อนคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ใช่ ๆ ฉันเห็นด้วย แต่สายตาของก้อยที่มองมาทางฉันมันทำให้ฉันเสียวสันหลังจนต้องไปแอบอยู่หลังชมพู่ ชมพู่เหลือบมามองฉันนิดหน่อย ก่อนจะขยับมายืนบังฉันไว้ เธอปกป้องฉันเหรอ ขอบคุณอย่างมากเลยเจ้าค่ะ ทีนี้ก็เข้ามาเลยก้อยฉันไม่กลัวนายหรอก.......

“จำไว้นะ พี อัพไปกับฉัน!!!!” ก้อยสั่งพีกับอัพ แต่ทั้งคู่ดูลังเล

“มากับฉัน!!!!!!...” เสียงก้อยดังขึ้นด้วยความไม่พอใจเมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสองมีท่าทางรีรอ

“บู จี จะมากับฉันมั้ย?!?!?”

ก้อยเปลี่ยนเป้าหมายมาทางบูกับจี บูหลบสายตา ส่วนยัยจี ขยับมาอยู่หลังชมพู่ ยัยนี่ มาเบียดที่ฉันทำไมยะ

“พวกแกเห็นมันดีกว่าฉันใช่มั้ย?!?!?!?” ก้อยกระแทกเสียงขึ้น

“ไม่มีใครเข้าข้างใครหรอกนะ แต่ที่ทุกคนยื่นอยู่ตรงนี้ เพราะเค้าอยากเล่นบาส พวกเราอยากชนะ และพวกเราก็เห็นความสำคัญของคำว่าเพื่อนมากกว่าเห็นความสำคัญของตัวเองต่างหาก”

ชมพู่ตั้งแต่เธออ้าปากพูดครั้งนี้แหละที่ฟังดูเป็นภาษาคนมากที่สุด (ยัยเบ๊นี่เธอชมฉันหรือเปล่าเนี๊ยะ???)

“ก้อยคือ......ไม่ใช่เราไม่เข้าข้างแกนะ แต่เราอยากเล่นบาส” บูที่ดูจะพูดน้อยที่สุดออกปากขึ้น

“เออดี ๆ ดีมาก คอยดูนะ พวกแกไม่มีทางชนะถ้าไม่มีฉัน คอยดู” แล้วก้อยก็เดินออกไป หลังจากฝากคำแช่งไว้

“เอาไงต่อ?” อัพหันมาถามชมพู่

“จะเอาไงล่ะ????” ชมพู่ถามกลับ

-________-++++++ สีหน้าของทุกคน

“ก็ซ้อมต่อไง” ชมพู่พูด

“แล้วนายเล่นแทนก้อยได้ใช่มั้ย??? บอกว่าเล่นตำแหน่งเดียวกันนี่”

เสียงยัยพีถามแบบไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไหร่

“เปล่า!!! ฉันพูดแหย่มันแค่นั้นแหละ ความจริงฉันเล่นตำแหน่งเดียวกับเธอล่ะ”

>O< !!!! สีหน้าทุกคน

“เอาน่า...ซ้อมกันเถอะ” แล้วทุกคนก็เริ่มซ้อมกันอีกครั้ง เธอนี่มันสุด ๆ จริง ๆ เลยชมพู่

“นี่ยัยเบ๊” ฉันหันหน้ามามองชมพู่

“วันนี้เธอทำตัวดีมาก น่ารัก” ฉันยิ้มแก้มแทบปริ ชมพู่ชมฉันว่าน่ารัก

“ไม่เป็นไร??” ฉันตอบกลับ

“ดีแล้ว เบ๊ที่ดีต้องปกป้องเจ้านาย ทำแบบนี้แหละถูกแล้ว เหมือนอะไรวะ? นึกชื่อไม่ออก” อะไรของเธอนะ ชมพู่เธอว่าฉันเหมือนอะไร

“ฉันนึกชื่อไม่ออก แต่เดี๋ยวฉันไปถามขิงก่อน ยัยคนนั้นคงรู้ว่าหมาตัวนั้นชื่ออะไร เธอรู้ป่าวว่ามันชื่ออะไร ไอ้ที่เป็นหมาลากเลื่อนหิมะไปเอายามารักษาลูกของเจ้านายนะ ชื่ออะไรวะ? รู้แต่ว่าเป็นพันธ์ไซบีเรียอ่ะ เอ๊ะหรือหมาพันธ์ผสมวะ มันซื่อสัตย์มากเลยนะ รักเจ้านายสุด ๆ เหมือนเธอตอนนี้เลย รู้ป่าว?? อะ.......นึกออกละ มันชื่อ~บัตโต้~”

ชมพู่พูดแล้วก็ยิ้มใส่ฉันพร้อมกับลูบหัวฉันเบา ๆ นี่ฉันกลายเป็นหมาไปแล้วเหรอเนี๊ยะ แต่เอาเถอะก็ยังดีที่เห็นว่าฉันเป็นสิ่งมีชีวิต เห็นว่ายิ้มแบบน่ารักหรอกนะ ไม่งั้นไม่ยอม

“เออนี้ยัยเบ๊...ไม่ซ้อมเหรอ?” ก็กำลังจะไปอยู่นี่ไงยะ

“ซ้อมสิ ทำไมเหรอ?”

“เปล่า ไปเถอะ เออ...เดี๋ยวซ้อมเสร็จ รอฉันก่อนขึ้นหอนอนนะ” อะไรของตานี้นะเดี๋ยวมี เดี๋ยวไม่มี

“ได้สิ”

“อืม...ไปเถอะ”

แล้วฉันก็เดินกลับไปที่สนามวอลเล่ย์บอล ถ้าฉันรู้สักนิดฉันว่าชมพู่มองตามฉัน ฉันจะหันไปสบตากับเขา แต่ฉันไม่มีตาหลังนี่น่าจะได้รู้

หน้าที่เบ๊ของฉันเหมือนหมางั้นเหรอ....ฉันควรดีใจมั้ยนะ?

>

>

>

>






Mameiw talk….

อ๊ายยย.....ตายล่ะหว่านัดยัยเบ๊ไว้ตอนซ้อมเสร็จนี่นา ลืมสนิทเลยตอนนี้จะสี่ทุ่มแล้วยัยนั่นจะขึ้นหอแล้วหรือยังก็ไม่รู้ มีเรื่องสำคัญจะบอกด้วยสิ ให้ตายเหอะ....มัวแต่คุยเรื่องบาสกับพวกอับโชคและคุณผีจนดึกเลย ผมก้มดูนาฬิกาข้อมือ สามทุ่มเกือบจะห้าสิบนาทีแล้ว ทีมวอลเล่ย์บอลเลิกตั้งแต่ 6 โมงเย็นแล้ว

ผมวิ่งจากยิมจนมาถึงหน้าหอนอนเล่นเอาหอบเลยเหมือนกัน ก็ผมเล่นวิ่ง 100 เมตร ภายใน 10 วินาทีน่ะสิ (เวอร์) พอมาถึงหน้าหอ ก็เจอแต่ความว่างเปล่า ผมหันไปรอบ ๆ เจอแต่ความเงียบ เด็กที่ไม่ใช่นักกีฬาจะต้องเข้าหอก่อน 1 ทุ่ม ยกเว้นพวกที่ชมรมที่ต้องเตรียมงานขบวนกับพวกที่ต้องซ้อมกีฬามีเคอร์ฟิวไม่เกิน 4 ทุ่ม

อีกไม่กี่นาทีจะ 4 ทุ่มแล้ว ยัยเบ๊คงเข้าไปในหอแล้ว โว้ย!!!!....พักนี้ยิ่งไม่ค่อยได้คุยกันด้วย ตอนเย็นก็ซ้อมตลอด ช่วงพักยัยเบ๊ก็ไปอยู่แต่ห้องกิจกรรม ตอนเรียนขิงก็อยู่ด้วยอีก ให้ตายเหอะ!!!!....แล้วนี้เป็นบ้าอะไรวะ?? ทำไมต้องแคร์ยัยเบ๊นั่นด้วย

เมื่อตอนเย็นก็ที พอเห็นยัยนั่นมายืนเป็นเพื่อนข้าง ๆ ทำไมมันรู้สึกอุ่นใจขึ้นก็ไม่รู้ แล้วพอยัยนั้นเอ่ยปากปกป้องก็แสนจะดีใจที่ยัยนั้นไม่เกลียดขี้หน้าผม ทำเขาไว้เยอะอ่ะ แต่เรื่องคลิปวิดีโอนะ ผมลบแล้วนะ บอกไว้ก่อน ถ่ายไว้ขู่เฉย ๆ พอเดินหนีมาก็ลบเลย สงสารยัยนั่นเหมือนกันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรเลย เฮ้อ......ขึ้นหอนอนดีกว่า

“ชมพู่!!!” เสียงยัยเบ๊นี่น่า แล้วตัวอยู่ไหนล่ะ?

“บนนี้ ๆ”

ผมเงยหน้าขึ้น ยัยนั้นอยู่บนชั้นสอง โบกมือให้ผม ก่อนจะผลุบหน้าหายเข้าไปในห้อง สักพักก็วิ่งลงมา ผมยิ้ม

“ข้างล่างยุงมันเยอะ แถมเมื่อกี้ยามก็ไล่ขึ้นหอน่ะเลยไปขอรอในห้องอาจารย์เวร อ่ะนี่น้ำ........คงเหนื่อยสิเหงื่อเต็มเลย แล้วก็นี้เค้าเอาผ้ามาเผื่อ เห็นตอนเล่นเหงื่อเยอะป่านนี้ผ้าผืนนั้นเหม็นตายแล้ว ถือผ้าก่อน......เดี๋ยวเปิดน้ำให้”

ยัยเบ๊ส่งผ้าให้ผม ก่อนจะค่อยแกะพลาสติกที่ซีนฝาขวดน้ำไว้ แล้วเปิดฝาขวดน้ำให้ผม ผมอธิบายความรู้สึกตอนนี้ไม่ได้ว่ารู้สึกยังไง ผมดึงยัยเบ๊มาที่ต้นไม้ใกล้ ๆ

“มีอะไรเหรอ?”

ยัยจอยมองหน้าผมงง ๆ เธอนี้มัน.......ผมก้มลงจูบยัยเบ๊ ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร มันต้องอธิบายยังไง ผมรู้แต่ว่าตอนนี้ผมอยากจูบยัยเบ๊ อยากกินไปทั้งตัวเลยล่ะ

“เดี๋ยว.....ไหนว่ามีเรื่องจะคุยไม่ใช่เหรอ”

ยัยเบ๊ดันผมเบา ๆ ผมซบลงกับไหล่ยัยเบ๊ ลมหายใจหอบนิด ๆ พยายามปรับอารมณ์ของตัวเองให้เข้าที่เข้ารอย

“วันเสาร์อาทิตย์นี้...เธอกลับบ้านมั้ย?” ยัยเบ๊พยักหน้า

“ก็กลับ แต่คงกลับมาโรงเรียนเลยไม่ค้างที่บ้านหรอก” ผมมองหน้ายัยเบ๊

“ทำไม?”

ไม่อยากอยู่บ้านขนาดนั้นเชียวเหรอ ก็จริงนะผมมาอยู่นี้เกือบเดือนแล้ว บางคนกลับบ้านทุกอาทิตย์ อย่างขิงกับน้อยหน่าก็สองอาทิตย์กลับที แต่ยัยนี้แทบไม่กลับเลย

“ไม่อยากอยู่บ้านน่ะ” อะนะ.....ทำไมทำหน้าเศร้า ๆ แบบนั้นล่ะ คงไม่อยากพูด

“ช่างเหอะ.....มาพักบ้านฉันมั้ย? พอดีฉันจะกลับบ้านนะ”

ยัยเบ๊ทำหน้าไม่ไว้วางใจผมทันที ฉันไม่ใช่ฆาตกรโรคจิตนะยัยบ้า

“ฉันไม่หลอกเธอไปขายหรอกน่า พอดีวันเสาร์มีที่ที่อยากไปน่ะ แต่ไม่อยากไปคนเดียว เลยอยากให้ไปเป็นเพื่อนอ่ะ ได้ป่ะ”

“ถึงฉันบอกว่าไม่ได้ นายก็บังคับอยู่ดี”

“ถูกต้อง” ทำเป็นมารู้ใจฉันนะยัยเบ๊

“เอาเป็นว่าวันศุกร์ตอนเย็นเดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่บ้านก่อน แล้วค่อยมาที่บ้านฉันละกัน”

ผมบอก แล้วยัยเบ๊ก็เบี่ยงตัวออก แล้วเดินขึ้นตึกไป

“ราตรีสวัสดิ์”

ยัยเบ๊หันมาบอกผมที่เดินตามมาแล้วก็วิ่งจู๊ดขึ้นไปตามบันได ไม่คิดจะรอฟังฉันพูดบ้างหรือไงวะ ผมยิ้มแล้วส่ายหน้า

“ราตรีสวัสดิ์...ยัยเบ๊” แล้วผมจะพูดทำไมเนี๊ยะทั้ง ๆ ที่ยัยเบ๊ก็ไม่ได้ยิน

“ขอบใจนะ”

ผมรีบเงยหน้าขึ้นยัยเบ๊ยืนอยู่ตรงที่พักบันได โผล่หน้ามาแล้วก็ผลุบหายไป ผมรีบวิ่งตามขึ้นไปดู เห็นหลังยัยเบ๊ไว ๆ คราวนี้คงขึ้นไปจริง ๆ แล้ว ผมจึงค่อย ๆ เดินขึ้นบันไดไป







Joy talk……..

เย้!!!! โย่ว!!!.....แล้ววันหยุดสุดสัปดาห์มาถึง ฉันน่ะแสนจะดีใจ ก็แหม.....วันนี้จะไปค้างบ้านชมพู่นี่น่า แล้วทำไมฉันต้องดีใจด้วยล่ะ ถ้าเกิดไปค้างที่บ้านตานั่นแล้ว มันเกิดหน้ามืดทำกับฉันเหมือนคราวที่แล้วอีกล่ะ จะทำยังไงดี รับปากไปแล้วด้วยถ้ามากลับคำตอนนี้ต้องโดนฉีกออกเป็นชิ้น ๆ แน่

จะกลับมานอนที่โรงเรียนก็ขอทำเรื่องค้างข้างนอก 2 คืนแล้วด้วย จะค้างที่บ้านก็ไม่ได้ ถ้าให้อยู่บ้านหลังนั้นฉันยอมให้ชมพู่ทำมิดีมิร้ายดีกว่า พูดถึงชมพู่ไปอยู่ไหนนะ? รอนานแล้วนะเนี๊ยะ

ฉันยืนรอชมพู่อยู่ตรงทางออกโรงเรียนเกือบชาติได้แล้วมั้ง ตาบ้าหลอกให้ฉันมารอหรือไงยะ?? เอ๊ะ!!! หรือตานั้นจะแกล้งฉันจริง ๆ ลองเดินเข้าไปดูที่หอนอนดีกว่า

“ยัยเบ๊ !!! ทางนี้” ฉันหันซ้ายหันขวา อยู่ไหนล่ะ เล่นซ่อนแอบหรือไง

“ทางนี้ยัยเซ่อ!!!”

ฉันหันไปด้านหลัง ตานั้นไปยืนอยู่หน้าโรงเรียนแล้ว ฉันรีบจ้ำอ้าวตรงไปหาทันที ไม่ค่อยได้เห็นตานี่ใส่หมวกแก๊ปเท่าไหร่ดูน่ารักดีอ่ะ

“นายมาอยู่นี่ได้ไง?”

“ฉันออกมาก่อน รีบไปเถอะ”

แล้วฉันต้องวิ่งตาม เรียกว่าวิ่งตามเลยล่ะเพราะหมอนี่เดินเร็วจริง ๆ นายหนีใครมาเนี๊ยะ จนมาถึงร้านรับฝากรถไม่ไกลจากโรงเรียนเท่าไหร่ ฉันยืนรอหน้าร้านตามที่หมอนั้นสั่ง ฉันเห็นเขาเดินตรงดิ่งไปยังรถ สปอร์ตยี่ห้อหรูคันหนึ่ง อย่าบอกฉันนะชมพู่ว่านายเป็นเจ้าของรถคันนั้น

รถสปอร์ตสีดำ สองที่นั่งเปิดประทุน แต่ตอนนี้เอาประทุนขึ้นอยู่ แถมยังป้ายแดงอีกต่างหาก มันมีสักกี่คันเองในประเทศไทย ราคาไม่ต้องพูดถึง อย่างฉันไม่มีปัญญานั่งหรอก และชมพู่ก็ขึ้นไปนั่งบนรถคันหรู นี่ในชีวิตของฉันมีวันได้นั่งรถหรู ๆ แบบนี้ด้วยเหรอ

“รีบขึ้นสิ”

ไม่ต้องรอให้เขาเอ่ยรอบสอง ฉันรีบขึ้นไปนั่งเคียงคู่กับเขาทันที โอ้!!!~’นี่เองที่เขาอยากได้กัน มันเริ่ดอย่างนี้นี่เอง

“คาดเข็มขัดซะ”

“ห๊ะ!!!”

ฉันมัวแต่ชมรถจนไม่ได้ยินสิ่งที่เขาบอก จนเขาเอี่ยวตัวมาคว้าสายเบลล์มาคาดให้ฉัน หน้าเราอยู่ใกล้กันแต่คืบเอง ถ้าเขาจะจูบฉันก็ง่ายนิดเดียว แต่ไม่เขาไม่ได้ทำอะไรฉันเลย คาดเสร็จเขาก็กลับไปจัดการกับการขับรถของเขา นี่ฉันคิดอะไรเนี๊ยะ

~อย่าทำให้รัก เดี๋ยวมันหลงเดี๋ยวมันรัก ฉันตั้งหลักไม่ทันเดี๋ยวจะรั้งไว้ไม่ไหว~

เสียงมือถือของเขาดังขึ้น แหมเสียงเรียกเข้าน่ารักไม่เหมือนเจ้าของเลย จะเหมือนก็แค่หน้าตา

“จ๋า.....” ตอบรับเสียงหวานเชียวนะ

“กำลังจะกลับบ้านค่ะ เอาเพื่อนมาพักด้วย......ชื่อจอยค่ะ แล้วจะไปเที่ยวไหนกัน....ระวังตัวนะคะ ใครไปด้วยบ้างล่ะ......อืม เหรอคะ....ค่ะ คิดถึงนะ รักนะคะ เทคแคร์ค่ะ”

แล้วเขาก็กดวาง คนเดียวกับคราวที่แล้วแน่เลย เสียงอ่อนเสียงหวานขนาดนี้ คงไม่ใช่ขิง....แล้วใครล่ะ คราวที่แล้วก็ถูกเบี้ยวไม่ยอมบอก หลอกให้เราจูบฟรี อยู่กะตานี้แล้วฉันเปลืองตัวยังไงไม่รู้

รถเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว รถของเราจอดนิ่งอยู่

“บ้านเธอขึ้นทางด่วนข้างหน้าได้ป่ะ?”

เสียงเขาดังแทรกเสียงเพลงจากเครื่องเสียง ฉันแค่พยักหน้า ขึ้นทางด่วนก็ถึงบ้านเร็วสินะไม่อยากไปบ้านนั้นเลย

-อย่าทำให้รักเดี๋ยวมันหลง เดี๋ยวมันรัก ฉันตั้งหลักไม่ทันเดี๋ยวจะรั้งไว้ไม่ไหว รักมันปักหัวใจทำไง จะดึงออกไปก็ดึงไม่ออก- อารมณ์ดีจังนะพ่อคุณ ร้องเพลงคลอตลอด ฉันเหลือบตามองเขา

“มองอะไร?” มองคนหน้าตาดีไง ฉันไม่ทางพูดแบบนี้กับนายเด็ดขาด

“มีตาไว้มองไม่ได้มีไว้ซักผ้านี่ อยากมองก็มอง”

ฉันว่าฉันติดนิสัยยอกย้อนจากตานี่มาซะแล้วแน่ ๆ เลย ชมพู่หรี่ตามองฉัน

สัญญาณอันตราย แล้วก็เร็วมาก เขาจูบปากฉันจนแทบจะหายใจไม่ออกเลยทีเดียว

“ฉันรู้นะว่าเธออยากให้ฉันทำแบบนี้ตั้งแต่ตอนคาดเบลล์แล้ว” นายมีพลังจิตหรือไงยะ

“แล้วทำไม??”

“ตรงนั้นไม่ดี ถ้าเกิดมีใครเห็นแล้วไปบอกขิงมันจะไม่ดี ฉันไม่ได้บอกขิงว่าพาเธอมาด้วย”

ที่แท้นายก็กลัวขิงจะรู้ ที่คนที่นายพูดเสียงอ่อนเสียงหวานล่ะไม่กลัวรู้บ้างเหรอไงยะ

“ขิงเป็นคนขี้หึง เดี๋ยวจะไม่สบายใจ”

แคร์จังเลยนะ แล้วฉันล่ะรู้สึกยังไงนายรู้มั้ย? ตอนเห็นพวกนายจี๋จ๋ากันนะ นึกแบบนี้แล้วน้ำตาจะไหล ทำไมฉันต้องชอบคนเจ้าชู้อย่างนายด้วยนะ? ชมพู่ลูบหัวฉันเบา ๆ แต่ฉันปัดมือออก ฉันไม่ใช่หมานะ

“ถ้าไม่ชอบจะไม่ทำอีก จะไม่แตะเธออีก”

อย่ามาทำเสียงอย่างนี้กับฉันนะยะ ดีไม่แตะก็ดี จะได้ไม่ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัว….ฉันไม่ง้อนายหรอก






วันนี้ป้าแอนแอบใจดีค่ะ เลยเอาอีก 70 % มาลงให้อ่านกันไวนิดหนึ่ง งุงิ ( ความจริงท่านเจ้าของเรื่องท่านบัญชามาง่ะ.....แง้ว )

ไว้เจอกันอีกที วันอันคารที่ 14 พฤศจิกายน 2549 นะคะ

บะบายค่ะ

"......อย่าลืมเม้นต์กันนะจ๊ะ....."


< ตอนที่ 10ตอนที่12>



Create Date : 07 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2550 23:11:56 น. 0 comments
Counter : 1115 Pageviews.

samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.