Bloggang.com : marzo : 2 : ซันโตรีนี ( Santorini ) - Greece กับ เรือสำราญ MSC Musica

2 : ซันโตรีนี ( Santorini ) - Greece กับ เรือสำราญ MSC Musica

.

26 July 2017

- Day 1 : เวนิส / Venezia / Venice - Italy

- Day 2 : บรินดิซิ / Brindisi - Italy

- Day 3 : Katakolon - Greece ( คลิกดู )

- Day 4 : ซันโตรีนี / Santorini - Greece

- Day 5 : กรุงเอเธนส์ / Athens - Greece ( คลิกดู )

- Day 6 : เกาะคอร์ฟู / Corfu - Greece ( คลิกดู )

- Day 7 : Kotor ( เมืองโคเตอร์ ) , ประเทศมอนเตเนโกร ( Montenegro ) ( คลิกดู )

- Day 8 : เวนิส / Venezia / Venice - Italy

วันที่ 4 มาถึงเมืองที่อยากมาที่สุดในทริปนี้ นั่นคือซันโตรีนี ( Santorini ) ประเทศกรีซ และต้องเปลี่ยนเวลาเพิ่ม +1 ชั่วโมง (ควรระวังเรื่องเปลี่ยนเวลาของเส้นทางเดินเรือเส้นทางนี้ มีเปลี่ยนเวลา +1 -1 ไปมา .. มีคนตกเรือด้วย)

จะลงเที่ยวซันโตรีนี มันเครียดเล็กๆ เพราะเค้าเขียนไว้ว่าให้รอรับบัตรคิวลงเรือเล็กเข้าฝั่ง(ไม่มีท่าเทียบเรือน้ำลึก) 7 .30 - 10.00 น.ที่ชั้น 6 Velet Bar เพราะฉะนั้น พวกเราเลยตื่นแต่เช้า รีบทานอาหารเช้าและไปรอรับบัตรคิวก่อน 40 นาที ณ.ตอนที่ไปก็มีคนแถวรอยาวแล้ว (มารอบก่อนเราอีก)

พอเรือจอดตอน 8 โมง เค้าจะให้คนที่ซื้อแพ็คเก็จและ VIP ลงก่อน คนที่เอาบัตรคิวไปรอที่โรงละคร แล้วเค้าจะเรียกเบอร์นี้ถึงเบอร์นี้ แล้วมีคนพนักงานเดินนำขบวนไปลงเรือเล็กเข้าฝั่ง ( ตอนแรกต้องรออีกลำ เราอยู่ท้ายกลุ่มเลย ด้านหน้ากลุ่มมาเป็นครอบครัว 6 คนบ้าง และ 4 คนบ้าง เราชีสองนิ้วหมายถึงมาสองคน เค้าเลยให้เราขึ้นเรือลำนี้ เพราะมีที่นั่งอีกสองที่ แต่ไม่ว่างสำหรับ 4 อะไรประมาณนี้ เลยได้ไปก่อน)

เรือใหญ่มากเมื่อเทียบกับเรือที่นั่งเข้าฝั่ง

พอขึ้นฝั่ง รีบเดินไปด้านซ้ายเพื่อขึ้นกระเช้าไปเมือง Firá ระหว่างเดินไปก็มีร้านขายทัวร์มากมาย ซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าอย่างรีบ เพราะตอนหาข้อมูลเที่ยว เค้าบอกว่าคนเยอะ กระเช้ามีน้อย แต่ขอบอกว่ากระเช้าขาขึ้นคือว่างคะ คนซื้อทัวร์เค้าจะไปทางรถ แต่เค้าจะลงกระเช้าจาก Thera ( Thira / Firá ) มาที่ท่าเรือ เพราะฉะนั้น คนที่ไปเที่ยว หรือซื้อทัวร์ต่างๆ และจะลงด้วยกระเช้า ควรเผื่อเวลา

ขึ้นมาถึงเช้ามาก ต้องรีบไปหาที่ขึ้นรถบัส ในเมือง..ร้านค้าเพิ่งเปิด บางร้านยังปิดอยู่เลย

จากกระเช้าเดินออกมาเลี้ยวขวาไปเรื่อยๆ เป็นทางลงเนิน (เผื่อคนจะไปเอง.. หาแม็คฯ แล้วเดินลงเนินไปอีก) ระหว่างทางจะมีร้านค้าร้านอาหารเบๆ ราคาไม่แพง และจะเห็นนักท่องเที่ยวตลอดที่เดินไป (หน้าร้อน) ก่อนถึงที่จอดรถเมล์จะมีลานคลายๆที่จอดรถ และเป็นพวกรถแท็กซี่ ให้เดินลงไปอีกนิดก็เจอ (จริงๆก็อยู่ติดกัน แต่ด้วยว่าเป็นทางลาดลงอาจจะไม่เห็นในทันที)

ที่จอดรถเมล์คือท้องถิ่นมากๆ มีผู้ชายยืนคุยกันไปเป็นกลุ่ม ไม่มีใครสนใจใคร ตอนแรกเรานึกว่าพวกเค้าเข้าคิวซื้อตั๋ว แต่ก็นาน ดูไปดูมาเหมือนคุยกัน เลยตะโกนแซกแล้วถามหารถที่ไป Oia.. เค้าถึงชี้มาคันนี้ เงินจ่ายบนรถ มีกระเป๋ารถเมล์เดินเก็บตามที่นั่งเหมือนรถเมล์ไทย

รถเมล์ขับชิลๆ และทางบางช่วงแคบมาก รถสวนกันไม่ได้ หรือสวนกันลำบากต้องยึกๆกันไป กะเวลาแบบแปะๆไม่ถูก ควรเผื่อเวลาด้วย วันที่ไปเพราะเช้าอยู่ คนไม่เยอะ ใช้เวลาประมาณ 30 - 40 นาที รถจะมาจอดที่ tourist information center เราเดินเข้าซอยข้างๆ ก็เจอร้านค้ามากมาย

ซื้อของที่ระลึกก่อน คิดว่าอีกสักพักคนคงเยอะ ว่าจะซื้อเสื้อดองกี้ก็ลืมเลย เสียดาย

โบสถ์ถ่ายตอนขาไป ขากลับถ่ายลำบาก คนเยอะมาก

วิวบริเวณหน้าโบสถ์ ตอนคนยังน้อย

มาแต่เช้า หรือมาค้างมันดีที่มีช่วงคนน้อย และได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่นี่นี่แหละ คนมาแบบเราก็อดไป แต่ถ้ามาเช้าหน่อยก็ยังมีช่วงที่ถนนว่าง คนน้อยอยู่ ไม่ถึง ชั่วโมง ถ่ายรูปติดคนตลอด บอกเลย

เอาจริงๆ เราไม่ชอบโรงแรมติดถนนอย่างนี้นะ คือหม่ำอาหารเช้าคนก็มอง ถ่ายรูปด้วย มันไม่ส่วนตัวเลย ถ้ามาอีกและต้องพัก เราคงเลือกโรงแรมหลบมุมหน่อย หรือไปก็ออกนอกเมืองไปหน่อย

อยู่เดินเล่นสักพักใหญ่ มหาชนมากันเยอะมาก เราเริ่มเซ็ง เลยว่ากลับเรือหรือไปนั่งหาอะไรดื่มที่ท่าเรือดีกว่า

ขากลับขึ้นรถที่เดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือคนเยอะมาก โชคดีเราขึ้นต้นสายได้ที่นั่ง ผ่านไปป้ายนึงหรือสองป้ายยืนและอัดแน่น เหมือนรถเมล์ไทยเลย บอกให้เดินชิดๆ เดินเข้าไป ฝรั่งงง 555 ให้ชิดไงอีกคือมันไม่มีที่ไปแล้ว ขากลับต่างจากขาไป Oia มาก รถติดนาน จนคนอัดบนรถแทบร้องไห้ คนมากับรถเมล์ท้องถิ่นต้องทำใจ ณ.จุดนี้นะคะ

รถมาจอดตรงที่ขึ้น เมือง Thera ( Thira / Firá ) ต่างจากเมื่อเช้ามาก ร้านเปิดแล้วทุกร้าน คนเยอะ ต่างกันจนแทบจำทางกลับไม่ได้ (อย่างั้นเลย)

ขากลับเราว่าจะเดินลง เดินตามป้าย Donkey Station หรือ Old Port ไป

ทางตรงนี้ ก็เป็นทางลาดลงเขาแล้ว มีร้านค้าร้านอาหารเยอะ คนมาชมวิวถ่ายรูปก็เยอะ (รูปสุดท้ายที่คนนั่งทานอาหารกัน คือเราไม่ได้ตั้งใจถ่ายเค้าเลยนะ แบบว่าจะถ่ายรูปเรือสำราญของเรา แต่เค้าติดมา คิดดูจิว่า... ถ้าเรานั่งคงไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัว ถ้าชอบแบบส่วนตัวควรเลือกร้าน หรือมุมนิดนึง )

อีกมุมนึงที่ถ่ายรูปด้าย ( พร้อมๆมหาชนอีกล้านแปด )

เดินตามทางไปเรื่อยๆ ไม่หลงหรอก ยิ่งเดินลงไปก็ยิ่งเจออึของลา ร้านค้าตรงนี้คงเจอปัญหาอึลาแบบจะๆเลย

รู้สึกคิดผิดที่เดินลง อึลาทั้งนั้น แล้วบางช่วงลาเดินสวนเป็นฝูงใหญ่เลย พวกเค้าน่ารักนะ แต่คิดว่าเสื้อผ้าหน้าผมไม่พร้อมลุยอึลา ขึ้นเรืออาบน้ำ ล้างรองเท้า ซักผ้า แต่เหมือนกลิ่นยังติดอยู่เลย (คุณสามีว่างั้น)

เดินลงมาสุดทาง เหงื่อท่วมตัว มาเจอถ้ำๆอย่างนี้ ขายของที่ระลึก มีร้านอาหาร เดินออกจากตรงนี้ก็ถึงท่าเรือ

ที่ท่าเรือก็มีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารน่านั่งหลายร้าน

เราเลือกร้านนี้ อยู่ใกล้ๆกับเต้นของเรือสำราญของเรา ชื่อร้านว่า Taverna Syrtaki ( Sirtaki Old Port Santorini ) ร้านสะอาด เจ้าของหรือพนักงานสุภาพดี สั่งเบียร์มากินคนละสองแก้ว อาหารก็น่ากินอยู่นะ แต่เรามีอาหารฟรีบนเรือ แล้วพวกเราก็ยังไม่หิว เลยคิดว่าจะกลับเรือไปกินดีกว่า

นั่งจนเริ่มง่วง ตัดสินใจกลับขึ้นเรือดีกว่า เผื่อเวลาอาบน้ำ แล้วไปนั่งกินบุฟเฟ่บนเรือแบบชิลๆ ตอนที่คนยังไม่กลับมากัน

เรือขากลับไปเรือใหญ่เป็นแบบมีดาดฟ้า ตากแดด ชมวิว ร่ำลาเกาะที่เคยอยู่ในฝันว่าจะมาสักวัน

จริงๆแล้วมันไกลนะ แต่นั่นเรือชมวิวแป๊บเดียวก็ถึงเรือใหญ่ ระหว่างเรือเล็กกับเรือใหญ่จะมีระเบียงเล็กๆยื่นออกมาให้คนยืน เรายืนรอตรงนั้น เพราะเค้าต้องสแกนบัตรก่อนขึ้นเรือ เลยได้ส่องลงไปในน้ำ น้ำใสมาก สีสวย แต่ถ่ายไม่ทัน เจ้าหน้าเชิญเข้าเรือ

ขึ้นเรือไปอาบน้ำ มาหาอะไรหม่ำ นอนตากแดดบนเรือ ชมวิว และร่ำลาเกาะในฝัน ซันโตรีนี ( Santorini )

อากาศประมาณนี้ (ช่วงเช้า) ตอนไม่มีแดดอากาศเย็นๆ แต่พอแดดมาเท่านั้นแหละ ร้อนมาก

*

TOP

Create Date : 11 สิงหาคม 2560

Last Update : 29 สิงหาคม 2560 20:18:56 น.

0 comments

Counter : 2065 Pageviews.