Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2561
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
25 ตุลาคม 2561
 
All Blogs
 
ความดันต่ำ ความดันสูง ดูยังไงความดันเท่าไรถึงอันตราย



โรคเรื้อรังที่คนไทยเป็นกันมาก และมีแนวโน้มจะเกิดกับวัยทำงานที่อายุน้อยมากขึ้นอย่างโรคความดันโลหิตสูงแล้วโรคความดันโลหิตสูงอันตรายขนาดไหน หรือในบางคนเคยใช้เครื่องวัดความดันแล้วผลออกมาว่าความดันต่ำ แล้วความดันโลหิตปกติจะต้องอยู่ที่เท่าไรวันนี้มาหาคำตอบกันค่ะ


ความดันปกติควรอยู่ที่เท่าไร

ความดันโลหิตปกติ คือ 120/80-139/89 มม.ปรอท แต่ทั้งนี้ค่าความดันโลหิตสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามเหตุปัจจัยต่าง ๆ เช่น อารมณ์ ความเครียด ความตื่นเต้น การออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่กระตุ้นการบีบตัวของหัวใจ ส่งผลให้แรงดันเลือดเพิ่มสูงขึ้น เป็นเหตุให้ความดันเลือดมีค่าเกินกว่าภาวะปกติชั่วคราว 


การวัดระดับความดัน สามารถบอกอะไรเราได้บ้าง

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า การวัดระดับความดันโลหิต นั้นสามารถบ่งบอกได้ว่า ร่างกายของเราอยู่ในสภาวะใด เป็นการตรวจวัดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นภาวะความดันโลหิตสูง หรือ ภาวะความดันโลหิตต่ำล้วนส่งผลอันตรายต่อร่างกายของเราทั้งสิ้น เช่น

ภาวะความดันโลหิตต่ำ

มักเกิดจากการที่ร่างกายของเราอยู่ในสภาวะ ดื่มน้ำน้อย ร่างกายสูญเสียน้ำ หรือเสียเลือดมาก รวมถึงเป็นผลข้างเคียงจาก โรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งสภาวะความดันโลหิตต่ำนี้ มักจะเสี่ยงต่อการที่สมองขาดเลือด ทำให้เกิดอาการหมดสติ และชักได้

ภาวะความดันโลหิตสูง

เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม การทานอาหารที่มีรสเค็มจัด หรือ เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือด ไตวาย เป็นต้น

ดังนั้น การที่เราดูแลสุขภาพของเราให้ดีอยู่เสมอจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะสัญญาณต่างๆรวมถึง ระดับความดันเลือดจะช่วยส่งสัญญาณความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเราได้ดี และทำให้เรารู้วิธีป้องกันและรักษาได้อย่างทันท่วงที




Create Date : 25 ตุลาคม 2561
Last Update : 25 ตุลาคม 2561 14:57:48 น. 0 comments
Counter : 716 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 3474456
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 3474456's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.