อย่านิ่งเฉย... จงพัฒนาตัวเองตลอดเวลา
 
 

16. การใช้ Excel ในตำแหน่งงานต่างๆ (นักวางแผนการเงิน6)



สวัสดีครับ Smiley ตอนนี้ก็เป็นนักวางแผนการเงินตอน 6 แล้ว  ก็จะขอสรุปรวมห้าตอนแรกก่อน
ก่อนที่จะไปต่อในส่วนของการทำ Model

ผม search หา Financial Analyst ดู ใน google แล้วเจอบริษัทแรกเลยเอามาดูกันว่า
เค้าต้องทำอะไรบ้าง ปรากฏว่าได้มา 1 บริษัท  ทำแถวตึกอับดุลราฮิม (ออฟฟิสแจ่ม)


เรามาดูกัน  ข้อมูลถูก post ขึ้นเว็บบริษัทนั้น และเว็บหางานต่างๆ มีอันนึงโพสต์เมื่อ 24/6/2009 (เร็วๆนี้) เป็นธุรกิจ leasing car
(ให้บริการด้านการเงิน -สินเชื่อ- ในการซื้อรถ  ซึ่งสนับสนุนค่ายรถของตัวเองเพื่อให้มีครบวงจรธุรกิจ)

Financial Model, Excel, LeverageSkill@hotmail.com



ในส่วนของหน้าที่รับผิดชอบที่ต้องทำ   เห็นแล้วนะครับว่า เป็นสิ่งที่ผมได้เขียนไว้ในบทความต้นๆว่า
Financial Model จะเข้ามามีบทบาทในการทำงานอย่างไร





ถ้าใครเข้าไปในตำแหน่งนี้ร้อยทั้งร้อยย่อมต้องเจอการใช้งาน การคำนวณ การวิเคราะห์
ซึ่งต้องอาศัยโปรแกรมเข้ามาช่วย  โดยเฉพาะ Excel


ถ้าดูใน Qualification คนที่ต้องการนอกจากจะมีความรู้ บัญชี การเงิน มีประสบการณ์ด้าน leasing ได้เปรียบ
รู้เรื่อง banking ยิ่งดี
Smiley


เพราะว่าจะต้องวิเคราะห์ performance ให้ได้ว่าที่ผ่านมาดีไม่ดีอย่างไร  เทียบกับตัวเองในอดีต  เทียบกับคู่แข่ง
เทียบกับเป้าหมาย  เทียบกับ benchmark
และนำไปใช้เชื่อมโยงในการควบคุม monitoring งบประมาณให้เป็นไปตามแผน



รวมไปถึงทำพยากรณ์ performance ไปข้างหน้า  วางแผน วางกลยุทธ์
ซึ่งต้องมีเทคนิควิเคราะห์มากมายที่เกี่ยวข้อง
Smiley

ถ้าเรามาดูในตัว application ที่ทางบริษัทต้องใช้

MS Word อันนี้แน่นอน ทั้ง report เอกสารทุกอย่างที่ต้องทำ
MS PowerPoint  ใครเป็น analyst แล้ว present ไม่เก่งใช้ PowerPoint นำเสนอไม่เป็นอันนี้แย่
(และก็มีใช้ Visio ในงานบางอย่าง)


สองตัวข้างบนจัดว่าเป็นพื้นฐานที่ทุกคนใช้ตั้งแต่สมัยเรียน

MS Excel ตัวนี้แหล่ะครับ  ถ้าใครเก่งเรื่องความรู้เรื่องงาน  (ดูที่เค้าต้องการคือ บัญชี การเงิน banking leasing)

มีทักษะที่ต้องการ
Having strong analytical skill : การวิเคราะห์
solid background in accounting standards: มาตรฐานบัญชี
mature สุขุมนุ่ม ลุ่มลึก
result oriented and good interpersonal skill
ได้งาน และได้คน

MS Excel จะเป็นอาวุธที่ใช้ในการวิเคราะห์ที่ดี ในตำแหน่งนี้ใครที่เก่ง Excel ก็เหมือนพยัคฆ์ติดปีกSmiley


Hyperion  เดี๋ยวนี้พวก การเงิน Financial Model, Business Model กับธุรกิจที่ใหญ่ ซับซ้อน
ก็มักจะหาตัวอื่นๆที่จะเข้ามาตอบโจทย์ซึ่งตัวนี้ก็เป็นตัวนึงที่ใช้กันเยอะ  (เขาระบุว่าใครเก่งได้เปรียบ)

SAP อันนี้ไม่ต้องพูดถึง  แทบจะเป็นกระดูกสันหลังของระบบข้อมูลทีเดียว





เขียนมานานเพื่อจะให้เห็นว่า


บทความทั้ง 5 บทความสำหรับนักวางแผนการเงินที่ผ่านมานั้นสอดคล้องกับความจริงอย่างไร


สิ่งที่จะทำให้คนที่จะทำตำแหน่งนี้ได้ ใช่ว่าใช้ Function ใน Excel เป็นแล้วจะเทพ ได้โบนัสเยอะ เงินเดือนปรับมากกว่าคนอื่น
แต่มันเป็นส่วนผสมของความสามารถ ประสบการณ์


สำหรับเด็กจบใหม่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะทำตำแหน่งนี้ แต่ดูคุณสมบัติน่าจะยังไม่ถึง
ทุกอย่างต้องมีจุดเริ่มต้น
Smiley

ไม่มีทางที่อยู่ดีๆก็จะรู้  สังเกตได้ว่า เค้าระบุว่า ถ้ามีความรู้เรื่องนี้ เรื่องนั้น จะได้เปรียบ
นั่นหมายความว่า  แม้จะไม่รู้  ก็ยังจะได้รับการพิจารณา



ซึ่งการจะพิจารณาก็ขึ้นอยู่กับว่า   เค้ามองว่าคุณมีแววไหม  ปั้นขึ้นไหม  ถ้า Hardware ดี spec เครื่องสูง หัวเร็ว ความจุเยอะ
load software แป๊บเดียวก็เป็น  ต่อให้ไม่มีประสบการณ์ เค้าก็จะรับคุณ
Smiley

ยิ่ง  good interpersonal skill  ก็เหมือน user friendly เห็นแล้วก็น่าใช้  ใครๆก็อยากให้ข้อมูล อยากสอน อยากใกล้ชิด
รับรองต่อให้จบใหม่ก็มีสิทธิ์ มีจุดแข็งเหนือกว่าคนที่มีประสบการณ์เช่นกัน







จากที่เขียนมาถึงตรงนี้  ผมมีความคิด 2 อย่าง

1.  เกี่ยวกับเทคนิคในการใช้ Excel สร้างสิ่งต่างๆเพื่อมารองรับการทำงาน โดยเฉพาะ การสร้าง Model หรือการใช้ Excel
สร้างเครื่องมือเจ๋งๆ  ผมจะสร้างgroup blog ต่างหาก  จะได้ไม่กินเนื้อที่ในส่วนของ  "
พลังอำนาจของ Excel"
เพราะต้องการแบ่งเขียนเป็นตอนๆ  จะได้ไม่กินเวลาในการเขียนมากใน 1ตอนก็จะไปทีละ step ในการสร้าง Model
(หรืออาจจะเขียนต่อไปเลยใน group blog นี้   ซึ่งอยู่ระหว่างการตัดสินใจ)

2.  เกี่ยวกับเทคนิคทั่วไปในการใช้ Excel  ผมจะไม่มานั่งเขียนใหม่   ใน Help ของ Excel
ในหนังสือต่างๆ โดยเฉพาะ
ในโลกอินเตอร์เน็ต มีมหาศาลชนิดที่อ่านจนตายก็ไม่ไหว
(จึงไม่ต้องอ่านไง 555  ลองดูบทความที่ 2. เราควรเริ่มจากตรงไหน ให้เก่ง Excel)
แต่คิดว่าอาจจะรวบรวมในสิ่งที่คัดสรรว่าน่าจะมีประโยชน์มารวมไว้ใน group blog ต่างหากอีกหนึ่งอัน



ซึ่งหากได้ข้อสรุปหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็จะคอยแจ้งให้ทราบ







หากมีำคำแนะนำ ติชม หรือ ติดต่อสอบถาม สามารถ e-mail ได้ทีี่
Smiley Smiley Smiley LeverageSkill@hotmail.com Smiley Smiley Smiley







LeverageSkill@hotmail.com










 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2552   
Last Update : 24 กรกฎาคม 2552 0:18:36 น.   
Counter : 2187 Pageviews.  


15. การใช้ Excel ในตำแหน่งงานต่างๆ (นักวางแผนการเงิน5)


Smiley
ใครที่ไม่รู้จักว่า Financial Model คืออะไร ก็พอจะเริ่มคุ้นแล้วนะครับ
แต่ไม่ต้องตกใจหาก เห็นหน้าตา Financial Model แบบที่ไม่คุ้นเคย

เพราะหลายๆครั้งที่ Financial Model ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนใช้ไม่เหมือนกัน
ตามแ่ต่วัตถุประสงค์ของงาน

อาทิ

1. ต้องการสรุปทำงบการเงิน
1.1 งบเดี่ยว
1.2 งบรวม

1.A งบสำหรับงวดที่ผ่านมา
>>>> เพื่อรายงานสถานะทางการเงิน ผลการดำเนินการ ส่งรายงานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
>>>> สรุปผลให้ผู้บริหาร ตัดสินใจ วางแผน แก้ปัญหา พัฒนา ปรับปรุง
1.B งบประมาณการ
>>>> สรุปผลให้ผู้บริหาร ตัดสินใจ วางแผน แก้ปัญหา พัฒนา ปรับปรุง
>>>> ใช้ในการวางแผน นโยบาย กลยุทธ์ทางธุรกิจที่สอดรับและสะท้อนต่อผลการดำเนินงาน ฐานะการเงิน
ความแข็งแรงควบคู่ไปกับการมองด้านความเสี่ยงต่างๆ

ลำพังแค่ข้อนี้ข้อเดียวก็ประโยชน์มหาศาลแล้ว
ลองนึกภาพ บริษัทที่มี บริษัทลูก บริษัทร่วม ย่อย หลาน เหลน โหลน เยอะๆ

เวลาทำ consolidation จัดทำงบการเงินทีีนึง ก็หลังแอ่น Smiley


ถ้าไม่นับหลายบริษัทที่ใหญ่และซับซ้อนหนัก มีระบบให้เชื่อมโยงข้อมูลทั้งลึกและกว้้าง
มีผู้คน หน่วยงาน ฝ่าย บริษัท ที่เีกี่ยวข้องมาก
จนต้องหันไปใช้ application software เฉพาะ เช่น hyperion ของ Oracle , cognos ของ IBM หรืออื่นๆอีกมาก

บริษัทส่วนใหญ่ก็ใช้ Excel สำหรับจัดทำ Financial Model ขึ้นมา
รวมไปถึงการใช้ประโยชน์ในแง่อื่นๆต่อ





2. ใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ นโยบายธุรกิจ การใช้เงิน / จัดหาเงิน
2.1 การใช้เงิน
>>>> วางแผนในการใช้เงินเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจ จัดสรรทรัพยากรให้เกิดประโยชน์
2.2 การจัดหาเงิน
>>>> เชื่อมโยงกับการใช้ ต้องจัดหาเงินให้เพียงพอ ต้นทุนต่ำ ความเสี่ยงน้อย คำนึงด้านจังหวะเวลาในการจัดหา

เพื่อให้เกิดความสมดุลในการใช้และจัดหา วางแผนการใช้อย่างเหมาะสม คำนึงด้านความพอเพียง ความคุ้มค่า ความเสี่ยง
โดยสามารถใช้ Excel สร้าง Financial Model ขึ้นมาแล้ววิเคราะห์หาคำตอบตามโจทย์ที่ต้องการได้
ด้วยการใช้ เทคนิคการวิเคราะห์ต่างๆเช่น การวิเคราะห์ sensitivity , scenario, simulation ปัจจัยต่างๆ
สามารถนำไปใช้ในการวางแผนกลยุทธ์องค์กรต่อไป




3. Valuation
3.1 หามูลค่าขององค์กร
>>>> เพื่อเชื่อมโยงจากการกระทำกิจกรรมต่างๆทางธุรกิจ ทางการลงทุน ทางการเงิน เพื่อท้ายที่สุด
ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสุดท้ายไปยังมูลค่าขององค์กร
3.2 หามูลค่าของสินทรัพย์ asset ที่ถือ
>>>> เพื่อประโยชน์ในการจัด portfolio ของสินทรัพย์ที่บริษัทครอบครอง
>>>> การวิเคราะห์หามูลค่าสินทรัพย์รายตัว เช่น stock, bond, derivatives ต่างๆ
>>>> ทั้งในแง่ของผลตอบแทนไปพร้อมๆกับความเสีี่ยง




4. อื่นๆ (ขี้เกียจแยกประเภทอีก)
นอกจาก 3 หัวข้อที่แยกให้ดู เริ่มเหนื่อยจะเขียน เลยขอเอาที่เหลือทั้งหมดมาใส่ไว้ในข้อ 4 ก่อน






ในการทำ Financial Model เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆตามที่ได้กล่าวมาแล้วเบื้องต้น
จะเห็นว่า ปัญหา ที่สำคัญ ไม่ใช่เรื่อง Excel เลยแม้แต่น้อย
เพราะเพียงการใช้ Excel ด้วยเทคนิคไม่ยาก ก็สามารถสร้าง Financial Model ง่ายๆ ขึ้นมาได้

แต่ความยากขึ้นอยู่กับ

Smiley ข้อมูลมีหรือไม่ ถ้ามีสามารถเชื่อมโยงนำมาใช้หรือไม่ เพียงพอให้ใช้งานหรือไม่ เข้าถึงได้หรือไม่


Smiley ไม่รู้ว่าจะวิเคราะห์อย่างไร ไม่สามารถวิเคราะห์ได้ วิเคราะห์ไม่ตรงกับความเป็นจริง หรือความจริงยากเกินกว่าจะแปลงมาเป็นสิ่งที่ต้องการได้บน excel

Smiley ความ dynamic ของโจทย์ ลักษณะของสิ่งที่วิเคราะห์มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ผันผวน ไม่สามารถอธิบายได้


นี่เป็นเพียงตัวอย่างเฉยๆ ในทางปฏิบัติแล้วยังคงมีอุปสรรคมากมายในการทำ
แต่อุปสรรคต่างๆมันคือ COST (ต้นทุน) ในการทำ ทั้ง เวลา ความยาก แรง สมอง ที่ต้องใส่ไป เพื่อให้ได้ที่ต้องการ
เราจึงต้องนำต้นทุนเหล่านั้นมาเทียบกับ BENEFIT (ประโยชน์) ที่จะได้จากการลงแรง เสียเวลาเหล่านั้นไป




แล้วค่อยมาตัดสินใจก่อนว่า คุ้มทำหรือไม่??



เพราะการลงมือทำแล้วไม่คุ้ม ไม่มีประโยชน์!!! Smiley


(แม้มันจะไม่ไร้ความหมาย ถ้ามันให้ประสบการณ์)











หากมีำคำแนะนำ ติชม หรือ ติดต่อสอบถาม สามารถ e-mail ได้ทีี่
Smiley Smiley Smiley LeverageSkill@hotmail.com Smiley Smiley Smiley


LeverageSkill@hotmail.com







 

Create Date : 19 กรกฎาคม 2552   
Last Update : 20 กรกฎาคม 2552 1:04:50 น.   
Counter : 756 Pageviews.  


14. การใช้ Excel ในตำแหน่งงานต่างๆ (นักวางแผนการเงิน4)


ก่อนอื่นผมต้องขออภัย !! Smiley
สัปดาห์กว่าๆที่ผ่านมา ผมต้องทำ workshop ให้ 2 บริษัทพร้อมกัน
ทำให้หมดพลังและเวลาไปกับมันมาก  เลยเขียนบทความล่าช้าฯ



แต่ว่าข้อดีของการทำ workshop ก็มีประโยชน์มาก
เพราะช่วยให้งานของแต่ละที่ ทะลุข้อจำกัดเดิมๆ และสามารถสร้างความสามารถในการวิเคราะห์
และนำข้อมูลประโยชน์ไปใช้ได้วางแผนและพัฒนางานได้อย่างมาก


กลับมาต่อที่เนื้อหาเดิมนะครับ

ผมให้เห็นภาพไปแล้วว่า Financial Model มีประโยชน์อย่างไร
และ ลักษณะของ Model มีหน้าตาอย่างไร

ก่อนที่จะสอนในวิธีการทำ Financial Model


ผมอยากจะเน้นย้ำว่า!!!


คุณภาพของผลลัพธ์ (รสชาติแสนอร่อยของกับข้าว)

ขึ้นกับ วัตถุดิบ (input) และ วิธีการปรุง



พูดง่ายๆว่าถ้าอยากได้ผลลัพธ์ข้อมูลการวิเคราะห์ที่ดี ขึ้นกับว่าเราใส่ค่าอะไรลงไปในคำนวณ
ถ้าเราใส่ค่าที่ไม่ดี ไม่ใกล้เคียงความจริง  หรือ  ไม่ได้สื่ออะไรในผลลัพธ์  มันก็จะไม่เกิดประโยชน์
ขอเรียกประเด็นนี้ว่า (L1)


ในขณะเดียวกัน ต่อให้ป้อนวัตถุดิบ input หรือ assumption ต่างๆดีแค่ไหน
ถ้าเราใส่วิธีการคำนวณไม่ถูกต้อง  ผลลัพธ์ก็จะผิดพลาด การนำไปใช้แทนที่จะดีกลับส่งผลเสีย
ขอเรียกประเด็นนี้ว่า (L2)

เขียนแบบนี้หลายท่านอาจจะงง  ผมจะยกตัวอย่างเช่น

ตัวอย่างของ L1 เช่น 


เรื่องของวัตถุดิบที่ใส่ลงไปไม่ดีเช่น
ถ้าผมเป็นผู้บริหาร  ผมอยากรู้ว่า กำไรผมจะเป็นเท่าไหร่ ถ้าหากผมเพิ่มราคาสินค้าขึ้นจากเดิม 100 บาท เป็น 120 บาท

ผมก็เปลี่ยนราคาในช่องราคาใส่ 120 ลงไปใหม่  ทำให้กำไรเปลี่ยนจากเดิม 1000 เป็น 1200

แต่ปัญหาคือ  ถ้าผมปรับราคาขึ้น  จำนวนสินค้าผมยังจะขายได้เท่าเดิมหรือเปล่า???


นั่นคือเหตุผลที่บอกว่า  คุณภาพของผลลัพธ์ขึ้นกับวัตถุดิบที่ป้อน


แต่ถ้าเรามีข้อมูลในอดีต เราอาจสามารถหาความสัมพันธ์ระหว่างราคาขายกับจำนวนสินค้าที่ขาย
ซึ่งสามารถผูกสูตรลงไปได้ เช่น ถ้าราคาขายเพิ่มขึ้น 10% ยอดขายจะลดลง 5%  ถ้าราคาขายลดลง 10% ยอดขายจะเพิ่มขึ้น 15%


ตัวอย่างของ L2 เช่น 

แม้วัตถุดิบดีแค่ไหน แต่ถ้าผูกสูตรคำนวณผิด หรือ ไม่ได้วางสูตรการคำนวณให้ครบถ้วน
ผลลัพธ์ก็จะไม่ใช่อย่างที่ต้องการ เช่น

กำไรก่อนภาษี 1000  หักด้วยภาษี 30%  ทำให้เหลือกำไรสุทธิ 700

เราก็ผูกสูตรว่า  กำไรสุทธิ =  กำไรก่อนภาษี x %ภาษี   หรือเขียนเป็น     A1 = B1 x C1


แต่ถ้าเราเกิดขาดทุน  ทำให้กำไรก่อนภาษี กลายเป็น ขาดทุนก่อนภาษี -1000  เมื่อไปคำนวนในสูตร A1 = B1 x (1-C1)

จะได้เท่ากับ  A1 =  -1000 x (1-30%)

ซึ่งค่าของ A1 ที่เป็นกำไรสุทธิจะเท่ากับ -700  ซึ่งผิด!!!!

เพราะถ้าขาดทุนก่อนภาษี  ก็จะไม่เสียภาษี  ขาดทุน(กำไร)สุทธิ ก็จะเท่ากับ -1000 เหมือนเดิม





ดังนั้น  ในการสร้าง Model ขึ้นมา    เราจะเห็นว่าผลลัพธ์ที่ได้จาก Model นั้น
คุณภาพขึ้นกับปัจจัยสองประการที่ว่า

โดยที่ประการที่สอง อยู่ที่ความครอบคลุม รอบคอบ ครบถ้วนของผู้ทำ และสามารถใช้ Excel สร้างขึ้นมาได้อย่างเหมาะสม
ในขณะที่ปัจจัยประการแรกนั้น  ขึ้นกับ ประสบการณ์ ความลึกล้ำ ข้อมูล ของผู้ทำผู้ดูแลผู้ใช้
ซึ่งจะค่อยๆเห็น feeling ในการป้อนข้อมูล  เพื่อจะได้คำตอบคุณภาพที่ต้องการ





หากมีำคำแนะนำ ติชม หรือ ติดต่อสอบถาม สามารถ e-mail ได้ทีี่
Smiley Smiley Smiley LeverageSkill@hotmail.com Smiley Smiley Smiley



LeverageSkill@hotmail.com




 

Create Date : 15 กรกฎาคม 2552   
Last Update : 16 กรกฎาคม 2552 23:19:35 น.   
Counter : 582 Pageviews.  


13. การใช้ Excel ในตำแหน่งงานต่างๆ (นักวางแผนการเงิน3)

มาต่อกันเลยนะครับ...Smiley


บทความที่แล้วเป็นการให้ภาพหน้าตาง่ายๆว่า  Model มีหน้าตาเป็นอย่างไร

โดยที่ Financial Model จะเป็นการคำนวณ วิเคราะห์ ข้อมูล


เพื่อ..หาข้อมูลไปใช้ในการบริหารจัดการด้านการเงิน



จุดสำคัญที่สุดของการสร้าง Model คือ


Smiley1. ตอบโจทย์ที่ต้องการรู้ได้อย่างไร


Smiley2. ต้องมีความยืดหยุ่นสูง





1.1 จุดสำคัญอย่างแรก เราจะตอบโจทย์ที่เราต้องการรู้ได้อย่างไร?


นั่นหมายถึง  เราต้องรู้ว่าผลลัพธ์ที่เราต้องการได้   จะหาได้โดยวิธีอะไร  ต้องนำข้อมูลไหนมาทำอะไร

องค์ความรู้นั้นคือ  ความรู้ในงานนั่นเอง


ตัวอย่างง่ายๆ เช่น ถ้าต้องการหากำไร  นั่นหมายถึง  ต้องรู้จักว่ากำไร หาได้จากเอา รายได้ ลบด้วยต้นทุน เป็นต้น


ข้อนี้สำคัญมาก!!!


เพราะอะไร..  ก็เพราะว่า ต่อให้เรามี รถยนต์ที่ดีขั้นเทพ  มีฝีมือขับระดับ Initial D ชนิดที่ ดริฟท์ลงเขามือเดียวเต้าหู้ไม่เละ


แต่มันไม่มีประโยชน์เลยถ้าเราไม่รู้ว่าจะขับรถไปไหน หรือขับไปเพื่ออะไร


ดังนั้นจุดสำคัญข้อนี้คือรากเหง้าที่จะก่อให้เกิดคุณค่า  ที่จะได้จากการสร้าง Model






1.2  จากโจทย์ที่ต้องการคำตอบ  -->  แปลงให้เป็นการทำงานบน Excel


จากความรู้ในงาน  ให้ถ่ายทอดวิธีการนั้นเป็นการทำงานบน Excel


วิธีนี้ จะนำความรู้ในเรื่อง Excel มาใช้


เราต้องรู้ว่า ถ้าจะให้ได้ข้อมูลผลลัพธ์ (กับข้าว) ที่อยากกินต้องทำอย่างไร  วิธีอะไร ใช้คำสั่ง หรือกำหนดการทำงานของ Excel อย่างไร


เช่น  ถ้าต้องการหา IRR  ใน Excel จะใช้คำสั่งอย่างไร เป็นต้น

เมื่อเราสร้างการคำนวณข้อมูลต่างๆ กำหนดการทำงานให้อยู่บน Excel แล้ว  เราจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ


แต่!!~  นั่นคือผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้วัตถุดิบ สูตรเดียว  วิธีเดียว

ถ้าหากว่าเราต้องการดูว่าถ้าวัตถุดิบเปลี่ยนแปลงไป  หรือสูตรการปรุงเปลี่ยนแปลงไป   กับข้าวที่ได้จะเป็นอย่างไร


นั่นคือความสำคัญของจุดที่2




2.1  ต้องให้การทำงานยืดหยุ่นเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง

เมื่อได้ Excel ที่มีการคำนวณ ทำงานตามที่อยากได้

จุดสำคัญอย่างที่2 คือ  ต้องให้การทำงานมันมีความยืดหยุ่นสูง




สาเหตุก็เพราะว่า..

ถ้าเราไม่กำหนดให้มันทำงานแบบยืดหยุ่น   เวลาที่ข้อมูลวัตถุดิบเปลี่ยนแปลงไป  แล้วการทำงานมันไม่รองรับ
เราจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ


ตัวอย่างเช่น


ถ้ากำหนดให้การหา C มาจาก   เอา  A  หารด้วย B   ดังนั้นถ้าข้อมูล A=10  B=2  เราก็จะได้ C=5
แต่ถ้า B กลายเป็น 0  ผลลัพธ์ C จะ error  เพราะ C ไม่สามารถหาผลลัพธ์จากจำนวนที่หารด้วย 0 ได้

เราจึงจำเป็นต้องให้สูตรคำนวณ C คำนึงถึงกรณีที่ตัวหารเป็น 0 แล้วเกิด error  เราจะให้ C มีค่าเป็นอะไร
ต้องกำหนดการทำงานต่อๆไป


อีกตัวอย่างเช่น


เราหักภาษี 30%  ออกจากกำไรก่อนภาษี จะได้เป็น กำไรสุทธิ

เราอาจกำหนดสูตรเป็น   C1 =  30%*B1   (โดยที่ C1 เป็นกำไรสุทธิ  B1 เป็นกำไรก่อนภาษี)
แล้วมีการคำนวณเช่นนี้มากมายหลายตำแหน่ง


ปรากฏว่าวันดีคืนดี ภาษีปรับจาก 30% เป็น 40%  เราก็ต้องมานั่งไล่แก้สูตรจาก 30% เป็น 40% อีกให้เสียเวลา
(แม้จะลาก copy หรือสามารถใช้เทคนิค replace ได้ แต่ก็เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ และไม่แน่ว่าจะแก้หมด และแก้ได้ทุกกรณี)


LeverageSkill@hotmail.com



ดังนั้นจะเห็นแล้วว่าความซับซ้อนของ Model จะอยู่ที่การออกแบบให้ Model มีความยืดหยุ่นมากน้อยอย่างไร Smiley




ช่วงหลังผม update ช้าไปหน่อยเนื่องจากตอนนี้งานหนักมาก ทั้งในส่วนของงานประจำและงานสอน
รวมทั้งพักนี้ฝนตกบ่อย ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย  แต่โชคดีที่ไม่ได้เป็นโรคหวัด 2009


ทุกท่านก็อย่าลืมรักษาสุขภาพนะครับ
จะได้เป็นกำลังใจกันและกันไปตลอด

Smiley

อ้อ..ตอนนี้ผมกำลังหาแนวทางนำเสนอใหม่ๆ เพื่อความมีประสิทธิภาพในการใช้เวลาแต่ละวันให้มีประโยชน์
ถ้ายังไงก็คอยติดตามนะครับ



หากมีำคำแนะนำ ติชม หรือ ติดต่อสอบถาม สามารถ e-mail ได้ทีี่
Smiley Smiley Smiley LeverageSkill@hotmail.com Smiley Smiley Smiley









LeverageSkill@hotmail.com




 

Create Date : 07 กรกฎาคม 2552   
Last Update : 7 กรกฎาคม 2552 22:45:46 น.   
Counter : 744 Pageviews.  


12. การใช้ Excel ในตำแหน่งงานต่างๆ (นักวางแผนการเงิน2)

ช่วงนี้งานรัดตัวมาก ไม่เสียเวลาไปต่อดีกว่าครับ Smiley

Financial Model
มีประโยชน์มากในการทำงานเพียงไหน ขึ้นอยู่กับว่า ธุรกิจ หรือองค์กรต่างๆ

ต้องการข้อมูลในการวางแผน ใช้ตัดสินใจ วางแผนกลยุทธ์ ทั้งทางด้านการเงิน

จนไปถึง การ allocate resource การทำ budgeting ฯลฯ ต่างๆอีกมากมาย


พูดแบบนี้อย่าเพิ่งคิดว่าจะใช้ได้เฉพาะกับองค์กรใหญ่ๆ หรือ บริษัทเท่านั้นนะครับ


สำหรับกิจการส่วนตัว ธุรกิจเล็กๆ ก็มีประโยชน์มาก

ยิ่งบางคน ที่ต้องการกู้แบงก์ ก็ยิ่งต้องควรทำ Financial Model ไว้บ้าง


เขียนมาถึงตรงนี้ อย่าเพิ่งคิดว่า Financial Model จะเป็นอะไรที่ยาก ซับซ้อน

ผมขอบอกได้เลยว่า "ง่าย" มากๆครับ
Smiley



เพราะทุกอย่าง ก็คือสิ่งที่มีอยู่แล้วในการดำเนินธุรกิจ เพียงแต่ถ่ายทอดสิ่งต่างๆเหล่านั้น


ให้เป็นการคำนวณบน Excel


ตัวอย่างนะครับ

ผมซื้อของมา 100 ชิ้น ชิ้นละ 48 บาท ผมต้องจ่ายค่าเช่าร้านต่อวัน 300 บาท ผมควรขายที่ราคาเท่าไหร่ ถึงจะไม่ขาดทุน

คำถามนี้หลายท่านอาจคิดในใจได้ง่ายๆ เช่น 1 วันผมต้องขายให้ได้กำไรอย่างน้อย 300 บาท เพื่อจ่ายค่าเช่าให้ได้เป็นอย่างต่ำ
ซึ่งวันนึงผมขายได้ 100 ชิ้น แสดงว่าผมต้องขายให้ได้กำไรชิ้นละ 3 บาท


ดังนั้นราคาขายจึงควรตั้งที่ 51 บาทขึ้นไป

ทีนี้ถ้าผมไม่สามารถขึ้นราคาขายได้มากกว่า 50 บาท แสดงว่าผมต้องหาทางขายให้ได้มากกว่า 100 ชิ้น หรือไปต่อค่าเช้าร้านให้ถูกกว่า 300 บาท เพื่อที่ผมจะได้ไม่ขาดทุน


จะเห็นแล้วนะครับว่า ตัวเลขการคำนวณง่ายๆจากตัวอย่าง นำมาใช้พิจารณาได้หลากหลายแนวทาง

แล้วถ้าธุรกิจที่ซับซ้อนขึ้น มีสินค้าขายหลายตัว มีค่าใช้จ่ายต่างๆ
เราคงคิดในใจหรือคำนวณในกระดาษได้ยากขึ้น


และถึงแม้เราจะใช้เครื่องคิดเลข ใช้กระดาษ เราก็คงเสียเวลาไปกับมันในทุกทีทุกครั้งที่อยากเปลี่ยนข้อมูลอะไรไปเพื่อหาคำตอบ



ซึ่ง Excel เข้ามาช่วยเราได้อย่าง "สุดยอด"


วิธีไม่ยากครับ จริงลืมคำว่า Model ไปก่อนก็ได้ ผมเองพอฟังแล้วยังรู้สึก "โหห!!! มันคงต้องลึกล้ำซับซ้อน"Smiley

ซึ่งจริงๆแล้ว
มันไม่ใช่เลย!!!
เพราะมันก็คือหลักการที่ผมบอกไปนั่นคือ


วัตถุดิบ -----> ปรุง -------> ได้กับข้าวอร่อยๆ




Model ก็คือ เป็นการสั่งให้ Excel ทำงาน ตามคำสั่งเราว่า


"เฮ้ย!! ไปเอาวัตถุดิบ A นั้นมาทำหั่นๆ พอได้แล้วก็เอาไปต้มกับ B ทิ้งไว้ แล้วไปทำ...ๆ ๆ ๆ ๆ จนสุดท้ายได้ในสิ่งที่ต้องการ"


ผมทำตัวอย่างง่ายๆดังรูปนะครับ
LeverageSkill@hotmail.com




จากตัวอย่างจะเห็นว่าเป็นการคำนวณว่า สินค้า 5 อย่าง มีจำนวนขาย ราคาขาย ต้นทุน กำไร

ถ้าข้อมูลกระจัดกระจายในเอกสาร หรือกระดาษ เราก็ไม่อาจเห็นข้อมูลบางอย่าง



แต่ถ้าเราสร้างการคำนวณง่ายๆ ด้วยการ บวก ลบ คูณ หาร

โดยให้มีหน้าตาดังรูปข้างบน เราจะเห็นว่า กำไรต่อชิ้นเท่าไหร่ คิดเป็น%เท่าไหร่



ข้อดีของ Excel มาสร้างเป็น Model เช่น ดูรูปข้างล่างนะครับ


LeverageSkill@hotmail.com



จะเห็นว่าผมเพียงแค่จิ้มเปลี่ยนต้นทุนกางเกง จาก 200 บาทเป็น 240 บาท (เพราะเจ๊หงโบ๊เบ๊บอกต้นทุนมันมาแพงขึ้น)

ความเจ๋งของการสร้าง Model ไว้ ลองดูรูปกลมๆ ทางขวามือสิครับ มันเปลี่ยนอัตโนมัติเลย



แล้วมันบอกอะไรครับ รูปกลมในกราฟขวามือ แสดง % กำไรต่อชิ้น กับ กำไรรวมที่เราได้จากการขายสินค้านั้น

ยิ่งกลมๆมีขนาดใหญ่ แสดงว่ากำไรรวมสินค้านั้นยิ่งดี ถ้ากลมๆเล็กจุ๋มๆจิ๋มๆ แสดงว่ากำไรรวมสินค้านั้นแทบไม่เหลือ

ในขณะเดียวกันความสูงนั่นหมายถึงกำไรต่อหน่วย ยิ่งสูงยิ่งเจ๋ง


Smiley น้องเปิ้ลแม่ค้าเสื้อผ้าตลาดปากซอย: "ถ้าอย่างนั้น กลมๆสีดำแสดงว่า กางเกงกำไรจิ๊ดเดียวอะดิพี่"

Smiley พี่ Leverage คนดี: "ใช่จ้ะ... แล้วยิ่งน้องเปิ้ลต้องลงทุนเงินซื้อกางเกง 2,400 เพื่อกำไรแค่ 100 เดียว หนูสู้เอาเงินไปลงถุงเท้า หรือ รองเท้าดีกว่านะจ๊ะ"

Smiley น้องเปิ้ลแม่ค้าเสื้อผ้าตลาดปากซอย: "ถ้ามันดีอย่างนั้น หนูต้องทำ Model ด้วยหรอ"

Smiley พี่ Leverage คนดี: "ไม่ต้องหรอกจ้ะ เอาไว้ให้หนูมี 100 สาขา แล้วค่อยทำก็ได้ เดี๋ยวตอนนี้พี่คิดในใจให้ก่อน!!!??Smiley"







จากตัวอย่างผมสร้างขึ้นมาง่ายๆ เพื่อให้พอเห็นภาพนะครับว่า ความสะดวกสบาย
คุณค่าจาก
"ข้อมูลทองคำ Smiley"ที่ซ่อนอยู่

เพียงแค่ บวก ลบ คูณ หาร ง่ายๆ บน Excel กับกราฟ 1 อัน เท่านั้น!!!







แล้วเจอกันในบทความต่อไปครับ !!!








หากมีำคำแนะนำ ติชม หรือ ติดต่อสอบถาม สามารถ e-mail ได้ทีี่
Smiley Smiley Smiley LeverageSkill@hotmail.com Smiley Smiley Smiley





LeverageSkill@hotmail.com




 

Create Date : 26 มิถุนายน 2552   
Last Update : 26 มิถุนายน 2552 8:40:27 น.   
Counter : 991 Pageviews.  


1  2  3  4  

Leverage
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




[Add Leverage's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com