'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)
ส่ง'กองดอง'ไปหาเจ้าของที่แท้จริง (๒) สี่เล่มของ อี.เนสบิต









เล่มที่ ๑ ปราสาทในมนตรา

เรื่องราวของสามพี่น้อง เจอร์รี่ แคทลีนและจิมมีที่ได้เดินทางท่องเข้าไปในดินแดนแห่งมนตราโดยไม่ได้ตั้งใจ
พวกเขาได้พบเจ้าหญิงนิทรา (และจิมมีก็เป็นคนที่ทำให้เธอตื่นขึ้นมา)และเรื่องราวอันชวนตื่นเต้นอีกมากมายจนยากจะเชื่อได้ว่า...นี่เป็นเรื่องจริง ก็เกิดขึ้น.....





เล่มที่ ๒ ย้อนเวลาหาสมบัติ


เรื่องราวของสองพี่น้องกำพร้าแห่งตระกูลอาร์เดน - เอลฟริดากับเอดเรด อาร์เดนทั้งสองอยู่ในความปกครองของอาสาว ที่จำเป็นต้องเปิดบ้านเป็นที่พักให้เช่า ทั้ง ๆ ที่พวกเขารู้สึกว่างานให้บริการผู้อื่นนั้นเป็นงานที่เหน็ดเหนื่อยและน่ารำคาญเหลือเกิน แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น...

และแล้วเหตุการณ์ก็พลิกผัน เมื่อสองพี่น้องได้ค้นพบเคล็ดคาถาในการค้นหาสมบัติของตระกูลเข้า...โดยการช่วยเหลือของเจ้าตุ่นโมลดิวอร์ป...อันเป็นรูปสัตว์ที่เป็นตราประจำตระกูลอาร์เดนนั่นเอง...

พวกเขาสามารถย้อนเวลากลับไปในอดีตได้และจำต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในประวัติศาสตร์ และเผชิญอันตรายต่าง ๆ จนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด...





เล่มที่ ๓ เด็กห้าคนกับภูตจอมเนรมิต

เด็กห้าคนบังเอิญไปพบกับ “ภูตทราย” ที่สามารถเนรมิตอะไรก็ได้ตามคำขอ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย จะวิเศษหรือธรรมดา สิ่งที่เจ้าภูตทรายจอมเนรมิตบันดาลให้พวกเขามักจะแปลกประหลาดเกินความคาดหมายอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสิ่งที่ขอเองก็พิสดารพอกัน





เล่มที่ ๔ นกเพลิงกับพรมวิเศษ

เป็นเรื่องราวการผจญภัยของเด็กห้าคนจากเล่มข้างบน แต่คราวนี้มี “นกเพลิงโบราณ” มาร่วมวงด้วย รวมทั้งพรมวิเศษที่สามารถพาเด็กๆ ไปที่ไหนก็ได้ตามต้องการ แต่ทุกอย่างก็สามารถพลิกผันเกินคาดได้เสมอ ผลของคำอธิษฐานที่เกิดขึ้น...ล้วนแต่ทำให้เด็ก ๆ แทบหงายหลังและให้นึกหวังว่าพวกเขาไม่ได้ "ขอ" สิ่งเหล่านี้มาก่อนเลย....





อี.เนสบิต (Edith Nesbit) มีวิธีเล่าเรื่องราวในจินตนาการของเธอได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เธอจะบอกย้ำกับผู้อ่านของเธอเสมอ ๆ ว่า เรื่องราวมหัศจรรย์สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้คนทุกประเภท เพียงแต่เราอาจจะไม่เคยได้ยินได้ฟัง

เพราะว่าเมื่อสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น มันก็มักจะมหัศจรรย์เสียจนเกินที่จะเชื่อได้...คนที่ประสบเข้ากับเรื่องราวนั้น ๆ จึงได้แต่เก็บงำไว้ ไม่กล้าบอกเล่าให้ใครฟัง เพราะกลัวว่าจะไม่มีคนเชื่อ...

แต่ตัวเธอนั้น เธอบอกว่าเธอเชื่ออะไรได้ทุกอย่าง ดังนั้นเธอจึงมีเรื่องราวมหัศจรรย์มากมาย นำมาบอกเล่าแก่เราได้ไม่รู้เบื่อหน่าย

และเธอก็ไม่เกรงด้วยว่าผู้อ่านจะ "เชื่อ" ในสิ่งที่เธอเล่าหรือไม่...
เธอลงท้ายในเรื่องเล่าของเธอเรื่องหนึ่งว่า...
"ใครจะหาว่าผู้เขียนแต่งเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้นเองก็ช่างเขาเถอะ ความจริงย่อมเป็นความจริงวันยังค่ำ จะให้เป็นอื่นไปได้อย่างไร..."

เรื่องเล่าของเธอหลายเรื่อง อาจจะมีเกร็ดประวัติศาสตร์หรือเหตุการณ์ในอดีตบางเรื่องที่เกิดขึ้นจริงแทรกอยู่ แต่เธอก็สามารถโยงให้เรื่องราวเหล่านั้นสอดคล้องกลมกลืนไปกับเรื่องเล่าจากจินตนาการของเธอได้อย่างแนบเนียน ดูสมจริงสมจัง ทำให้เราอ่านได้อย่างเพลิดเพลินสนุกสนานไม่มีสะดุดหรือติดขัด

ซ้ำยังมีข้อคิดสะกิดใจเล็ก ๆ น้อย ๆ แฝงอยู่ตลอดเวลา ให้เด็ก ๆ (ในเรื่อง) ค่อย ๆ เรียนรู้ และซึมซับไปทีละน้อย ๆ พร้อม ๆ กับผู้อ่านที่อาจจะเป็นเด็กในวัยเดียวกันหรืออาจจะเป็นผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ที่ยังคงหลงใหลและใฝ่ฝันถึงดินแดนมหัศจรรย์แห่งมนตราและจินตนาการอันไม่มีที่สิ้นสุดไม่มีประมาณ

บางส่วนบางตอนจากบางเล่ม...


"ตอนเรายังเด็ก มีหลายสิ่งเหลือเกินที่ยากจะเชื่อ แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงมีผู้คนที่น่าเบื่อที่สุดคอยบอกเราว่า สิ่งเหล่านั้นเป็นความจริง ยกตัวอย่างเช่น โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ และมันไม่ได้แบน แต่กลม ทว่า...สิ่งที่ดูคล้ายจะเป็นไปได้เอามาก ๆ -- อย่างเช่นนิทานและอำนาจเวทมนต์ ผู้ใหญ่กลับบอกว่ามันไม่จริงเลยแม้แต่น้อย กระนั้นมันก็ยังง่ายเหลือเกินที่จะเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราเห็นมันเกิดขึ้นกับตาตัวเอง..."


*****

"...'นั่นคงไม่ใช่การทำความดี เพราะมันไม่เป็นผลดีกับใครนอกจากตัวเราเองเท่านั้น...และมันก็คงไม่ถูกด้วย ที่จะหยิบฉวยเงินซึ่งไม่ใช่ของเรา ไม่ว่าจะมองในแง่ไหน'......
'เราอาจจะเอามันไปใช้จ่ายเพื่อผลประโยชน์ของคนยากคนจนและผู้สูงอายุนะ'
'นั่นก็ไม่ได้ทำให้การขโมยเป็นสิ่งที่ถูกต้อง'..."


ส่วนที่ประทับใจจขบ.อย่างมากจากหนังสือชุดนี้ก็คือ สำนวนแปลค่ะ ทั้งสี่เล่มแปลโดย "ธารพายุ" นักอ่านหนังสือเด็กคงจะคุ้นเคยดีกับนามปากกานี้

โดยเฉพาะหนังสือชุดนี้ อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่าวิธีเขียนของอี.เนสบิตนั้นค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือเป็นการเขียนแบบเล่าเรื่อง โดยมีการสื่อสารสนทนากับผู้อ่านเป็นระยะ ๆ ซึ่งผู้แปลก็สามารถแปลแนวการเล่าเรื่องแบบนั้นออกมาได้เรียบลื่นเป็นธรรมชาติ
นอกเหนือจากฉากและชื่อของตัวละครในเรื่อง ก็แทบจะไม่รู้สึกว่ากำลังอ่านเรื่องแปลอยู่...เพราะหากพูดถึงเรื่องราวของจินตนาการ เวทมนตร์คาถา ปาฏิหาริย์ต่าง ๆ ตลอดจนความรู้สึกนึกคิดอันบริสุทธิ์ของเด็ก ๆ นั้น มันสามารถเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้...บนโลกใบนี้

ก็หวังว่าน้อง ๆ เขาคงจะอ่านด้วยความเพลิดเพลิน แต่คงจะต้องเป็นเด็กโตหน่อย ซักประถมห้า-หก เพราะหนังสือค่อนข้างหนาทีเดียว เด็ก ๆ สมัยนี้ชอบอ่านแต่การ์ตูนกันเสียด้วย แต่ก็คงส่งไปแหละค่ะ เพราะเก็บไว้กับตัวก็คงไม่มีประโยชน์อะไร













Create Date : 23 สิงหาคม 2551
Last Update : 8 มิถุนายน 2552 11:06:15 น. 12 comments
Counter : 1855 Pageviews.

 
เจิมค่ะ วรรณกรรมเยาวชน จุฬาภินันท์ไม่ค่อยอ่านเท่าไหร่เลยค่ะ เคยอ่านแค่สองสามเรื่องเมื่อตอนเรียนอยู่น่ะค่ะ บบว่าชอบเรื่องรักๆน่ารักๆของหนุ่มสาวกับพวกสืบสวนน่ะค่ะ แต่ถ้าไปร้านหนังสือแล้วอาจจะซื้อให้หลานค่ะ


โดย: Chulapinan วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:10:33:51 น.  

 
ผลงานของนักเขียนท่านนี้ มีหลายเล่มที่ได้อ่าน
และล้วนแต่สนุกสนานทั้งนั้นเลย
เราก็เลยมีหนังสือเด็กๆ ประเภทนี้อยู่เต็มชั้นหนังสือเช่นกัน ....
ผลงานแปลของ "ธารพายุ" ช่วยทำให้เด็กๆ (ยุคนั้น) จินตนาการตามบรรเจิด ไปด้วยล่ะ


โดย: นัทธ์ วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:13:36:47 น.  

 

ไม่ได้โม้

อ่านแล้วครับ ทุกเล่มเลย


โดย: ธรรม (ห่วงใย ) วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:15:01:40 น.  

 
สวัสดีครับปี้แม่ไก่

หมิงหมิงกางหายแต๊ลอครับ 55555

ต๋อนนี้ซ้ำตุ้ยครับ
ตาหยีเลยครับ 5555



โดย: ก. วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:16:42:16 น.  

 
อ๊ะ อ่านครบทั้ง 4 เล่มเลยค่ะ

ชอบเรื่องนกเพลิงกับพรมวิเศษค่ะ
คุณแม่ไก่อ่าน "ตำนานแห่งเครื่องราง" หรือยังคะ
เป็นเล่มสุดท้ายของชุดเด็ก 5 คนน่ะค่ะ เล่มนั้นก็สนุก


โดย: piccy วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:17:11:42 น.  

 
กี๊ซๆๆๆ ชุดโปรด
ชอบหนังสือชุดนี้ที่คุณธารพายุแปลมากๆ เลยค่ะ
เวลาแปลคำพูดระหว่างพี่น้องน่ะ น่ารักจริงๆ เนาะ

ป.ล. ชอบปราสาทในมนตรามากกว่าชุดภูตทรายค่ะ แอบปิ๊งกับฉากบรรยายเรื่องห้องลับของบ้านอะ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:19:29:00 น.  

 
เอ่อ...พี่คะ

เอาหอบช้างหนีสุดแผ่นดินมาแลกเอามั้ยคะ


โดย: เพลงฝนต้นลมหนาว วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:20:44:31 น.  

 
สวัสดีคะแม่ไก่

รู้สึกว่าเคยอ่านในห้องสมุด

เป็นบางเล่มนะคะ

เพราะส่วนใหญ่ตอนเด็กๆ

ยังไม่ค่อยมีเงินซื้อหนังสือหรอกคะ


โดย: บุปผาลีลาวดี วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:1:22:35 น.  

 
เขียนเรื่องสั้นเสร็จแล้ว

แม่ไก่ โปรดไปพิจารณาคะ


โดย: บุปผาลีลาวดี วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:1:23:37 น.  

 
สวัสดีครับแม่ไก่
ห่างหายไปเมินนาน
ยังสบายดีน่ะครับ


โดย: ดอกเสี้ยวขาว วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:8:00:27 น.  

 
สวัสดีจ้าเพื่อนพ้องน้องพี่ผู้ใหญ่หัวใจเด็กทั้งหลาย (อิอิ ใช้ตัวเองเป็นเกณฑ์)

แม่ไก่อ่านได้ทุกประเภทแหละค่ะ ถ้าเป็นหนังสือล่ะก็ แต่ก็ชื่นชอบวรรณกรรมเยาวชนเป็นพิเศษตรงที่มันช่วยเติมเต็มความฝันในวัยเยาว์ให้เราไงคะ ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งโหยหาอดีต แล้วหนังสือเด็กก็ช่วยสนองอารมณ์ตรงนี้ได้ อิอิ แสดงว่าคุณจุฬาภินันท์อาจจะยังไม่สูงวัยเท่าแม่ไก่กระมัง

ใช่เลยค่ะคุณนัทธ์ "ธารพายุ"เป็นนักแปลหนังสือเด็กในดวงใจแม่ไก่ทีเดียว ถ้าเห็นนามปากกานี้บนปกก็แทบจะไม่ต้องดูชื่อผู้แต่งเลย...

โห...แสดงว่าคุณธรรมก็เป็นชายหนุ่มโรแมนติกที่มีหัวใจเยาว์ตลอดกาลสิเนี่ย...จำได้ว่าคุณธรรมชอบชาร์ลอตต์ ชอบหมีพูห์ ชอบหนังสือสนพ.ผีเสื้อ ...แล้วนี่ยังอ่านเรื่องเล่าของอี.เนสบิตครบชุดอีก...อือม์ ไม่ธรรมดา ๆ

อ๊ะ...วันนี้บ่าเอาหมูหมู เอ๊ยหมิงหมิงมาแอ่วหาป้าแม่ไก่นิป้อก๋า...

คุณpiccy คะ ตำนานเครื่องรางอ่านแล้วค่ะ แต่หนังสือไม่อยู่บนชั้นง่ะ หาทั่วบ้านแล้ว คาดว่าคงให้ใครไปหรือใครหยิบไปอ่านแล้วไม่มาคืน...จำเรื่องราวได้ราง ๆ อยู่ค่ะเล่มนั้นรู้สึกว่าจะเป็นเล่มที่สามในชุดเด็กห้าคนใช่ไหมคะ

ชอบปราสาทในมนตราเหมือนกันค่ะคุณแพนด้าฯ เห็นด้วยว่าคุณธารพายุแปลบทสนทนาระหว่างพี่น้องได้น่ารักเป็นธรรมชาติ(แบบไทย ๆ )มาก เค้า ตัว อะไรเงี๊ยะ (ไม่เฉพาะชุดนี้นะคะ ในชุดน้องเล็กฯของจูดี้บลูมก็น่ารักมาก)

สวัสดีค่ะน้องเพลงฝนฯ ง่า...หนังสือชุดนี้พี่จะรวบรวมบริจาคเข้าห้องสมุดโรงเรียนแถวบ้านน่ะค่ะ...หยิบมารีวิวก่อนส่งไป หอบช้างหนีสุดแผ่นดินพี่มีอยู่ในคอลเล็กชั่นเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวคงได้ทยอยนำมารีวิววันหลังค่า...

เดี๋ยวตามไปอ่านนะจ๊ะหนูยอคนเก่ง...

สวัสดีเจ้าอ้ายดอกเสี้ยวขาว สบายดีเนาะเจ้า...?


โดย: แม่ไก่ วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:14:26:18 น.  

 
สองเล่มบนมีอยู่ที่บ้าน แต่ไม่เคยอ่านเลย

ไว้ต้องหยิบมาบ้างซะละ


โดย: ratta วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:0:37:23 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.