All Blog
j151




 j151

ผมฟังเพลง

"Rhythm of the Rain" Lyrics - The Cascades

"Rhythm of the Rain" Lyrics - The Cascades


PETULA CLARK - KISS ME GOODBYE

The End Of The World - SKEETER DAVIS - With lyrics

J.S. Bach: Sonatas and Partitas for Classical Guitar (Full Album)

Paganini, Niccolo violinc.1 mvt 1(begin) Allegro maestoso

The Best of Paganini





เหตุผลที่เขียนบทนี้

อันที่จริงเรื่องของผมเป็นเรื่องสืบค้นญาติแต่ต่อมาพบว่า
มันน่าจะเป็นนิยาย
เพื่อเปิดโลกทัศน์ทางวรรณกรรมไปพร้อมกัน
ทำให้ได้ประโยชน์เพิ่ม จึงตัดตอนมาเป็นนวนิยายชื่อว่า"บ้านอานองเต"
และมีเรื่องจริงบ้าง เรื่องไม่จริงเชิงนิยายบ้าง



เพื่อความบันทิงบ้างเชิงสนุกบ้าง


บางตอนแบบศาลาโกหก ของเรื่อง พลนิกรกิมหงวนบ้าง
เบบี้หนูจ๋าบ้าง

ที่เดี๋ยวนี้หาซื้อไม่เจอบ้าง


และภาพวาดที่มีขายตามท้องถนน

ที่ผมชอบซื้อมาแผ่นละสิบบาท

คือ บางตอนเป็นภาพหมาตำรวจจับผู้ร้ายเล่นการพนันในซ่องโจร
โดยภาพมีสุนัขหมาเป็นตัวละครทั้งหมด

แต่ใส่เครื่องแบบมนุษย์
บ้าง



และอีกร้อยแปดที่ผมซึ่งเป็นพระเอกคิดออกขึ้นมาได้
ตามอารมณ์ที่นกที่บ้านอานองเต

มันร้องเพลงให้ฟังขับกล่อมให้ผม

มีอารมณ์ที่บ้านอานองเตบ้าง

ตอนนี้ยังดี

ไอ ที เขาเปิดกว้างให้เล่นกันอย่างสนุก  ถึงวันที่เขาปิดไม่เสรีแล้ว



แน่นอนคนอย่างผมก็คงหมดสิทธิมาเล่นเนตอย่างสนุกอีกแล้ว
เพราะฉะนั้นเมื่อเล่นก็ทำอะไร

ที่มันคิดว่าได้ประโยชน์ไปในตัวด้วย
เช่นการวิ่ง

เราไม่ต้องลงทุนอะไร

นอกจากกายและจิตใจและทางเท้าให้เราวิ่งเล่นได้
หลวงท่านก็ไม่ห้ามพร้อมยังส่งเสริมเสียอีก

เพราะมันเป็นวาระสุขภาพแห่งชาติ
ผมจึงเขียนมันไปเรื่อย

ยอมเสียสละเวลาสวดมนต์ภาวนาให้ผีพ่อแม่มีความสุข
หลังชีวิตการตายของท่าน


แม้คาดว่าความดีท่ี่ท่านมี

ท่านคงนิพพานไปแล้ว  แต่ความตจำของผมยังมี

จะนิพพานหรือไม่นิพพานไป


อันนี้ผมคิดเอาเอง



เพราะเรื่องนี้ผมเชื่อ่ามันเป็น"อนมตัคเค"หรือ  อนมตคฺค แปลว่า มีเบื้องต้นและที่สุดอันบุคคลผู้ไปตามอยู่ไม่รู้ได้

(อ้างจาก:  (www.madchima.org/forum/index.php?topic=16186.0;wap2/google search)

คือผู้ที่ไปตามอยู่รู้ไม่ได้


จุดนี้เอาพอประมาณ

เพราะหลักมีแน่นอนอยู่

ละการตีความเพิ่มเติม

สำหรับทัศนะของผม

และ

ผมละเว้นความคิดเห็นเรื่องศาสนา ณ จุดนี้จากปรัชญาที่ว่า




ศาสนาและการเมืองนั้นคุยกันไปไม่มีที่สิ้นสุด

จึงขอเพียงอ้างอิงเท่านี้

พอสื่อว่ามันคืออะไรมาอย่างไรที่ไหนเมื่อไหร่จากใครเท่านั้น



เหตุผลคำนี้


คือผมเคยแวะไปเรียน
ภาษาโบราณตะวันออกบาลีนิดนึง
ในชีวิตผมแบบคนพลัดพรากตามเคย


ติดใจคำนี้ คือเท่าาที่จำได้  แปลว่า คนผู้....รู้ไม่ได้แล้ว 

ซึ่งคือคำพูดของวรรณกรรมบาลีในพระธรรมบท



ผมไม่งมงายอะไร


ผมพื้นฐาน

เชื่อเรื่องนรกว่านรกสวรรค์ว่าสวรรค์เป็นหลักเดิมพันมีอยุ่จริงก่อนพิสูจน์



ในฐานะที่มีแม่เป็นพุทธชนิดอนุรักษ์และแม่แบบเลยทีเดียว
ผมจำได้เท่านั้น

แต่ลึกๆเมื่อสมาธิหมดไปในตัวเองที่มีอยู่
พบว่าคำๆนี้จะมาปรากฎให้ผมเห็นเป็นมโนภาพเทียบเคียง
เพื่อท้าทายความคิดเห็นความเชื่อของผมให้เข้าไปพิสูจน์ตนเอง

อยู่เสมอ แต่ผมไม่ทำ
เพราะเชื่อว่าผมบุญน้อยเกินที่จะไปแตะเรื่องเหล่านี้

นอกจากตามผู้ใหญ่
และแต่ผมหยุดคิดไว้เพียงเท่านั้น



ไม่อยากพิสูจน์อะไรทั้งสิ้น
เชื่อตามที่แม่และโบราณท่านเคยเชื่อมาอย่างไร
ก็เชื่อตามไปอย่างนั้น
อันนี้พอเพียงแล้ว




แต่ส่วนที่คิดนอกคิดในไปอีก
หรือส่วนพินัยกรรมของผม
ผมขอตายแบบคริสต์นิกายแองลืกัน
เพื่ออุทศศพพลีกรรมบูชาคุณบิดามารดาบุญธรรมที่ผมนับถือ
ซึ่งเป็นชาวตะวันตกทั้งหมด

ผมก็ยังคงมีความคิดคความเชื่อนี้ในอีกภาคหนึ่งของความ
โดยแยกออกจากัน
ให้ไม่รู้สึกว่าเราเป็นนกสองหัวคนสองศาสนาแต่อย่างใดไม่


แยกกันออกแล้วก็จะสบายใจเสมอ
ชนิดแบบทานอาหารเช้าเพื่อผีแม่ และทานอาหารเย็นเพื่อผีพ่อ

ว่าอย่างนั้น


เพราะมันมาในหัวข้อความดีสากลสูง
สุด


ในที่ของผมคือความกตัญญูกตเวทิตาธรรมนั่นเอง



มันก็เหมือนเรื่องออกหรือตก

เมื่อมีนกสากลหรือสิ่งจำเพาะ

มันก็คือนกเหมือนกัน




หรือว่าเหมือนอากาศเย็นร้อนหนาว

ในออกตก


มันก็มีเย็นร้อนหนาวมากน้อยเหมือนกัน
คือความต่างกันที่เหมือนกัน

หรือความเหมือนกันที่ต่างกัน






ราวกับว่าที่ต่างกัน

คือสูงต่ำ

ที่ต่างกัน

และธรรมชาติที่อิงอาศัย

อากาศหนาวร้อนเย็นนั้นอยู่มีอยู่เหมือนกัน





เท่านั้นที่แปลกออกไปคือไม่เหมือนกันทีเดียว
ว่าอย่างนั้น




แต่อีกจุดหนึ่งทำให้ผมคิดถึงคำนี้อยู่เสมอ
แต่แม้ผมเชื่อว่ามารดาท่านจะนิพพานไปแล้ว

แต่อีกปางหนึ่งของท่าน

คือความทรงจำในความนึกคิดของผม

ท่านยังคงสถิตในดวงใจผม

ในฐานะผู้บังเกิดเกล้า

ซึ่่งมีคนเดียวและครั้งเดียวในชีวิตมนุษย์ที่เกิดมา



และก็ทำใจไม่ให้คิดมาก

ไม่โกรธ ไม่ดีใจ

เสียใจ ทำใจไม่เสียใจ

เมื่อมีความบกพร่องอะไรเกิดขึ้นมากับผมและท่าน




แต่ผมระวังตัวเอาไว้

กำหนดให้ปัจจุบันที่มีอยู่ให้ดีที่สุด 

เท่าที่แรงมี

ในสิ่งที่เกิดและนวนิยายที่สร้าง

นี้ขึ้นมาเป็นต้น




ผมจึงนำเรื่องราวร้อยแปดมาประกอบในนวนิยายนี้  ซึ่งให้ถิอเป็นฉากของหนัง
และของนวนิยายเรื่องบ้านอานองเตนี้ก็แล้วกัน




จึงทำให้เกิดบทนี้ขึ้นมาด้วยเหตุผลนี้
นอกจากเนื้อหานวนิยายที่ยังมีต่อไม่จบ

ที่รอการตรวจแก้และพบทนายก่อน
ก่อนนำขึ้นแท่นนี้ได้อีกมาก




ผมต้องระวัง

สมัยนี้เป็นยุค ไอที หมดแล้วทกอย่างรวมทั้งคน ไอ ที
คือคนสมัยนี้

อาจจะติดคุกอัตโนมัติ
ขึ้นศาลอัตโนมัติ
และตายเกิดอัตนมัติได้
ถ้าทำผิดพลาดพลั้งอะไรไป


แต่ที่แน่  ๆ  คือ
กินหลับตื่นนี้ต้องมีอยู่เป็นปกติเหมือนเดิม


แม้ตัวนี้จะขวางทางเดินของยุคไอที
อย่างหนีไม่ได้พ้น
แต่ก็ยังมี ไอ ที มาเกี่ยวอยู่ดีเป็นตัวประกอบ



ผมจึงฝากการพูดการหายใจและการกระทำ
ให้เป็นกฎของ "กฏแห่งการกระทำ"  ไปพลางก่อน
ก่อนที่กฏหมายจะเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาให้ทุกคนมีความสุขต่อไป
อย่างไม่หยุดยั้ง

เชื่อว่าเทพเจ้าองค์หนึ่งองค์ใดมาช่วยผม

ถ้าไม่มีก็ให้เทพเจ้าแห่งตนเองนั่นแหละท่านช้วยก็แล้วกัน

คิดได้อย่างนั้นมันก็อบอุ่นสุดเหลือ




แต่ตอนนี้สังคมมันดีขึ้นมากทีเดียว
เท่าที่ผมเห็นเมื่อเปรียบเทียบกับสมัยก่อน


แม้ช่วงน้อยนิดหรือช่วงยาวนานตามตำราบอก


คือมีร้อนแล้วมีเย็นแก้
มีเย็นแล้วต้องมีร้อนแก้


ถ้าคิดว่าเราดีกว่า

ยังมีสิ่งที่ดีกว่าเรา

หรือถ้าคิดว่าเราด้อยกว่า

ยังมีสิ่งที่ด้อยกว่าเรา
เป็นปรัชญาการ

ในโลกใบนี้




หรืออีกสูตรหนึ่งคือ
ถ้าคิดว่าเราใหญ่ที่สุด

ก็ยังมีสิ่งที่ใหญ่กว่าเราขึ้นไปอีก

ถ้าคิดว่าเราต่ำที่สุด

ก็ยังมีสิ่งที่ต่ำกว่าเราเข้าไปอีก

เป็นสูตร

และเป็นความจริงเป็นแม่นมั่น



และแล้วทุกคนก็อยู่กันได้สบายกว่ากันเยอะเลย
ถ้าคิดมันเสียได้อย่างนี้



สิ่งที่ผมทำมาทั้งหมด

และต่อไป

ผมเพียงฝึกหัด
ทำบล็อก
แบบมือใหม่หัดขับ
แม้คิดว่ามันจะไม่ดี
แต่ก็จะพยายามทำให้มันดีต่อไป

ถ้ามันดีก็อยากให้มันดีขึ้นไปอีก

ทั้งอรรถะและสาระและเพ้อฝันมิใช่เพ้อเจ้อเป็นแบบ

และถ้าให้ได้เป็นสิทธิ์นี้ขึ้นมา
ผมเชื่อมั่นว่าผมจะพยายาม
ทำมันไปจนกว่า

ภาษาที่ผมสื่อมันจะหายไป

จากความคิดและความทรงจำ

หรือเรื่องหมดพุง

และจบลงอย่างสงบทั้งหมด






หรือจนกว่านิ้วผมจะหยุดหายใจ
คาดว่าอย่างนั้น

เป็นอหังการ มมังการในนวนิยายเรื่อง

"บ้านอานองเต" นี้




Create Date : 17 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 13 มกราคม 2561 4:27:39 น.
Counter : 433 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3538694
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



จึงจือหยาง
(jjy)
จบไฮสกูล
ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส
สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ
สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)...
เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
New Comments
MY VIP Friends