space
space
space
<<
กันยายน 2561
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
space
space
3 กันยายน 2561
space
space
space

ทีมไหนจะหยุดภารกิจคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 7 สมัยติดของบาเยิร์น มิวนิค


ชาลเก้, ฮอฟเฟนไฮม์, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และ แอร์เบ ไลป์ซิก ทีมเหล่านี้เป็นคู่แข่งตัวจริงหรือตัวหลอกในการเบียดแย่งบัลลังก์จากทีม "เสือใต้"?

เถียงไม่ได้เลยว่าบาเยิร์น มิวนิคเป็นทีมที่มีโอกาสคว้าแชมป์บุนเดสลีกาฤดูกาล 2018/19 มากที่สุดในตอนนี้ แต่ก็ใช่ว่าภารกิจนี้มันจะง่ายเหมือนเดินเล่นชมสวนดอกไม้แล้วจะป้องกันแชมป์ได้ซะเมื่อไหร่ เพราะกลุ่มคู่แข่งสำคัญๆ ในฤดูกาลที่ผ่านมา ต่างก็เตรียมพร้อมสู้ศึกในฤดูกาลใหม่เพื่อหยุดยั้งพลพรรคเสือใต้อย่างเต็มกำลัง

    แต่คำถามก็คือ จะมีทีมไหนล่ะที่สามารถยืนระยะได้ตลอดทั้งฤดูกาล จนสามารถเบียดแย่งแชมป์ได้สูสีกว่าฤดูกาลที่ผ่านๆ มา ว่าแล้วเราลองมาดูความพร้อมของกลุ่มทีมลุ้นแชมป์ให้ลึกลงไปอีกหน่อยก็แล้วกัน 

    ชาลเก้ 04
    ฤดูกาลที่แล้ว: อันดับ 2 (ตามหลังบาเยิร์น 21 แต้ม)

    ถือเป็นคู่แข่งที่ทำแต้มเข้าใกล้ทีม "เสือใต้" มากที่สุดในฤดูกาล 2017/18 ที่ผ่านมา ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมดังกล่าวทำให้ทีม "ราชันสีน้ำเงิน" ตั้งความหวังในลีกเอาไว้สูงขึ้นไปอีก นอกจากนี้ยังได้สิทธิ์ไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก อีกรายการหนึ่งด้วย แม้ว่าทีมจะเสียดูโอ้มิดฟิลด์อย่างลีออน โกเร็ตซ์ก้า ให้กับบาเยิร์น และ มักซ์ ไมเออร์ ให้กับคริสตัล พาเลซ แต่ก็ชดเชยด้วยการคว้าตัว ซาลีฟ ซาเน จากฮันโนเวอร์เข้ามาเสริมแนวรับให้กับทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 เมื่อฤดูกาลก่อนให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก

    นอกจากนี้ชาลเก้ยังคว้าตัวมาร์ค อูธ มาจากฮอฟเฟนไฮม์ ดาวยิงที่พิสูจน์ตัวเองในเวทีบุนเดสลีกาด้วยการกดไป 14 ประตูในเกมลีกเมื่อฤดูกาลก่อน นอกจากนี้ยังได้ตัว โอมาร์ มาสคาเรลล์ มิดฟิลด์จากแฟร้งค์เฟิร์ต และ ซูอัต แซร์ดาร์ จากไมนซ์ โดเมนิโก เทเดสโก เทรนเนอร์ของชาลเก้จึงเบาใจได้ว่าจะมีกำลังนักเตะหมุนเวียนเพียงพอสำหรับลุยทั้งศึกฟุตบอลยุโรปและรักษาอันดับท็อปโฟร์ให้ได้เป็นอย่างน้อย ดูๆ แล้วปีนี้ชาลเก้น่าจะตั้งความหวังไว้ไม่น้อยเลย

 ฮอฟเฟนไฮม์
    ฤดูกาลที่แล้ว: อันดับ 3 (ตามหลังบาเยิร์น 29 แต้ม)

    เช่นเดียวกับชาลเก้ ฮอฟเฟนไฮม์จะสู้เพื่อจบใน 3 อันดับแรกอย่างแน่นอน โดยยูเลียน นาเกลส์มันน์ กุนซือหนุ่มที่เตรียมย้ายไปคุมแอร์เบ ไลป์ซิกในซัมเมอร์หน้าจะต้องแสดงศักดิ์ศรีและฝีมือเต็มที่ แต่ก็ไม่ใช่งานง่ายนัก เมื่อต้องเสียทั้งมาร์ค อูธ และ แซร์จ นาบรี้ ที่หมดสัญญายืมตัวต้องกลับไปยังถิ่น "เสือใต้" อย่างไรก็ดี ในทีมยังมีนักเตะฝีเท้าดีอีกหลายคนที่ยังไม่แผลงฤทธิ์ให้นาเกลส์มันน์ได้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเลโอนาร์โด บิทเทนคอร์ท ที่ย้ายมาจากโคโลญจน์, อิชัค เบลโฟดิล จากเบรเมน และ โจลินตัน ที่ย้ายกลับมาหลังหมดสัญญายืมตัว

    ก่อนหน้านี้ใครจะไปคาดคิดล่ะว่าพลพรรค "ไครช์เกา" นั้นจะขึ้นไปจบถึงอันดับ 4 ในปี 2017 และอันดับ 3 ในปี 2018 แม้ลูกทีมของนาเกลส์มันน์จะเสียท่าให้กับเสือใต้ในนัดเปิดฤดูกาล 2018/19 ก็ตามที แต่สำหรับฟุตบอลลูกกลมๆ แล้วอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น!

  โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
    ฤดูกาลที่แล้ว: อันดับ 4 (ตามหลังบาเยิร์น 29 แต้ม)

    คู่ปรับตลอดกาลที่สูสีคู่คี่มากที่สุดของบาเยิร์น ต้องพบความผิดหวังในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ยังดีที่พวกเขาคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกได้อย่างหวุดหวิด ฤดูกาลนี้พวกเขาจึงต้องยกเครื่องกันใหม่ เริ่มจากการฝากความหวังไว้กับลูเซียง ฟาฟร์ เฮ้ดโค้ชคนใหม่แต่เก่าประสบการณ์ ที่เคยคุมทัพโบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค แถมยังเคยนำแฮร์ธ่า เบอร์ลินคว้าชัยเหนือบาเยิร์นมาแล้วด้วย ประสบการณ์มากมายที่ผ่านมาทำให้ฟาฟร์รู้จักลีกบุนเดสลีกาอย่างทะลุปรุโปร่ง

    ขณะที่การเสริมทัพของดอร์ทมุนด์ในช่วงเปิดตลาดที่ผ่านมาดูคึกคักไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะเป็น อับดู ดิอัลโล ปราการหลังจากไมนซ์, โทมัส เดลานีย์ มิดฟิลด์ตัวเก่งจากเบรเมน และ อักเซล วิตเซล สตาร์ทีมชาติเบลเยี่ยมที่กลับมาค้าแข้งในแผ่นดินยุโรปอีกครั้ง ดูจากลิสต์ผู้เล่นที่ว่ามาแล้ว พลพรรค "เสือเหลือง" ไม่น่าจะแพ้ยับถึง 6 เม็ดเหมือนฤดูกาลที่แล้วเป็นแน่

  ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
    ฤดูกาลที่แล้ว: อันดับ 5 (ตามหลังบาเยิร์น 29 แต้ม)

    ในฤดูกาลที่ผ่านมา ถือได้ว่าเทพีแห่งโชคไม่ได้เข้าข้างทีม "ห้างขายยา" เมื่อพวกเขาพลาดโอกาสติดท็อปโฟร์จากการแพ้ลูกได้เสียไปแบบฉิวเฉียด แต่ลูกทีมของไฮโค แฮร์ริช ก็มีดูมีแววดี หลังโชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างน่าประทับใจ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฤดูกาลนี้เลเวอร์คูเซนหมายมั่นปั้นมือจะกลับมาแก้ตัว และสานต่อเป้าหมายที่เคยทำไว้ได้ในฤดูกาลก่อน

    เหล่าดาวรุ่งพุ่งแรงอย่างลีออน เบลีย์, ยูเลียน บรันด์ท และ ไค ฮาแวร์ทซ์ ที่พังตาข่ายคู่แข่งรวมกันไป 21 ตุง กับอีก 17 แอสซิสต์ในฤดูกาลที่ผ่านมายังคงโชว์ฟอร์มเฉิดฉายในสีเสื้อเลเวอร์คูเซนแม้ว่าพวกเขาจะมีอายุเฉลี่ยเพียง 21 ปีเท่านั้น โดยช่วงเปิดตลาดซัมเมอร์ทีม "ห้างขายยา" เสียเพียงแค่ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมอย่างแบร์นด์ เลโน่ ที่โยกไปเฝ้าเสาให้อาร์เซน่อล แต่ก็ได้ตัวลูคัส ราเด็คกี้ จากแฟร้งค์เฟิร์ตมาเฝ้าเสาแทน นอกจากนั้นยังเสริมแนวรุกด้วยการกระชากตัวมิตเชล ไวเซอร์ ปีกตัวจี๊ดจากแฮร์ธ่า เบอร์ลิน และ เปาลินโญ่ จากวาสโก ดา กาม่า

    ในฤดูกาลนี้ทีม "ห้างขายยา" จะต้องมาลุ้นกันว่าจะไปได้ไกลแค่ไหนในศึกยูโรปา ลีก แต่ก็แน่นอนว่าพวกเขามีดีพอที่จะชนกับเหล่าทีมยักษ์ใหญ่ในบุนเดสลีกา ซึ่งอย่างน้อยๆ ก็น่าจะติดท็อปโฟร์ได้ไม่ยาก แต่ใครจะไปรู้ ว่าฤดูกาลนี้อาจถึงเวลาที่ตัวประกอบจะได้ยืนเด่นกลางแสงสปอตไลท์แล้วก็เป็นได้

  แอร์เบ ไลป์ซิก
    ฤดูกาลที่แล้ว: อันดับ 6 (ตามหลังบาเยิร์น 31 แต้ม)

    ตำแหน่งรองแชมป์บุนเดสลีกาเมื่อฤดูกาล 2016/17 ถือเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ทีมไลป์ซิกที่ยังหอมหวานมาจนถึงปัจจุบัน ในซีซั่นที่ผ่านมาขุนพล "Die Roten Bullen" (กระทิงแดง) ไล่ปราบยักษ์ทั้งบาเยิร์นและดอร์ทมุนด์ แต่ท้ายที่สุดก็ยังขาดความคงเส้นคงวา ซึ่งเป็นผลกระทบจากการที่ต้องลงเล่นในศึกแชมเปียนส์ ลีก เป็นครั้งแรก และการเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศในศึกยูโรปาลีก

    ฤดูกาลนี้พวกเขาได้ราล์ฟ รังนิค เข้ามารับหน้าที่คุมบังเหียนแทนราล์ฟ ฮาเซนฮึทเทิล ที่เคยพาไลป์ซิกเลื่อนชั้นมาเล่นในลีกสูงสุดของเยอรมัน และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในสองฤดูกาลแรก เทรนเนอร์วัย 60 ปีรายนี้อาจไม่ได้มีขุนพลนักเตะที่ดีที่สุดให้เลือกใช้ แถมยังต้องหาจอมทัพคนใหม่มาเสียบแทนที่ นาบี เกอิตา ที่ย้ายไปทำเกมให้ลิเวอร์พูล แต่หากจะมีใครสักคนที่สร้างความฮือฮาให้กับแอร์เบ ไลป์ซิกได้อีกครั้ง คนๆ นั้นก็อาจจะเป็นราล์ฟ รังนิค ผู้เคยพาฮอฟเฟนไฮม์เลื่อนชั้นขึ้นมาฤดูกาลแล้วพาทีมเป็น Herbstmeisterschaft หรือแชมป์ครึ่งฤดูกาลแรกเมื่อสิบปีก่อน 

    แต่สำหรับคราวนี้ รังนิค จะทำได้ดีเหมือนเดิมหรือเปล่านั้นก็ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย เช่น ติโม แวร์เนอร์ และ เอมิล ฟอร์สแบร์ก จะเค้นฟอร์มเดิมเหมือนในฤดูกาล 2016/17 ที่ยิงรวมกัน 55 ลูกในเวทีบุนเดสลีกได้หรือไม่ รวมถึงมาเธอุส คุนญ่า และ มาร์เซโล ซารัคคี จะรักษาฟอร์มเก่งเหมือนในช่วงปรีซีซั่นได้แค่ไหน อีกทั้งยังต้องเลือกนักเตะหมุนเวียนลงสนามให้ดี โดยเฉพาะในช่วงที่มีคิวลงเล่นบอลยุโรปด้วยแล้ว ไม่ค่อยกดดันเท่าไหร่เลยนะ..

ขอบคุณข้อมูลจาก www.siamsport.co.th



Create Date : 03 กันยายน 2561
Last Update : 3 กันยายน 2561 16:21:05 น. 0 comments
Counter : 231 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 4583755
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 4583755's blog to your web]
space
space
space
space
space