คืนหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิที่ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปเหมือนเช่นเคย
ก็มีชายหลังค่อมคนหนึ่งเดินทางรอนแรมมาหาเธอ
แล้วแนะนำตัวเองว่าเป็นญาติของเธอ ชาวเมืองต่างจับจ้อง
ซักถามถึงความเป็นมาของเขา
แต่เขาไม่ได้ตอบในส่วนนั้น เอาแต่พูดพล่ามย้ำๆ
ว่าเขาเป็นญาติมิสอมีเลียทางไหนยังไง
ผู้คนต่างนึกเห็นใจเขาเพราะคิดว่า
ประเดี๋ยวเขาคงถูกมิสอมีเลียไล่ออกจากร้านแน่ๆ
แต่ผิดคาด...มิสอมีเลียไม่เพียงแค่ยอมรับคุณญาติไลม่อนผู้นี้
ให้พักอาศัยอยู่ด้วย แต่เธอยังกางปีกปกป้องเขาทุกครั้ง
ที่มีใครกล้าแตะต้องเขาเพียงนิด
แม้เขาจะทำตัวกร่างเกรียนวางโตแค่ไหนก็ตาม
ไม่มีใครรู้ว่าคนทั้งคู่มีความสัมพันธ์ฉันใดในขณะอยู่ตามลำพังในคาเฟ่นั้น...
แต่ทุกคนดูออกว่ามิสอมีเลียเอาใจใส่คุณญาติไลม่อนเป็นอย่างดี...
บางคนพูดถึงความผิดบาปหากเขาสองคนมีความสัมพันธ์กันฉันชู้สาว
แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามไถ่ซอกแซก
กระทั่งผู้ชายอีกหนึ่งคนกลับมา...
มาร์วิน เมซี่เป็นอดีตสามีของมิสอมีเลีย
เขาเคยหลงรักมิสอมีเลียมากจนทำทุกอย่างเพื่อให้ได้แต่งงานกับเธอ
แล้วเขาก็ทำได้สำเร็จ... แต่ชีวิตแต่งงานของคนทั้งคู่ช่างสั้นนัก
มันสิ้นสุดเพียงสิบวันเท่านั้น มิสอมีเลียขับไล่ไสส่งเขาออกจากบ้าน
เขาประชดชีวิตด้วยการกลายเป็นโจรและถูกจับเข้าคุก...
ตอนนี้เขาพ้นโทษแล้ว และกลับมาอยู่ในเมืองนั้น...
........
มิสอมีเลีย - คุณญาติไลม่อน - มาร์วิน เมซี่
คนทั้งสามจะมีชะตากรรมเกี่ยวพันกันเช่นไรในเวลาต่อมา...
จนถึงจุดจบแห่งคาเฟ่อันแสนเศร้าแห่งนั้น?
เล่าไม่ได้ อยากให้อ่านกันเอาเองจริงๆค่ะ
ครั้งหนึ่งเมื่อนานมากๆ แล้วเคยได้อ่านบทละครสั้นๆ เรื่องหนึ่ง
ซึ่งค่อนข้างประทับใจมาก จนจำชื่อผูเขียนได้ติดตราตรึงใจ
ซึ่งก็คือ Carson McCullers ผู้เขียนนิยายขนาดสั้นเล่มนี้นี่เอง
พอได้มาเห็นเล่มนี้ เห็นชื่อผู้เขียนจึงไม่รีรอที่จะหยิบยืมมาอ่าน
แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ อย่างที่เปรยๆ ไว้ตอนต้นว่า...
หนังสือเล่มบางๆ แต่จัดแน่นจัดเต็มในเนื้อหาเรื่องราวที่ทั้งเข้มข้นและหน่วงในอารมณ์
มันไม่ได้โศกเศร้าน้ำตารินอย่างที่ชื่อมันชวนให้คิด
แต่อ่านแล้วมันตื้อ มันจุก แล้วก็สัมผัสได้ถึงความหม่น ความเหงา ความโหยหา
ของบรรยากาศจนรู้สึกสงสารอย่างบอกไม่ถูก...
มีถ้อยคำสำนวนชวนให้ใจละลายอยู่หลายบทหลายตอน...
ดังที่ยกมาด้านบนนั้นก็บทหนึ่งล่ะ
แต่ที่ส่วนตัวอ่านแล้วรู้สึกรู้สมที่สุดคือบทที่ว่าด้วยความหวาดกลัวต่อความเดียวดายของมิสอมีเลีย...
"...เมื่อคนเราได้อยู่กับอีกคนแล้ว
การต้องอยู่ตามลำพังนั้นเป็นความทรมานใหญ่หลวงนัก...
.ให้รับเอาศัตรูตัวฉกาจเข้ามาอยู่ในบ้าน
ยังดีเสียกว่าต้องเผชิญกับความน่าประหวั่นใจ
ของการต้องใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง"
อ่านแล้ว...โหยยยย
ป.ล.หนังสือเล่มนี้ยืมมาจากเพจ #ปันกันอ่าน:Immortalbook ค่ะ
รู้สึกขอบคุณและดีใจที่ได้อ่าน