Chapter 104
ตอนที่ 104 "เชิญครับ!" เจอร์รี่ร้องบอกเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง เขากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือจึงไม่ได้หันไปมองว่าใครเป็นผู้มาเยือน จนเมื่อมีสิ่งหนึ่งวางลงมาตรงหน้าเขาจึงค่อยเงยหน้าขึ้นมองคนที่เข้ามาหาเขา "นายบอกเองว่าหากชั้นคิดได้ค่อยเอามาให้นาย" เคนเอ่ยปากกับพี่ชาย เจอร์รี่จึงเอาที่คั่นหนังสือคั่นหน้าที่อ่านค้างไว้แล้วหมุนเก้าอี้หันมาทางน้องชาย "หายไปไหนมา?" เจอร์รี่ถามน้อง "ก็ไปเรื่อยๆ" เคนตอบแบบไม่เจาะจงสถานที่ "ที่นายบอกว่าคิดได้คงไม่ได้เป็นเพราะอยากจะทำให้เรื่องมันจบๆไปหรอกนะ" เจอร์รี่แกล้งถามดักคอน้อง "ชั้นเป็นคนแบบนั้นหรอ?" เคนย้อนถามพี่ชายเสียงกะตุกเล็กน้อย "อืม....ถ้าไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ดีแล้ว" พูดจบก็ลุกขึ้นยืนแล้วหยิบไม้เรียวที่น้องชายวางไว้บนโต๊ะให้น้องถือไว้เหมือนเดิม "ชั้นให้นายตัดสินใจอีกครั้งว่าอยากจะเอาไม้เรียวนั้นมาให้ชั้นจริงหรือเปล่า แต่บอกไว้ก่อนนะว่าถ้าชั้นรับมาแล้วจะไม่ให้เปลี่ยนใจอีก" พี่ใหญ่ถามย้ำอีกครั้ง เคนมองหน้าพี่ชายแว๊บหนึ่งแล้วยื่นไม้เรียวให้พี่ชายแทนคำตอบ "พี่ใหญ่ตีหนักเลยนะ" เจอร์รี่ขู่น้องอีก คราวนี้เคนเริ่มหวั่นๆขึ้นเหมือนกัน "ตีหนักขนาดไหน?" ถามพี่ชายกลับไป ทำให้พี่ใหญ่แอบยิ้มขำๆ "จะให้สาธิตให้ดูก่อนมั๊ยหละ?" เจอร์รี่ย้อนถาม เคนส่ายหน้าแบบไม่ต้องคิด "แล้วตกลงจะเอายังงัย? ยังจะอยากให้ชั้นรับไม้เรียวมาอีกหรือเปล่า?" ถามย้ำน้องชายอีกครั้ง ทำเอาเคนนิ่งไป "ชั้นไม่ว่าหรอกนะหากนายจะเดินกลับออกไปแล้วหักไม้เรียวอันนี้ทิ้งไปซะ เพราะยังงัยชั้นก็ให้นายเป็นคนตัดสินเกี่ยวกับการกระทำของตัวเองอยู่แล้ว" เจอร์รี่พูดเปิดทางให้น้อง เคนมีสีหน้าลังเล แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจเด็ดขาดยื่นไม้เรียวไปให้พี่ชาย "รับไปเถอะ ชั้นไม่เปลี่ยนใจ" เจอร์รี่ยิ้มอย่างพอใจแล้วรับไม้เรียวจากน้องมาถือไว้ในมือ เคนสูดลมหายใจเข้ายาวๆแล้วหมุนตัวหันหลังพร้อมกับเอามือกอดอกเพื่อรับโทษจากพี่ชาย "เอาซักกี่ทีดี?" แกล้งถามน้องชายขึ้นมาอีก "แล้วแต่พี่ใหญ่เถอะ" เคนตอบโดยไม่หันกลับมามองพี่ชาย "อืม....งั้นหนึ่งโหล....คิดว่าเหมาะสมมั๊ย?" คำถามของพี่ชายทำเอาเคนถึงกับสะดุ้ง "หนึ่งโหล? มันไม่โหดไปหน่อยหรอ?" ครวญครางเสียงอ่อยๆ "โหดไป? งั้นสองโหลแล้วกัน" เคนกลืนน้ำลายเอื๊อกเมื่อได้ยินเขาหันกลับมาทางพี่ชาย "หรือว่ายังงัย? มันน้อยไปหรือเปล่า?" เจอร์รี่แกล้งถามน้องชายอีก "ชั้นไม่ได้ไปฆ่าใครตายนะ! นักโทษในคุกเขายังไม่เฆี่ยนกันขนาดนี้เลย!" เคนต่อว่าพี่ชายหน้ามุ่ย "งั้นให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้าย จะเปลี่ยนใจมั๊ย?" เจอร์รี่แกล้งถามน้องอีก เคนเงยหน้ามองพี่ชายอย่างเคืองๆ "ชั้นไม่ใช่คนโลเลอย่างนายนะถึงจะได้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา!" ตอกกลับพี่ชายเข้าให้ "เออดี! งั้นไม่มีโอกาสสำหรับนายแล้ว" เจอร์รี่พูดจบก็เงื้อไม้เรียวในมือขึ้นสุดแขน "เดี๋ยว!!" เคนเห็นเช่นนั้นก็ร้องห้าม "อะไรอีก!" พี่ใหญ่ทำเสียงดุ "ชั้นขอไปนอนที่เตียงดีกว่า นายจะได้เก็บศพง่ายหน่อย" เคนพูดจบก็เดินไปนอนคว่ำหน้าบนเตียง พี่ใหญ่ได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ เขาวางไม้เรียวในมือลงบนโต๊ะแล้วเดินตามไปนั่งลงข้างน้อง แน่นอนว่าเขาไม่คิดจะตีน้องแต่แรกอยู่แล้ว เพราะการที่น้องเดินเข้ามายอมรับผิดกับเขาเช่นนี้ก็เป็นเรื่องที่เขาพอใจที่สุดแล้ว "หนึ่งทีสำหรับเด็กดื้อ" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับเอามือตีก้นน้องชายเบาๆ "อีกหนึ่งทีสำหรับเด็กช่างประชด" พี่ใหญ่ตีซ้ำลงไปอีกที "และอีกหนึ่งทีสำหรับเด็กเกเร" ตีเสร็จก็ผลักตัวน้องเบาๆ "ยังไม่รีบลุกขึ้นมาคุยกับพี่ใหญ่อีกหรอ" แกล้งพูดด้วยน้ำเสียงดุๆ เคนจึงขยับตัวแล้วลุกขึ้นมานั่ง เขาเองก็ไม่เข้าใจพี่ชายเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ลงโทษเขาอย่างที่พูดไว้ "ไม่ตีชั้นแล้วหรอ?" เคนถามพี่ชายแบบไม่เต็มเสียงนัก "นายกล้าเดินเข้ามาหาชั้นแบบนี้แล้วคิดว่าชั้นจะตีนายได้ลงคอหรืองัย?" เจอร์รี่ตอบแบบเป็นการย้อนถามน้อง เคนสบตากับพี่ชายแล้วก้มหน้าลง "พี่ใหญ่เชื่อมาตลอดว่าน้องชายของพี่คนนี้ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองมากพอที่จะกล้ายอมรับกับความผิดพลาดที่ตัวเองได้ทำ และวันนี้การกระทำของนายก็เป็นเครื่องยืนยันว่าพี่คนนี้ไม่ได้คิดผิดเลยแม้แต่น้อย" พูดจบก็ยิ้มให้น้องชายอย่างอ่อนโยน "นายอาจจะรำคาญที่ชั้นคอยแต่จะจู้จี้กับเรื่องคำพูดคำจาของนาย แต่ชั้นจะบอกนายไว้อย่างนะว่าคำพูดน่ะสามารถทำร้ายคนให้เจ็บปวดได้มากกว่าการกระทำซะอีก คำพูดบางอย่างอาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคนหนึ่งแต่อาจจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับอีกคนก็ได้ เพราะฉะนั้นต่อไปการที่จะพูดอะไรออกไปขอให้คิดให้ดีๆก่อน เพราะว่าหากนายพูดออกไปแล้วมันจะไม่สามารถเรียกคืนกลับมาได้อีกเลย" เจอร์รี่สอนน้องด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "ชั้นจะจำไว้" เคนบอกกับพี่ชายแล้วยิ้มเล็กน้อย "ดีมาก" เจอร์รี่ว่าพร้อมกับขยี้หัวน้องชายเบาๆ "เออนี่....ช่วยอะไรชั้นหน่อยสิ" เคนว่าพร้อมกับเกาะแขนพี่ชาย "จะให้ช่วยอะไร?" เจอร์รี่ย้อนถาม "คือว่า...." เคนอึกอักเพราะรู้ว่าหากพูดไปพี่ชายคงปฏิเสธอย่างแน่นอน "อะไรหละ? พูดมาสิ" เจอร์รี่เร่งเมื่อเห็นน้องลังเล "นายช่วยขอโทษพี่ชิงชิงแทนชั้นทีสิ" เคนว่าพร้อมกับมองหน้าพี่ชายตาละห้อย "เรานี่วอนโดนไม้เรียวซะจริงๆเลยนะ! ทำอะไรไว้ก็ต้องรับผิดชอบเองสิ!" ได้ยินเช่นนั้นเจอร์รี่ก็ดุน้องยกใหญ่ "ช่วยแค่นี้ไม่ได้หรืองัยเล่า! ชั้นไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังงัยดีนี่นา" เคนยังตื๊อพี่ชายอีก "เสี้ยวเทียน....สมมติว่ามีใครคนนึงทำให้นายโกรธมากแต่ใครคนนั้นกลับให้คนอีกคนนึงมาขอโทษนายแทน นายคิดว่านายจะหายโกรธหรือโกรธมากกว่าเดิม?" พี่ใหญ่พยายามสอนน้องอย่างใจเย็น "ใครขอโทษก็เหมือนกันแหละน่า!" เคนตอบทั้งที่คำตอบในใจของเขามันเป็นอย่างหลัง พี่ใหญ่เลยซัดแขนน้องเข้าให้อย่างเหลืออด "โอ้ย! ก็นายถามความเห็นชั้นไม่ใช่หรอ? แล้วทำไมพอตอบไม่ถูกใจก็ตีหละ?" เคนเอามือลูบแขนตัวเองพร้อมกับบ่นอุบ "ชั้นจะไม่ตีนายเลยหากว่าคำตอบที่นายพูดออกมามันตรงกับสิ่งที่อยู่ในใจนาย" คำพูดของพี่ชายทำเอาเคนก้มหน้าหลบตาพี่ชายทันที "เลือกเอาว่าจะยอมเสียฟอร์มแล้วเข้าไปขอโทษพี่ชิงชิงหรือจะยอมทนกับความรู้สึกที่ติดค้างอยู่ในใจไปตลอด" พี่ใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ชั้น....." เคนอ้าปากจะพูดแต่พี่ใหญ่ก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน "นายไม่ต้องบอกชั้นว่านายตัดสินใจยังงัย แค่ทำในสิ่งที่นายเห็นว่าควรทำก็พอ" พูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง เคนถอนหายใจเบาๆก่อนจะพยักหน้ารับ "งั้นชั้นไปนอนก่อนนะ" เคนบอกพี่ชายแล้วหันกลับมาอีกครั้ง "แล้วก็ขอบคุณที่ไม่ลงโทษชั้น" พี่ใหญ่ได้ยินก็ยิ้มให้น้องชาย "ไหนมากู๊ดไนท์กับพี่ใหญ่ก่อนซิ!" เจอร์รี่เรียกน้องไว้ก่อนที่น้องจะลุกขึ้น "โหย.....ชั้นโตแล้วนะ....." เคนร้องครางอย่างอิดออด "โตแล้วกู๊ดไนท์กับพี่ใหญ่ไม่ได้หรอ?" เจอร์รี่จึงแกล้งทำหน้าผิดหวัง เคนหน้ามุ่ยลงเล็กน้อยแต่ก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มพี่ชายเบาๆ "หึๆๆๆ" พี่ใหญ่หัวเราะเบาๆแล้วจูบหน้าผากน้องคืนไป "ฝันดีนะไอ้ตัวแสบ!" พูดจบก็ตีก้นน้องเบาๆ "ครับ" เคนตอบรับแล้วยิ้มให้พี่ชายก่อนจะเดินออกไป เจอร์รี่มองจนน้องปิดประตูดังเดิมแล้วก็ถอนหายใจโล่งอก "จบไปอีกเรื่อง เฮ่อ!" บ่นพึมพำเบาๆแล้วเดินไปหยิบหนังสือมาอ่านต่ออย่างสบายอารมณ์
- ตอนเช้า - "เอ๊ะ! นี่พี่ตาฝาดหรือเปล่า?" เจอร์รี่ขยี้ตาตัวเองเมื่อเห็นว่าน้องชายคนกลางกับน้องชายคนเล็กลงมาเข้าครัวแต่เช้า "บ่นอะไรแต่เช้าครับพี่ใหญ่" ไจ่ไจ๋หันมาพูดแขวะพี่ชาย "นึกเฮี้ยนอะไรขึ้นมาถึงได้ตื่นลงมาทำกับข้าวกันตอนนี้น่ะ?" ถามน้องๆอย่างประหลาดใจ "ก็ไอ้ตัวนี้มันบ่นอยากกินข้าวต้มรวมมิตรน่ะสิ เลยลากชั้นไปตลาดตั้งแต่ไก่โห่ แล้วก็เลยเป็นอย่างที่เห็น" เคนเล่าให้พี่ชายฟังพร้อมกับเอาช้อนคนข้าวต้มในหม้อ "ซื้อกินง่ายกว่ามั๊ย?" เจอร์รี่ว่าพร้อมกับหัวเราะเบาๆ เพราะเจ้าน้องเล็กของเขาตะกละได้ทุกเวลาจริงๆ "ซื้อทำไม? ทำเองอร่อยกว่า เยอะกว่า แล้วก็ถูกกว่าด้วย นายคิดดูนะบ้านเราตอนนี้มีห้าคน....." เคนสาธยายยืดยาวแต่ยังพูดไม่ทันจบพี่ใหญ่ก็ตัดบท "ครับๆๆๆ ทำเอาดีกว่าอยู่แล้ว ไม่เถียงด้วยหละ เดี๋ยวพี่ขึ้นไปอาบน้ำแล้วจะปลุกเจ้าพี่รองลงมากิน" พูดจบก็หมุนตัวเดินกลับขึ้นไปบนห้อง "ห้าคน? พี่กลางบอกว่าพวกเรามีห้าคน?" เมื่อพี่ใหญ่ออกไปแล้วไจ่ไจ๋ก็หันมาทางเคนอย่างเอาเรื่อง "อ้าว....ก็ตอนนี้บ้านเรามีห้าคนจริงๆนี่หว่า" เคนตอบโดยไม่หันหน้ามามองน้องชาย จนเมื่อน้องเงียบไปเขาจึงค่อยฉุกคิดได้ "ไจ่ไจ๋" เคนเรียกน้องแล้วตั้งท่าจะพูดแต่ไจ่ไจ๋แทรกขึ้นมาก่อน "เขาเป็นพวกเราตั้งแต่เมื่อไหร่?" น้องเล็กถามหน้าขึง "เฮ่อ!" เคนถอนหายใจเมื่อเห็นว่าน้องคงอาละวาดอีกแน่ "พี่ถอนคำพูด ตกลงมั๊ย?" ไจ่ไจ๋มองพี่ชายอย่างไม่เข้าใจก่อนตอบเสียงแข็ง "ไม่ตกลง!" น้ำเสียงของน้องทำเอาเคนเริ่มฉุน "เมื่อวานที่โดนตีไม่เข็ดใช่มั๊ย?" เคนทำเสียงดุ "พี่กลางอย่าออกนอกเรื่อง!" ไจ่ไจ๋ตอกกลับเสียงดุดันไม่แพ้กัน "เอาหละๆๆๆ งั้นพี่จะบอกนายตามตรงว่าหลังจากที่พี่ได้คุยกับพี่ชิงชิงเมื่อวานนี้แล้วมันทำให้พี่รู้ว่ามีอีกหลายเรื่องที่เราไม่เคยรู้เกี่ยวกับตัวพี่ชิงชิงและพี่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจกลั่นแกล้งอะไรพวกเราเลย พี่เขาก็นิสัยตรงไปตรงมาแบบนั้นเอง" เคนบอกกับน้องไปตรงๆ "เขาพูดแค่นั้นพี่กลางก็เชื่อ?" ไจ่ไจ๋ย้อนถามพี่ชายเสียงแข็ง "คำพูดคนอาจจะโกหกได้แต่แววตาคนมันโกหกไม่ได้หรอก" เคนบอกน้องชาย "พี่กลางแน่ใจขนาดนั้นเชียว?" น้องเล็กทำเสียงเหมือนเยาะเย้ย "แล้วนายจะเอายังงัย!?" เคนพยายามระงับอารมณ์เพราะคนสุดท้ายที่เขาอยากจะมีเรื่องด้วยก็คือน้องชายคนนี้ "พี่กลางรู้ตัวหรือเปล่าว่าตอนนี้พี่กลางเปลี่ยนไป" ไจ่ไจ๋เสียงอ่อนลงเล็กน้อยแต่ก็ยังฟังดูกระด้างอยู่ดี "เปลี่ยนยังงัย?" เคนย้อนถาม "พี่กลางกำลังเข้าข้างพี่ชิงชิงทั้งที่....." ไจ่ไจ๋ยังพูดไม่ทันจบเคนก็แทรกขึ้นมาก่อน "ถ้าจะพูดเรื่องนี้อีกพี่คงต้องขอตัว เพราะต่อให้พูดยังงัยนายก็ไม่พยายามที่จะเข้าใจอยู่ดี!" พูดจบเคนก็หันกลับไปปิดเตาแก๊สอย่างหงุดหงิด "เข้าใจ? พี่ชิงชิงหลอกล่อพี่ท่าไหนกันพี่ถึงได้เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้!" คำพูดของน้องเล็กทำเอาเคนฉุกกึก "จะตบปากตัวเองมั๊ย?" เคนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาแต่แฝงความจริงจัง ไจ่ไจ๋หน้าเสียแต่ยังคงทำนิ่งเฉย "ดี! ในเมื่อนายดูถูกพี่ขนาดนี้เราก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก!" พูดจบเคนก็เดินหนีออกไปทันที ทิ้งให้ไจ่ไจ๋มองตามน้ำตาร่วงเพราะเขาไม่ได้ตั้งใจจะต่อว่าพี่ชายเพียงแต่รู้สึกโมโหที่พี่ชายเปลี่ยนท่าทีไปเข้าข้างพี่ชิงชิงทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ว่าเขาพูดอะไรพี่ชายก็เออออตามทุกครั้ง "พี่ชิงชิง! ผมเกลียดพี่!" ไจ่ไจ๋พูดเสียงลอดไรฟันด้วยความแค้นเคืองที่พี่ชิงชิงเป็นต้นเหตุให้เขาทะเลาะกับพี่ชาย ไจ่ไจ๋พยายามนั่งสงบสติอารมณ์เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตของพี่ชายอีกสองคน จนผ่านมาครู่ใหญ่พี่ชายทั้งสามคนก็กลับมาลงมาพร้อมหน้าพร้อมตา โดยมีพี่ชิงชิงตามลงมาด้วย "เห็นเจอร์รี่บอกว่าวันนี้เธอเข้าครัวเองเลยหรอไจ่ไจ๋?" พี่ชิงชิงเอ่ยทักทายไจ่ไจ๋ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไจ่ไจ๋เองก็แกล้งปั้นหน้ายิ้มตอบอย่างแนบเนียน "ครับ พอดีวันนี้มหาลัยหยุดให้อ่านหนังสือ ผมนึกอยากกินข้าวต้มรวมมิตรเลยชวนพี่กลางไปตลาดแต่เช้า มีแต่ของสดๆทั้งนั้นเลย" คำตอบของไจ่ไจ๋ทำเอาเคนแปลกใจไม่น้อยเพราะทั้งสีหน้าและท่าทางของน้องชายไม่มีวี่แววว่าจะโกรธเคืองอะไรกับใครเลยซักนิด "ตื่นเช้าก็ดีแบบนี้แหละ เพราะของดีมีไว้สำหรับคนไม่เกียจคร้าน" พี่ชิงชิงเองก็รู้สึกดีใจที่ไจ่ไจ๋มีท่าทีเป็นมิตรมากกว่าเดิม "นั่งกันสิครับ ผมจะตักข้าวให้" ไจ่ไจ๋ว่าแล้วก็เดินไปหยิบชาม เคนลุกขึ้นจะไปช่วยน้องแต่ไจ่ไจ๋ร้องห้ามก่อน "ไม่ต้องหรอกครับพี่กลาง! วันนี้ผมทำพี่เหนื่อยมากแล้ว นั่งรอเฉยๆเถอะ" แม้จะพยายามทำตัวให้ปกติแต่ไจ่ไจ๋ก็บังคับตัวเองให้ไม่พูดประชดพี่ชายไม่ได้ซะทีเดียว "เอางั้นก็ได้" เคนรับปากอย่างงงๆแล้วเดินกลับมานั่งลงที่โต๊ะ โดยที่ไจ่ไจ๋ตักข้าวต้มมาเสริฟให้ทุกคน จนเมื่อทุกคนเริ่มลงมือกินพี่ชิงชิงก็มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะรสชาติข้าวต้มในชามของเธอมันทั้งเปรี้ยวและทั้งหวานจัดจนกินไม่ได้ "พี่ชิงชิง" เคนสังเกตเห็นท่าทางของพี่ชิงชิงจึงเอ่ยปากเรียก พี่ชิงชิงกลืนข้าวต้มลงคอก่อนจะรีบยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม เลยพลอยทำเอาคนอื่นหยุดมือไปด้วย "ไม่อร่อยหรอครับ?" ไจ่ไจ๋ถามขึ้นมาพร้อมกับยิ้มเยาะที่มุมปาก เพียงแค่นี้พี่ชิงชิงก็รู้ได้ทันทีว่านี่เป็นฝีมือของใครแต่ด้วยความไม่อยากมีเรื่องเธอจึงไม่พูดออกมา "เปล่าหรอก แต่พี่นึกขึ้นได้ว่าวันนี้พี่มีนัดหมอฟันเอาไว้ คงกินต่อไม่ได้แล้วหละ" พูดจบก็ยกชามข้าวต้มจะไปเททิ้งแต่แวนเนสร้องห้ามก่อน "ไม่ต้องหรอกครับพี่ชิงชิง วางไว้เถอะเดี๋ยวพวกผมจัดการเอง" แวนเนสก็พลอยเชื่อคำพูดนั้นไปด้วย "ไม่เป็นไรพี่เก็บให้ดีกว่า" พี่ชิงชิงว่าแล้วก็ยกชามนั้นจะไปเททิ้งแต่แวนเนสก็ร้องห้ามอีก "อย่าทิ้งนะพี่ชิงชิง! เดี๋ยวผมกินต่อเอง!" คำพูดของแวนเนสทำให้ไจ่ไจ๋สะดุ้งเล็กน้อย เพราะเขาคาดเดาไว้แล้วว่าหากพี่ชิงชิงรู้ว่าเขาเป็นคนแกล้งคงจะทำนิ่งเฉยเช่นนี้ หรือหากพี่ชิงชิงโวยวายจริงเขาก็พร้อมที่จะอาละวาดกลับเช่นกัน "ในหม้อมีอีกเยอะแยะ พี่รองจะไปกินต่อจากคนอื่นทำไม" ไจ่ไจ๋ตวัดเสียง "กินต่อที่ไหน พี่ชิงชิงตักกินแค่คำเดียวเอง เสียดายของ" แวนเนสว่าแล้วก็ยกชามข้าวต้มในมือของพี่ชิงชิงมาวางข้างตัว "ผมอุตส่าห์ตั้งใจทำให้พี่ชิงชิง น่าเสียดายที่พี่กินไม่หมด" ไจ่ไจ๋แกล้งทำหน้าผิดหวังแต่ในใจลึกๆก็สะใจที่แกล้งพี่ชิงชิงได้สำเร็จ "คิดดูอีกทีไหนๆไจ่ไจ๋ก็อุตส่าห์ตักให้พี่แล้ว งั้นพี่กินเสร็จก่อนแล้วค่อยไปก็ได้ สายหน่อยคงไม่เป็นไร" พูดจบพี่ชิงชิงก็ยกชามข้าวต้มถ้วยเดิมมาวางแล้วตักเข้าปากด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ทำเอาคนก่อเรื่องถึงกับอึ้ง ในขณะที่สามหนุ่มที่เหลือก็ได้แต่ทำหน้างงๆ "ไม่ต้องกินแล้ว!" ในที่สุดไจ่ไจ๋ก็เอ่ยปากแล้วเดินไปดึงช้อนในมือของพี่ชิงชิงออก เขาไม่รู้ว่าที่พี่ชิงชิงทำแบบนี้เป็นเพราะต้องการเล่นงานเขาทางอ้อมหรือเป็นเพราะอยากจะช่วยเขาจริงๆกันแน่ "อะไรน่ะไจ่ไจ๋! ทำไมถึงเสียมารยาทแบบนี้!" แวนเนสเอ็ดน้องชายแล้วเอากระดาษทิชชู่เช็ดแขนพี่ชิงชิงที่เลอะน้ำข้าวต้มเพราะไจ่ไจ๋แย่งช้อนออกไป "เธอมีน้ำใจกับพี่โดยตักข้าวให้พี่กินแล้วพี่จะไม่รับน้ำใจจากเธอได้ยังงัย" พี่ชิงชิงว่าพร้อมกับสบตากับไจ่ไจ๋ด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ไม่ต้องออกนอกเรื่องหรอก! บอกพี่ชายผมไปสิว่าข้าวต้มชามนี้มันเป็นอะไร!" ไจ่ไจ๋กระแทกเสียง เพียงเท่านั้นเคนก็รู้ทันทีว่าน้องได้ทำอะไรลงไป "ไจ่ไจ๋! ทำไมถึงทำแบบนี้!" เคนทำเสียงดุน้องด้วยความไม่พอใจ "ผมทำในสิ่งที่ผมรู้สึกว่าอยากจะทำ!" ไจ่ไจ๋เถียงกลับเสียงแข็ง "เงียบเดี๋ยวนี้! ทั้งคู่เลย!" เจอร์รี่ที่เงียบอยู่นานออกคำสั่งเสียงเด็ดขาดแล้วลุกขึ้นยืน "นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น!" ถามน้องชายด้วยน้ำเสียงดุดัน จนไจ่ไจ๋นึกกลัว "เจอร์รี่....ใจเย็นๆเถอะ เรื่องเล็กน้อยเอง" พี่ชิงชิงปราม "พี่ชิงชิงครับ ผมขอโทษที่ต้องเสียมารยาทกับพี่ แต่ไจ่ไจ๋เป็นน้องผมและผมอยากจัดการเรื่องนี้กับเขาเพียงลำพัง" เจอร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดก่อนจะหันไปทางน้องชายอีกสองคน "แวนเนส เสี้ยวเทียน พวกนายสองคนก็ออกไปก่อน" แวนเนสกับเคนมีท่าทางเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาไม่อยากปล่อยให้น้องเล็กอยู่ตามลำพังกับพี่ชายที่กำลังโกรธมากเช่นนี้ "เจอร์รี่....." แวนเนสอ้าปากจะพูดแต่กลับโดนพี่ชายตวาดกลับมา "ไม่ได้ยินที่ชั้นพูดหรืองัย!" แวนเนสกับเคนสะดุ้งไปตามๆกัน แต่คนที่สะดุ้งมากกว่าใครเห็นจะเป็นไจ่ไจ๋ "พาพี่ชิงชิงออกไปด้วย" จบคำพูดนั้นเคนกับแวนเนสก็ลอบสบตากัน "อย่าทำอะไรรุนแรงกับน้องนะ เธอน่าจะรู้ดีว่าหากเธอทำแบบนั้นแล้วคนที่เจ็บที่สุดจะเป็นใคร" พี่ชิงชิงไม่แย้งอะไรเพียงแต่พูดเตือนสติเจอร์รี่และพยักหน้าให้แวนเนสกับเคนออกมาด้วย "ทำแบบนี้ทำไม" เมื่ออยู่กันตามลำพังแล้วเจอร์รี่ก็เอ่ยถามน้องเล็กด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไจ่ไจ๋ลอบมองหน้าพี่ชายก่อนจะก้มหน้านิ่งไม่ตอบ "จะพูดมั๊ย?" พี่ใหญ่ถามย้ำแต่ไจไจ๋ก็ยังคงนิ่งเงียบ ตอนนี้เขารู้สึกน้อยใจที่พี่ชายทำเรื่องเล็กน้อยให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งที่เรื่องดังกล่าวมันไม่ได้เป็นอันตรายกับพี่ชิงชิงเลย "นายรู้มั๊ยว่าพี่ชิงชิงเขาเป็นคนยังงัย" เจอร์รี่ถามแต่ไม่รอคำตอบจากน้อง "เมื่อกี้หากเขาบอกว่าจะกินข้าวต้มชามนี้ให้หมด เขาก็จะทำ" เจอร์รี่พูดต่อโดยมองน้องชายด้วยสายตาเย็นชา "นายคิดว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังงัย" พูดจบก็จ้องหน้าน้องชายอย่างต้องการคำตอบ "ดูท่าพี่ใหญ่จะรู้ใจเขาดีมากเลยนะ" น้องเล็กประชด "เขามีสิทธิเลือกอยู่แล้วว่าจะกินหรือไม่ ซึ่งผมคิดว่าเขาเลือกอย่างหลัง เพราะเมื่อกี้ก็เห็นแล้วว่าเขาทำแบบนั้นเพื่อให้ทุกคนรับรู้เพื่อจะให้ทุกคนต่อว่าผมและเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องกินข้าวต้มที่ผมอุตส่าห์มีแก่ใจทำเผื่อคนนอกอย่างเขา" พูดจบก็จ้องหน้าพี่ชายด้วยแววตาดื้อรั้น "พี่ไม่คิดเลยนะว่านายจะเป็นคนแบบนี้ไปได้" พี่ใหญ่ว่าพร้อมกับเบือนหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความผิดหวัง "ผมเลวมากงั้นหรอ?" ไจ่ไจ๋โพล้งถามออกมาด้วยความน้อยใจระคนเสียใจที่พี่ชายต่อว่าเขา "ไจ่ไจ๋!!" พี่ใหญ่เองก็ตกใจที่น้องพูดออกมาแบบนั้น "พี่ใหญ่ทำเหมือนกับผมไปทำเรื่องผิดกฎหมายมาอย่างนั้นแหละ" ไจ่ไจ๋พูดต่อด้วยความโมโห เจอร์รี่เองก็โมโหแต่พยายามที่จะไม่ตอบโต้เพราะรู้ว่าตอนนี้ต่อให้เขาพูดอะไรออกไปน้องเล็กก็คงไม่ฟังอีกแล้ว "ได้! ในเมื่อพี่ใหญ่มั่นใจในตัวพี่ชิงชิงนัก ผมก็จะทำให้พี่ใหญ่ดูบ้างว่าผมเองก็พูดจริงทำจริงเหมือนกัน!" พูดจบไจ่ไจ๋ก็ยกชามข้าวต้มเจ้าปัญหามาวางตรงหน้า "ในเมื่อผมเป็นคนทำมันขึ้นมาผมก็จะกินมันเอง!" พูดจบก็ตักข้าวต้มในชามกินอย่างรวดเร็ว ทำให้พี่ใหญ่นิ่งอึ้งอย่างคาดไม่ถึง "พอได้แล้ว!!" เมื่อได้สติเจอร์รี่ก็ร้องห้ามเสียงดังแต่ไจ่ไจ๋กลับตักข้าวต้มในชามกินไม่ยอมหยุด จนเจอร์รี่ต้องเดินเข้ามาแล้วเอ่ยห้ามอีก "หยุดได้แล้วไจ่ไจ๋!!" พี่ใหญ่แทบจะตะโกนใส่แต่เมื่อเห็นน้องไม่ยอมหยุดกินเขาก็เอามือปัดชามข้าวต้มตกลงพื้นแตกกระจาย "เพล้ง!!" สองคนพี่น้องต่างตกอยู่ในความเงียบ และไม่นานแวนเนสกับเคนก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามาพร้อมกับพี่ชิงชิง "เกิดอะไรขึ้น?" แวนเนสเอ่ยถามเมื่อเห็นสภาพตรงหน้า ในตอนนั้นเองไจ่ไจ๋ก็วิ่งสวนออกไปแล้วตรงขึ้นไปบนห้องนอนทันที "นายทำอะไรน้อง!?" เคนปราดเข้าไปบีบแขนพี่ชายพร้อมกับร้องถาม เจอร์รี่ปัดมือเคนออกแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น "เจอร์รี่!! นายทำอะไรลงไป!" เคนยังไม่ยอมแพ้เดินมาตรงหน้าพี่ชายแล้วถามเสียงเครียด "โธ่โว้ย!! พูดสิวะ!!" เคนตวาดใส่แล้วเขย่าตัวพี่ชายแรงๆ "ปล่อย!" เจอร์รี่พูดคำเดียวสั้นๆแล้วจ้องหน้าน้องชายคนกลางที่กำลังหงุดหงิดใส่เขา "เสี้ยวเทียน.....ใจเย็นๆก่อน นายไปดูไจ่ไจ๋ดีกว่า" แวนเนสเห็นว่าพี่ชายเองก็มีอารมณ์ฉุนเฉียวไม่น้อยเลยไม่อยากให้ใครต้องปะทะกันอีก เคนชี้หน้าเจอร์รี่พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ถ้านายทำอะไรน้องแม้แต่นิดเดียว ชั้นจะไม่ปล่อยนายแน่" พูดจบก็หันหลังกลับแล้วตามน้องเล็กไปทันที "เจอร์รี่.....พี่ว่าเธอไปนั่งให้อารมณ์เย็นลงกว่านี้เถอะ" พี่ชิงชิงเดินไปแตะแขนเจอร์รี่พร้อมกับเอ่ยเบาๆ "ผมอยากออกไปข้างนอก" เจอร์รี่พูดจบก็หยิบกุญแจรถแล้วขับรถออกไปทันที ทิ้งให้พี่ชิงชิงกับแวนเนสมองหน้ากันไปมา "แย่ชะมัด! ผมไม่น่าปล่อยให้เจอร์รี่อยู่กับไจ่ไจ๋ตามลำพังเลย" แวนเนสว่าพร้อมกับเอามือทุบโต๊ะเบาๆ พี่ชิงชิงนิ่งไปครู่หนึ่งแต่ไม่ตอบว่าอะไรเพียงแต่เดินไปเก็บซากชามที่แตกกระจายตรงพื้นเงียบๆ
- ห้องนอนไจ่ไจ๋ - "ไจ่ไจ๋....พี่ใหญ่ทำอะไรนายหรือเปล่า? บอกพี่สิ....พี่จะจัดการมันเอง" เคนเดินมาลูบหัวน้องชายที่นอนสะอื้นอยู่บนเตียง ซึ่งไจ่ไจ๋เองก็ได้แต่ส่ายหน้า เหตุการณ์เมื่อซักครู่นี้ทำให้เขากลัวและตกใจมาก แม้การแสดงออกของพี่ใหญ่จะคล้ายว่าเป็นห่วงเขาแต่การปัดข้าวของตกแตกเช่นนั้นไม่ใช่นิสัยของพี่ชายเลยซักนิดนั่นจึงทำให้ไจ่ไจ๋ทั้งกลัวทั้งตกใจ "หันหน้ามาให้พี่ดูหน่อยได้มั๊ย? นายเป็นอะไรหรือเปล่า?" เมื่อน้องยิ่งไม่พูดเคนก็ยิ่งเป็นห่วง เขาพยายามผลักตัวให้น้องหันหน้ามาหาเขาแต่น้องชายกลับเอาผ้าห่มปิดหน้าแล้วร้องไห้ดังขึ้นกว่าเดิม ถึงเคนจะรู้อยู่เต็มอกว่าน้องเล็กของเขาทำผิดแต่การที่พี่ชายใส่อารมณ์หรือลงโทษน้องชายเช่นนี้เขาไม่เห็นด้วยเลยซักนิด "ไจ่ไจ๋ พี่ขอโทษ....พี่น่าจะอยู่กับนาย....." ยิ่งน้องเอาแต่เงียบเคนเองก็เริ่มอยากจะร้องไห้ตามไปด้วย "ผมไม่เป็นไร พี่กลางออกไปก่อนได้มั๊ย?" ไจ่ไจ๋เอ่ยขึ้นในที่สุด แต่คำพูดเช่นนี้เป็นสิ่งที่เคนไม่อยากได้ยินเลย เขาอยากให้น้องชายโผเข้ามาหาอ้อมกอดของเขาและรับฟังคำปลอบโยนของเขาที่พร้อมจะมีให้เสมอมากกว่า "แต่ไจ่ไจ๋...." เคนตั้งท่าจะแย้งแต่ไจ่ไจ๋แทรกขึ้นมาก่อน "ขอร้องเถอะ ผมอยากอยู่คนเดียว" จบประโยคนั้นเคนก็ไม่มีอะไรที่จะคัดค้านได้อีก บางทีการที่น้องอยู่คนเดียวอาจจะทำให้อะไรๆดีขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้ "โอเค...พี่จะออกไปก่อน แต่ถ้านายต้องการก็เรียกพี่ได้ตลอดนะ" เคนว่าแล้วก็ยอมจำใจเดินออกจากห้องนอนของน้อง "น้องเป็นยังงัย?" ทันทีที่เคนเดินลงมาแวนเนสก็ปราดเข้ามาถามทันที "เอาแต่ร้องไห้แล้วก็ไม่ยอมบอกอะไรเลยซักอย่าง อีกทั้งยังบอกว่าอยากอยู่คนเดียว" เคนตอบแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆบ้าน "เจอร์รี่มันออกไปไหนไม่รู้ ส่วนพี่ชิงชิงไปเก็บของ" แวนเนสตอบก่อนที่น้องจะทันได้ถาม "เก็บของ?" เคนทวนคำเป็นเชิงถาม "อืม....พี่เขาจะไปแล้ว" แวนเนสพูดจบก็ถอนหายใจ "ไม่นึกว่าเรื่องจะลงเอยแบบนี้" เคนเอามือกุมขมับก่อนจะเดินไปทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟา "แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน พี่ชิงชิงไม่อยู่แล้วเรื่องทุกอย่างอาจจะดีขึ้นก็ได้" เคนพูดเบาๆแล้วหลับตาลง "เดี๋ยวชั้นต้องไปทำงาน" แวนเนสเอ่ยขึ้นมาทั้งที่ไม่อยากไปไหนเพราะห่วงน้อง "ไปเถอะ ถึงอยู่ก็คงไม่ได้ทำอะไร ไจ่ไจ๋คงไม่ยอมโผล่หน้าลงมาภายในวันนี้แน่" เคนลืมตาแล้วพยักหน้าให้พี่ชาย "ถ้ามีอะไรจะโทรหา" แวนเนสยิ้มให้น้องแล้วตบไหล่เบาๆ "นายก็ไม่ต้องคิดมาก ไจ่ไจ๋ไม่เป็นอะไรหรอก" พูดจบก็เดินออกจากบ้านไปทันที เคนมองตามร่างพี่ชายจนลับตาแล้วก็ได้แต่นั่งถอดถอนใจคนเดียว "เสี้ยวเทียน" เสียงพี่ชิงชิงเรียกเบาๆ "พี่ชิงชิง" เคนลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นยืนพี่ชิงชิงวางกระเป๋าลงข้างตัว "พี่ขอโทษพวกเธอด้วยที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องวันนี้ขึ้นมา" พี่ชิงชิงพูดด้วยสีหน้าเศร้าๆ "ไม่หรอกครับ ผมต่างหากที่ต้องขอโทษพี่ชิงชิงแทนน้อง เขายังเด็กเลยขาดความยั้งคิดไปบ้าง" เคนพูดจบก็ก้มหัวให้พี่ชิงชิง "ไม่หรอก บางทีที่เธอพูดอาจจะถูก....คนที่มีชีวิตครอบครัวที่ล้มเหลวแบบพี่ย่อมไม่เข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวเดียวกันได้หรอก" พี่ชิงชิงว่าแล้วยิ้มเฝื่อนๆ "พี่ชิงชิง!" เคนร้องครางแล้วรีบพูดต่อ "ตอนนั้นที่ผมพูดไปก็เพราะไม่รู้จักคิดให้ดีซะก่อน ผมอยากจะขอโทษพี่ชิงชิงที่พูดจาไม่น่าฟังแบบนั้นกับพี่" พูดจบเคนก็ก้มหัวให้พี่ชิงชิงอีก "พี่รับคำขอโทษจากเธอก็แล้วกัน" พี่ชิงชิงรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อยเพราะอย่างน้อยเธอก็รู้ว่าเคนพูดมันออกมาจากใจจริง "พี่ไปก่อนนะ ฝากลาเจอร์รี่ แวนเนสและก็ไจ่ไจ๋แทนพี่ด้วย" พูดจบพี่ชิงชิงก็หยิบกระเป๋าที่วางอยู่ขึ้นมา "พี่จะไปไหนครับ? เรื่องบ้านยังไม่เรียบร้อยไม่ใช่หรอ" เคนถาม "ไม่เป็นไร คนเช่าเขาสัญญาว่าจะออกสิ้นเดือนแน่ๆ ช่วงนี้พี่ไปหาเช่าโรงแรมนอนได้ไม่ยากหรอก" พี่ชิงชิงยิ้มให้เคน "ขอโทษด้วยนะครับ ทั้งที่พ่อแม่เป็นคนชวนพี่มาอยู่ที่นี่แต่มันกลับทำให้พี่ได้ความรู้สึกแย่ๆกลับไป" เคนพูดด้วยความจริงใจ "ไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียวหรอก ช่วงที่พี่อยู่ที่นี่พี่เองก็รู้สึกดีที่ได้เห็นความผูกพันระหว่างพี่น้องของพวกเธอ แม้บางครั้งจะเถียงกันจะทะเลาะกันแต่สุดท้ายพวกเธอก็ยังรักกันดีอยู่ เห็นแบบนี้แล้วพี่เองก็อดที่จะคิดถึงน้องชายของพี่ไม่ได้ ถ้าตอนนี้เขายังอยู่พี่คงได้ทำหน้าที่พี่ที่ดีให้เขาแน่ๆ" เคนได้ยินเช่นนั้นก็มีสีหน้าสลดลง "ผมเชื่อว่าเขารับรู้ถึงความรักที่พี่มีให้เขาได้แน่ครับ ให้ผมเรียกแท็กซี่ให้นะ" พูดจบเคนก็เดินไปดึงกระเป๋าจากพี่ชิงชิงมาถือให้แล้วเดินนำออกไปก่อน "ขอบใจมากเสี้ยวเทียน หวังว่าคงมีโอกาสได้พบกันอีก" พี่ชิงชิงเปิดกระจกรถเอ่ยลาเคนหลังจากที่ขึ้นไปนั่งเรียบร้อยแล้ว "แล้วเจอกันใหม่ครับ" เคนว่าพร้อมกับโบกมือให้พี่ชิงชิง เขายืนมองจนรถหายลับตาไปจึงค่อยเหลียวกลับไปมองยังตัวบ้าน "ไจ่ไจ๋คงไม่ยอมลงมาแน่" เคนพูดกับตัวเองแล้วยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู "ไปเดินเล่นซักพักคงไม่เป็นไร" พูดจบก็หันไปปิดประตูบ้านแล้วเดินเรื่อยเปื่อยไปตามทาง ตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อยใจจึงตัดสินใจว่าจะไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆบ้านให้รู้สึกผ่อนคลายบ้างเพื่อที่กลับมาจะได้รับมือกับปัญหาต่างๆที่รออยู่ให้ดีขึ้นมากกว่าเดิม
Create Date : 20 เมษายน 2560 |
Last Update : 20 เมษายน 2560 19:58:17 น. |
|
23 comments
|
Counter : 5936 Pageviews. |
|
|
วันนี้ลงตอนใหม่ให้แล้วหลังจากห่างหายมานาน
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม อ่านให้สนุกค่ะ