รักแรก รักเดียว ของเต็งหนึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส หลังจากรู้ผลเลือกตั้งรอบแรก ชีวิตรักของเต็งหนึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส กำลังกลายเป็นทอล์คออฟเดอะเวิล์ด การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสยกแรกเสร็จสิ้นลงแล้วแบบไม่พลิกโผ เอ็มมานูเอล มาครง อดีตรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจอุตสาหกรรมและดิจิทัล วัย 39 ปีเต็งหนึ่ง กวาดคะแนนเสียงมากที่สุดในบรรดาผู้สมัคร 11 คน ที่ 23.75% ตามด้วย มารีน เลอ เปน หัวหน้าพรรคขวาจัด ได้คะแนนมากเป็นอันดับสองที่ 21.53% ถือเป็นศักราชใหม่การเมืองฝรั่งเศสที่ได้คู่ชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี ไม่ได้สังกัดสองพรรคใหญ่ตามธรรมเนียมที่เป็นมาเกือบ 60 ปี โดยผู้สมัครจากพรรคโซเชียลิสต์ได้เพียง 6.35% ขณะที่นายฟรองซัวส์ ฟียง อดีตนายกรัฐมนตรีจากพรรครีพับลิกัน 1 ใน 4 ตัวเก็ง ได้ 19.91% คะแนนรอบแรกของคู่ชิงไม่ถือว่าห่างกันมาก แต่มาครงถูกยกมีภาษีดีกว่าในศึกเลือกตั้งรอบชี้ขาด 7 พฤษภาคม เพราะสองพรรคใหญ่เรียกร้องให้ผู้สนับสนุน หันไปเทคะแนนให้แก่มาครง ผู้อ้าแขนรับสหภาพยุโรปและมีนโยบายสายกลาง คนละขั้วกับคู่แข่งมารีน เลอ เปน ที่มีแผนจัดลงประชามติพาฝรั่งเศสออกจากอียู และต่อต้านผู้อพยพ ทันทีที่ได้ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ สปอตไลท์ก็สาดไปที่ บริจิตต์ โทนเยอซ์ ว่าที่สุภาพสตรีหมายเลข 1 ฝรั่งเศสอีกครั้งหนึ่ง อันที่จริง ทั้งคู่อยู่ในความสนใจมาตั้งแต่ครั้งแรกที่ควงคู่กันออกงานเลี้ยงที่รัฐบาลจัดถวายกษัตริย์และสมเด็จพระราชินีสเปน สมัยเป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจในปี 2558 และช่วงปีที่ผ่านมา สามีภรรยาคู่นี้ขึ้นปกนิตยสารดัง ปารีส แมทช์ ถึง 4 ครั้ง และขึ้นปกนิตยสารเซเลบ VSD ถึง 10 ครั้ง โทนเยอซ์ มีบทบาทสำคัญในทีมหาเสียงของสามีหนุ่ม เดินสายหาเสียงและออกงานเคียงข้างสามี อ่านทบทวนสุนทรพจน์ และระยะหลัง ขึ้นไปบนเวทีจุมพิตสามีและกล่าวขอบคุณฝูงชนบ่อยครั้ง ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ก็ว่าได้ การเมืองอเมริกันอาจคุ้นชินกับภาพแบบนี้แล้ว แต่ไม่ใช่ฝรั่งเศสที่นักการเมืองมักเก็บชีวิตส่วนตัวหรือกันคนในครอบครัวไว้เป็นเรื่องส่วนตัว มาครงไม่เคยปิดบังว่าภรรยาของเขาคือที่ปรึกษาการเมืองใกล้ชิด ซึ่งจุดนี้นักสังเกตการณ์มองว่า ช่วยเสริมภาพลักษณ์ของมาครงในแง่ความทันสมัย กล้าพูดกล้าทำ และเป็นหน้าใหม่นอกกรอบการเมืองฝรั่งเศส แต่แน่นอนว่า ความกระหายใคร่รู้ของสื่อที่มีต่อว่าที่สามีภรรยาหมายเลขหนึ่ง ไม่ใช่บทบาท แต่เป็นช่องว่างระหว่างวัย 25 ปี และชีวิตรักของทั้งคู่ที่ไม่ธรรมดาเลย จากจุดเริ่มต้นระหว่างลูกศิษย์กับครู สื่อท้องถิ่นระบุว่า ว่าที่ผู้นำคนใหม่ที่จะกลายเป็นประธานาธิบดีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของฝรั่งเศส จะจูงมือภรรยาวัยคราวแม่ เข้าไปในทำเนียบประธานาธิบดี โทนเยอซ์ วัย 64 ปี ให้สัมภาษณ์นิตยสาร ปารีส แมทช์ ถึงความหลังระหว่างเธอกับสามีว่า พบกับมาครงครั้งแรกตั้งแต่เขายังเป็นนักเรียนและมีอายุเพียง 15 ปี ความสัมพันธ์เริ่มขึ้นเมื่อมาครงได้แสดงละครที่เธอควบคุม ขณะสอนวิชาวรรณกรรมฝรั่งเศสที่โรงเรียนมัธยมปลายเอกชนในเมืองอาเมียงส์ บ้านเกิดของมาครง ทางตอนเหนือของประเทศ โทนเยอซ์ ซึ่งมาจากครอบครัวร่่ำรวย ยังใช้นามสกุล "อูแซร์" และมีลูกแล้ว 3 คน เธอเป็นผู้ดูแลชมรมละคร ส่วนมาครงเป็นคนที่หลงใหลวรรณกรรม และอยากเป็นนักเขียนนิยาย ได้สมัครเข้าไปเป็นสมาชิกตอนเรียนปีสุดท้าย มีรายงานว่า ตอนแรก พ่อแม่ของมาครงคิดว่า ลูกชายคงไปชอบลอว์เรนซ์ ลูกสาวของโทนเยอซ์ แต่ต้องตกตะลึงกับความจริงที่ได้รับ จากนั้น ครอบครัวบอกโทนเยอซ์ให้อยู่ห่างจากลูกชาย อย่างน้อยจนกว่าจะอายุ 18 และพยายามจับทั้งคู่แยกออกจากกันด้วยการส่งมาครงไปปารีสเพื่อเรียนต่อ แต่ระยะทางไม่เป็นอุปสรรค เพราะเมื่อย้ายไปศึกษาต่อที่ปารีส เขาก็ยังโทรศัพท์ติดต่อกับเธอครั้งละหลายชั่วโมง หนุ่มน้อยในวัย 17 ยังให้สัญญาว่า "ผมจะกลับมา ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ผมจะแต่งงานกับคุณ" และแล้วทั้งสองก็แต่งงานกันจริงๆ 12 ปีให้หลัง โทนเยอซ์ ซึ่งมาจากครอบครัวร่ำรวยทำธุรกิจช็อคโกแลต หย่ากับสามีและย้ายไปอยู่กับมาครงที่ปารีส ก่อนแต่งงานกันในปี 2550 ทั้งคู่ตกลงกันว่าจะไม่มีลูก ปัจจุบัน ทั้งคู่มีความสุขดีอยู่แล้วกับหลานๆ 7 คน เธอเคยเล่าความทรงจำในสารคดีทางโทรทัศน์ด้วยว่า มาครงค่อยๆ เอาชนะการต้านทานของเธอด้วยวิธีการเหลือเชื่อ ด้วยความอดทน คนรักของเธอไม่ใช่วัยรุ่น เขามีความสัมพันธ์เท่าเทียมกับผู้ใหญ่คนอื่นๆ ในงานเลี้ยงสมรสที่สถานีโทรทัศน์ฝรั่งเศสนำภาพมาเผยแพร่ มาครง วัย 29 ปีขณะนั้น กล่าวขอบคุณแขกในงานที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในสิ่งที่ทั้งคู่ประสบมา 13 ปี ขอบคุณที่ยอมรับพวกเรา รักเราอย่างที่เราเป็น ทั้งยังพูดขอบคุณลูกๆ ของภรรยา เพราะหากจะมีใครบางคนไม่สบายใจกับเรื่องนี้ ก็คงเป็นพวกเขา แต่ปัจจุบัน ทิฟานี ออเซียร์ ทนายความและลูกสาวคนสุดท้องวัย 30 ปีของภรรยา กลายมาเป็นพลังสำคัญในทีมหาเสียงของพ่อเลี้ยงหนุ่มที่จะเข้าสู่เลข 4 ในเดือนธันวาคมนี้ เซบาสเตียน ลูกชายคนโตของโทนเยอซ์ อายุ 42 ปี แก่กว่าพ่อเลี้ยง 2 ปี ส่วนลูกสาวคนกลาง ลอเรนซ์ รุ่นราวคราวเดียวกับมาครงและเคยเรียนอยู่ชั้นเดียวกันตอนที่แม่ของเขาสอนอีกด้วย ชีวิตสมรสไม่ธรรมดาของมาครง บางครั้งก็กลายเป็นข่าวลือว่าแท้จริงแล้วเขาแอบรักเพศเดียวกัน และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ มาครงโดนข่าวลือเล่นงานหนักว่า เป็นเกย์ เขาหัวเราะให้กับข่าวโคมลอยสัมพันธ์สวาทกับ แม็ทธิว แกลเลต์ ผู้บริหารสถานีวิทยุ เรดิโอ ฟรานซ์ ว่า ถ้าคุณคิดว่า ผมใช้ชีวิตอีกด้านหนึ่งกับแกลเลต์ ก็น่าจะเป็นเพราะโฮโลแกรมของผมมันหนีไป ซึ่งเขาหมายถึง วิธีการหาเสียงในปัจจุบัน ที่่นิยมใช้โฮโลแกรมไปปรากฏตัวอีกที่หนึ่ง โดยที่เจ้าตัวไม่ต้องไปจริงๆ เมื่อวันสตรีสากล 8 มีนาคม มาครงบอกกับผู้สนับสนุนว่า เขาเป็นหนี้ภรรยามากมาย เธอทำให้เขาเป็นแบบที่เขาเป็นอยู่ในปัจจุบัน ถ้าชนะการเลือกตั้ง ก็คือ เราชนะ พร้อมบทบาทที่เธอจะได้รับ ไม่ทิ้งไว้ข้างหลัง ไม่มีการซ่อนเร้นและเธอจะอยู่เคียงข้างผม ขอบคุณ คม ชัด ลึกออนไลน์ Create Date : 26 เมษายน 2560 Last Update : 26 เมษายน 2560 7:52:45 น. 0 comments Counter : 1387 Pageviews.   Share Tweet