แชร์ประสบการณ์ทดลองขับ C-HR Hybrid รถประหยัดน้ำมัน!! ครั้งแรก
สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้เราจะพามาดูการทดลองขับ Toyota C-HR Hybrid รถยนต์ประหยัดน้ำมันรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมระบบไฟฟ้า ส่งผลให้ใช้งานง่ายทุกฟังก์ชั่น ไม่ว่าจะขับเคลื่อนไปด้วยระยะทางไกลแค่ไหนก็บอกเลยค่ะว่าคุ้มสุดๆ เพราะเป็น รถประหยัดน้ำมัน เงียบเฉียบทุกการสัมผัส อีกทั้งยังดีไซน์สวยหรู โดดเด่น เหมาะกับคนรุ่นใหม่มาก ๆวันนี้เราก็เลยอยากจะพาทุกคนมารู้จักกับ Toyota C-HR Hybridให้มากขึ้น ดูซิว่าหลังจากทดลองขับครั้งแรกแล้วผลเป็นอย่างไร
ความรู้สึกเมื่อลองรถไฮบริดของโตโยต้าครั้งแรก พอเริ่มสตาร์ทรถผมรู้สึกได้เลยว่าเครื่องยนต์ไฮบริดนั้นเสียงเงียบมากสำหรับความรู้สึกแรกเมื่อเหยียบคันเร่ง เราพบว่า เฮ้ย! ใครบอกว่าไฮบริดอืดนี่เถียงขาดใจ ก่อนหน้านั้นผมไม่เคยขับรถยนต์ไฮบริดมาก่อนเลยแต่ก็พอรู้ระบบการทำงานของรถยนต์ไฮบริดที่ทำงานโดยใช้พลังงานน้ำมันและไฟฟ้าผสานกันในการขับเคลื่อนเพื่อความประหยัดน้ำมันเราโดนพูดกรอกหูมาว่า รถไฮบริดน่ะขับไม่มันหรอกเว้ย มันจริง ต้องรถใช้น้ำมันสิ
ผมคิดว่าไม่จริง! Toyota C-HR Hybrid เป็นรถที่เครื่องยนต์ขนาดกลางคือ 1.8 ลิตรเครื่องยนต์เดียวกับ ToyotaAltis 1.8 แต่มีการเสริมระบบไฟฟ้าเข้าไปเพื่อให้รถคันนี้ประหยัดมากยิ่งขึ้นแต่ไม่ได้หมายความว่าจะอืดลงเลยระหว่างที่เราขับขี่อยู่ไม่ได้รู้สึกเลยว่าจังหวะเร่งแซงหรือจังหวะที่ทำความเร็วจะอืดตรงไหนเลยความคิดที่ว่ารถไฮบริดอืดนั้นแปลว่าเขาคนนั้นน่าจะไม่เคยขับแน่ ๆยืนยันไม่อืดขับสนุกจริงจังเลย นอกจากจะไม่อืดเราเรารู้สึกว่าช่วงล่างของ ToyotaC-HR Hybrid แน่นหนึบ ยิ่งเข้าโค้งยิ่งสัมผัสได้ถึงความเนียนจนคิดในใจว่านี่เราไม่ได้อุปทานไปเองจริง ๆ ใช่ไหม(ตอนหลังไปถามคนที่เป็นเทสต์ไดรฟ์เวอร์ตัวจริง ทุกคนคอนเฟิร์มว่า ToyotaC-HR Hybrid เนียนจริง ๆ และดีกว่า Toyota ทุกรุ่นที่เคยเทสต์มา)
ความประหยัดของรถไฮบริด เราเคยได้ยินมาตลอดว่ารถไฮบริดนั้นประหยัดน้ำมันมากจริงๆ และ จากโฆษณาบอกว่า ToyotaC-HR Hybrid ประหยัดน้ำมันมากซึ่งได้ยินตัวเลขครั้งแรกถึงกับงงว่าจริงเหรอที่สามารถทำได้ถึง24.4 กิโลเมตรต่อลิตร ตอนที่เราเริ่มต้นขับยังไม่รู้ว่าจะสามารถทำได้ระดับไหนก็ต้องลองขับไปก่อน ก่อนจะออกจากคอนโด เติมน้ำมัน E20 จนเต็มถัง 800 บาท (น้ำมันของเก่าค้างอยู่ 1 ส่วน 4 ของถัง) มาตรวัดขึ้นค่าเฉลี่ยแสดงผลให้เราดูว่าสามารถวิ่งได้ราวๆ 733กิโลเมตรทั้งถัง นั่นหมายความว่าถ้าขับไปเชียงใหม่ถังเดียวน่าจะพอ(เสียดายที่เราไม่ได้ลองขี่ไปไกลขนาดนั้น ไม่งั้นคงเพลินกว่านี้) ผมลองคำนวณค่าน้ำมันก่อนกลับกรุงเทพฯค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ 20กิโลเมตรต่อลิตร นับว่าโคตรถูกมาก เท่ากับว่าขามาเราเสียค่าน้ำมันไปแค่ 375 บาทเท่านั้น (คำนวณจากระยะทาง 300กิโลเมตรก่อนจะกลับ และคูณด้วยราคาน้ำมันวันที่เติม) ซึ่งงบที่เตรียมมาคือ 5,000 บาทเท่ากับว่าเรามีงบในการเที่ยวคูลๆ ไปดูเขาใหญ่สบายอิ่มหนำสำราญกันไปเต็มที่ไม่ต้องกระเบียดกระเสียรอีกต่อไป
ส่วนตลอดทั้งทริประยะทางที่ใช้เดินทางอยู่ที่494.6 กิโลเมตร รถกินน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 19.23 กิโลเมตร/ลิตรพอเอามาคำนวณค่าน้ำมันอีกรอบ สรุปว่าเราเสียค่าน้ำมันไปเพียง 650 บาทเท่านั้นกับการใช้รถไปเกือบ 500 กิโลเมตรซึ่งมันเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับที่ผมขี่บิ๊กไบค์ไป กลับ เขาใหญ่ระยะทางเท่ากันแถมน้ำมันยังลดลงเกินครึ่งถังมานิดเดียวเงินเหลือมหาศาลจากที่ตั้งเป้าว่าน่าจะเสียค่าน้ำมันโหดกว่านี้ เจ๋งสุดโดนใจหลายๆ คนเลยใช่ไหมคะ ขอยืนยันเลยว่า Toyota C-HR Hybridใช้งานง่ายแล้วยังเหมาะกับคนรุ่นใหม่แบบเรา ที่สำคัญประหยัดน้ำมันจริงไม่มีโม้ตอบโจทย์ครบทุกไลฟ์สไตล์แบบนี้แล้วไม่มีไม่ได้แล้วนะคะ ขอบคุณบทความดี ๆ จากคุณ SamPonsan สามารถไปติดตามอ่านประสบการณ์ทดลองขับ TOYOTA C-HRHybrid ฉบับเต็มกันต่อได้ที่ https://www.mangozero.com/review-toyota-chr-hybrid-first-drive/
Create Date : 11 ธันวาคม 2561 |
Last Update : 11 ธันวาคม 2561 11:44:11 น. |
|
0 comments
|
Counter : 576 Pageviews. |
|
|