All Blog
|
จุลลดา ภักดีภูมินทร์-ขมิ้นกับปูน ขมิ้นกับปูน จุลลดา ภักดีภูมินทร์ Background ของเรื่องเกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเรื่องของความแค้นความชิงชังระหว่างตระกูลของพระยาอภิบาลบำรุง (ปาน ธรรมรักษ์) และ พระวิจิตรศิลปาการ ทั้งสองฝ่ายต่างอยู่ห่างกันแค่อยู่ข้างบ้านเรือนเคียง ยิ่งได้อ่านก็หนักใจว่าต่างฝ่ายต่างมิใคร่จะให้อภัยกันได้เลยในชีวิตนี้ เรื่องย่อ (อาจมีเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน) เรื่องความแค้นนั้นก็สืบเนื่องจากมารดาของพระยาอภิบาลบำรุง เคยทิ้งลูกและผัวหนีตามบิดาของพระวิจิตรศิลปาการไปพระยาอภิบาลบำรุงทั้งเสียหน้าและเสียกียรติจึงทวีความชิงชังในตัวแม่และตระกูลของพ่อพระวิจิตรศิลปาการ เมื่อพระยาอภิบาลบำรุงเติบใหญ่มีอำนาจราชศักดิ์ก็ยิ่งถือยศถือเกียรติ ยิ่งทวีความคุ่มแค้นครอบครัวของพระวิจิตรศิลปาการมากขึ้น ถึงขึ้นสั่งห้ามทุกคนในบ้านไม่ให้คบค้าสมาคมกับข้างบ้านเป็นอันขาด ในรุ่นลูก คุณปีบ และนายทำนอง ลูกชายพระวิจิตรศิลปาการ แม้รักกันก็ถูกกีดกัน เพราะเมื่อได้รู้เทือกเขาเหล่ากอก็ไม่สามารถลงเอยกันได้ จนกระทั่งมาถึงรุ่นหลาน ปัทมา และปารมี ปัทมานั้นถูกตาต้องใจกับธนา ลูกชายคนเล็กของพระวิจิตรศิลปาการ ปัทมาผู้มีนิสัยหัวรั้น และใจแข็งไม่ผิดเจ้าคุณปู่ ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ดั่งวรรคทองจากพระราชนิพนธ์ เรื่องมัทนะพาธา ที่หลายๆ คนคงจำได้ดี ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน ไม่ยินและไม่ยล อุปสรรคใดใด ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้ ก็โลดออกจากคอกไป บ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง ถึงหากจะผูกไว้ ก็ดึงไปด้วยกำลัง ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง บ หวนคิดถึงเจ็บกาย ทั้งคู่จึงหนีตามกันไปจนได้แต่งงานอยู่กินกัน ยิ่งทำให้พระยาอภิบาลบำรุง แค้นใจและเสียหน้าเป็นอย่างมาก แต่เพราะแตกต่างกันของสองตระกูลสมกับชื่อเรื่องคือ ขมิ้นกับปูนที่ที่ไม่มีวันผสมผสานเข้ากันได้จนนิดเดียว ทั้งทัศนคติเรื่องการเมือง ค่านิยมในการใช้ชีวิต ความเชื่อ ความศรัทธา ทำให้ครอบครัวของปัทมาล่มสลายลงไปจนเกิดเรื่องเกิดราวตามมาอีกไม่รู้จบ สำหรับอีกคู่ที่ทำให้เราได้ลุ้นหนักสุดและพอมีหวังอยู่บ้าง คือ ปารมี น้องเล็กที่น่ารัก หัวอ่อนแต่ก็มีเหตุผล จิตใจดี กับทันพันธ์ หนุ่มนักเรียนนอก หลานชายของพระวิจิตรศิลปาการ ก็มาตกหลุมรักเธอเข้า เธอเองก็มีใจให้แม้จะพยายามตีตัวออกห่างไม่กล้าคิดหวังว่าจะสามารถได้ลงเอยกับคนที่มาจากตระกูลที่คุณปู่ของเธอมองว่าเป็นศัตรูได้เลย แม้เขตกำแพงบ้านกั้นกันแค่นี้ยังทำลายไม่ยากเท่ากับการทำลายกำแพงในใจของพระยาอภิบาลบำรุงอันเหนียวแน่นที่เกิดจากความชิงชังอย่างแรงกล้ามาแต่อดีตความรักระหว่างทั้งสองจะสามารถพากันฝ่าฝันความเคียดแค้นชิงชังทั้งในอดีตและปัจจุบันไปได้หรือไม่ ติดตามอ่านได้ในเรื่องนี้ค่ะ ความรู้สึกหลังอ่าน โทนของเรื่องเป็นอะไรที่เครียดและบีบคั้นมากไม่มีแผ่วเลย แต่ผู้เขียนได้ชี้ให้ผู้อ่านให้เห็นถึงความรู้สึกนึกคิด และพัฒนาการของตัวละครอย่างลุ่มลึก ชัดเจน ด้วยสำนวนสละสลวย เทคนิคการดำเนินเรื่องได้น่าติดตามชั้นครู ทำให้เนื้อเรื่องชวนติดตามจนถึงตอนจบ นอกจากนี้เรายังได้เห็นสภาพสังคม และการเมืองในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ว่าคนในยุคนั้นมีชีวิตลำบากอย่างไร และมองการเมืองและสงครามอย่างไรบ้าง เรื่องนี้ช่างดีงาม การเขียนมีชั้นเชิง ให้ข้อคิด ชี้ชวนให้ผู้อ่านตกผลึกทางใจหลายๆอย่าง จากเรื่องความแค้นชิงชังอย่างอุกฤษฎ์ที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นมีแต่ความอาฆาตมาดร้ายระหว่างสองบ้าน แต่ผู้เขียนสามารถนำพาตัวละครทั้งเรื่องมาสู่จุดสุดท้าย ลงเอยได้อย่างลงตัว สวยงามและสมจริงมาก เป็นหนึ่งในเรื่องของนามปากกา จุลลดา ภักดีภูมินทร์ที่รักมากอันดับต้นๆ อีกเรื่องหนึ่ง วรรคทองของเรื่องทีอธิบายแก่นของเรื่องได้ดีมาก "..อันความเจ็บแค้นพยาบาทนี้ ก็เปรียบได้กับตะปูที่ถูกย้ำลงไปในเนื้อไม้ ถ้าพยายามจะถอนตะปูทิ้ง ก็ย่อมจะถอนได้ แต่เมื่อไม่พยายามถอน กลับคอยตอกย้ำความทรงจำอยู่ตลอดเวลา ยิ่งนานวัน แทนที่จะเลือนหายไป ก็ยิ่งฝังอยู่ในใจเหมือนดังไฟสุมขอน ฉันใดก็ฉันนั้น... " สำนักพิมพ์เพื่อนดี ภาพปก : ฟารุต สมัครไทย |
สมาชิกหมายเลข 3030800
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] ขีดเขียนทุกเรื่องราวตามประสบการณ์และทัศนะส่วนตัว ยินดีพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทุกท่านค่ะ หากนำเนื้อหาและรูปภาพไปเผยแพร่ หรือแก้ไขดัดแปลงต้องได้รับอนุญาต จากเจ้าของบล๊อกก่อนเท่านั้น ขอบคุณค่ะ Link |