Cr.ภาพจากกูเกิ้ล by Supawan K. นะฮับ
หึหึหึ สุดท้ายที่พักที่พัทลุงที่อิฉันอยากพักมันไม่ว่าง
ล้มกระดานทริปนี้ แล้วจองตั๋วปีนังซะใน 10 นาที เคืองมากกกก
อย่างน้อยก็ได้ไปดู Street Art ละวะ
ปีนังนี้อิฉันเคยไปเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้วกับป๊าม๊าของอิฉันเอง ตอนยังเป็นเด็กน้อย ดังนั้น จึงจำอะไรไม่ค่อยได้ซักเท่าไหร่ แต่ตัวอาเฮีย มีความหลังฝังใจที่ไม่ค่อยดีกับปีนังนัก เพราะตอนที่อาเฮียยังหนุ่มแน่นเมื่อหลายสิบปีก่อนเช่นกัน อาเฮียต้องขึ้นรถไฟไปปีนังบ่อย ๆ เพื่อไปวีซ่ารันให้อยู่ในเมืองไทยได้ ครือออกนอกประเทศไทยไปก่อนแล้วค่อยกลับมาใหม่อ่ะค่ะ ตอนหลังนี้อาเฮียไม่ต้องทำอย่างนั้นแล้ว แต่ความหลังเมื่อครั้งนั้นคงยังจำอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะรถไฟที่นั่งแข็งโป๊กอันยาวนาน ที่พักเกสต์เฮ้าส์ราคาถูกและกลุ่มฝรั่งขี้เมาไม่ค่อยน่ารักที่จำเป็นต้องไปอยู่แถว ๆ เดียวกัน
แต่ตอนนี้ปีนังมันเปลี่ยนไปเยอะแล้วนะเฮีย
มา ๆ ไปปีนังกันเหอะ ..
คราวนี้เราจองตั๋ว Air Asia ได้ราคาไม่น่ารัก และปัญหาอีกอย่างคือการจัดการที่สนามบินดอนเมือง การจัดการเข้าขั้นย่ำแย่นะฮะ คิวยาวววววววโดยไม่มีการจัดการที่ดี ถึงแม้จะไปเช็คอินก่อน 3 ชั่วโมงกว่า แต่แถวที่ยาวเฟื้อยด้วยทัวร์จีน ทำให้เราต้องต่อคิวในแถวที่ท้ายแถวยาวเกือบถึงหัวลำโพง และแถวที่ควรเป็นทีละคนกลายเป็นแยกเป็น 2 แถว และต่อมาเป็น 5 แถว
หงุดหงิดจนแช่งชักหักกระดูกคนจัดการดอนเมือง เริ่มต้นทริปแบบแย่สุด ๆ ละ เราก็เดินผ่าน ต.ม. สายตาไปป๊ะกับเล้าจน์ The Coral Executive lounge มีป้ายว่าใช้สิทธิ์บัตรเครดิตยี่ห้อหนึ่งเข้าได้ฟรี 2 คน
ยี๊ฮ่าาาาาาา
มันดีงามมมม ขอขอบคุณ SCB มา ณ ที่นี้
เล้าจน์ที่นี่กว้างขวาง ตกแต่งได้ดีสะอาดตา เงียบ ๆ อาหารไม่ขี้เหร่ ดีกว่า Business Class lounge ของหลายสายการบินด้วยซ้ำ
สรุปแล้วที่นี่ ดีงาม ให้ 10 เต็ม 10 โดยเฉพาะเมื่อสามารถใช้สิทธิ์เข้าได้ฟรี แต่รู้สึกว่าหากต้องจ่ายเงินเพื่อเข้าตกประมาณพันนิด ๆ นะคะ อิฉันว่าก็ยังน่าใช้บริการอยู่ล่ะ
ไวปานวอก.. บินแป๊บเดียวใช้เวลาน้อยกว่าที่เรายืนเข้าแถวเช็คอิน เราก็มาถึงปีนังแล้ว
นั่งรถแท็กซี่เข้าเมือง ที่พักของเราอยู่นอกตัวเมืองปีนังนิดเดียว ราคาค่าแท็กซี่ 44.7 ริงกิต (คุณ 8 เป็นเงินไทย ประมาณ 360 บาท)
ที่พักริมอ่าว เป็นคอนโด อันนี้หน้าที่พัก ใต้ตึกมีตาบัคส์ด้วยย
คอนโดนี้อยู่ห่างออกมาจาก Georgetown ประมาณ 3 กม.เท่านั้น
ซึ่งการเดินทางในปีนังนี้ เค้าบอกว่าจะเดินทางไปไหนก็ง่ายยังกะลิงปอกกล้วย เพราะใช้แอปอูเบอร์ บริการดี๊ดี ราคาก็ถู๊กถูก
มาถึงห้องละ ชั้น 9
ที่พัก 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เป็นแบบ Du-plex คือมีสองชั้น จริง ๆ ถึงจะสองห้องนอน แต่ถ้านอนจริงน่าจะพักได้ถึง 6 คน เพราะที่นอนเป็นแบบควีนไซส์ 3 ที่นอน
โซฟาที่นั่งมากมายนั่งไม่ซ้ำตรูด อุปกรณ์ครัว สบู่ แชมพูมีให้พร้อม
ขาดอย่างเดียวคือผ้าเช็ดตัว ปกติ airbnb ส่วนใหญ่เค้ามีให้ แต่เจ้านี้เรารู้อยู่แล้วว่าไม่มี เราเลยหิ้วกันไปเอง แต่เห็นบางคนในรัีวิวเค้าโวยกันใหญ่ เพราะที่อื่นมันมีให้นี่นะ
วิวสวยมากกกกก
โปร่งโถงโล่งสบาย เนื่องจากมันเป็นกระจกก็รับแดดเยอะอยู่ แค่แอร์ก็ทำงานได้เร็ว เย็นเร็วดีฮะ
มีทีวี มีอุปกรณ์มากมายให้
ครัว อุปกรณ์พร้อมมมม
ห้องน้ำทั้งข้างล่างข้างบน
บันไดขึ้นชั้นสอง
ห้องนอนทั้งสอง
มองจากบันไดลงมาห้องนั่งเล่น
วิวจากหน้าต่างห้องพัก Harbor View
เย็น ๆ ก็หาเบียร์เย็นเจี๊ยบมานั่งกินแกล้มวิวทะเล
ตอนดึกจะเป็นอย่างงี้ สวยยยย
ปีนังมันร้อนมาก ดังนั้น ถ้ามาก็พกชุดว่ายน้ำมาด้วยนะคะ ที่นี่มีสระว่ายน้ำให้ใช้
วิวจากสระ
นี่คือตึกแฝดของเรา
อันนี้เป็นทะเลหน้าตึก วิวจากตาบัคส์ สาขานี้ยอดฮิตเลย ดึกๆ วัยรุ่นมาเลมานั่งกันตรึม อากาศหลังสี่โมงเย็นไปแล้วแถวนี้น่านั่งน่าเดินทีเดียว ลมเย็น ไม่ร้อนละลายเหมือนตอนกลางวัน
แวะหาอาหารบ่าย ๆ กินแถว ๆ ที่พัก แถวนี้ร้านอาหารมีเยอะเลย แวะร้าน Coffeesmith
หลังจากไปเดินแรดแต๊ดแต๋ที่ร้านใกล้ๆ ที่พักเราก็ได้ของกลับมาหลายอย่าง Ipoh white coffee อันนี้ใช้ได้นะฮะ นอกนั้นของในมินิมาร์ทส่วนใหญ่จะน่าเบื่อ เพราะเหมือนเมืองไทยเลย แต่น้อยกว่า 7-11 หน้าบ้าน 10 เท่า
มียาคูลท์ขวดแปลก แต่รสชาติเหมือนเมืองไทยเด๊ะ
แถวนี้มีร้านขายขนมและของน่ารัก จากทั่วโลก เน้นขนมของกิน
น่าลองหลายอย่าง แต่ได้นังโคนี่มาป๋องเดียว
นึกว่าน้ำผลไม้
บรั่นดีแฮะ
ได้ขนมมากินกรุบกริบ
คานาเฮกัมมี่รสชาติเหมือนเคี้ยวหนังยาง
ส่วนมื้อดึกขี้เกียจเดินไกล อาเฮียพาแวะร้านอาหารญี่ปุ่นซะเลย
มามาเลเซียเนี่ยนะ
บล็อกหน้าพาเที่ยวดู Street Art ของดีเมืองปีนังละค่ะ