Actions speak louder than words. ปัญหามีไว้ให้แก้ไม่ได้มีไว้ให้กลุ้ม
Group Blog
 
All Blogs
 
มนุษย์เงินเดือนกับการเลี้ยงลูก

มนุษย์เงินเดือนกับการเลี้ยงลูก

เจอคำถามจาก “มนุษย์เงินเดือน” มากมายเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกวัยเรียน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กเล็กว่าทำอย่างไรเมื่อลูกไปรร.ในขณะที่เราในฐานะมนุษย์เงินเดือนก็ต้องเลิกงาน 5 โมงกว่า ลูกของเราต้องจะทำอย่างไรในเวลา 2-3 ชม.หลังเลิกเรียน จากประสบการณ์ตรงในฐานะเป็นมนุษย์เงินเดือนแถมไม่มีมรดกหรือพ่อแม่อุปถัมภ์ ต้องก่อร่างสร้างตัวจากศูนย์แถมยังมีลูกเร็วอีกต่างหาก ยอมรับว่าเหนื่อยแทบขาดใจเนื่องจากไม่มีญาติพี่น้องเป็นตัวช่วยเลย ชีวิตจะเริ่มต้นแต่เช้ามืดควักลูกจากที่นอนจับอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปหลับต่อในรถ ถึงรร.เช้าหน่อยหาอาหารเช้ารับประทานแถวรร. ต้องเลือกรร.ใกล้ที่ทำงานเพื่อจะได้มีเวลาอยู่กับลูกมากหน่อย หรือบางครั้งลูกมีปัญหาที่รร.จะได้มีเวลาพบคุณครูประจำชั้น เมื่อใกล้เวลาทำงานก็รีบเผ่น ตอนเย็นลูกจะเลิกประมาณ 3 โมงสำหรับเด็กเล็ก ก็มีหลายวิธีนะคะ ตั้งแต่ให้นั่งรถรร.มาที่ทำงาน (ถ้านายใจดีและเข้าใจ) มานั่งทำการบ้านรอเวลากลับพร้อมกัน หรือให้เรียนพิเศษสอนการบ้านที่รร.เลย กลับบ้านจะได้พักผ่อนเต็มที่ ของผู้เขียนเองเนื่องจากรร.ไม่มีนโยบายรับสอนพิเศษต้องใช้วิธีฝากไว้กับภรรยาภารโรงค่ะ โดยเค้าสงสารเลยรับดูแลให้

เวลาลูกไม่สบายเราสองคนสามีภรรยาต้องเก็บพักร้อนไว้สำหรับลูกอย่างเดียวเท่านั้นคือผลัดกันลาพักร้อนเพื่อดูแลลูก เชื่อหรือไม่ว่าสิบกว่าปีที่ผ่านมาเราไม่เคยลากิจหรือลาป่วยเลย ชีวิตนี้ป่วยไม่ได้ ตายไม่ได้จนกว่าลูกจะโต หน้าที่ของการเป็นพ่อเป็นแม่นั้นเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน ต้องพร้อมที่จะเสียสละทุกอย่างเพื่อลูกจริงๆ ใครไม่พร้อมก็อย่ามีดีกว่า เพราะการทำให้เค้าเกิดมาต้องมาพร้อมกับคำว่า “หน้าที่” และ “ความรับผิดชอบ” ไปตลอดชีวิตของเรา ต้องเตรียมทั้งแรงกายที่จะทุ่มเทในการหาเงิน เก็บเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของเค้าอย่างน้อยก็ 20 ปีกว่าจะเรียนจบหรือหาเลี้ยงตัวเองได้ ต้องเตรียมแรงใจในการอบรมสั่งสอนให้เค้าเป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งคุณธรรมและจริยธรรม เราไม่ได้เน้นให้ลูกเรียนเก่งแต่เน้นให้ลูกเป็นคนดีอยู่ในสังคมได้และพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่า เน้นให้ลูกมีความสุขกับการดำเนินชีวิตโดยไม่ต้องไปแข่งขันกับใครนอกจากตัวเอง เน้นให้ลูกรู้จัก“การรับ”และ “การให้”ตลอดจน “การแบ่งปัน” เน้นให้ลูกไม่ประมาทกับชีวิต เน้นให้เค้าทำวันนี้ให้ดีที่สุดและดีกว่าเมื่อวาน

อยากจะให้กำลังใจพ่อแม่ที่เป็นมนุษย์เงินเดือนเช่นเดียวกับเราสองคนว่าไม่ยากหรอกค่ะในการฟันฝ่า เพราะเราทั้งคู่ทำมาแล้ว โดยเลี้ยงลูกด้วยตัวเองถึง 3 คน ตอนลูกเล็กๆเค้าต้องไปอยู่ตาม Nursery ตอนปิดเทอม พอโตหน่อยก็อยู่กันเอง บอกอย่างไม่อายเลยว่าเราเพิ่งจะมี “บ้าน” เป็นของตนเองเมื่อวัยใกล้ 50 นี่เอง เพราะตลอด 20 ปีที่ผ่านมาเราไม่ประมาทกับชีวิตจัดสรรงบประมาณเพื่อทุ่มเทเรื่องเรียนและการดูแลลูกเป็นหลัก ที่เหลือเป็นเงินออม เมื่อพร้อมถึงค่อยคิดเรื่องปัจจัยอื่นที่ตามมา เวลา 24 ชม.หรือเงิน 100 บาทของเราทั้งคู่เมื่อเทียบด้วย “ตัวเลข”อาจไม่แตกต่างจากคนอื่น แต่เมื่อเทียบด้วย “มูลค่า”เราจัดสรรแตกต่างจากคนอื่นมากมายนัก ลองจัดสรรตัวคุณเองดูนะคะคุณจะอัศจรรย์ใน “มูลค่า” ที่คุณค้นพบก็เป็นได้








Create Date : 06 สิงหาคม 2550
Last Update : 6 สิงหาคม 2550 13:17:55 น. 11 comments
Counter : 1723 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ คุณแม่ ไวจังเลย

จะมาเป็นสมาชิกถาวรเลยค่ะ


โดย: MONROVIA วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:13:06:00 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณแม่น้องเม่น

แตนขอมานั่งอ่านด้วยคนนะคะ
แต่ว่าเวลาน้อย คงต้องค่อย ๆ อ่านไป
แล้วจะมาเยี่ยมค่ะ


โดย: รัตติกัลยา วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:13:57:27 น.  

 
อ่านแล้วนึกภาพออกเลยค่ะ...เพราะคุณพ่อคุณแม่ก้อปฎิบัติกับลูกสาวคนนี้ อย่างนั้นเหมือนกัน

ตอนเด็กๆคุณพ่อคุณแม่จะจับ annie และน้องชายอีก 2คนนั่งรถไปเรียนรร.ใกล้ที่ทำงานของท่านทั้ง 2 ซึ่งไกลบ้านมาก...ต้องทานข้าวเช้ากันในรถเลยนะคะ

ตอนเย็นคุณพ่อเลิกงานแล้ว จะไปรับพวกเราและนั่งรอคุณแม่ที่สอนพิเศษตอนเย็น (ท่านเป็นอาจารย์น่ะค่ะ บ้านเราเปิดกิจการสถาบันกวดวิชา โดยเช่าที่รร.เอกชนแห่งหนึ่งตอนเย็นหลังเลิกเรียน) กว่าจะกลับถึงบ้านก็ 3-4 ทุ่มทุกวัน
เหนื่อยค่ะ แต่มีความสุขเพราะได้ใกล้ชิดท่านทั้ง 2

ทุกวันนี้ คุณพ่อคุณแม่พูดอยู่เสมอว่า "ไม่เสียใจ" ที่ทุ่มเทเวลาและแรงกายทั้งหมดเพื่อลูกทั้ง 3 คน (คุณพ่อเคยปฎิเสธตำแหน่งงานที่สูงกว่า แต่ต้องไปประจำต่างจังหวัดด้วยค่ะ) และรู้สึก "ภูมิใจ" ที่ลูกทุกคนต่างได้ดิบได้ดี มีความก้าวหน้าในอาชีพการงาน มีเงินเดือนสูงๆ และเป็นคนดีของสังคมกันทุกคน (annie ได้เป็นประธานนร.และหัวหน้าห้องมาแล้วทุกสถาบัน พูดแล้วจะหาว่าคุยนะคะเนี่ย)

ท่านบอกว่าการเลี้ยงลูกเหมือนเป็น "งานประติมากรรม" อย่างหนึ่งค่ะ ถ้าเราตั้งใจปั้น ผลงานก้อจะออกมาดี...

จากที่คุณเล่ามาเชื่อว่า "ผลงาน" จากการที่คุณทุ่มเทให้แก่ลูกๆนั้นต้องออกมาดีใช่ไหมคะ

ขอคารวะ "คุณพ่อและคุณแม่ตัวอย่าง" ค่ะ ...


โดย: annie (annie_martian ) วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:19:46:51 น.  

 
เก่งจังเลยค่ะ


โดย: ชลธิรา วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:12:21:21 น.  

 
เห็นด้วยเลย ว่าเหนื่อยมากจริงๆๆ


โดย: วีทีอาร์ วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:20:11:09 น.  

 
เราโชคดีกว่าคนอื่นมากมายนัก
ที่มีคุณยายคอยเลี้ยงหลานให้

ขอนับถือคุณพ่อ คุณแม่ที่เลี้ยงลูกเองกันตามลำพังค่ะ


โดย: mompeekun IP: 124.121.55.201 วันที่: 8 สิงหาคม 2550 เวลา:22:25:10 น.  

 
เป็นคุณพ่อคุณแม่ที่ทุ่มเทมาก ๆ จริง ๆ ค่ะ ขอมาให้กำลังใจสู้กันต่อไปเพื่อลูกนะคะ


โดย: นาโอมิจัง IP: 58.9.113.201 วันที่: 11 สิงหาคม 2550 เวลา:11:38:40 น.  

 
น่าทึ่งจิงๆค่ะ อ่านแล้วคิดถึงคุณแม่จับใจเลย วันนี้วันแม่ด้วย


โดย: momikovox IP: 58.10.149.103 วันที่: 12 สิงหาคม 2550 เวลา:3:38:05 น.  

 
ตามลิงค์มาอ่านค่ะ
อ่านแล้วทึ่งและชื่นชมแม่น้องเม่นอย่างจริงใจจริงๆค่ะ


โดย: bella lolita IP: 58.8.182.204 วันที่: 2 กันยายน 2550 เวลา:20:16:30 น.  

 
สวัสดีคค่ะ แอบสงสัยมาตั้งนานแล้วว่าคุรแม่น้องเม่นคือคนที่แว่นน้อยรู้จักมั๊ย เมื่อได้เข้ามาอ่านที่ Blog แล้วมั่นใจเลยว่าใช่จริงๆ แว่นน้อยเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในห้องชานเรือนมานานตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ แต่ไม่เคยตั้งกระทู้เนื่องจากทุกปัญหาที่สงสัยมักมีคนมา Post ไว้แล้ว เป็นกำลังใจให้นะค่ะ เพราะรู้ว่าคุณแม่น้องเม่นมีกำลังใจที่ดีจากสามี และ ลูกๆ ตลอดเวลาที่เคยทำงานด้วย เห็นเลยว่าเป็นคุณแม่คนเก่ง และ working woman แล้วจะขอคำแนะนำบ้างนะคะ
จากลูกน้องคนหนึ่งที่ยังชื่นชมคุณแม่น้องเม่นอยู่ค่ะ


โดย: ก้อย IP: 125.25.131.86 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:11:05:24 น.  

 
เข้าใจทุกคนอย่างดี แต่เราโชคดีที่ตอนเล็กๆ มีพยาบาลที่เป็นพี่สาวแฟนเลี้ยงให้โต ก็ยังให้เรียนต่างจังหวัดนะ แล้วค่อยมาเสริมตอนปิดเทอมเอา คือเรียนพิเศษ
แต่ลูกควรให้อยู่กับเราสักคน เลยเอาคนเล็กไว้ ทรมานเหมือนกันนะกว่าจะกลับถึงบ้าน 1 ทุ่ม ฝากเลี้ยงกับครูถึง 6 โมงเย็น ดีนะ ที่โรงเรยนอนุบาลมารียารับเลี้ยงตอนเย็น โรงเรียนก็ ok แต่ก่อนติดโรงเรียนคริสต์มาก แต่ลูกคนโตทำพลาดเขาเครียดมากเกินไป ตอนนี้เพิ่งเริ่มให้ฝึกวิชาการ เราต้องให้ลูกมีความสุข
อยากแบ่งบันนะ โรงเรียนไม่ได้โฆษณาให้นะ แต่ครูดีมาก เลิกงาน 2 ทุ่มก็มารับได้ บ้างทีครูรับเลี้ยงตอนกลางคืนให้แม่ด้วยเพราะแม่ไปต่างจังหวัด
คือเราว่านะทุกอย่างก็ขึ้นกับเงิน ถ้ามีเงินก็ไปเรียนที่ดี ดีได้ แต่ถ้าพ่อแม่ไม่มีเงินจะกิน ก็คงส่งลูกไปเรียนอะไรไม่ได้
นี้เราพาลูกไปว่ายน้ำ ปิดเทอม ลูกสาวคนโตขึ้นมา ซอยนวมิน 53 สระ โอเคนะสะอาดดี ค่าสมาชิก 100 บาท 3 เดือนนะ เข้าไปจอดตรงตึกสีส้มๆ หลังร้านนิตยาไก่ย่างเลย ตอนนี้ไปสองครั้งนะ เริ่มว่ายเป็นแล้ว เอ่อลืมบอกไป มีครูสอนเพียบเลย เราลง 1,400 บาท /10ครั้ง ครั้งละ ชม.สำหรับเด็กก็เกินพอแล้ว ตอนนี้พยายามไปทุกวันให้เขาชินกับการเล่นน้ำนะปิดถรึง 2 ทุ่มนะเพราะมันติดกับอพาร์ทเม้นคนจะนอน ค่าลงสระสำหรับเด็ก 10 บาทเอง
ลองไปกันนะ ใครอยู่ใกล้แฮปปี้แลนด์ บางกะปิ


โดย: แม่น้องเม IP: 203.144.144.164 วันที่: 16 มีนาคม 2553 เวลา:12:57:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แม่น้องเม่น
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add แม่น้องเม่น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.