I AM SOMEONE
<<
ธันวาคม 2563
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
19 ธันวาคม 2563

ผ่าตัดใหญ่ครั้งแรกในชีวิต

จริงๆ เราเข้าห้องผ่าตัดใหญ่มาแล้วสองครั้ง ครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อนที่ผ่านิ้วเพราะเข็มจักรปักทะลุกระดูกใช้การฉีดยาชา แต่ก็อดอาหารด้วยเผื่อได้ใช้ยาสลบ พักคืนเดียวก็กลับบ้านได้ ครั้งที่สองคือเดือนพ.ย.ปีนี้ที่ไปขูดมดลูก ใช้ยาสลบ พักคืนเดียวเช่นกัน

ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามที่เข้าห้องผ่าตัดใหญ่อีกครั้ง และมีการผ่าตัดจริงจัง โดยสืบเนื่องจากการป่วยของเราก่อนหน้านี้ที่เคยเขียนไว้ว่าเป็นเนื้องอกรังไข่ หมอรพ.สุทธาเวชให้ตัดทิ้งทุกอย่างยกพวงบอกไหนๆ ก็ไม่ได้ใช้แล้ว เตรียมเข้าสู่วัยทองทันที แต่หมอที่นี่ไม่นิยมตัดหมด เลยว่าจะตัดรังไข่ซ้ายออกข้างนึง เพราะวัยไม่ยังไม่ถึงวัยทอง เราเลือกผ่าตัดแบบส่องกล้อง โดยใช้สิทธิ์ประกันสังคมแต่ส่งต่อผู้ป่วยมาที่รพ.มหาสารคาม เพราะมีเครื่องมือและมีหมอที่ผ่าได้เยอะอยู่ ซึ่งหมอเจ้าของไข้เราคือ พญ.วิลาสินี ส่งเสริม จบผ่าตัดผ่านกล้องมาโดยตรง

วันที่ 14 ธ.ค.เราเข้ารพ.ไปทำเรื่องแอดมิท พยาบาลก็ให้เข้าห้องผู้ป่วยสามัญเลย แม่เราก็มาด้วย ทีนี้ก็ไม่รู้จะให้แม่ทำไร แม่ก็เบื่อ นั่งๆ นอนๆ เรายังเบื่อเลย หวังว่าจะได้ห้องพิเศษ แต่ไม่ได้ มื้อเที่ยงได้กินข้าวต้มเหลือๆ ไม่อิ่มเลย แม่ไปซื้ออาหารจากร้านค้าสวัสดิการมาให้ ไม่อร่อยแม้แต่น้อย บ่ายหมอมาให้เราเตรียมพร้อม สี่โมงเย็นแม่ก็ไปนอนโรงแรมข้างรพ.



ได้อาหารมื้อเย็นมากิน อยากจะร้องไห้ ทำไมทำกับเราอย่างนี้ เอากล้วยเน่ามาให้เรากินทำไม ต่อให้เราใช้สิทธิ์อะไรรักษาก็ตาม หรือจะนอนห้องรวมห้องสามัญก็ไม่ควรจะได้กล้วยเน่ามากินนะ ไม่ใส่มาเลยซะยังดีกว่า ฝ่ายโภชนาการทิ้งไปเหอะอย่าไปเสียดายผลไม้เน่า สงสารตัวเอง สลด!



เราค่อนข้างเครียดกลัวนอนไม่หลับ เพราะอากาศร้อน (ไม่ใช่กังวลเรื่องผ่าตัด) วอร์ดเรารวมกับเด็กเล็กสองคนล็อคถัดไป คนนึงร้องทั้งคืน และระหว่างคืนก็จะมาคนเข้าออกตลอดยันดึก เราอาบน้ำเสร็จตั้งแต่หกโมงกว่าก็มากินนม กินขนมปังเพื่อให้อิ่มๆ ก่อนเที่ยงคืน หลังจากนั้นงดน้ำงดอาหาร แต่ที่ไหนได้ พยาบาลมาสวนก้นจ้า เห็นผลทันทีสองรอบติด เจาะน้ำเกลืออีก เราก็ทาครีมทามือ พยาบาลบอกว่าเจาะไม่เข้า หนังมันเหนียวๆ 5555 แก่หรือเพราะครีมหว่า? เจ็บกว่าที่เคยถูกเจาะเสียอีก พยาบาลว่าเส้นเลือดมันดิ้น!!

กลางคืนนอนไม่หลับจริงๆ ทั้งที่เขาให้ยาคลายเครียดแล้ว แต่ก็ไม่ง่วงแฮะไม่ได้เครียดเรื่องโรคแต่เครียดกับนอนยังไงให้หลับ หลับไปแป๊บนึง เสียงดังก็ตื่น เตียงก็แข็ง แสงก็รบกวน ตีหนึ่งกว่าตายังสว่าง แต่ต้องฝืนนอน ตีสี่กว่าก็ตื่นแล้ว หลับได้ร่วมๆ สี่ชม.ได้

เช้ามาโดนสวนก้นอีก ขี้แตกไปสองรอบ ผอมแน่งานนี้ ลำบากลำบนต้องขี้จะแตกไหนจะต้องหิ้วถุงน้ำเกลือไปด้วย ผ้าถุงก็จะหลุด 5555

แม่มาทันก่อนเข้าห้องผ่าตัด หมออัลตร้าซาวด์อีกรอบ เช็คว่าเนื้องอกยังอยู่มั้ย เราถามว่ามันหายไปได้ด้วยเหรอ แกว่าบางทีผลมันอาจจะหลอก โอเคยังมีอยู่ แต่ดูเหมือนช็อคโกแลตซีสต์มากกว่า

แปดโมงกว่าก็ขึ้นเตียงเข็นไปยังห้องผ่าตัด เราไม่ค่อยชอบนอนเตียงสักเท่าไหร่ มันจะเวียนหัว น่าจะให้นั่งรถเข็นยังดีกว่า ถึงห้องผ่าตัด ก็ไปนอนรออยู่หน้าห้อง รอหมอ การที่สายตาสั้นมากก็ดีเหมือนกัน ลดความตื่นเต้นไปได้ เพราะไม่เห็นอะไรชัดเจน พยาบาลฉีดยาฆ่าเชื้อมันจะร้อนๆ แต่ไม่ร้อนเท่ากับตอนขูดมดลูกนั้นปรู๊ดปร๊าดกว่า ถามเราว่าตื่นเต้นมั้ย เราว่าไม่ (สงสัยจะพร้อมตายมากเลยนะเรา) น้าคนข้างๆ เป็นผู้ชาย แกถามว่าเราผ่าอะไร ส่วนแกผ่านิ่วในถุงน้ำดี นอนคุยกันพักนึง เราได้เข้าก่อน มันมีห้องผ่าตัดหลายห้อง แต่เราดันปวดฉี่ เลยขอลุกไปฉี่ก่อน ฉี่เสร็จเดินเข้าห้องผ่าตัดไปขึ้นเตียงเอง 555

พอเข้าไปในห้องผ่าตัดมันจะเย็นๆ แต่ไม่เย็นเท่าหนแรกที่ผ่านิ้ว สั่นเล็กน้อยไม่ใช่เพราะตื่นเต้นแต่เพราะเย็น เขาก็จับกางแขนเหมือนที่เคยนั่นแหละ ข้างนึงให้ยา อีกข้างวัดความดัน พยาบาลวิสัญญีชื่อพี่ต่าย แกจะพูดดีนะ แบบสื่อสารให้คนไข้ไม่กังวล เล่าโน่นนี่ให้ฟัง ว่าวางยาสลบแล้วเราจะฝัน

นอนรอสักพักคงใกล้เวลาผ่า หมอมาแล้ว แต่ปัญหาต่อมาคือ ผลเลือดไม่มีผลที่เกี่ยวข้องกับการดมยาสลบ เอ้า! ทำไง เจาะเลือดใหม่จ้า เจ็บอีกรอบ เวรจริงๆ ทีแรกหมอบอกว่ารอผลเลือดสองชม.นะ แกทำหน้าเซ็งๆ บอกขอโทษที่ต้องรอนาน จะมาผ่าวันหลังมั้ย (โธ่หมอ มาถึงตอนนี้แล้วรอก็ต้องรอแหละ แต่หิวข้าวมากเท่านั้นเอง) น้ำเกลือถุงที่สองก็ทำหน้าที่ไป) ไปๆมาๆ ไม่นานขนาดนั้น เพราะพี่ต่ายแกไปเร่งห้องแล็บให้ในยี่สิบนาที ตอนเรารอ ก็ง่วงจนแทบไม่ต้องใช้ยา เพราะนอนไม่พอ ส่วนหมอก็บ่นกับพยาบาลว่านอนไม่หลับ เอ้า หมอ เดี๋ยวตาลายมั้ยเนี่ย 555

ระหว่างนั้นพยาบาลก็เปิดเพลงฟังไปด้วย แล้วก็ทิ้งเรานอนเบลอๆ มองไรไม่ชัดอยู่คนเดียว ปวดฉี่สิคะ พอกำลังจะต้องผ่าแล้ว เราว่าขอไปฉี่ก่อนได้มั้ย แม้จะต้องใส่ท่อฉี่ด้วยก็ตามแต่ขอฉี่ก่อนเหอะ หมอก็ให้ไป แล้วก็เดินกลับมาขึ้นเตียงผ่าตัดใหม่ 555 เหมือนอยู่บ้าน

ความทรงจำสุดท้ายในห้องผ่าตัดคือ เขาจะพันขาทั้งสองข้างตั้งแต่ต้นขาถึงปลายเท้า เราถามพี่สาวที่เป็นพยาบาลตอนที่ออกจากรพ.แล้วว่าพันทำไม พี่บอกว่ากันเส้นเลือดอุดตัน ไม่งั้นจะตายได้ คือจะไม่ตายเพราะโรค แต่ตายเพราะเอฟเฟคต์จากการผ่าตัดเนี่ยแหละ

หลังจากนั้นดมหรือฉีดเข้าเส้นก็ไม่รู้ แต่หลับไปเลย ไม่ฝันด้วย เหมือนตายมากกว่า 555 ปกติเป็นคนฝันเก่งมาก แต่เวลาวางยาสลบทีไรไม่ฝันเลย มารู้สึกตัวอีกทีคือ อยู่ห้องสามัญ แม่มาจับเท้า เราถามแม่หรือถามพยาบาลก็ไม่รู้ว่ากี่โมงแล้ว มีคนบอกว่าบ่ายสอง โห หลับนานกว่าคราวก่อนแฮะ แสดงว่าผ่านานเหมือนกัน แล้วอาจจะดมยานานด้วย ฤทธิ์ทำให้เรามึนมาก แม่คงรอเรานานจนหิวข้าว ไปกินข้าวกลับมาเราก็ตื่นพอดี (รูปนี้เจ้าของร้านแว่นที่มาเยี่ยมด้วย ถ่ายไว้ให้)



เสียงแหบจนไม่มีเสียง เจ็บคอ เพราะใส่ท่อช่วยหายใจ ขมคอด้วย แต่ยังกินน้ำไม่ได้ ง่วงตลอด นอนยันห้าโมงเย็น ผู้ช่วยพยาบาลถึงมาเช็ดตัวให้ แล้วก็ให้กินน้ำได้ เพราะต้องกินยาแก้ปวด ตอนนั้นมันไม่ได้ปวดอะไรเลยนะ แผลก็ไม่ปวดเท่าไหร่ แต่อึดอัดท้องมากกว่า เหมือนมันจะบวมๆ

แม่บอกว่าได้ห้องพิเศษแล้ว เออค่อยยังชั่วหน่อย แม่เราก็รีบมาก ไปช่วยแม่บ้านทำความสะอาดห้องด้วย งานถนัดจะได้เข้าไวๆ ผู้ช่วยพยาบาลแข็งแรงดี ยกเราโดยไม่เจ็บได้ จริงๆ วันนั้นเราสามารถลุกได้เลยนะ แต่เพราะเราง่วงสุดๆ จนไม่มีเรี่ยวแรงทำไรเลย นอกจากนอน ทำได้แค่จับมือถือมาเล่น ระหว่างนั้นก็ให้ยาแก้ปวดทางสายเส้นเลือดกับยากันเลือดออก

หลับถึงตีสาม ปวดหลังแต่ทำไรไม่ได้ ก็ต้องนอนต่อ ตื่นมาตีห้ากว่า ลุกมาแปรงฟัน ทีนี้หิวข้าวมาก แม่แอบเอาข้าวต้มให้เรากิน พยาบาลมาเห็นถามว่า หมอให้กินข้าวได้เหรอ เราว่าพยาบาลเมื่อวานบอกว่ากินได้แล้ว อิอิ ทีนี้ข้าวรพ.ก็มา ก็เป็นข้าวต้มอยู่ดี วันที่สองหลังจากผ่าตัดท้องอืดกว่าเก่า ต้องกินยาขับลม พยาบาลบอกให้เราหมั่นลุกเดิน จะได้ไม่เป็นพังผืด น้ำเกลือถุงที่สามหมดแล้ว ถอดได้แล้ว เย้!

หมอเจ้าของไข้มา แกบอกว่า เราเป็นถุงน้ำทั้งสองข้าง จากที่วางแผนว่าจะตัดรังไข้ข้างนึง หมอบอกว่าไม่ตัดไรสักอย่าง ทุกอย่างอยู่ครบ แต่เลาะถุงน้ำสองข้าง และมีพังผืดไปเกาะที่ลำไส้ใหญ่เต็มไปหมด จึงต้องใช้เวลาเลาะอยู่นาน เหนื่อย ยาก ถ้าเป็นอีก จะไม่ทำให้แล้ว (อ้าว แล้วใครจะทำให้ 555) หมอบอกขนาดซีทีสแกนยังอ่านผลผิด ต้องเปิดเข้าไปดูว่ามันคืออะไรกันแน่ ก็ท้าทายหมอดีนะ เป็นกรณีศึกษากันไป

หมอว่ามันมีโอกาสกลับมาเป็นได้อีก เพราะเรายังไม่เข้าสู่วัยทอง หมอจะให้ยาคุมซึ่งเป็นฮอร์โมนกดไว้ ให้หยุดเมนส์สองปี ราคายาค่อนข้างแพง ที่รพ.นี้ไม่มี ต้องกลับไปรพ.เก่า แล้วเดือนหน้าค่อยมาฟังผลชิ้นเนื้ออีกที

สายๆ พยาบาลฝึกหัดก็มาถอดสายฉี่ให้ คราวนี้เดินได้สบายแล้ว แต่จากนั้นก็ฉี่บ่อยเหลือเกิน สงสัยมาจากน้ำเกลือสามถุง ทำแผลติดพลาสเตอร์กันน้ำอาบน้ำได้ ไม่ต้องห่วงแผล แผลมีสามรู พยาบาลที่ทำแผลบอกว่าแผลดีอยู่

วันที่สองเราก็ใช้ชีวิตคนป่วยแบบเบื่อๆ เดินไปเดินมา แต่ไม่ได้ไปไหนไกล จนมีน้องพยาบาลมาบอกให้เราเดินเยอะๆ คราวละยี่สิบนาที ถ้าน้อยกว่านี้ไม่ช่วยอะไร เราเลยเดินขึ้นลงบันไดเลย 555



แม่ตามบอกว่าพยาบาลจะมาวัดไข้ เดินสวนกับพยาบาลที่เจาะน้ำเกลือวันแรก ตกใจบอกว่าทำไมวันนี้ดูดีจัง แข็งแรงมาก พยาบาลที่วัดไข้ก็ถามว่า ไปเที่ยวมาเหรอ 555

ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วมั้งว่าเราเป็นอาจารย์ จริงๆ เราไม่อยากให้บอก เพราะไม่ว่าจะเป็นอะไร ก็ต้องรักษาตามหน้าที่นั่นแหละ เขาคงสัมภาษณ์แม่หมดแล้วด้วย ถึงรู้ว่าแม่มาจากไหน

คืนที่สามที่นอน ปวดหลังมากกว่าปวดทุกอย่าง เพราะนอนไม่สบาย เบาะก็แข็ง หมอนข้างก็ไม่มี พลิกตัวก็ยาก เกร็งไปหมด ตื่นมาตีสี่ ไม่ไหวจริงๆ ปวดหลังจนแม่เอายามาทาให้ ท้องอืดหนักกว่าเก่า บวมใหญ่เหมือนคนท้อง แล้วเลือดดันออกมาด้วย

หมออินเทิร์นบอกว่าถ้าท้องบวมมากอาจจะไม่ได้กลับ เอ้า ตายแล้ว แม่เรานี่เตรียมเก็บข้าวของแล้วนะ 555 หมอเจ้าของไข้มาสายๆ ก็บอกว่าให้กินยาขับลม และยาระบาย (ไม่ต้องแล้วมั้ง เพราะถ่ายดีเหลือเกิน) ส่วนเมนส์มาก็เป็นไปได้ เพราะไปรบกวนรังไข่ ก็ผลิตออกมาอีก ถือเป็นเรื่องปกติ แล้วก็ให้กลับบ้านได้

โชคดีที่ได้อยู่ห้องพิเศษสองคืน ไม่งั้นแม่เราไม่เฝ้าแน่นอน คงได้จ้าง และเราก็คงทุลักทุเลมาก จ่ายค่าส่วนเกินไปสองพันบาท ที่เหลือประกันสังคมก็จัดการหมด เอาเลขเตียงเลขห้องไปซื้อหวย ถูกกินหมดเกลี้ยง 5555 พอกันที!!! ฟื้นจากความตาย(ยาสลบ)ก็ถือว่าถูกหวยแล้ว

สรุปกลับบ้านมาแบบคนท้องห้าเดือน 555 ท้องอืดอยู่สองสามวันหลังจากนั้น ขับรถกลับเองได้ เดินได้สบาย แต่ไอจามเจ็บตับไตไส้พุงหน่อย วันนี้วันที่หกหลังจากผ่าตัดแล้ว ไม่ค่อยเจ็บแผลแล้ว ถ้าไม่กดมันเล่น น่าจะแห้งแล้วแหละ แต่ก็เห็นมีเลือดซึมๆ ออกมาบ้างก่อนหน้านี้ ไหมเป็นไหมละลายไม่ต้องตัด ครบเจ็ดวันก็แกะพลาสเตอร์ออกได้ เราก็คันรอบๆ พลาสเตอร์จังเลย ไม่รู้เพราะหน้าหนาวด้วยมั้ย

ก็ยังดีที่ตัดสินใจผ่าตัดให้เรียบร้อยก่อนได้ข่าวโควิดระบาดอีกรอบ ไม่งั้นก็คงไม่กล้าไปรพ. แน่ๆ

ขอบคุณทุกคนที่ดูแลเป็นอย่างดี ยกเว้นกล้วยเน่าลูกนั้น 5555


Create Date : 19 ธันวาคม 2563
Last Update : 21 ธันวาคม 2563 11:28:57 น. 0 comments
Counter : 729 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
[Add Alex on the rock's blog to your web]