All Blog
j74


Smileyjjy5032


ที่บ้านอานองเต
ตอนคำ่คืนนี้
ผมกำลังฟังเพลงของท่าน
Joseph Haydn - Serenade
ฟรันซ์ โยเซ็ฟ ไฮเดิน (เยอรมัน: Franz Joseph Haydn) เป็นคีตกวีชาวออสเตรียในยุคคลาสสิก อ้างจาก
(Wikipedia:02/08/17)
ขออภัยที่ไม่อยากจะเอาเอมเบดรหัสเพลงและอีกหลายเรื่องสำเนามาอ้างอิงเพราะจะเฟ้อ
และไม่อยากมีปัญหาอนุสัญญาลิขสิทธิ์จึงเอาเฉพาะชื่อมาลง
เพื่อแสดงที่มาที่มาที่ไปมิใช่กล่าวขึ้นมาลอยๆ
จะได้ติดตามท่านได้เมื่อสนใจที่จะอ้างอิงเชื่อมโยงต่อ


วันนี้ฝนโปรยมาอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
แบบพระประพรมน้ำพระพุทธมนต์
เย็นๆร้อนพออยู่ได้อย่างสบาย

ผมตองขับรถออกไปหาซื้อของเล่นให้แม่ซึ่งเป็นผีอยู่
พอเสร็จพิธีเพื่อเซ่นผีผมก็สนองตามคือเป็นผีแม่ที่มีชีวิตอยู่รับของเซ่นต่อจาแม่ต่อไปต่อ
แต่ทว่าผีแม่นั้นมีเหลือความทรงจำและไร้วิญญาณแล้ว
ส่วนผมเป็นผีเหมือนกันเป็นผีสมมุติ
ที่ยังมีวิญญาณอยู่
คือยังหายใจอยู่แบบที่มนุษย์ทุกคนเป็น

ผมขับรถด้วยความระวัง
พบว่าความระวังของผมเกิดจาก
ความสำเหนียกในความตายที่ไม่รู้เหมือนกัน
มันจะมาเมื่อไหร่
นกหลายตัวชอบบินผ่านตัดหน้ารถผม
ทำให้ผมคิดมากและคิดว่า
เป็นลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง


ผมไม่อยากนำมาคิดเมื่อมันรู้สึกเปลืองสมอง
สิ่งที่น่าคิดคือหวัดจากดอกฝนโปรย
และความตายใจจริง
อันเกิดจากอุบัติเหตุ
เพียงพลาดพลั้ง
หรือบังเอิญรถเบรกแตกหรทือว่า
ล้อหน้าแตกขณะขับด้วยควสามเร็ว
เพราะไม่มียวดยานอื่นวิ่งเทียบแข่ง
เลยป้ายกำหนด


ไปเร็วนิดหนึ่งบางครั้งมาในหัวข้อการจราจรเอื้อต่อสถานการณ์
แต่ไม่เร็วเกินไป
ที่จริงผมคิดแต่เรื่องความตาย
แม้จะไม่อยากรีบตาย
ลดูแล้วเป็นทุคตินิยม๖ความคิดเชิงลบ(pessimistic)ความคิดในแง่ร้าย
ซึ่งไม่ถูนักเพราะเป็นความคิดเชิงลบ
น่าที่จะคิดอะไรให้มันมีชีวิตชีวาเข้าไว้
ทุกเวลาที่มีลมหายใจ

แต่ที่ผมคิดเป็นทุคติเพราะทำให้ผมมีสติ
ถ้ามคิดว่ากำลบังจะตาย
วิ่งเข้าหาลิมิตที่ศูนย์
คือความตายที่คาดไว้
ซึ่งที่เรียนมามันเข้าใกล้ศูนย์แต่ทว่ามันไม่ถึงศูนย์
แตะศูนย์นั้นมีอยูจริง
ลิมิตก็มีอยู่จริง
ในทางคติตศาสตร์
เป็นคติเชิงลบ



ผมจึงคิดเชิงทุคติคือคิดถึงว่าเรากำลังวิ่งเข้าสู่ความตาย
ทุกขณะที่เส้นหมายปลายทางของเรายังมาไม่ถึง
เป็นผลให้ผมขับรถด้วยความระวัง
และปลอดภัย



ก่อนหลับลงที่บ้านอานองเตคำ่นี้
ผมกำลังวิเคราะห์ตนเองว่า
อุบัติเหตุทางรถยนต์นั้นเกิดขึ้นกับผมได้อย่างไรครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมาแล้ว
ถ้าผมมีคติเป็นทุคึตินิยมตลอดเวลา
เมื่อใช้รถใช้ถนน
หรือเมื่อเหตุอื่นในชีวิตประจำวันจะพึงมี



สันนิษฐานว่าที่รถผมควำชนต้นไม้จนต้องซ่อมขนาดหนัก
เป็น้พราะ
ผมเหนื่อย
หลับใน
ถนนเปลี่ยวดีโรมานติก
ล้อหน้ารถแตกเพราะรถเก่า
เบรกเสียกระทันหัน
เหตุอื่นที่ไม่ทราบ
มันต้องอย่างใดอย่างหนึ่ง



ผมจึงได้ข้อสรุปว่า

เมื่อเหนื่อยผมจะพักทันทีเมื่อขับรถ
เมื่อหิวจะหาอะไรกินทันทีเมื่อขับรถ
และพักให้สบายก่อนเดินทางขับรถต่อไป
ไม่ฝืนเมื่อรู้สึกว่าไม่ดีเมื่อขับรถ
ผมนิยามมันิอย่างนี้ตลอดเวลา
หลังจากประสบอุบัติเหตุครั้งนั้นมาเป็นครั้งแรกในชีวิต



ผมอยู่ที่อังกฤษใช้รถยนต์ไม่เคยมีอุบัติเหตุในทุกกรณี
ตนนี้ผมได้บทเรียนแล้วว่า
การขับรถเป็นความดีงาม
แต่ว่าต้องระวังและมีสติ
และผมยึดทุคติตลอดเวลา
เใมื่อขับรถนับจากอุบัติเหตุครั้งนั้นเป็นต้นมา



หนังสืองานศพแม่อีกหลบายเล่มยังอยู่ในรถยังไม่เคลื่อนย้าย
เพราะฝันร้ายครั้งนั้นยังตรึงใจผมแน่นอยู่
จนไม่สามารถเอาอะไรมาแทนที่ความตรึงตราใน
การพบอุบัติเหตุครั้งนั้นลงได้

รถมีคนมาขอซื้อต่อผมบอกว่างดขาย
เก็บไว้ทุกข์บิดามารดา
เงินที่ซื้อรถคันนี้มาเป็นเงินจากกองมรดกของพ่อแม่ที่ทอดทิ้งให้ไว้

รถสีดำกระบะสองตอน
ติดแอร์มีวิทยุเทปและกระจกกันแดดอย่างดีติดไว้ทุกด้านของรถ
จอดไว้อย่างนี้
จนกว่าความคิดที่ดีกว่าจะผลุดชขึ้นมาในสมองของผม
แล้วผมจะค่อยดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
คือซ่อมใช้หรือเก็บไว้เฉย ๆ



เผากิยองตินพยายามกระตุ้นให้ผมทำโน่นทำนี่
แต่ผมทำไม่ไหว
ผมไปเรื่อยๆ

เผ่ากิยองตินพยายามจะให้ชีวิตผมสั้นลง
พื่อจะได้มีเงิรเหลือทำมูลนิธิมากขึ้น
ถ้าผมอยู่อยาางนี้ผมใช้เงินเกินรายได้
แสดงว่าเผ่ากิยองตินพยายามจะแสวงหาผลประโยชน์เมื่อตายลงจากมูลนิธิที่ดำริจะจัดขึ้น
ผมไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้แม้ว่า
เผ่ากิยองตินเป็นเพียงเผ่าในมโนคติ




มูลนิธิที่เกืดมีเพราะเจตนาของผมจะสำเร๋จลุล่วงไปโดยวิธีใดก็ตาม
มีจุดประวสงค์ให้มีข้อกำหนดในการจัดสรรเงินผ่านวิธีแบบกรรมใมการวิทยา
มิใช่เพียงคนเดียวตัดสินใจ
แต่ทั้งนี้เงินต้องเหลือจากการจัดสรรเพื่อสุสานพ่อแม่และผมตามสมควร
แก่อัตภาพก่อนแล้ว
จึงนำเงินมูลนิธิหรือการใช้ทรัพย์สินที่ผมเหลือทิ้งไว้นั้น
เป็นวิชาของผม


เพื่อจัดสรรให้เป็นให้ได้ที่เป็นอรรถประโยชน์สูงสุด
เท่าที่ทำได้
คุ้มกับที่ผมเคยมีเคยเป็น
เคยผ่านเลยมา
เพื่อปฏิการคุณตามอัตภาพ
และไม่เอาตัวนี้มาหาผลประโยชน์แม้สัญญา
ไม่มีว่าจะทำหรือไม่
แต่มีเจตนาเป็นหลักการพื้นฐาน
เพราะเป็นสิ่งดีงาม
อันชีวิตผมนั้นเกิดลำบาก
สบายบ้าง
แต่คงจบลงด้วยลำบากอีกเช่นกัน
จึงเอาที่ผมอยู่รอดได้
แต่เชื่อล้านเปอร์เซนต์ว่าา
เมื่อตายลงต้องมีสิ่งเหลืออยู่แน่นอน
ในการนี้

จึงไม่อยากที่จะให้เผ่ากิยองตินฝันหวานหรือฝันร้าย
อะไรเอาไว้่ก่อน
แม้ว่ามันอาจจะเป็นความฝันลมๆแล้งๆ
แต่มันเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ในอนาคต
และคาดว่าต้องดีและลงตัวต่อทุกฝ่าย
และเกิดเป็นคนต้องมีมรดกไม่มากก็น้อยทุกคน
เพื่อลูกและสิ่งผูกพันธ์
ผมไม่มีลูกฉะนั้นมรดกตกแก่มูลนิธิที่จะทำต่อไป
คิดว่ายุติธรรมแล้วที่คิดอย่างนี้

มิใช่คิดเผื่อหลอกหลอนให้เพื่อนมนุษย์ต้องใจฝ่อ
ว่าอย่างนั้นคงลงตัวดี

และคงไม่จัดไว้เพื่อแขกดอยคอยแดก(อภัย)
ต้องผิดหวังและไม่ผิดหวังไป

ในขณะเดียวกัน
แต่ต้องยึดมั่นว่า
จะต้องมีความสุขพอจุนเจือ
เพื่อนมนุษย์ต่อไปได้ไม่มากก็น้อย


แต่ว่าถ้าหากว่าเมื่อผมตายลงแล้ว
ไม่มีอะไรเหลือเลยหลังผมตายแล้ว
จะทำอะไกับมูลนิธิที่จะทำ
เมื่อมีเหตุผลเป็นศูนย์



ที่บ้านอานองเต

ญาติของผมทั้งเชิงบวกเชิงลบจะไม่ได้เป็นกรรมการมูลนิธินี้
ตามพินัยกรรม
จะเป็นได้แต่เพียงเป็นกรรมการผู้สังเกตการณ์เท่านั้น

อันนี้ผมคาดว่าเป็นไปไม่ได้

หมายเหตุ  คำแก้

มีตอนหนึ่งในบทก่อนหน้า
ข้อความว่า "กินทางปาก ขี้ทางตูด" ประโยคนี้ฟังแล้วไม่สุภาพ


เพราะบล็อกของผมต้องการคำสุภาพ
ประโยคติดปากนี้กินทางปาก....
เพราะดูแล้วมันสอดคล้องกับเรื่องและดูดี
จึงนำมันมาสื่ออย่างไวลงตัวดี
ผมเผลอไปเพราะมาในเรื่องของแม่


เพราะแม่ตามใจผม แต่ผมก็ไม่เหลิงระเริงตัว


เพราะแม่เขามีอะไรบางอย่าง
ที่ผมรู้สึกคือ


ผมต้องกลัวโดยท่านไม่ต้องใช้ไม้เรียว
ตอนท่านมีชีวิตอยู่
ต่อชีวิตของผม


เวลาพูดอะไรบางครั้งเผลอไปเพราะคิดว่าเรื่องแม่
คงไม่โดนปัญหาขึ้นศาล
ทั้งศาลเตี้ย หรือศาลสด หรือและศาลจริง
เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นในหัวข้อของแม่
เพราะแม่คือแม่และเป็นแม่ในตัวแม่และลูกมันเองอยู่

ผมจึงลืมและใช้คำพูดลักษณะนี้ล
ทีผมคิดลืมไปในที่อื่นคำอะไรที่เป็นอวจะภาษา(อะที่นี้คือไม่เป็นบาลีภาษา)บ้าง
คำอื่นใดที่แสลงหูต่อสมาชิกบล็อก


ที่พบกันครึ่งทาง
ขอประทานอภัยมาณที่นี้ตรงนี้ด้วยอย่างหาที่สุดประมาณมิได้
จริงๆครับผม

กล่าวคือเรื่องกินทางปากขี้ทางตูดเป็นภาษาเฉพาะ
คล้ายๆเป็นภาษาบนเตียงนอนมากกว่า
ผมอ้างนำมาเป็่นแนวคิดทฤษฎีของแม่ใน
การสอนลูกคือผมโดยธรรมชาติว่า
นั้นคือสิ่งที่แม่มอบให้ผมทั้งหมด
ทางภูมิปัญญาก่อนตาย



นอกนั้นไม่เห็นท่านสอนอะไรเอาไว้
แต่เน้นตรงสะอาดเรียบร้อย
ใช้ชีวิตและงานเป็นแถวเป็นแนว
และอย่าไปยุ่งกับลูกสาวใครเขา
จะมีอะไรกันต้องแต่งงานก่อน
อัน


ในคำสอนของแม่โดยสรุปว
อันนี้คือสิ่งที่แม่สอนเอาไว้
คึอท่านหมายถึงว่าอย่าไปยุ่งเรื่องผู้หญิงแต่มิได้หมายถึง
คบผู้หญิงไม่ได้


กล่าวคืออย่าไปละเมิดสิทธิ์ความเป็นหญิงเมื่อคบใครที่เป็นหญิง


แล้วนำเรื่องราวเสื่อมเสียชื่อเสียงมาสู่แม่และครอบครัว
เน้นหนักตรงนี้


นี่คือสิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมาแล้วเป็นคำสอนของแม่
และเป็นนิยามชีวิตที่
ผมยึดติดเสมอมา


จนบัดนี้ผมกำลังจะใกล้เข้าโลงแล้ว


ก็ยังยึดติดในคำสอนเหล่านี้ไว้
และหมั่นทบทวนเสมอ


ส่วนพ่อนั้นตรงกันข้ามในบางอย่างคือ
พ่อชอบใช้ไม้ไเรียวเป็นภาษาสอนลูกเป็นคุณสมบัติ


จนบางครั้งผมที่เคยอยู่กันไม่ได้
ผมรับคุณสมบัติพ่อไม่ไหวเลยหนีออกจากบ้านไปในกาลครั้งหนึ่ง
ไปแลย


ปรัชญาของพ่อมีว่า
รักวัวให้ผูก รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี
รักลูกอยู่ที่ใจมิใช่อยู้ที่หน้า
นี่คือปรัชญาาของพ่อในการปกครองลูก


แต่แม่นั้นตรงกันข้ามกับพ่อในบทปรัชญาชีวิตของทั้งสองท่าน
เป็นอย่างนี้

เอาละเป็นอันว่าอะไรในบล็อกนี้หาก
มีเป็นคำไม่สุภาพหรือเกินประเด็นที่มันควรเป็น
ผมขออภัยมา ณ ที่นี้


ผมยังไม่พบว่าพ่อนั้นเอาคำนี้คือคำว่า"ฮกเมี่สี"มาอย่างไร
และก็หมดเวลาในการค้นหา
คือพ่อมีเทพเจ้าตนหนึ่งชื่อว่า"ฮกเมี่ยสี"คือการทำบุญอุทิศให้
คล้ายกับว่าไม่ประสงค์ออกนาม
  ท่านเคยควักเงินมาทีละมากๆ
จากที่ซ่อนไว้ที่หัวนอน


เพื่อถวายทำบุญพระวันหนึ่ง


ท่านไม่นับจำนวนเงินที่จะทำ
ซึ่งคลังเงินของพ่อ
ผมไม่มีโอกาสเข้าเข้าไปแตะ
แน่นอน

แต่บุคคลภายนอกเข้าไปได้
อันนี้เป็นสาเหตุเชิงลบเกิดขึ้น
กับปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นเชิงลบยกับผมในโอกาสต่อๆมา



หลังจากที่ท่านตายไปแล้วด้วย


เอาละเทพอะไรเมื่อถามพ่อ
พ่อบอกว่าไม่รู้ว่าภาษาไทยว่าอย่างไรสรุปเป็นสิ่งดี


ตอนนี้ผมก็ตีความว่าคือเทพเจ้าที่ไม่ประสงค์ออกนาม
ชนิดหนึ่งที่พ่อนับถือ


ผมเองพะพูดจีนก็ไม่เป็น
อ่านหนังสือจีนก็ไม่ออก


นอกจากถูกพ่อฝึกให้เขียนเป็น
แต่ชื่อและแซ่คือแซ่แต้เท่านั้น

ผมเคยเรียนจีน
พ่อจ้างครูมาสอนแต่ผมได้มานิดเดียว
จนหนีพ่อไปอยู่ที่อื่น
เมื่อวันนั้นวันที่ผิดใจกันกับพ่อเพราะไม้เรียวเกิดขึ้น
ในระหว่างผมกับพ่อ



ถ้าอนึ่ง
ผมค้นเจอว่าเทพฮกเมี่ยสีคืออะไร
ผมจะมาแจ้งให้ทราบต่อไป
แต่เป็นเทพที่มีคุณธรรมแน่นอน


เพราะพ่อทำอุทิศให้อะไรบางอย่าง
เมื่อทำบุถญกับพระในรายการหนึ่ง
คล้ายๆทำบุญล้างบุญคุณอะไร
หรืทตอบแทนบุญคุณอะไรบางอย่าง
ในอดีตที่ผ่านมาSmiley



Create Date : 04 สิงหาคม 2560
Last Update : 18 กันยายน 2560 22:01:21 น.
Counter : 778 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3538694
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



จึงจือหยาง
(jjy)
จบไฮสกูล
ได้ปริญญาสองใบในไทย เคยเป็นนักเรียนเก่าในอังกฤษและฝรั่งเศส
สอบได้ Dip-in-JourจากLondon School of Journalism,MIOJ.ในประเทศอังกฤษ
สอบได้นักวาด ว.อ.(แนวนามธรรม)...
เป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย..มีสัญชาติไทย (แซ่แต้) พ่อมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
New Comments
MY VIP Friends