'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)
หนังสือรางวัลซีไรต์สามเล่ม (จากกระทู้ RRR)



กระทู้ RRR คืออะไร...?(เชิญคลิกค่ะ)

ขอยกที่เขียนไว้ในกระทู้มาลงบล็อกทั้งกระบิเลยก็แล้วกันค่ะ

เล่มที่ ๑.

อมตะ
โดย วิมล ไทรนิ่มนวล
สยามประเทศสำนักพิมพ์/จัดพิมพ์
ได้รับรางวัลในปี ๒๕๔๓





ได้รับคำยกย่องจากคณะกรรมการตัดสินรางวัลนี้ตอนหนึ่งว่า

"เป็นนวนิยายแห่งจินตนาการถึงโลกอนาคตเกี่ยวกับการแสวงหาความเป็นอมตะของชีวิต
โดยใช้รูปแบบวิวาทะระหว่างแนวคิดบริโภคนิยม กับแนวคิดทางศาสนาของโลกตะวันออก"


เรื่องย่อ : ชีวัน อายุได้ ๒๒ ปีเต็มกว่าที่เขาจะรู้ตัวว่า ตนเองไม่ใช่คนจริง ๆ ที่เกิดจากการปฏิสนธิตามธรรมชาติ
หากแต่เป็น'คนโคลน' - - ที่ถูกโคลนมาจากคนที่เขาเรียกว่า 'พ่อ' - -นายพรหมินทร์ ธนบดินทร์

"พรหมินทร์" เป็นนักธุรกิจใหญ่ ประธานและเจ้าของบริษัทในเครือบำเรอบริภัณฑ์ จำกัด
และโรงพยาบาลเอกชนใหญ่แห่งหนึ่ง
แม้กฏหมายการ"โคลนนิ่ง"ยังไม่ผ่านสภา
แต่เขาก็อาศัยช่องโหว่ของกฏหมายที่ว่าด้วยการโคลนเพื่อการวิจัยของโรงพยาบาล
ทำการโคลน "ร่างโคลน" ของตัวเอง และคัดเลือกร่างโคลนที่แข็งแรงไว้
นำมาเลี้ยงดู - -เพื่อใช้เป็น "อะไหล่" เมื่อตัวเองอายุมากขึ้น


*********

ชีวันยอมเข้ารับการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนถ่ายอวัยวะให้กับพรหมินทร์โดยดุษณี...
หลังจากที่เตลิดไปเมื่อรับรู้ความจริงใหม่ ๆ พักใหญ่ ๆ
แล้วเขาก็ได้รู้จักกับ "อรชุน" - นักจิตบำบัดที่ถูกส่งมาบรรเทาความเครียดให้เขาก่อนการผ่าตัด
เขาได้เรียนรู้ว่า...ที่แท้อรชุนก็เป็นอีกหนึ่งร่างโคลนของพรหมินทร์ที่หลุดรอดจากการถูกกำจัดเมื่อ ๒๒ ปีก่อน
เขากลับมาเพื่อต้องการแก้แค้นคนต้นแบบของเขา
(โดยการเข้ามามีความสัมพันธ์กับรติรัตน์ ลูกสาวคนหนึ่งของพรหมมินทร์)
และเพื่อช่วยเหลือคนโคลนคนอื่น ๆ ที่เขาคิดว่ามีศักดิ์และสิทธิในความเป็นมนุษย์เท่า ๆ กับคนต้นแบบ
อรชุนได้ผ่านการบวชเรียนและศึกษาปฏิบัติธรรมมาไม่น้อย...ประกอบกับการเป็นนักจิตบำบัด
เขาใช้คำสอนของพระพุทธเจ้าประกอบกับประสบการณ์ทางจิต
มาโน้มน้าวจิตใจของพรหมินทร์ให้เปลี่ยนวิธีการ
โดยแทนที่จะเปลี่ยนถ่ายอวัยวะต่าง ๆ ของชีวัน...ทีละส่วน
ซึ่งใช้เวลาในการฟื้นตัวค่อนข้างนาน

เขาเสนอ"ร่าง"ของตัวเองให้พรหมินทร์เปลี่ยนถ่าย "สมอง"
ซึ่งเขาเชื่อว่าคือต้นกำเนิดแห่งความรู้สึกนึกคิด...และคือตัว"ชีวิต"ที่แท้
ซึ่งจะใช้การผ่าตัดเพียงครั้งเดียว...

ในเงื่อนไขที่ว่า...พรหมินทร์จะต้องคืนอวัยวะต่าง ๆ ให้กับชีวัน
เมื่อพรหมินทร์ตกลง การผ่าตัดก็เริ่มขึ้น....

การเปลี่ยนอวัยวะคืนให้กับชีวันที่ทำไปพร้อมกับการเปลี่ยนถ่ายสมองของพรหมินทร์มาใส่ในร่างกายของอรชุนสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี



**********

อึ้งค่ะอึ้ง...
เป็นนิยายวิทยาศาสตร์ที่อิงหลักปรัชญาทางพุทธศาสนาไว้อย่างลึกซึ้ง
ทั้งพล็อตและการดำเนินเรื่อง เป็นไปอย่างน่าสนใจ ชวนติดตามและครุ่นคิด...
มีการเสียดเย้ย ประชดประชันมนุษย์ที่แสวงหาแต่ความเป็นอมตะให้แก่ชีวิตตน
และพร้อมกันก็พยายามกล่อมเกลาจิตใจด้วยหลักธรรมะปฏิบัติง่าย ๆ ...

"...คนทั่วไปไม่ค่อยได้มีชีวิตอยู่จริง พวกเขามีชีวิตอยู่แบบเทียม ๆ ทั้งนั้น ...
เมื่อความคิดของผมสิ้นสุดลง เวลามันหายไป ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต
ผมจึงรู้ชัดว่า ชีวิตของผมมีอยู่เฉพาะตรงหน้า...ตรงทุกขณะแห่งปัจจุบัน
มันสดใหม่เสมอเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด มันเป็นนิรันดร์..."



***********

"...โลกอันชราย่อมนำไป ...ไม่ยั่งยืน...โลกไม่มีอะไรต้านทานความเจ็บป่วย...ไม่เป็นใหญ่...
โลกไม่ใช่ของตน...เพราะทุก ๆ คนจำต้องละทิ้งสิ่งทั้งปวงไป...ด้วยอำนาจของความตาย...
โลกพร่องอยู่...ไม่มีอิ่ม...เป็นทาสของตัณหา...คือความดิ้นรนทะยานอยาก"


ในตอนท้ายเรื่อง ผู้เขียนยังทิ้งปมปริศนาคาใจผู้อ่านไว้อีกว่า...
แท้ที่จริงแล้ว...ความรู้สึกนึกคิด ชีวิตจิตใจที่อยู่ในร่างของอรชุนนั้นคือใครกันแน่...

อรชุนหรือพรหมินทร์?





เล่มที่ ๒

ช่างสำราญ
โดย เดือนวาด พิมวนา
สนพ.สามัญชน/จัดพิมพ์
ได้รับรางวัลในปี ๒๕๔๖






เรื่องย่อ : "ช่างสำราญ" เป็นชื่อสกุลของเด็กชายวัยห้าขวบคนหนึ่ง
เด็กชายกำพล ช่างสำราญ - - หรือที่ใคร ๆ ในชุมชนนั้นเรียกว่า "ไอ้หนู"
ไอ้หนูเป็นเด็กบ้านแตก แม่หนีตามชายชู้ไป
พ่อไม่สามารถดูแลเขากับน้องได้จึงหอบน้องชายวัยขวบเศษไปฝากไว้กับย่า
ทิ้งให้เขากลายเป็นเด็กกำพร้าสมบูรณ์แบบ กินข้าวบ้านนู้น นอนบ้านนี้...
ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ ในชุมชนเล็ก ๆ แห่งนั้น

เขากลายเป็นภาระและหน้าที่กลาย ๆ ของผู้คนในชุมชน
ที่แรก ๆ ก็ดูเหมือนว่าต่างก็แย่งกันรับหน้าที่ดูแลเด็กน้อย

หากบางครั้งและบ่อยครั้ง - - ด้วยแต่ละครอบครัวก็ต่างอยู่ในภาวะปากกัดตีนถีบ - -
เด็กน้อยก็ถูกละเลย หรือลืมเลือนไปบ้าง

พ่อกับแม่ผลัดกันเข้ามาโอบอุ้มชั่วครั้งชั่วคราว
แต่เมื่อพวกเขาพบเส้นทางเดินของตัวเองพวกเขาก็ผละจากไปอย่างง่ายดาย

เด็กชายกำพล ช่างสำราญ - -ก็ใช้ชีวิตเล็ก ๆ ของตัวเองต่อไป...อย่างโดดเดี่ยว...ตามลำพัง



************


งือ...เล่มนี้เศร้าอ่ะ

ทั้ง ๆ ที่โทนเสียงผู้เล่าเรียบเรื่อยมาก ๆ เลย...ออกแนวมองโลกในแง่ดีด้วยซ้ำ
ผู้เขียนใช้วิธีเล่าเรื่อง โดยใช้ชีวิตและมุมมองของเด็กชายกำพลเป็นตัวเดินเรื่อง
ทำให้เราได้รู้จักและเห็นภาพชีวิตของผู้คนในชุมชนผ่านสายตาเด็กน้อยวัยห้าหกขวบ ที่อ่านแล้วก็อุ่นใจอยู่บ้างว่า...โลกของกำพลก็ไม่ได้เลวร้ายเสียทีเดียว

หนังสือแบ่งออกเป็นตอน ๆ สั้นบ้างยาวบ้าง แต่ละตอนจะมีประเด็นมีเกร็ดเล็ก ๆ น้อยให้ผู้อ่านได้เข้าถึงหัวจิตหัวใจเด็กกำพร้าอย่างกำพล
มีแทรกมุกตลก ขัน ๆ อยู่ประปราย...ตามประสาเด็ก ๆ แต่เป็นอารมณ์ขันที่...ทั้งขื่นและขมปร่าทีเดียว

อย่างตอนที่กำพลรู้สึกสับสน เมื่อเขาถูกผู้ใหญ่หลายคนตั้งข้อกำหนดกฎเกณฑ์เอากับเขาเพราะเห็นว่าเขาไม่มีพ่อแม่...
นั่นทำให้เขารู้สึกว่า...เขาไม่มีพ่อไม่มีแม่ แต่เขากลับมีผู้ปกครองเยอะแยะไปหมด
เขาจึงต้องสถาปนาตัวเองเป็นผู้ปกครองตัวเองและคอยเตือนตัวเองให้ทำนั่นทำนี่ก่อนที่คนอื่นจะสั่ง...

.................

หรือตอนที่กำพลบอกว่าเขากับเพื่อน ๆ อีกหลายคนเกิดพร้อม ๆ กัน
เพราะแม่ของพวกเขากินยาคุมที่หมดอายุชุดเดียวกัน
อึ้งและน้ำตาซึมเลยค่ะเมื่ออ่านถึงตอนที่กำพลพูดปนสะอื้นว่า...

"ไม่ต้องเอายามาคุมหรอก ไม่ได้อยากเกิดมาสักหน่อย"

เด็กหกขวบ...คิดขนาดนี้ เฮ้อ...

ยังมีอีกหลายบทหลายตอนที่อ่านแล้วสะท้อนสะเทือนใจในชะตาชีวิตของเด็กชายกำพล ช่างสำราญ...
ชีวิตเล็ก ๆ ชีวิตหนึ่งบนโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้





เล่มที่ ๓

ม้าก้านกล้วย
กวีนิพนธ์ โดย ไพวรินทร์ ขาวงาม
แพรวสำนักพิมพ์/จัดพิมพ์
ได้รับรางวัลซีไรต์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๘






"ม้าก้านกล้วย" เป็นรวมบทกวีนิพนธ์ไทยร่วมสมัยที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังชีวิตและจิตใจของคนชนบท
ที่นิราศสู่เมืองหลวงด้วยความใฝ่ฝันและความหวังถึงชีวิตที่ดีกว่า
และได้กลายเป็นพลังสำคัญอันสร้างสรรค์สังคม…
ไพวรินทร์สามารถใช้กลวิธีทางวรรณศิลป์ สร้างความกลมกลืนของรูปแบบและเนื้อหาด้วยการสรรคำกวีโวหาร และลำนำแห่งเสียง
ถ่ายทอดอารมณ์สะเทือนใจให้ผู้อ่านได้ร่วมรับรู้ความรู้สึกนึกคิด อย่างสมบูรณ์ งดงาม

ผู้แต่งได้อาศัยจินตนาการจากวัยเยาว์ ผสานกับแรงบันดาลใจจากคำสั่งสอนและความฝันของผู้เป็นพ่อ
นำมาเรียงร้อย บอกเล่าเส้นทางแห่งชีวิตและการแสวงหา
ผ่านบทกวีหลากประเภท ทั้งกลอนหก กลอนแปด กาพย์ยานี ๑๑ กาพย์ฉบัง ๑๖ ...
ที่อ่านแล้วประเทืองทั้งอารมณ์ให้ร่วมฝัน...
อีกประเทืองปัญญา...เพาะพันธุ์กล้าแห่งจิตสำนึกรักบ้านเกิดให้งอกงาม



*************

ส่วนตัวชอบอ่านกวีนิพนธ์ ประเภทร้อยกรองอยู่แล้วค่ะ
เคยมีหนังสือเล่มนี้เวอร์ชั่นแรก ๆ ตอนที่ได้รางวัลใหม่ ๆ
แต่...อารมณ์ประมาณว่า "ของตาย" เลยผัดผ่อนเรื่อยมา...
เมื่อทำบล็อกแรก ๆ เคยคิดจะหยิบมาอ่านเพื่อรีวิวลงบล็อก แต่หาหนังสือไม่เจอแล้ว
จนมาถึงเข้าร่วมเล่นเกมทริปเปิ้ลอาร์นี้...ไปรื้อตู้หนังสืออีกที ไม่เจอที่บ้านตัวเองค่ะ
แต่ไปเจออยู่ในตู้ที่บ้านน้อง...ไม่ใช่เล่มที่ตัวเองซื้อไว้หรอกนะ...ของน้องน่ะ เลยยื้มมาอ่าน...
จบลงไปด้วยความอิ่มใจในรสแห่งวรรณศิลป์...ที่แรมร้างห่างหายไปเนิ่นนาน

บทนี้เป็นบทที่โปรยปกหลังค่ะ...ชอบมากขออนุญาตคัดมาลงทั้งหมดก็แล้วกัน


**ไหมแท้ที่แม่ทอ**

แม่ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมตั้งใจนัก
เรี่ยวแรงรักแม่ใช้เพื่อใฝ่ฝัน
อีกสาวไหมด้วยมือซื่อสัตย์นั้น
ทั้งทอมันละเมียดละไมใช้เวลา

สื่อวิญญาณผ่านมือสู่เส้นไหม
แต่ละใยแต่ละเส้นเป็นเนื้อผ้า
ตีนที่ใช้กระตุกกี่คือชีวา
มือที่คว้ากระสวยวาดคือชีวิต

ผ้าขาวม้าผืนใหม่แม่ให้ลูก
รักพันผูกทุกใยไหมวิจิตร
ใยไหมโยงใจแม่เนรมิต
ไหมอุทิศแม่ก็ทอต่อตำนาน

ลูกก็ถือผ้าทอที่แม่ให้
เป็นเยื่อใยไหมและแม่ที่กล้าหาญ
ผ้าทั้งผืนมีชีวิตจิตวิญญาณ
ถักประสานสอดสร้างอย่างแยบยล

มือน้อยน้อยของแม่ดูแค่นี้
เคยเฆี่ยนตีลูกบ้างในบางหน
แต่มือเดียวกันนี้แหละสู้ทน
ประคองลูกให้พ้นภยันตราย

แหละมือนี้ที่บันดาลงานชีวิต
มิเคยคิดค่าแรงแข่งซื้อขาย
ยังถักทอทรมาน์ยังท้าทาย
ยังมั่นหมายผ้าไหมผืนใหม่มา

พร้อมทั้งสอนลูกสาวเจ้าศรีเรือน
อยู่เป็นเพื่อนแม่ทอปรารถนา
เพื่อสืบทอดแรงงานกาลเวลา
ก่อนมือแม่จะอ่อนล้าต้องลาพัก

และสอนเจ้าลูกชายให้ทรนง
รักแม่ก็ขอจงทำงานหนัก
ด้วยละเอียดอ่อนในเยื่อใยรัก
พลีชีวิตเพื่อถักและทอไท

สักวันหนึ่งถึงไม่มีชีวิตแม่
ลูกที่แท้ก็คงทอสืบต่อได้
แม่ก็ทอลูกก็ทอต่อเส้นใย
ผ้าชีวิตผืนใหม่จะต้องงาม






**เชิญเลือกอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ ในบล็อกนี้ได้ที่... ~ สารบัญหนังสือในบล็อก ~ค่ะ










Create Date : 13 สิงหาคม 2552
Last Update : 13 สิงหาคม 2552 12:41:25 น. 30 comments
Counter : 6199 Pageviews.

 
ได้อ่านอมตะ

ชอบครับ
ตะก่อนผมก่ตามอ่านงานของวิมลจ๋นครบกู้เล่มเลยครับ
เพิ่งมาหยุดซื้อตี้เล่มอมตะนี่เองครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:13:31:31 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

เท่าที่อ่านเรื่องย่อในบล็อคนี้แล้ว เล้มแรกน่าสนใจมาก ๆ ครับ เพราะว่ามีน้อยมากที่คนไทยจะเขียนนวนิยายแนววิทยาศาสตร์แบบนี้

แต่เล่มที่ 2 และ 3 ผมจะต้องไม่พลาดแน่ ๆ ครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:14:51:19 น.  

 
สวัสดีคะป้ากล้วย

รู้สึกว่าหนูยอเคยอ่านอยู่หลายประเภท
เลยคะ อมตะ เนี่ยะเป็นหนังสือที่เคย
เห็นมาหลายปีแล้ว เมื่อก่อนดังมากๆ
ไปที่ไหนก็เจอ เคยไปเจอที่ดวงกมลด้วย

ตอนนี้หนูยอฯหันมาสนใจธรรมะ
เพราะรู้สึกว่าสบายใจดีคะ

ขอบคุณแม่ไก่ที่แวะไปเยี่ยมนะคะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆคะ

ก้านกล้วยยังไม่เคยอ่าน ต้องไปหาอ่าน
มาบ้างแล้วคะ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: บุปผาลีลาวดี วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:14:53:26 น.  

 
อมตะกับช่างสำราญน่าสนใจค่ะ ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังหาซื้อได้อีกรึเปล่าตั้งแต่ปี 43 กับ 46 โน่นแน่ะ เอ..หรือมีพิมพ์ใหม่แล้วก็ไม่รู้คงต้องหาข้อมูลดูอีกทีแล้วล่ะค่ะ


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:17:20:18 น.  

 
มีหนังสือดีๆมาให้อ่านอีกแร้ว....^^


โดย: finalmix7172 วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:20:16:12 น.  

 
เหมือนจะเคยอ่านอมตะนะ แต่เล่มอื่นๆ ยังไม่เคยอ่านเลย


โดย: นัทธ์ วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:7:33:11 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับปี้แม่ไก่











โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:7:54:13 น.  

 
สวัสดีคะคุณพี่แม่ไก่ ก่อนอื่นต้องขอบคุณนะคะที่เข้าไปแนะนำรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติผู้เขียนและหนังสือของท่าน แล้วไว้จะไปหามาอ่านอีกคะ แล้วก็เรื่องช่างสำราญน่าอ่านมากเลยคะยังไม่เคยอ่านเดี๋ยวไว้ไปหาอ่านอีกเช่นกันคะ


โดย: moony_pl (moony_pl ) วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:12:11:29 น.  

 
ในสามเล่มนี้ หวานเย็นยังไม่เคยอ่านม้าก้านกล้วยเลยค่ะ


โดย: หวานเย็นผสมโซดา IP: 202.41.167.241 วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:15:01:13 น.  

 
เล่มแรกนี่เคยอ่านผ่านๆ มาแล้วค่ะพี่แม่ไก่แต่ว่ายังไมได้
อ่านแบบเต็มออปชั่นเลยค่ะ น่าอ่านมากแต่ว่าต้องดูก่อนว่า
เล่มนี้เก็บอยู่ในกล่องไหนค่ะ เพราะว่าขนย้ายหนังสือ
เอามาบ้านใหม่ตอนนี้ปนกันเหลือเกิน หนังสือเก่า-ใหม่
หาแทบจะไม่เจอค่ะเพราะว่ามั่วมากๆ เลย


พี่แม่ไก่เป็นยังไงบ้างค่ะ อากาศตอนนี้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
แต่ก็ยังคงร้อนได้ใจเหมือนเคย เฮ้อ อากาศอย่างนี้
ชวนไม่สบายจริงๆ ค่ะ



โดย: JewNid วันที่: 14 สิงหาคม 2552 เวลา:15:41:31 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับปี้แม่ไก่












โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:7:26:47 น.  

 
อยากอ่าน "อมตะ" จังค่ะ


โดย: ปณาลี วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:16:23:45 น.  

 
มาเม้นท์ในบล็อกอีกที

อมตะอ่านเมื่อนานมาแล้วค่ะ ส่วนช่างสำราญ น่าสนใจมากๆ เลยแหละ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:17:07:26 น.  

 
สวัสดีเจ้า แม่ไก่ นาโจบ่าค่อยได้เข้ามาเพราะตี๊อยู่เวลาต๋อนว่าง netช้าขนาดเจ้า
อาติ๊ดหน้านาโจก่ว่าจะไปลำปางหนา เจ้า


โดย: 2times4t วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:7:34:30 น.  

 
สวัสดีครับปี้แม่ไก่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:10:42:33 น.  

 
สวัสดีเจ้าปี้แม่ไก่เจ้า สบายดีน้อเจ้าปี้

นุชม่ได้แว่มาแ่วมาเอิ้นหาปี้เมินเลย ร่วมจะเดือนรึเปล่าม่ฮู้ แต่ฮู้ว่าเมิน อิอิ พอดีปิ๊กบ้านโตยเจ้า

ยังม่เกยอ่านเลยซักเล่มเจ้า อิอิ สรุปแล้วก่อจดจื่อ หนังสือไว้ก่อนเจ้า เผื่อไปร้านหนังสือจะได้หื้อเปิ้นเซาะหาเจ้า เพราะถ้าเซาะคนเดวเซาะม่ปะ หนังสือนั๊กขนาดเจ้า ออิ


โดย: แม่เฮือน วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:1:07:37 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับปี้แม่ไก่











โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:6:23:06 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับปี้แม่ไก่










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:7:21:57 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับปี้แม่ไก่














โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:7:35:25 น.  

 
สวัสดีคะแม่ไก่
แวะมาเยี่ยมแม่ไก่คะ
สบายดีบ่คะ คิดถึงหาเน้อ


โดย: บุปผาลีลาวดี วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:8:54:17 น.  

 

คนบ้านนี้มี 'แมวมอง'


สวัสดีครับ.....

แวะเข้ามาทักทายครับ....

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ....

ยิ๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน.........ดีจั๊ดนักครับ


โดย: เพลงดาบกระบี่เดียวดาย วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:22:33:10 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับปี้แม่ไก่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:7:47:45 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...



ขอให้สดชื่นแจ่มใสตลอดวันจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:8:58:03 น.  

 
ตอนนี้มีหนังสือหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่านกองอยู่บนหัวเตียงเยอะแยะไปหมดเลยครับ


โดย: komyooth วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:13:06:20 น.  

 


คุณเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างไหม?
คุณ…..รู้สึกอย่างไร?



มากับความระลึกถึงค่ะคุณแม่ไก่
สบายดีนะคะ


คมคำ : ปล่อยคนผิด 10 คน ดีกว่า ลงโทษผู้บริสุทธิ์ 1 คน ….หรือไม่?





โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:22:42:01 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับปี้แม่ไก่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:7:34:27 น.  

 
น่าสนใจทุกเล่มเลย ต้องหามาอ่านแล้ว


โดย: นายแจม วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:15:27:29 น.  

 
อ่านรีวิวของปี้สาวแล้วอยากอ่าน ช่างสำราญ หนาเจ้า
น้องสาวว่าท่าจะกิ๋นใจ๋ดี

ช่วงนี้ปี้สาวสบายดีก่อเจ้า
น้องยังบ่กลับสู่โหมดงานเขียนเต็มตัวเลย
กะลัวกั๋นอยู่ อิอิ


โดย: BeCoffee วันที่: 27 สิงหาคม 2552 เวลา:0:29:18 น.  

 
ถูกใจแปรบ ถูกใจฮิ เชื่อเถ้อะ


โดย: คนน่ารักที่สุด IP: 117.47.204.133 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:18:26:12 น.  

 
สาหวัดดีค่ะพี่แม่ก่าย...


โดย: อุ๋งอิ๋ง IP: 118.172.244.23 วันที่: 9 มกราคม 2553 เวลา:6:59:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.