Somebody's me... Nobody's know.. You are what you thinks.. and.. I am who i am.. Whatever will be, will be..
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2564
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
12 พฤศจิกายน 2564
 
All Blogs
 
ภพผูกรัก บทที่ 7/3



             รุ้งตะวันลอบหัวเราะแต่ก็ต้องยิ้มแห้งเมื่อสบแววตาตำหนิจากจมื่นพิภพที่นั่งหน้าตึง เธอไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขาจึงทำท่าเคืองเช่นนั้นกระทั่งคำพูดต่อมาของเขา
            “เรื่องเพศรสมิใช่วิสัยเอามาพูดเรื่อยเฉื่อย”
            “แต่สมัยนี้มันเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วจะตาย”
 เธอไม่วายเถียงแต่ได้รับสายตาตำหนิจากจมื่นพิภพโอสถอีกตามเคย ไม่นานเขาก็เสไปเรื่องอื่นจนได้
            “ข้าเห็นเอ็งจ้องกองกลางนั่นเป็นพิเศษ มีกระไร”
            ขาดคำชายหนุ่ม รุ้งตะวันก็ก้มมองใบสีเขียวที่มีกระดูกใบแดงเรื่อ ริมขอบใบเขียวมากกว่าพื้นใบและตัดขอบขาวเล็กน้อยคล้ายจงใจ จู่ๆ ดวงหน้านวลก็ขึ้นสีเรื่อ ปลายจมูกเริ่มแดงเพราะเก็บกดรอยสะอื้นไว้ไม่ให้ไหลออกมา
            ตอนนี้เธอคิดถึงคนที่สอนให้รู้จักว่านชนิดนี้มากที่สุด...
             รุ้งตะวันครุ่นคิดจิตใจล่องลอยไปถึงเมื่อครั้งยังเล็กซึ่งเป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขมากที่สุดเพราะไม่ต้องรับผิดชอบ ไม่ต้องแบกภาระการงาน เธอแค่เรียนเล่นไปวัน ๆ ตามประสาเด็ก เวลาว่างก็มาขลุกอยู่ที่อาศรมคุณปู่ทุกวันจนทำให้เธอซึมซับทุกอณูของพืชพรรณที่คุณปู่วันชัยสอนสั่ง
            “นี่คือต้นอะไรหรือคะคุณปู่”
            เด็กหญิงรุ้งตะวันในวัยสิบปีช้อนใบไม้ขนาดใหญ่ที่มีลำต้นสีแดงเหมือนขมิ้นวางบนมือป้อมๆ เธอก้มลงสูดกลิ่นแล้วมุ่นคิ้วจนผู้เป็นปู่มองตามแล้วยีผมเธอเบาๆ
           “แล้วเจ้าว่าคิดว่านี่คือต้นอะไร”
           “ขมิ้นหรือคะ”
            “ไม่ใช่ขมิ้นหรอก นี่คือพญาว่าน[1]ต่างหาก”
            “พญาว่านหรือคะ” เด็กหญิงทวนคำก่อนส่งสายตาวิบวับกระตือรือร้นอยากรู้แล้วถามต่อ  “ทำไมถึงชื่อพญาว่านล่ะคะคุณปู่”
           “ก็เพราะพญาว่านเป็นสุดยอดของวงศ์วานว่านทุกชนิดไง สรรพคุณของว่านชนิดนี้เรียกได้ว่าครอบจักรวาลรักษาได้สารพัดโรคทีเดียว”
            “หนูไม่เข้าใจทำไมคุณปู่ถึงปลูกสมุนไพรเยอะแยะขนาดนี้ด้วยคะ จำไม่ไหวแล้วเนี่ย”
             เด็กหญิงเอ่ยงอแง แต่ที่ได้รับกลับเป็นฝ่ามืออบอุ่นของผู้เป็นปู่ที่ลูบศีรษะเธอไปมาอย่างรักใคร่ เธอแม้ไม่เข้าใจแต่สัมผัสได้ถึงความรักของคุณปู่ที่มีต่อเธอและสรรพชีวิตที่ก่อกำเนิดมาในอาศรมคุณปู่ที่ล้วนแล้วแต่ได้รับการฟูมฟักอย่างทนุถนอมรักใคร่
             รุ้งตะวันนึกขึ้นมาแล้วถึงกับน้ำตารื้นจนจมื่นพิภพโอสถกระแอมเตือนอีกครา...
             “มีกระไร ฤาเอ็งร้องไห้”
             “เปล่า”
             “แต่ข้าเห็นนะเจ้าตะวัน...”
             จริงสิ...
              คนตรงหน้านี้ก็เรียกเธอว่าเจ้าตะวัน!
              รุ้งตะวันตาวาวขึ้นทันใด เธอนึกออกแล้วว่าคำเรียกขานนี้มีที่มาจากไหน แล้วทำไมคุณปู่จึงเรียกเธอแบบเดียวกับที่คุณภพเรียก
              “เจ้าตะวันของปู่...”
              รุ้งตะวันกำซาบเสียงอ่อนโยนของปู่ไว้ในความทรงจำอีกครั้งก่อนจะเงยหน้านองน้ำตาขึ้นมองจมื่นพิภพโอสถแล้วปาดออกก่อนเอ่ย
              “กองกลางสุดท้ายในถาดนี้คือพญาว่าน เป็นสุดยอดของว่านทั้งมวล”
              “สุดยอดกระไรกัน นี่มันแค่ว่านนางคำหาได้ดาษดื่น” คุณหญิงแย้ง
              หญิงสาวจึงเอ่ยไขข้อข้องใจชนิดรวบยอดต่อ “ชื่อนี้ก็ใช่อยู่ แต่ในสมัยนี้เรียกจำกัดความตามสรรพคุณว่าพญาว่าน แม่นายคงไม่ทราบสรรพคุณครอบจักรวาลของมัน  ว่ากันว่าที่ใดปลูกว่านมักจะนำพญาว่านมาปลูกนำจากนั้นว่านทั้งหมดก็จะกลายเป็นพญาว่านตามไปด้วย แล้วส่วนกระจาดนี้ก็เป็นสมุนไพรพื้นบ้านทั่วไปที่ใช้ทำอาหารก็ได้ กินแนมก็ดี สกัดเป็นยาอายุวัฒนะก็ได้ใช้ประโยชน์ได้มากมาย  รวมถึงเจ้าพริกนี่ก็ด้วย... จริงไหมพี่แส”
           “จะ... จะ... จริง เอ๊ย! ข้าไม่รู้!”
           นางแสถอยห่างเพราะเห็นรุ้งตะวันหยิบพริกขี้หนูเขียวสดที่ถูกขยี้จนแตกขึ้นมายื่นต่อหน้าก็สะบัดหน้าจนแก้มอ้วนสั่นไปมา กระนั้นก็หาได้หยุดรุ้งตะวันไม่
           “ลองชิมพริกสดๆ ที่ถูกขยี้แตกดูหน่อยนะพี่แส... มันแซ่บมากกอไก่ล้านตัวเลย”
           “มะ... ไม่! ไม่นะเจ้าคะแม่นาย แสไม่กินเผ็ดนะเจ้าคะ แสแพ้เม็ดพริกเจ้าค่ะ!”
           “ลองหน่อยน่า พี่แสรู้ไหมว่าผิวขาวๆ อย่างพี่แสเขาเรียกว่าคนมีโลหิตรสหวานเหมาะกับการใช้ยารสเผ็ดร้อนและขมเผื่อจะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลและที่สำคัญผิวหน้าผ่องใสไร้ไฝฝ้าด้วยนา”
           “ไม่! ใครบอกกันว่าข้าผิวขาว ข้าผิวเหลืองต่างหาก!”
           รุ้งตะวันลอบยิ้มก่อนหันไปบอกจมื่นพิภพโอสถกับคุณหญิงกำไลต่อ “ตกลงคืนนี้ฉันคงไม่ต้องระเห็จลงจากเรือนและมีที่ซุกหัวนอนแล้วใช่ไหมคะ”
            “ย่ะ!”
            พูดจบคุณหญิงก็ลุกขึ้นเดินนำนางแสที่เดินคอตกตามห่างๆ ก่อนลงบันไดไปจนลับตา  รุ้งตะวันจึงถอนหายใจเฮือกทิ้งตัวลงนั่งขัดสมาธิอย่างหมดอาลัยตายอยาก
            “เฮ้อ! จบซะที”
            “จบกระไร” จมื่นพิภพโอสถที่นิ่งฟังอยู่นานเอ่ยถามสีหน้าเครียด
             “ก็เลิกเล่นเป็นคนยุคสมัยกรุงศรีได้แล้วนะคะ ฉันเหนี่อย นี่มันสมัยนี้แล้วเลิกซ่อนกล้องกับฉันได้แล้วนะ” รุ้งตะวันพูดลอย ๆ แต่เสียงดังเพราะต้องการให้ได้ยินทั่งถึงบริเวณ แต่ปรากฏว่าทุกอย่างเงียบกริบดังเดิม
            “เอ็งบอกว่าสมัยนี้รึ”
            “ใช่! หรือคุณภพคิดว่านี่เป็นกรุงศรีเมื่อหลายร้อยปีที่แล้วกันแน่ ถ้าใช่ฉันคงนั่งไทม์แมชชีนมาละมั้ง อย่าล้อเล่นกันแบบนี้เลยค่ะ ฉันเหนื่อย  เบื่อจะเล่นตามน้ำแล้วด้วย ฉันอยากกลับบ้าน ฉันคิดถึงพ่อแม่ คิดถึงอาศรมคุณปู่ป่านนี้คนไข้คงรอแย่แล้ว”
            “เมื่อครู่เจ้าว่ากรุงศรีเมื่อหลายร้อยปีที่แล้วกระนั้นหรือ” จมื่นพิภพโอสถแย้ง
            “ใช่...”
            “เอ็งบอกว่านั่งทามมะชีนมา”
            “ก็ใช่สิคะ อย่าบอกว่าคุณภพไม่รู้จักไทม์แมชชีนของโดราเอม่อนนะ” เธอว่าพลางส่ายหน้าระอา
            จมื่นพิภพโอสถนิ่งงันไปครู่ก่อนเอ่ยเสียงกร้าว “พูดจามิระวังราวคนสติวิปลาส ต่อไปห้ามพูดเช่นนี้อีก ข้าเกรงว่าสักวันหัวเอ็งจะกุดจากบ่าเพราะผีเจาะปากมาพูดของเอ็ง”
            “โอ๊ย! แรง! อะไรกันเนี่ย เล่นใหญ่รัชดาลัยมาก ฉันไม่เถียงคุณภพแล้วว่านี่คือกรุงศรีจริงๆ เพราะที่นี่ก็คือจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนี่ก็พ.ศ. 2560 จริงๆ”
             “เป็นไปไม่ได้!”
             “อะไรอีกล่ะคะ!”
              จมื่นพิภพโอสถนิ่งงันก่อนเอ่ยเสียงแผ่วเบา “นี่มิใช่ที่เอ็งบอก”
              “งั้นคุณคิดว่านี่เป็น พ.ศ.ไหนกันล่ะคะ”
              “ปีนี้มะแม นพศก จุลศักราช 849”
              “หา!”
              รุ้งตะวันถึงกับตะลึงงัน ดวงตาเบิกกว้างจ้องชายหนุ่มประเมินคำพูดของเขา แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือแววตาจริงจังที่ไม่มีแม้แต่จะหลบตาเธอสักเสี้ยววินาที
              “คุณภพโกหก!”  รุ้งตะวันโพล่งขึ้นแล้วกอดอกสีหน้าขึงขัง เธอไม่อยากเชื่อแต่ก็อยากรู้ ยิ่งเห็นท่าทางอมภูมิและสีหน้าไม่รู้สึกรู้สมของจมื่นพิภพโอสถแล้วยิ่งขุ่นใจ
            “ข้าจะโกหกเอ็งไปใย หากเอ็งไม่เชื่อข้าก็ไม่รู้จะทำกระไร ข้าคิดว่าเอ็งคงสติวิปลาสไปแล้ว”
            “ไม่! นะ ฉันไม่ได้บ้า!” รุ้งตะวันร้องลั่น
            “เช่นนั้นก็หุบปากเจ้าแล้วฟัง”
            “คุณจะหลอกอะไรฉันอีกคะ”
            รุ้งตะวันหันรีหันขวางมองปราดรอบกายทุกสิ่งดูจะไปได้ดีกับคำพูดของจมื่นพิภพโอสถจนเธออยากจะคิดว่าที่เขาพูดคือเรื่องจริง แต่จะเป็นไปได้อย่างไรกันที่คนอย่างเธอจะตกน้ำแล้วตื่นมาพบว่าตัวเองย้อนกลับมายังอดีตนานหลายร้อยปีถึงเพียงนี้  มันต้องเป็นแผนของคนที่ส่งจดหมายข่มขู่เธอให้ขายเรือนโบราณหลังนี้เป็นแน่!
             “ข้าจะหลอกเอ็งเพื่อกระไรเล่าเจ้าตะวัน” จมื่นพิภพโอสถเอ่ยอย่างใจเย็น
             รุ้งตะวันช้อนตาปริ่มน้ำตาขึ้นสบก่อนตอบ “ก็หลอกให้ฉันขายเรือนไม้โบราณหลังนี้ให้ในราคาถูกๆ ไง แต่บอกไว้เลยว่าถึงแกล้งกันมากแค่ไหน ฉันก็ไม่ขายสมบัติเก่ากิน!”
             “เอ็งพูดจามิรู้เรื่องไปใหญ่แล้ว พักผ่อนก่อนเถิดวันพรุ่งค่อยว่ากันใหม่”
           “แต่ถ้าไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ฉันก็หลับไม่ลงหรอกคุณภพ”
           “กลับเข้าห้องปิดประตูลงกลอนเสีย ข้าจะให้ละเมียดมาอยู่เฝ้าหน้าห้องแล้วหากฟ้ายังมิสางเอ็งไม่ต้องออกมานอกเรือน มิฉะนั้นข้าไม่รับรองความปลอดภัย แล้วก็...”
            พูดไม่จบสายตาชายหนุ่มก็มองปราดทั่วร่างรุ้งตะวันพลันสีหน้ายุ่งยากเมื่อเลื่อนสายตาขึ้นมาสบแววตาคมเข้มที่แฝงความหมายล้ำลึก กระทั่งจมื่นพิภพโอสถแก้เก้อด้วยการกระแอมเบาๆ อีกครา หญิงสาวก้มมองตามแล้วเงยหน้าขึ้นจ้องจมื่นพิภพโอสถเขม็งก่อนเอ่ย “แล้วก็อะไรคุณภพ!”
            “อย่าให้ผู้ใดรู้ว่าเอ็ง... เป็น... เอ่อ...”
            “คะ!” หล่อนเอียงคอถาม ลุ้นอยู่ว่าเขาจะพูดอะไร แล้วคำตอบของเขาก็ทำให้เธองงงัน
            “อย่าบอกผู้ใดว่าเอ็งเป็นนักโทษแหกตรุ” จมื่นพิภพโอสถพูดจบก็เดินลงบันไดไปทิ้งเธอไว้คนเดียวที่นอกชานกว้าง
รุ้งตะวันฟังแล้วตีอกชกลมอยู่คนเดียว เพราะเขายังคงยืนคำพูดเดิมเรื่องที่เธอเป็นนักโทษแหกตรุโดยไม่ไขความกระจ่างให้เธอแม้กระผีกลิ้นเดียว
             โอย... จะบ้า!
             หญิงสาวก้าวตามหลังจมื่นพิภพลงบันไดไปโดยไม่รั้งรอ แต่เมื่อลงมาเหยียบพื้นหญ้าด้วยเท้าเปล่าก็พบว่าชายหนุ่มหายลับไปแล้ว....

            เสียงหรีดหริ่งเรไรร่ำร้องระงม ความเงียบและความมืดคืบคลานเข้าปกคลุม รุ้งตะวันห่อตัวทันทีที่ลมเย็นวูบหนึ่งแล่นผ่านปะทะผิวกาย
            เหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลก!
            ทุกคนคงสนุกที่เห็นเธอเป็นเหมือนตัวตลก!
            แค่คิดก็บ้าแล้ว!
            ไม่เชื่อ!
            รุ้งตะวันร่ำร้องในใจ สมองสั่งการให้เธอมองหาใครสักคนให้ไขความกระจ่างให้แต่ทว่าไม่มีสักคนที่อยู่ในละแวกนี้ มาช่วยพาเธอกลับบ้าน หญิงสาวเดินแกมวิ่งไปที่ศาลาท่าน้ำชะโงกมองเผื่อจะมีใครผ่านไปมาแต่หามีไม่
            ทุกสิ่งทุกอย่างว่างเปล่าเต็มไปด้วยความมืดมิด...
            “ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”
            หญิงสาวตบหน้าผากตัวเองเบาๆ ทอดถอนใจออกมาอย่างอัดอั้นก่อนจะหันหลังกลับไปที่เรือนตามเดิม แต่...
           “กรี๊ด!”
           “กรี๊ด!”
            รุ้งตะวันถึงกับผงะถอยหลังหลายก้าวเพราะดวงหน้าขาวโพลนจ้องเธอไม่พอยังส่งเสียงร้องตามราวกับจะล้อเลียน  เธอยกมือทาบอกตั้งสติพรูลมหายใจติดขัดครู่หนึ่งจึงรู้ว่าอีกฝ่ายคือหญิงกลางคนที่พบเมื่อวาน
           “ละเมียด! ทำไมทาหน้าซะขาววอกแบบนี้ล่ะ”
           “ก็คุณภพสั่งให้ข้าขึ้นมานอนเฝ้าแต่เห็นเอ็งวิ่งเตลิดลงมาเสียก่อนก็เลยตามมา เกิดกระไรขึ้นรึ หรือว่าผีเข้าเอ็ง หรือว่า...”
           “พอๆ ไม่ต้องถามฉันแล้ว” หญิงสาวรีบโบกมือห้ามแล้วแบมือมาตรงหน้าละเมียดก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงติดๆ ขัดๆ ว่า             “ขอยืมมือถือหน่อยสิ ฉันจะไม่บอกใครรู้กันสองคนนะละเมียด”
            “มือ... ถือ...” ละเมียดทวนคำก่อนจะยื่นมืออวบมาวางแปะบนมือเรียวของหญิงสาวแล้วบอกสีหน้าเอียงอาย “นี่เจ้าค่ะ มือ... แต่ถือกระไรหรือ”
           “โอ๊ย! จะบ้า!”
           รุ้งตะวันชักมือกลับแล้วยกมือตัวเองแนบหูบอก “แบบนี้ไง โทรศัพท์มือถือน่ะ ฉันขอยืมหน่อยจะโทรเรียกรถมารับกลับบ้าน”
           ละเมียดส่ายหน้าอวบไปมาแล้วเอ่ยน้ำเสียงหวาดๆ “ที่นี่ไม่มีของที่เอ็งว่าหรอก หากเอ็งจะกลับบ้านต้องรอวันพรุ่งให้คุณภพกลับมาจากธุระและต้องรอกราบแม่นายก่อน”
           “แต่ว่า...” รุ้งตะวันยั้งปากไว้ทันจึงเปลี่ยนคำถามเพราะหากที่ได้ยินจากจมื่นพิภพโอสถกับละเมียดไม่เหมือนกัน เธอต้องจับโกหกได้แน่ “งั้นถามใหม่”
           “ถามกระไรหรือเจ้าคะ” ละเมียดยิ้มแป้นเห็นฟันแดงเถือกเพราะเคี้ยวหมากได้รส สีหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความอยากรู้
            “คือคุณภพบอกฉันว่าปีนี้เป็นปีจุลศักราช 849 งั้นละเมียดบอกฉันหน่อยสิว่าถ้าจริงอย่างคุณภพบอกแล้วใครคือพระเจ้าแผ่นดินในตอนนี้”
            “พระเจ้าแผ่นดิน” ละเมียดทวนคำก่อนพยักหน้าขึ้นลงหลายครั้งอย่างเข้าใจคำถาม “อ๋อ! เอ็งหมายถึงพ่ออยู่หัวกระนั้นฤา”
            “ใช่ๆ ใครเหรอ”
            “อ๋อ หากเอ็งหมายถึงพ่ออยู่หัวสมเด็จพระบรมไตรโลกนายกดิลกผู้เป็นเจ้า[2] เพลานี้ทรงเสด็จไปเสวยราชสมบัติที่เมืองสองแควนานแล้ว มีแต่กรุงศรีอยุธยาที่พระเจ้าลูกยาเสด็จขึ้นครองราชย์แทน”
             “ละเมียดจะบอกว่าตอนนี้ฉันอยู่ในยุคที่กรุงศรีฯ มีกษัตริย์สองพระองค์งั้นหรือ”
            “เจ้าค่ะ พ่ออยู่หัวพระนามพระองค์คือสมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้า[3]เจ้าค่ะ”
            “ไม่จริง!”
             “จริง! ข้าแอบได้ยินพวกบ่าวที่มันไปตลาดพูดกันว่าข่าวลือหนาหูว่าเกิดอาเพศใหญ่สี่อย่างแล้ว เกรงว่าพ่ออยู่หัวของเราอาจจะ...”
             “อาเพศหรือ อาเพศอะไร บอกฉันหน่อยสิละเมียด”
             “ก็เมื่อวานนะสิ เขาว่ากันว่ามีโคตกลูกออกมาตั้งแปดหน้าครบเหตุอาเพศ โค ไข่ ไก่ ข้าว แล้ว อาจเกิดเรื่องใหญ่ เมื่อครู่ไอ้เฟื้องมันกลับมารายงาน คุณภพก็ออกไปเลย”
             “โค ไข่ ไก่ ข้าว หรือ... ไม่จริง!”
             ดวงหน้านวลซีดเผือดเริ่มรับรู้ว่าสิ่งที่คิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่นอาจมิใช่อย่างที่เธอคิด นึกย้อนไปถึงคำทำนายของคุณปู่วันชัยที่เคยทำนายไว้ และบิดาเคยเล่าให้ฟังเมื่อครั้งยังเด็ก
รุ้งตะวันถึงกับสะท้านไปทั้งร่างทันใด...
 
[1] พญาว่าน : 
[2] สมเด็จพระบรมไตรโลกนายกดิลกผู้เป็นเจ้า : พระนามตามกฎหมายศักดินาในกรุงออกพระนามว่าสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 8 ของกรุงศรีอยุธยา และเป็นลำดับที่ 5 แห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิ  ระยะเวลาครองราชย์ 40 ปี ยาวนานที่สุดในอาณาจักรอยุธยา
[3] สมเด็จพระบรมราชาธิราชเจ้า : หรือ สมเด็จพระบรมราชาธิราช 3 เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งกรุงศรีอยุธยา และเป็นลำดับที่ 6 แห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิ มีพระนามเดิมว่าพระบรมราชา เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ระยะเวลาครองราชย์ 3 ปี

+++++++++++++++++++++++

จะลงเมื่อวานแต่เน็ตหมุนติ้วเลยค่ะ เปิดบล็อกยากมากเลยยอมแพ้ วันนี้พอได้รีบมาลงไว้ก่อนค่ะ เผื่อเน็ตจะเข้ายากอีก


หนังสือเปิดจองถึง 10 ธ.ค. นี้ค่ะ สอบถามได้ที่เพจ พิมมาศ ค่ะ

https://www.facebook.com/pimmasnewauthor
หรือร้านหนังสือออนไลน์ที่เปิดจอง มี ร้านนิยายรัก / ร้าน 55 bookstall / ร้านพี่เอ๋ ภาวิกา / ร้านคุณแป๋ม / ร้านคุณจี ค่ะ ส่วนร้านอื่นจะอัปเดตอีกทีนะคะ 
ขอบคุณมากค่า 

ตอนนี้ที่เพจมีเล่นเกมของขวัญปีใหม่ค่ะ
เป็นข้าวกล่อง Tasogare 2 รส ข้าวหน้าแกงกะหรี่กาแฟไก่ กับ ข้าวหน้าครีมไวท์ซอสไก่

กับกาแฟดริป Tasogare เอสเปรสโซ่สไตล์ญี่ปุ่น รสคลาสสิคกับรสนุ่มละมุน

ไปเล่นกันเถอะๆ ^____^




 



Create Date : 12 พฤศจิกายน 2564
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2564 0:42:32 น. 22 comments
Counter : 1035 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณmultiple, คุณเริงฤดีนะ, คุณกะว่าก๋า, คุณkae+aoe, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณThe Kop Civil, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณRinsa Yoyolive, คุณhaiku, คุณtoor36, คุณ**mp5**, คุณชีริว, คุณเจ้าหญิงไอดิน, คุณนกสีเทา, คุณจันทราน็อคเทิร์น


 
โอ้ มิเสียแรงที่น้องรุ้ง ของเราฝึกวิชา มาจากเจ้าคุณปู่นะเนี่ย
ไม่งั้น สอบไม่ผ่าน ต้องไปนอนวัด กินข้าวก้นบาตร แน่นอน 555

ส่วน พญาว่าน นี่ ทำให้ อ.เต๊ะ ต้องไปค้นหารูปดู เผื่อจะมีกะเค้าบ้าง
ไม่มีอะ ว้าๆๆๆ มีแต่ ขิง ข่า ที่หัวคล้ายๆกัน เสียใจ จะเอามาปรุงยาทาหน้าเด็กกะเค้าซักกะหน่อย มีแต่ขิง ข่า ต้องทำต้มยำกินต่อไปก็แล้วกันเรา 555

แล้วก็เรื่องเวลานี่ นพศก จุลศักราช 849 โอ้ นานนมกาเล มากๆๆๆๆๆๆ นึกอะไรไม่ออก ไม่มีอะไรในหัวเลย ต้องโทษสมัยเด็กๆ ไม่ตั้งใจเรียน ประวัติศาสตร์ กะเค้า อิอิ

เพื่อนบล็อก ซีริว สองแผ่นดิน คุณตุ๊ก ร้องกันลั่น โสนะน่า เอ็ง
พวกข้า อุตส่าห์มาตามเอ็งไปดู วัดวาอารามเอย
เรื่องราวเก่าๆ ในอดีตเอย เอ็งก้ไม่ค่อยอยากจะไป
ไม่อยากจะอ่าน ถึงได้โง่แบบนี้ไง เย้ย 555

แล้วก็ พออ่านมาถึงตอน ที่บอกว่า ชายหนุ่มก็มองปราดทั่วร่างรุ้งตะวันนี่ กึ๋ยๆ อ.เต๊ะ ใจเต้นตุ๊บตั๊บ อุตส่าห์ หลงดีใจ นึกว่า ยังไงเสีย ต้องมีฉากโรมานซ์ วาบหวิวบ้าง แหงๆ เอาละเว้ย อิอิ

คุณพี่หมื่น คงจะสั่งให้น้องรุ้งไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่
เพราะ น้องรุ้ง มอมแมมคลุกพริก คลุกสมุนไพรมาทั้งวัน
แล้ว อุตส่าห์วิ่ง ตุปัดตุเป๋ ไปท่าน้ำแล้ว ก็ยัง ไม่ยอมอาบอีกแน่ะ
อีแบบนี้ ให้ไปอยู่ แกีงไม่ยอมอาบน้ำ ที่กินชาบู ในหม้อต้มกาแฟ ในข่าวได้เลยเชียว อิอิ

น้องพิมมาศ ตาเขียวปั๊ด นี่เอ็งหาว่า นางเอกข้า ซกม๊ก ใช่มั้ย
น้องเค้ามีเครื่องหอม สมุนไพร ดับกลิ่น จั๊กกะแร้ ว้อย เดี๊ยะๆ555

ส่วนเรื่อง อาเพศ โค ไข่ ไก่ ข้าว นี่ อ.เต๊ะ ลองค้นข้อมูลดู ไม่เจอเลยอะ สงสัยต้องรอเฉลย ตอนหน้าแหงๆ

งั้นไปดีกว่า ขัดใจ ไม่มีฉากนางเอก นุ่งกระโจมอก ตีโป่ง เล่นน้ำ ซักกะนิ้ดดด ว่าแล้ว อ.เต๊ะ ก็ลงไปนอนดิ้นเร่าๆ 555



โดย: multiple วันที่: 12 พฤศจิกายน 2564 เวลา:5:34:34 น.  

 
แปะจองที่ไว้ก่อนนะคะน้องนุ่น
ไปทานข้าวเช้า..ทานยาแปล๊ป


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 12 พฤศจิกายน 2564 เวลา:6:21:50 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับน้องนุ่น

คุณปู่ทำให้พี่ก๋านึกถึงตัวเอง
เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วชอบว่านมากๆ
ลุยไปถึงเชียงดาวเพื่อซื้อว่านมาเลี้ยงเต็มไปหมด
พญาว่านก็มีต้นนึง แต่เลี้ยงแป๊บเดียวก็ตายแล้วครับ 555
สุดท้ายก็เลิกเลี้ยงไปเพราะไม่มีเวลาดูแล

จุลศักราช 849 ถ้าปรับเป็น พ.ศ.
จะเป็น พ.ศ. อะไรครับน้องนุ่น

รุ้งตะวันหลุดไปในอดีตแบบนี้
หาทางกลับว่ายาก
การสื่อสาร พูดคุยกับคนในยุคนั้นก็คงยากไม่แพ้กันเลยนะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 พฤศจิกายน 2564 เวลา:6:29:29 น.  

 
อ่านแล้วสงสารนางเอกจัง จะรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนขนาดไหน
เมื่อค้นพบว่าตัวเองย้อนยุคกลับไปสมัยกรุงศรีอยุธยาโน่นแน่ะ

เอ ... จุลศักราช 849 นี่จะเป็น พศ 2030 ไหมน้อ
นี่ต้องกลับไปรื้อฟื้นวิชาประวัติศาสตร์เลยนะเนี่ย 555


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 12 พฤศจิกายน 2564 เวลา:9:35:56 น.  

 
ยิ่งอ่านยิ่งสนุกขึ้นเรื่อย ๆ เลยครับ อยากหลงเข้าไปอยู่ในยุคกรุงศรีฯ บ้าง 555 ถ้าไปอยู่ในยุคโน้นผมว่าคงต้องเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันไปมากกว่ายุคปัจจุบันเลย เอาใจช่วยรุ้งตะวัน ด้วยความที่เป็นคนเก่ง คิดว่าคงจะรอดปลอดภัยและเป็นที่รักของชาวกรุงศรีฯ แน่นอน ใช่มั๊ยครับ 55


โดย: The Kop Civil วันที่: 12 พฤศจิกายน 2564 เวลา:10:22:30 น.  

 
โห คุณนุ่นสมาธิในการเขียนได้ดีจริง ๆ ถ้าเป็นผม ๆ หลุดไป
เยอะ... คาบเวลาใช่ปะ 555 อ้อมิใช่ ไทม์แมชชีน

ดีนะทิ้งให้สงสัยอีกว่า จมื่นเขารู้ ฟามลับ หญิงหรือชาย.. งั้นต้อง
ติดตามต่อ

เอาใจช่วยให้ งานหนังสือคุณนุ่น ติดตลาด ทำยอดขายได้เยอะๆ
ครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 12 พฤศจิกายน 2564 เวลา:13:58:10 น.  

 
พี่ก๋าก็ไม่ได้กลับไปเชียงดาวนานมากแล้ว
เมื่อก่อนไปบ่อยจนลุงคนขายจำได้เลย
พาไปซื้อถึงบ้านเลยล่ะครับ
แกน่าจะเสียไปแล้วล่ะ
ตอนเจอกันเมื่อ 20 ปีก่อนก็แก่มากแล้ว

ขอบคุณสำหรับข้อมูลปี พ.ศ.ด้วยนะครับ
พ.ศ. 2031 ห่างกันตั้ง 500 กว่าปี
ไม่แปลกใจครับที่พระเอก นางเอก จะคุยกันแล้วงง 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 พฤศจิกายน 2564 เวลา:23:11:01 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับน้องนุ่น

อ่างขางพี่ก๋าขึ้นไปครั้งสุดท้ายน่าจะ 20 ปีแล้วครับ 555
เชียงดาวไปครั้งหลังสุดน่าจะเป็นปีแล้ว
ก็ยังสวยเหมือนเดิมครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 พฤศจิกายน 2564 เวลา:7:03:55 น.  

 
สงสารเจ้าตะวีนเหลือเกิน
คงอีหลายตอน หรือตอน 8
จึงจะรู้ว่าตัวเองย้อนเวลามา..

 

พาหนุ่มนักเทนนิสย้อนเวลามาหาจมื่น ด้วยกีาบ!!



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 13 พฤศจิกายน 2564 เวลา:9:38:29 น.  

 
รินมองว่า คนที่เรียกว่า เจ้าตะวัน เป็นคำเรียกที่น่ารักๆ กันนะคะ
สำหรับคนสนิทกันอะไรแบบนี้ แต่ชื่อจริง รุ่งตะวันก็เพราะมาก
น้อยคนจะเรียกเจ้าตะวัน เพราะน่ารัก น่าเอ็นดูนั่นเอง



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 13 พฤศจิกายน 2564 เวลา:10:32:04 น.  

 
โอ้ ช่วงนี้ กระแส แฮปว่านกำลังฮิต ไปตั้งโชว์หน้าบ้านไม่ดีแน่
หายกันมาแยะแล้วละครับ ที่บ้านก็เหมือนกัน ต้นไม้สวยๆนี่
จะเอามาตั้งโชวืไม่ได้ เพราะ คนชอบขอ เราก็ประเภทกล้าขอ ก็กล้าให้
เดี๋ยวนี้ เลยตัดปัญหา ต้นสวยๆต้องเอาแอบ เอาซ่อนหมด555

ส่วนเรื่อง ต่อยอดสมุนไพร นี่ สงสัยต้องผูกเรื่อง ไปรุ่นลูกของ เจ้ารุ้งตะวัน กับพี่หมื่นภพ ที่หลุดหลงมายุคปัจจุบัน ที่กำลังเจอโรคระบาดอยู่แบบตอนนี้ ทั้งสองคน จะได้มาช่วยคิดตำรับยาปราบโควิด ไม่ต้องคอยฉีดบูส เข็ม 8 9 10 น่าจะสนุกดีนะครับ 555

ส่วนเรืองบล็อกเพื่อนๆ สายซากอิฐนี่ 555
เป็นบล็อกที่ อ.เต๊ะ กลัวมาก
เพราะก่อนจะไปเม้นท์ก็ต้องไปค้นข้อมูล ไปดูรูปดูวีดีโอ เห็นเม้นท์ไม่เท่าไหร่ แต่ใช้เวลาหาข้อมูลนานไม่ใช่เล่นๆ ทำไม้ ทำไม ไม่ชอบเขียน บล้อก ไร้สาระแบบ ของ อ.เต๊ะ มั่งก็ไม่รู้ เม้นท์ง่ายจะตาย 555

แล้วก้เรื่องนี้ สงสาร รุ้งจัง กว่าจะจบเรื่องคงสะบักสะบอมน่าดู ทั้งโดนตีเข่า จรเข้ฟาดหาง หนุมาณถวายแหวน หัวโน ตาปิด แตกเย็บนับไม่ถ้วน แอนตาซิล คงแจกหมดตัวเลย กว่าจะจบเรื่อง555

น้องพิมมาศบอก นางเอก ข้า ไม่ใช่มวยในกรง ว้อย เดี๊ยะๆ
ว่านางเอกข้าซะ อย่าให้เจอนะ อย่าให้เจอ เดี๋ยวปั๊ด จับหักล็อค ให้ร้องหงิงๆเลย เย้ย 555


โดย: multiple วันที่: 14 พฤศจิกายน 2564 เวลา:9:37:49 น.  

 
ไม่รู้ตัว มีเล่นมุกใช้คำพูดแบบปัจจุบันด้วย คนสมัยก่อนจะมองว่าบ้าก็ไม่แปลกอะไรเพราะพูดอะไรก็ไม่รู้ ฟังมิรู้เรื่อง

รุ้งไม่รู้ตัวกว่าจะรู้ตัว แถมยังไม่เชื่อง่ายๆ อีก 555


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 14 พฤศจิกายน 2564 เวลา:23:24:42 น.  

 
ส่งข่าวเพื่อนบล็อกaddsiripunรุ่นดั้งเดิม
และเป็นคุณแม่ "พลทหารไรอัน"
ถึงแก่กรรมค่ะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2564 เวลา:8:29:59 น.  

 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 15 พฤศจิกายน 2564 เวลา:16:17:43 น.  

 
ตอนนี้ต้อง 7/3 หรือเปล่าครับ?

หนนี้เปิดด้วยสมุนไพรจากความทรงจำของคุณปู่ พญาว่าน ชื่อน่ากินจังครับ
กินพริกแล้วผิวผ่องจริงดิครับ คิดว่ากินแล้วสิวขึ้น เดี๋ยวสาวๆหาพริกกินใหญ่เลย

ในที่สุดรุ้งก็รู้ซะทีว่าตัวเองย้อนเวลามา น่าจะจับไปเดินข้างนอกตั้งนานละ
ในเรือนบอกแล้วบอกอีกยังไม่ยอมเชื่อ
บอกเป็นปี จศ. นี้ ไม่แม่นประวัติศาสตร์นับกันไม่ถูกเลย
แม่นางเกศสุรางค์ยังต้องถามไพร่ถึงรู้ว่าเป็นยุคขุนหลวงนารายณ์


โดย: ชีริว วันที่: 15 พฤศจิกายน 2564 เวลา:21:35:39 น.  

 
มาอ่านต่อจ้า


โดย: เจ้าหญิงไอดิน วันที่: 17 พฤศจิกายน 2564 เวลา:7:33:39 น.  

 
เขียนดี


โดย: นกสีเทา วันที่: 17 พฤศจิกายน 2564 เวลา:7:43:21 น.  

 
พี่ก๋าเสียดายแอพนี้นะครับ
แต่งภาพสวยดี
แต่เลิกทำไปแล้ว

เห็นข่าวนายกถ่ายภาพที่กระบี่
กับข่าวแก้ปัญหารถบรรทุกด้วยการใช้รถทหาร
บวกกับข่าวกองทัพอากาศซื้อเครื่องบินอีก 4 พันล้าน

พี่ก๋าได้แต่สงสัยว่าคนไทยเราทนกับรัฐบาลชุดนี้มานานขนาดนี้ได้ยังไง



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 พฤศจิกายน 2564 เวลา:23:14:38 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับน้องนุ่น



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 พฤศจิกายน 2564 เวลา:6:09:10 น.  

 
ไปเที่ยว ตจว.มาเหรอครับ สถานการณ์โควิดทางนู้นเป็นไงบ้างไม่รู้

ของ อ.เต๊ะ ออกจากบ้าน ไปไกลสุดคือปากซอย555
เพราะ กลัวเป็นแล้ว เค้าส่งไปอยู่ รพ.สนาม แล้วโดนผีหลอกแบบที่เห็นในข่าว 555

ส่วนเรื่องบล็อกเพื่อนๆนี่ ความชอบไม่เหมือนกันจริงๆ
คนที่ชอบประวัติศาสตร์ ของโบราณก็ว่าเค้าไม่ได้
จริงๆ อ.เต๊ะ ก็ไปเม้นท์ได้หมดแหละ เพียงแต่ ต้องหาข้อมูลเพิ่ม
อยากจะไปสิงร่าง ให้รู้ความในใจว่าทำไมเค้าถึงชอบ เค้าก็มีพระ ใส่กันทุกคน 555

ส่วนเรื่องจะให้เขียนบล้อกใหม่เพิ่มนี่ ต้องแล้วแต่แรงกดดัน+อารมณ์ดีๆ ถ้าถูกรางวัลที่ 1 จะเขียนทุกวันเลยเชียว 555

ส่วนเรื่องนิยายนี่ บ่นคนเขียนได้ด้วยเหรอ555
น้องพิมมาศต้อง หนักแน่น อย่าไปหวั่นไหว เพื่อ ชาติ ศาสนา และบัญชีธนาคารของเรา เราก็เขียนแนวที่เราชอบต่อไป
ไม่งั้น อ.เต๊ะ บ่น อยากให้มีฉากโรแมนติค พ่อแง่แม่งอน ยายน้อยใจ พ่อตากระฟัดกระเฟียด แยะๆ น้องพิมมาศ ก็ใส่ให้ได้หมดซี้ 555

ส่วนเรื่องหนังสือนี่ ขอบคุณมากๆเลยจ้า อย่าลืมของแถมด้วยน้า
ข้าวผัดกระเพรา ไข่ดาวก็ได้ อ.เต๊ะ ไม่เรื่องมากหรอก เย้ย 555


โดย: multiple วันที่: 18 พฤศจิกายน 2564 เวลา:6:10:05 น.  

 
อ้าว อัพแล้วตั้งแต่วันที่ 12 แล้วหรอครับ
ขอโทษเลยครับมาอ่านช้าเลย ช่วงนี้งานยุ่งมาก ๆ
วันนี้สติไม่ค่อยจะมี เดี๋ยวผมกลับมาเม้นอีกรอบนะครับ


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 18 พฤศจิกายน 2564 เวลา:11:57:54 น.  

 
อ่านแล้วนึกขึ้นมาอย่างแรกคือ.....จริงด้วย ช่วงเป็นเด็กมันมีความสุขมากจริงๆ ครับ ความทรงจำกับคนที่เรารักและรักเรามันอบอุ่นเสมอเหมือนที่รุ้งรู้สึกับคุณปู่
คนขาวเหมาะกับยาเผ็ดร้อนจริงหรอครับ จะได้ผิวใสไร้ฝ้า จะเอาไปบอกแม่แม่ก็ผิวเหลืองเหมือนคุณแสอีก
ในที่สุดรุ้งก็รู้ความจริงๆ จะ ๆ จากปากคุณภพแล้วนะครับว่าไม่มีกล้องซ่อน นี่มันยุคอยุธยาจริงๆ นี่ยังดีนะที่รุ้งยังเป็นสายฮาโวยวาย เป็นผมนี่คงสตั้น


จากบล๊อก
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ผมก็ฉีดทุกปีครับ เป็นไข้ไม่บ่อยปีนึงซักครั้ง แต่จะป่วย2-4อาทิตย์เลย หวัดบ่อยหน่อยจากภูมิแพ้ครับ ขุยผ้าบอกไม่ได้ด้วยว่าเมื่อไหร่จะแพ้ เคยเข้าร้านเสื้อผ้าไปไม่ถึง5 นาที ต้องบอกแฟนขอรอข้างนอกดีกว่า ซักพักนี่ต้องชวนกลับ
วันนี้ขอมาสั้นๆหน่อยครับ ยังไม่ค่อยสบาย นี่จ๋อยมาก
ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ





โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 18 พฤศจิกายน 2564 เวลา:16:29:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

lovereason
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 76 คน [?]









+ ++
Friends' blogs
[Add lovereason's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.