Group Blog All Blog
|
เราต้องแยกใจออกจากกายกายส่วนหนึ่งใจส่วนหนึ่งไม่แยกไม่ได้ต้องแยกเวลากายเราแก่เจ็บตายใจมันถึงจะไม่ทุกข โอวาทธรรม จาก งานถวายผ้ากฐิน วัดสาขา วัดแพร่ธรรมาราม ณ.วัดสันป่าสักวรอุไร ตอน2 จบ..
กาย กับ ใจ ก็เป็นคนละอย่างกัน..ร่างกาย ก็มี เกิด แก่ เจ็บ ตายพลัดพราก มีความไม่เที่ยงแท้แน่นอน เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาส่วน ใจ เป็นผู้ที่มาอยู่อาศัยในร่างกาย
กาย กับ ใจ สองอย่างนี้มันเป็นคนละอย่าง ร่างกายเป็นมนุษย์นี้ อายุไขส่วนใหญ่ก็ไม่เกินร้อยปี ดำรงชีวิต อยู่ได้ด้วยการรับประทานอาหาร ผักผ่อนอริยาบท ร่างกาย จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนเกิดมาก็ต้องอาศัย ปัจจัยสี่ ได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ปัจจัยสี่ มนุษย์เราเกิดมาก็ต้องแสวงหาเพื่อการดำรงชีวิต มันเป็นสิ่งจำเป็น กับ ร่างกาย โรงเรียน จึงเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ ในโครงสร้างของชีวิต เป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิต มนุษย์เราทุกคนที่เกิดมาถ้ามีคุณพ่อ คุณแม่ ดี เป็นผู้ที่ มีสัมมาทิฐิ มีความเห็นถูกต้อง เข้าใจถูกต้องการประพฤติ ปฏิบัติ นั้นก็ย่อมถูกต้อง พ่อ แม่ จึงเป็น หัวจักร ที่สำคัญ นำลูกหลาน ไปสู่เส้นทางชีวิตที่ประเสริฐ คุณครู ก็เป็นโครงสร้างที่สำคัญเพราะ ความรู้ ความเข้าใจ ใน การเรียน การศึกษา มันก็ต้องได้มาจากคุณครู คุณพ่อ คุณแม่ ของเด็กย่อมไม่มีความรู้ ความสามารถ ในการบอกการสอน ตามหลักวิชาการ เทียบเท่ากับคุณครู คุณครูจึงเป็น หัวจักร ที่สำคัญในการนำนักเรียน นักศึกษา สู่ความรู้วิชาการ ภาคบังคับ ก็ต้องเริ่มตั้งแต่สามขวบ ขึ้นไปจนถึง ประถมหก ถ้าเราไม่ฝึกเด็กระยะนี้ เราจะฝึกเขาไม่ได้ เด็กก็จะติดสุข ติดสบาย ติดขี้เกียจติดขี้คร้าน ถ้าใหญ่กว่านี้เราก็จะฝึกเขาไม่ได้พ่อแม่ทุกคนต้องพากันเข้าใจ อย่าพากัน สงสารลูก คิดว่า ลูกเรายังเล็กอยู่ให้มันโตกว่านี้ก่อน แล้วค่อยฝึก ถ้าเราคิดอย่างนี้ ไม่ถูกนะ เสียหายมาก เราต้องฝึกเขาตั้งแต่ยังเด็ก ฝึกใหัเขาเป็นคน มีระเบียบ วินัย สุภาพ เรียบร้อย อ่อนน้อมถ่อมตน พูดเพาะ ไหว้งาม รู้จักที่ต่ำ ที่สูง ฝึกเป็นคนขยันหมั่นเพียร เป็นคนรับผิดชอบ อดทน ควบคุมตัวเองให้ได้ ไม่ให้เป็นคนเจ้าอารมณ์ และให้เป็นคนที่เสียสละให้กับส่วนรวม ให้เด็กได้เรียนรู้ ได้เข้าใจจากพ่อแม่ จากคุณครู พ่อแม่ กับ คุณครูเป็นโครงสร้าง ที่สำคัญของโลก เป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุดของโลก เป็นปูชยนียบุคคลเป็นบุคลที่เป็นแบบอย่าง เป็นตำแหน่งผู้ที่เสียสละ พระพุทธเจ้าท่าน ให้ทุกคนเข้าใจ ทุกคนเกิดมา ก็ต้องได้ เป็นพ่อ เป็นแม่ เหมือนกันหมดทุกคน คุณครู คือ ผู้เสียสละ ทุกท่าน ทุกคน ต้องย้อนกลับมาดูตัวเอง ว่า เราเป็นผู้เสียสละแล้วหรือยัง? เมื่อตำแหน่งของเรา เป็นพ่อแม่ และ เป็นคุณครู เราก้อต้องมาประพฤติ ปฏิบัติหน้าที่ ของความ เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นครู ให้มันสมบูรณ์
การเสียสละ เป็น พื้นฐาน ที่จะรองรับธรรมะต่างๆ ให้เกิดขึ้น เช่นว่า เรามีการเสียสละแล้ว ความขยันหมันเพียรความรับผิดชอบมันก็ตามมา สิ่งที่ดีๆๆ ทุกอย่างมันก็ตามมา เป็นเหตุ เป็นปัจจัยตามมาเป็นกระบวนการ เพราะการ อุทิศ ของเราต้องดำเนินตาม หลักวิทยาศาสตร์ ตามเหตุ ตามปัจจัย
เมื่อกายของเราดำเนินชีวิตที่ประเสริฐ ใจ ของเราก็ย่อมดำเนินไปในหนทางอันประเสริฐ พระพุทธเจ้า ให้เราพากันเข้าใจให้มีความเห็นถูกต้อง จะได้ปฏิบัติถูกต้อง เมื่อเราดำเนินชีวิตเหมือนที่กล่าวมาในเบื้องต้นทุกคนก็ย่อมมีอยู่ มีกินมีใช้ สะดวกสบาย...เมื่อ เรามีกินมีใช้สะดวก สบายแล้ว พระพุทธเจ้าท่าน ก็ ไม่ให้ติดในควาสุข ไม่ให้ติดในสบาย เพราะ ความสะดวกสบายมันเป็น "กามคุณ" กามคุณ มันก็เป็นสิ่งที่ดี เช่น ร่างกายของเราก็เป็นสิ่งที่ดี ทำให้เราได้มีโอกาส ประพฤติ ปฏิบัติมุ่งมรรคผลนิพพานได้ อาหาร ที่อยู่ อาศัย ทุกอย่างสะดวก สบายหมด นั่นก็เพราะเราทำถูกต้อง ตามกระบวนการ พระพุทธเจ้า ท่านให้เรามี "สัมมาทิฐิ" ความเห็นชอบ ก็หมายถึง ความเห็นให้ถูกต้อง ไม่ให้ ใจ มันหลงความสุขทางกาย ถ้าเรามาหลงความสุขทางกาย ทางใจ ใจเราจะไม่มีสัมมาทิฐิ พระพุทธเจ้าท่านให้เราทุกคน มีบ้าน มีที่อยู่อาศัย ผักผ่อน นอนหลับ มีรถ มีสิ่งอำนวย ความสะดวก ทรัพสินเงินทอง ไว้ใช้จ่าย มีสรรเสริญ มีคำนิยมชมชอบว่าเป็นคนดี เป็นคนเสียสละ ให้กับ ประเทศชาติบ้านเมือง เราก็มีได้ แต่...มีข้อแม้ว่า เราต้องมี..สัมมาทิฐิ ความเห็นถูกต้อง เข้าใจถูกต้อง ไม่พากันมาหลงติด หมกมุ่นเพลิดเพลิน ในกามคุณทั้งหลาย มี ได้แต่...อย่าไปติดมัน ใจ ของเรามันต้องตั้งอยู่ในพื้นฐาน ศีล สมาธิ ปัญญา....เราทุกคนต้องดำเนิน ชีวิตอยู่ใน ศีล สมาธิ ปัญญา
พระพุทธเจ้าท่านให้เราดำเนินชีวิต ทั้งทางกาย ทางใจ ไปพร้อมๆ กัน โดย การไม่ทำบาปทั้งปวง ทำแต่บุญแต่กุศล ไม่ประมาท ไม่เพลิดเพลิน ให้ มีสัมมาทิฐิ มีศีล สมาธิ ปัญญา นี้อยู่ตลอดเวลา ชีวิตของเรา ถือว่าเป็นชีวิตที่ประเสริฐ ให้เราเอามาบำเบ็ญบารมี ตามรอย พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า ท่านบำเบ็ญบารมีเป็นหมื่นล้านชาติ ใช้เวลายาวนานมากกว่าจะมาเป็น ครูผู้สอนของมนุษย์และเทวดาได้ เราทุกคนเพียงแค่ได้ยินชื่อของพระพุทธเจ้า ก็เป็นบุญ เป็นกุศล อย่างที่หาที่สุดหาประมาณมิได้ และ ถ้าได้มีโอกาสประพฤติ ปฏิบัติตาม ก็ยิ่ง เป็นบุญใหญ่อานิสงค์ใหญ่ เข้าสู่มรรคผล นิพานตั้งแต่ยังไม่ตาย พระพุทธเจ้า ของเราเก่งมากเก่งจริงๆ พิเศษสุดๆ ท่านสอน..มนุษย์ และ เทวดา ทั้งหลาย ให้เขาถึงสรรค์ เข้าถึงมรรคผล นิพาน ตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ต้องรอตายก่อน ที่เราพากันดำเนินชีวิตประจำวันนี้..เรา...ไม่ได้ พากันเดินตามรอย พระธรรม คำสั่งสอนพระพุทธเจ้า นับว่าน้อยมากนะไม่กีเปอร์เซ็นเลย พื้นฐานของพวกเราทุกคนขณะนี้ส่วนใหญ่ เราก็ยัง ไม่เข้าใจในการดำเนินชีวิต พากันเดิน ดำเนินชีวิตผิดๆๆ เข้าใจผิดๆ ชีวิตของเรา ไม่ได้เจริญตามแนวทางหลักพุทธศาสนา
เราต้องแยกใจ ออกจากกาย กายส่วนหนึ่ง ใจส่วนหนึ่ง ไม่แยกไม่ได้ ต้องแยก เวลากายเรา แก่ เจ็บ ตาย...ใจมันถึงจะ ไม่มีความทุกข์
เราทุกคนกลับมาดู ใจ ตัวเราเองใจ...เรามีศีลห้ามั้ย ชีวิตประจำวันของเรา..ใจมันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ศีลห้า นี้ เป็นสิ่งสำคัญ ถ้ามีศีลห้า เราจะ....ไม่ตกนรก ไม่ไปเกิด เป็นเปรต ไม่ไปเกิด เป็นผี เป็นยักษ์ เป็นมาร เป็นอสูรกาย เป็นเดรัฉาน ศีลห้านี้....ปิด อบายภูมิ ศีลห้า นี้ ดีมาก ไม่ให้ชีวิตเรา..ตกต่ำ ไม่ตก..ไปในทางที่ชั่ว พระพุทธเจ้า ให้ทุกคนเข้าใจ เน้นศีลห้าเป็นสิ่งสำคัญมาก ศีลห้า พระพุทธเจ้าท่าน...เน้นที่...เจตตนา...ให้งดเว้น ใน...สิ่งที่ผิด สิ่งไหนผิด..ไม่คิด ไม่พูด ไม่ทำ สงสัยอยู่ก็ไม่ฝืนทำ ถ้าฝืน ทำไปก็ผิดศีลแน่นอน!!
ผู้ที่ได้เกิดเป็น "มนุษย์" ถือว่าประเสริฐมาก สถานที่สร้างบารมีของเราทุกๆคนอยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นมนุษย์ ใจของเราทุกคน..ไม่มีพลัง ก็เพราะว่า...ไม่มีศีล เป็นพื้นฐาน เพื่อจะรองรับให้มันเกิด สัมมาสมาธิให้เราทุกคนพากันเข้าใจ คำว่า "สัมมาสมาธิ" คือ สมาธิที่ประกอบด้วย "ปัญญา"
เราทุกคนในชีวิตประจำวัน ก็ต้องมีสัมมาสมาธิ ถ้าเราไม่มี สัมมาสมาธิในชีวิตประจำวัน นิวรณ์ทั้งห้ามันจะ..ครอบงำใจของเรา มีแต่สมาธิธรรมดาๆ สมาธิการทำมาหากิน ที่มีความเห็นแก่ตัว เป็นสมาธิที่..มีความยึดมั่น ถือมั่นนี่เรียกว่า สมาธิธรรมดา ไม่ใช่ สัมมาสมาธิ นะ สัมมาสมาธิ เป็นสมาธิที่ปราศจากนิวรณ์ ไม่ให้ นิวรณ์...เกิดขึ้นกับใจในทุกๆ อริยาบท เป็นการควบคุมไม่ให้ ความโลภ ความโกรธ ความหลง เกิดขึ้นที่ใจ..ไม่ให้มันเกิดในใจของเราได้...ถ้าเรามี สัมมาสมาธิอย่างนี้ ใจของเราจะมีพลัง สัมมาปัญญา มันถึงจะเกิดขึ้นได้ สมาธิ..ที่เรานั่งตอนเช้าตอนกลางวัน ตอนกลางคืน นี้เป็น..สมาธิใหญ่ เปรียสเหมือน แม่น้ำมหาสมุทรกว้างใหญ่ไพศาล มองไม่เห็นฝั่ง ไม่สามารถหยั่งให้ถึงได้น้ำทั้งหลายทั้งปวงไหลเข้าสู่มหาสมุทร มหาสมุทรรองรับได้ทุกอย่าง ใจของเราที่ แยกออกจาก...กาย มีแต่...ใจล้วนๆๆ มันจะลงสู่สมาธิใหญ่ เช่น พระอรหันตท่านเข้า นิโรธสมาบัติ เขาเรียก สมาธิใหญ่ สัมมาสมาธิ นี้จะมีความสุขอยู่กับเราทุกอริยาบท เพราะว่า นิวรณ์ เกิดไม่ได้ ยิ่งเรานั่งสมาธิใหญ่ยิ่ง..มีความสุขมาก ใจของเรา จะสงบเย็น พระพุทธเจ้าท่านถึงไม่ให้ "ใจ" ของเรา พาติดในความสุขของสมาธิ จนเราต้องมี..สัมมาสมาธิ ศาสนาต่างๆ นั้นพากันเข้าใจกันว่า ความสุขของมนุษย์ อยู่ที่ใจมีสมาธิ เป็นสมาธิ
พระพุทธเจ้าก่อนที่ท่านจะเสด็จดับขันธสู่ปรินิพพานท่านเข้า ฌาณหนึ่ง ฌาณสอง ฌาณสาม ฌาณสี่ ถอยใจกลับมา กลับไปแล้วเสด็จดับขันธสู่ปรินิพพาน ท่านไม่ยึดติดอยู่ในสมาธิ การประพฤติ ปฏิบัติธรรมของเราทุกๆคน ในชีวิตประจำวัน มีความจำเป็นที่จะต้อง ประพฤติ ปฏิบัติธรรม การทำงาน คือ การปฏิบัติธรรม เราต้องเดินไปทั้งกายและใจ พร้อมๆกัน ด้วยการ..ประพฤติ ปฏิบัติธรรม เน้นที่ปัจจุบันธรรม..ไม่ให้หลงติด หลงเพลิดเพลิน อยู่ใน "กามคุณ" ไม่ตั้งอยู่ในความประมาท สร้างบาป สร้างกรรม สร้างเวร สร้างภัย ร่างกายของเราต้องทานอาหาร การพักผ่อนก็แก่ไปทุกๆวัน ถ้าเรา..ประพฤติ ปฏิบัติธรรม...ใจของเราก็ต้องเจริญแก่กล้า มีอินทรีย์บารมี มีปฏิปทาในการทำติดต่อกันสม่ำเสมอนี้เป็นสิ่งสำคัญ ที่เราทำกันติดกันสม่ำเสมอนี้...เราต้องทำติดต่อกันสม่ำเสมอเหมือนแม่ไก่ที่ฟักไข่เขาก็ต้องกกไข่ให้มันได้อุณหภูมิ ติดต่อกันหลายสัปดา ไข่ถึงจะฟักออกมาเป็นตัวได้...มันต้องมี...สัมมาสมาธิตลอดเวลา เราต้องมี สัมมาสมาธิตลอดเวลา เพราะ..จะได้มีจุดยืนที่ประเสริฐกับชีวิต จะได้มาเป็นปูชนียบุคล นำกุลบุตร ลูกหลาน ประพฤติ ปฏิบัติธรรม มนุษย์...เราทุกคน มหาเศรษฐี คนไหน...ถึงเวลาตายไป ก็ไม่เห็นมีใคร..เอาทรัพย์สมบัติ ข้าวของเงินทอง ติดตัว ไปด้วยได้เลย บุญกุศล บารมี คุณธรรมที่เราทุกคนได้บำเบ็ญ ประพฤติ ปฏิบัติ เป็นปฏิปทา เดินตามรอยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ที่เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ จะเป็นที่พึ่งอันประเสริฐ เป็นแสงสว่าง ให้พวกเราเดินตามรอยพระองค์สู่มรรคผลนิพพาน ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของพวกเราทุกๆคน เมตตาให้พระอาจารย์ สมัยอินมุโต เป็นองค์แสดงธรรม งานกฐิน 27 ตุลาคม 2561 ณ.วัดสันป่าสักวรรอุไรธรรมาราม |
MaKiNoh
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Link |