Group Blog
 
<<
มกราคม 2561
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 มกราคม 2561
 
All Blogs
 
2 คำตอบจากการแชทกับหนุ่มออนไลน์ที่ทำเราปรี๊ดแตก

เพิ่งจะเกิดอาการปี๊ดกับหนุ่มที่คุยด้วย
ขอเม้าให้อ่านแล้วกันนะ
คือเราเป็นประเภทขี้เกียจหาข้อมูล แล้วอยากหาเพื่อนคุยเวลาไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวเนอะ
ก็หาข้อมูลมาแล้วแหละ ว่าอยากไปที่ไหนบ้าง
แต่ยังไม่ได้หาว่าจะไปยังไง
จริง ๆ แล้วก่อนหาข้อมูลว่าจะไปไหน เราจิหาผู้ชายประเทศนั้น ๆ ก่อน ฮา ๆ
แล้วแอพที่ใช้ประจำเลยคือ tinder แล้วล่าสุดก็มาใช้ bumble ด้วย
แล้วก็ couchsurfing หาแม่งหมดนั่นแหละ
ไปมาหลายประเทศในรอบ 3 ปี
สรุปได้ว่า tinder จะ work สุด
หนุ่มที่ถามตอบให้ความสนใจเรามากสุด
แต่ก็มีอยู่แล้วล่ะครึ่งนึงที่คุยแล้วหาย ก็ไม่เป็นไร เอาปริมาณเพื่อความสบายในการเที่ยวของเรา ฮา ๆ
เราชอบที่จะคุยกับหนุ่มก่อนที่จะไปเจอ
เพราะเราจะได้เลือกได้ด้วยว่ามันไม่ได้มาเจอเพราะเรื่องอย่างว่า
ก็แหม สาวไทยที่เรื่องนี้กระฉ่อนจริง ๆ
อิพวกปาร์ตี้จ๋า ชวนกินเหล้าก็จะได้ไม่ไปกะมัน เพราะอิชั้นไม่กินเหล้าจ้ะ
แล้วถึงกิน ถ้าเป็นผู้หญิง(ดีๆ)ไปเที่ยวเมืองนอกคนเดียว มันก็ไม่ควรกินมั้ย
คุยก่อนไปซัก 1-3 เดือน ใครคุยด้วยแล้วถูกจริตก็จะไปเจอ
ใครคุยแล้วหายก็ไม่ไปเจอ เพราะถือว่าไม่ได้อยากเจอเราจริง ๆ
แหม เหมือนสวยเลือกได้ จริง ๆ ไปเจอหนุ่มก็แค่ตอนไปเที่ยวไม่กี่วัน เหอะ ๆ









จริง ๆ คุยกันบางทีมันก็จะหลุดมาเองแหละว่ามีแฟนแล้ว
หรือสูบบุหรี่ ปาร์ตี้จ๋า จ้องจะเคลมเรา หรืออะไรหลายอย่างที่ทำให้เราไม่อยากไปเจอ


จริง ๆ ก็เที่ยวคนเดียวก็ได้ เมืองปลอดภัย
แต่ถ้ามีผู้ชายพากิน พาเที่ยว จะดีกว่ามาก ก๊าก ๆ (แต่ช่วยผู้ชายออกตัง และซื้อของไปฝากผู้ชายนะจ๊ะ อย่าเข้าใจผิด)
แล้วไม่อยากจะบอกว่าทุกทริป น้ำหนักของฝากผู้ชายแม่งเยอะกว่าเสื้อผ้ากูอี๊กกกกก
และของฝากแพงกว่ามื้ออาหารที่ผู้ชายพาไปกินอี๊กกกก
แต่ก็นะ มันเป็นน้ำใจ มีคนพาเที่ยว มีเพื่อนคุย ราคามันมากกว่าของที่ซื้อมาฝากอยู่ละ

แต่ขอยกตัวอย่าง 2 อันที่เราอ่านแล้วหยุดคุย ไม่รู้จะไปต่อยังไงเลยก็คืออิ 2 ตี๋นี้
อ้อ ประเทศที่เราจะไป แม่งมีแต่ฝรั่ง (ก็แหงแหละ ประเทศคนผิวขาว มึงจะให้เจอตี๋เยอก็กระไรอยู่)
กว่าจะได้ตี๋ซักคน ลำบากยากเย็น ดูฝรั่งกับแขกและผิวสีไป 30-40 คนแล้วกว่าจะเจอตี๋ซักคน
อ้อ เราไม่อยากได้ฝรั่ง แขก หรือผิวสี ไม่ได้เหยียด แต่เห็นหน้าแล้วไม่อยากคุย
สเป๊กส่วนตัวไม่ได้เหยียด อ่านเอาขำนะ อย่าดราม่าโอเคนะ


คนแรก
เป็นหนุ่มเวียด โหย หล่อมาก เหมือนเจมส์จิ แต่หน้าตอบกว่า แล้วคิ้วเข้มเหมือนดาราเกาหลีหลาย ๆ คน
เราเคยแมชกันแล้วตอนเราจะไปสิงคโปร์
พอดีเค้าได้ไปทำงานที่สิงคโปร์อาทิตย์นึง แต่เค้าก็ไม่ค่อยคุย เพราะตอนนั้นคลาดกันเลยเงียบหายกันไป
แต่พอเราจะไปบ้านเค้า (ที่ไม่ใช่เวียดนามนะ)
จริง ๆ ก็มี contact เค้าอยู่แหละ
แต่ไม่ได้คุยเป็นปี 2 ปีแล้วก็ไม่รู้ว่าเค้ายังโสดอยู่รึเปล่า
เออ พูดถึงเรื่องความโสด เราไม่เคยถามหนุ่มคนไหนเลยนะว่ายูโสดรึเปล่า
แต่ถ้าหลุดมาว่ามีแฟนแล้ว เราก็จะไม่คุยต่อ แต่ไม่เคยถามเลยซักคน
เพราะเราก็คิดไปเองว่า คนที่มาเล่นแอพพวกนี้มันควรจะโสดแล้วเข้ามาหาคู่ป่าววะ
หนุ่มคนนี้ก็เช่นกัน
ตอนคุยกันเมื่อ 1-2 ปีที่แล้วก็ไม่เคยถามว่าโสดรึเปล่า
อาจจะโสด หรืออาจจะไม่โสด แต่หาคนเดทแก้เหงาตอนมาทำงานอยู่สิงคโปร์รึเปล่าก็ไม่รู้
เราก็เลยไม่กล้าติดต่อหนุ่มคนนี้กลับไป
เดี๋ยวเค้ามีแฟนหรือแต่งงานแล้ว เราจะผิดศีลข้อ 3 โดยไม่รู้ตัว
(เรารู้สึกว่าศีลข้อ 3 กับข้อ 5 เราถือได้แม่นมากนะขอบอก เพราะเราโสดและเราไม่กินเหล้าเลย ฮา ๆ)

เราก็เค้าไปหาหนุ่มตี๋เมืองนั้นคุยตามปกติของเรา
แล้วเราก็ได้รับ super like จากหนุ่มคนนี้จ้า อยากจิกรี๊ด
เราก็ทักไปก่อนเลย จริง ๆ หนุ่มคนอื่น ถ้า match กัน เราไม่เคยทักก่อนเลยนะ
เพราะบางคนคง like ผู้หญิงทุกคนแล้วค่อยมาเลือกที่หลังไรเงี้ย
ถ้ามันสนใจเราจริง ๆ มันก็ทักมาเองแหละ





แล้วจากสถิติของเรา
สมมุติ match กัน 100 คน
ทักกลับมา ประมาณ 30
แล้วคุยแล้วหายไปอีก 20
เหลือ 10 คนที่เราให้เบอร์ไปคุยในแชทข้างนอก
แล้ว 10 คนนี้ คุยไม่กี่วันก็หายอีก เหลืออยู่ 2-3 คนที่ถึงเวลาที่เราไปเที่ยวจริง ๆ แล้วนัดเจอ
แล้วอิ 2-3 คนนี้นะ ไปบางประเทศนะ สุดท้ายไม่ได้เจอซักคน
หรือเจอแค่คนเดียวแล้วมันยุ่งมาก มาเจอแค่ 2-3 ชั่วโมงแล้วก็ไป
มีเซ็งเหมือนกันนะ กรองแล้วกรองอีกจนเหลือที่คุยด้วยแล้วอยากเจอแล้วสุดท้ายก็....อะไรวะเนี่ย ก๊าก ๆ

เล่นแอพพวกนี้ต้องทำใจนะ
เราคุยหลายคน เค้าก็คุยหลายคนเหมือนกัน ต่างคนต่างมีตัวเลือกที่เยอะมากก

อ่ะมาต่อ
เกริ่นหนุ่มเวียดมาซะนาน
แล้วสุดท้ายก็กลับมาคุยกันใหม่
เราและเค้ายังมี contact กันและกันอยู่ในแชทข้างนอกที่เคยคุยกันอยู่เลย
ก็เลยมาคุยกันต่อ
แต่ ๆ
อิหนุ่มเวียดหน้าตาดีนี่
มึงไม่คิดจะถามอะไรกูกลับเลยเว้ยเฮ้ย
มีแต่กูถามมึงอย่างเดียว
แต่ถามไปก็ตอบกลับมานะ แต่พอตอบกลับมาแล้วก็จบ ไม่มีถามกลับ ไม่อยากรู้อะไรเกี่ยวกับเราเลย
หายกันไปตั้งนาน
เอาวะ ก็ถามมันไปฝ่ายเดียวก็ได้ อย่างน้อยมันก็อ่านแล้วมันก็ตอบกลับ
คุยไปคุยมาหลายวัน
ลองหายไปดิ๊
แม่งก็ไม่ถามหานะ หายไปก็ไม่เคยทักกลับมา
พอทักกลับไปก็อ่านแล้วไม่ตอบถ้าไม่ใช่คำถามอ่านะ





แล้วเราก็ลองลิสที่เที่ยวที่เราอยากไปในเมืองเค้าดูเนอะ
ลองให้เค้าดูหน่อยว่าที่ไหน เราไม่ควรไป หรือไปยากอะไรเงี้ย
เพราะเราไปคนเดียวเนอะ (แต่ก็แอบคิดไปว่า เค้าอาจจะดูแล้วเสนอว่า เออ ที่นั่นที่นี่ เดี๋ยวไปด้วยกันก็ได้ เดี๋ยวชั้นพาไปไรเงี้ย)
ส่งไป ไม่นานเค้าก็ตอบกลับมาว่า.......
อืม......... อันที่อยู่นอกเมือง ยูไม่ควรไปนะ
เราก็ถามว่า เออ อันไหนอยู่นอกเมืองมั่งเหรอ คือชั้นแค่สิสสิ่งที่ชั้นอยากไปมาเฉย ๆ ยังไม่ได้ดูเลยว่าอันไหนอยู่นอกเมืองบ้าง
แล้วฮีก็ตอบกับมาว่า..............
Google map สิ
ตึ่งงงงงงงงงงงง



เฮ้ย
มันใช่มั้ยอ่ะ
เราไม่เคยไปประเทศเค้าเลย
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเรา
แล้วเราแบกเป้ไปคนเดียว
เราทำการบ้านของเรามาแล้วว่าเราอยากไปที่ไหน
ไม่ใช่อยู่ดี ๆ ก็ถามเหมือนว่า ตัวอย่างว่า
เออ ชั้นจะมากรุงเทพ ไปเที่ยวไหนดี แบบนี้ดิ น่าตบ
แต่เราลิสมาแล้วว่าเราอยากไปที่ไหนของกรุงเทพ
แล้วคุณก็เกิดกรุงเทพ คุณบอกหน่อยไม่ได้เหรอว่า เออ ที่นี่มันไปยาก ที่นี่เดี๋ยวหลงป่า ที่นี่อันตราย ที่นี่รถสาธารณะเข้าไม่ถึงอะไรเงี้ย
คือน้ำใจเนี่ย มันจะเหือดดดดดดดดดดแห้งไปไหนวะ
แล้วอีกอย่าง
ที่เราถามเนี่ย เราก็อยากมีบทสนทนาในการคุยด้วย
เพราะเราก็ถามเค้าไปหมดแล้วทั้งเรื่องชีวิตประจำวัน เรื่องที่ทำงาน เรื่องหมา
ไอ้เรื่องนอกเหนือจากตัวเค้าเนี่ย ที่เราหาได้จากกูเกิ้ล เราก็ไม่ต้องถามเค้าว่างั้น

โหย คืออ่านที่เค้าตอบกลับมาแล้วปรี๊ดแตกมาก นอนดึกเลยคืนนั้น กว่าจะดึงอารมณ์ให้กลับมาปกติ
แต่เราก็ไม่ได้ปรี๊ดใส่เค้านะ
เพราะก็เข้าใจว่าตอนเค้าไปเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียวมา
เค้าก็คงอารมณ์ว่า ชั้นไปเที่ยวคนเดียว ชั้นก็หาข้อมูลเอาใน google map นั่นแหละ
อยากไปไหน อยากทำอะไรก็หาข้อมูลในกูเกิ้ล มันก็มีบอกหมดไรเงี้ย
ก็พยายามเข้าใจเค้า
แต่คงเพราะเราคาดหวังมากเกินไปเท่านั้นเองว่าเค้าจะตอบในแบบช่วยเหลือ
ไม่ได้คาดหวังว่าเค้าจะตอบมาว่ากูเกิ้ลแมพสิ







คือเราไม่ชอบคำว่าตอบว่า ให้กูเกิ้ลสิ มาตั้งแต่ตอนเราไปเที่ยวกับเพื่อนเราละ
เราไปเหนือกัน
เราถามเพื่อนว่า เอ๊ะ ดอยไหนคือดอยหลวงเชียงดาวนะ
เพราะเรานอนกันตีนดอย แล้วมันมีภูเขาล้อมรอบตัวเราหมดเลย ๆ ไม่รู้ว่าดอยไหน
เราพูดขึ้นมาลอย ๆ กับเพื่อน แล้วอิเพื่อนก็ไม่รู้เหมือนกัน
เราก็เลยบอกว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปถามพนักงานรีสอร์ทก็ได้ว่าดอยนี้ หรือดอยนี้
เพื่อนตอนกลับมาว่า “กูเกิ้ลสิ” จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนไปถามคนอื่น
ฟังแล้วปรี๊ดแตกมาก
เพราะกูเกิ้ลมันจะรู้มั้ยว่า ดอยหลวงเชียงดาวมันลูกไหน มันเห็นเหมือนที่เราเห็นมั้ยว่าลูกไหนเป็นลูกไหน
แค่เดินไปถามพนักงานมันง่ายกว่ามั้น เพื่อนแม่ง ไม่ตลกนะ
ฟังแล้วสะอึกเลย
แล้วสุดท้าย เดินไปถามพนักงาน
สรุปว่า ไอ้ 2 ลูกที่เราสงสัย ไม่ใช่ซักลูกจ้า
เป็นดอยที่อยู่ด้านหลังตอนเช้าหมอกบังมิดไม่เห็นทั้งดอยเลยจ้า แล้วรีสอร์ทอยู่ใกล้มาก ทำให้ไม่เห็นความใหญ่ของดอยเชียงดาว
เนี่ย ถามคนก็จบภายใน 2 วินาที
แล้วกูเกิ้ลมันจะบอกเรายังไงมิทราบ มันเห็นทิศเดียวกับเราเราว่าเขา 2 ลูกที่เราเห็นแล้วเราจะถามเนี่ยมันลูกไหน
ตลกมาก
แต่ก็พยายามลืม ๆ เพราะเพื่อนเป็นคนที่ไม่ชอบพึ่งพาคนอื่นอยู่แล้ว
มีอะไรก็กูเกิ้ล พยายามทำอะไรด้วยตัวเองตลอด ไม่อยากขอความช่วยเหลือใคร
เหมือนน้องชายเราเหมือนกัน แค่เราขอให้ช่วย มันจะมีคำตอบมาคำเดียว “เรื่องของมึง ไม่เกี่ยวกับกู”
เออ ถามว่าคนพวกนี้โอเคมั้ย ก็โอเค เพราะเค้าไม่ช่วยใคร และเค้าก็ไม่ขอความช่วยเหลือจากใครเหมือนกัน
เพราะกับว่าชั้นไม่ได้ขอความช่วยเหลือใคร คนอื่นก็ห้ามมาเป็นภาระชั้นเหมือนกัน


เพิ่งเจอเรื่องกูเกิ้ลสิ เมื่อปลายปีที่แล้ว
มาต้นปี มาเจอหนุ่มคนนี้ให้กูเกิ้ลอีก
มันเหมือนฟางเส้นสุดท้ายเลยทีเดียว

จากนั้นเราก็ไม่เคยกับฮีอีกเลย
ไม่อยากเจอละ กลัวเจอแล้วถามอะไร ฮีให้กูเกิ้ล พาลเสียอารมณ์เที่ยวซะเปล่า ๆ
หล่อแค่ไหนก็ขอลาล่ะค่ะ
เราว่าเค้าก็คงไม่ได้สนใจเรา (มากนัก)
จะว่าไม่สนใจเลยก็ไม่ใช่ เพราะไม่งั้นเค้าจะมา super like เราทำไม
แล้วเราถามอะไรก็ตอบนะ
แต่ไม่ถามกลับ ก็เลยคิดว่าเค้าแค่อยากได้รับความสนใจ
แล้วเค้าก็คงได้รับเยอะด้วยมั้ง เพราะถ้าในเอเชียด้วยกัน ฮีหล่อมากนะ ดูจากรูปหลาย ๆ รูป ที่ไม่ใช่การถ่ายมุมเดียวกัน
แต่ตอบคำถามนี้ทำเอาเราหมดอารมณ์คุยเลย
ก็ขอคิดดูก่อนนะว่าจะเจอดีหรือไม่เจอดี
เพราะเวลาเราโพสรูป บางรูป บางวัน ฮีก็เข้ามาดูนะ
ก็เลยคิดว่าฮีก็ยังสนใจเราอยู่ (กูไม่ได้คิดเอาเองใช่มั้ย)
อาจจะบอกว่าเนี่ย ถึงเมืองบ้านยูแล้วนะ ยูว่างวันไหนก็มาเจอแล้วกัน ชั้นมาเที่ยว ชั้นว่างทุกวัน (อ่อยแรงมาก)
แต่จะเขียนบอกหนุ่มทุกคนแบบนี้ ฮา ๆ
ใครบุ๊คก่อนได้ก่อนนะจ๊ะ (อันนี้คิดในใจ ก๊าก ๆ)








แหม่ หนุ่มคนแรก เล่าซะยาวเชียว เพราะมันหล่อ ก๊าก ๆ
หนุ่มตี๋คนที่ 2 เป็นลูกครึ่ง เวียดนาม ฮ่องกง
ดู bad boy มาเชียว
ใน profile ก็บอกอยู่แล้วว่าชอบปาร์ตี้ ชอบไปหาบาร์ใหม่ ๆ นั่ง
แต่ก็มีความชอบอย่างอื่นอยู่ด้วยเช่น ชอบปีนเขา ชอบหาร้านกาแฟด้วย
เค้าทักมาก่อนก็เลยคุย
อย่างที่บอก กว่าจะหาตี๋ได้คนนึง ยากเย็นเหลือเกิน
พอหาได้ก็ใช่ว่ามันจะทักมาคุย
ดังนั้น
คนไหนทักมาคุย อิชั้นคุยหมดจ้า
bad boy ก็มาเหอะ แค่ไม่ไปกินเหล้า ปาร์ตี้ด้วยแค่นั้น



ส่วนใหญ่เราก็เป็นคนถาม (อีกละ)
ก็คิดไปเองว่า ผู้ชายมันก็คงไม่เจ๊าะแจ๊ะอ่านะ
แต่หนุ่มตี๋ bad boy ลุคคนนั้นถามเจ้มาก่อนเลยจ้ะ
ยูโสดรึเปล่า
ก็ตอบไปว่า โสด ๆ แต่เจ้ไม่ถามกลับนะจ๊ะว่าแล้วหนุ่มอ่ะโสดรึเปล่า
เพราะคิดไปเองอีกรึเปล่าก็ไม่รู้ว่าถ้าผู้ชายถามเราว่าโสดรึเปล่าเนี่ยก็คิดว่าผู้ชายก็คงโสดเหมือนกัน ฮา ๆ
หนุ่มตี๋นี่ดีนะ เราถามอะไรไป ไม่เกินครึ่งชั่วโมง มันก็จะตอบ
แต่มันก็ไม่ค่อยถามกลับเท่าไหร่
บางครั้งก็จะถามกลับไอ้สิ่งที่เราถามไปนั่นแหละ
เมื่อวานจ้ะ
ถามไปว่าตรุษจีนไปไหน
มันก็บอกว่ากลับบ้านอีกเมืองนึง
แล้วมันจะบินกลางมากลาง ๆ ทริปของเราละ
แต่มันบอกว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันกลับมาเสาร์กลางคืนแล้วเดี๋ยวไปเดทกัน กรี๊ดดดดดดดด 555
เมิงคิดว่ากว่าเมิงจะกลับมา เจ้คงเข้านอนไปละจ้ะ
แต่แอบปลื้มใจ อย่างน้อย หนุ่มก็มีความอยากเจอเจ้จ้ะ
มีการนัดแนะ ฮา ๆ ไม่ต้องให้เจ้ไปนัด







แล้วมีคำถามนึง ซึ่งเป็นคำถามธรรมดามากจ้ะ
คือ
ถามหนุ่มว่ามีพี่น้องกี่คน
เค้าก็บอกว่า 3 เป็นคนสุดท้อง (แหม ว่าละ bad boy แบบนี้ ส่วนใหญ่เป็นลูกคนเล็กทั้งน้าน)
แล้วก็ถามว่า แล้วพี่ 2 คนนี่อยู่เมืองที่ยูจะกลับไปทั้ง 2 คนเลยเหรอ มียูว์ทำงานที่เมืองนี้คนเดียวเหรอ
มันก็ตอบกลับมาว่า ใช่ ทำไมเหรอ?
เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยย
Yes นี่ ยังพอเข้าใจ
แต่ถาม why? กลับนี่ เจ้ไม่เข้าใจ
ก็แค่ถาม มันเป็นส่วนนึงของเราคุยกันไม่ใช่เหรอวะ
อยากรู้อะไรก็ถาม ไม่งั้นมันจะทำความรู้จักกันยังไง
หรือว่าจะไม่คุย ไว้เจอค่อยคุยงั้น ระหว่างนี้จะไม่มีบทสนทนากันงั้น ไม่ต้องถามห่าอะไรกัน
แล้วเราจะรู้จักกันมั้ย
ตูเอาตัวมาเมืองที่ตูจะไปเที่ยวก่อน เพราะอยากทำความรู้จักกะแกก่อนจะเจอไง
อ่านแล้วปรี๊ดแตกอีกละ
แต่ก็เก็บอาการเอาไว้ พยายามจะเข้าใจผู้ชายและเข้าใจตัวเองว่ามันก็ตอบสไตล์มัน แค่ไม่ถูกใจเราเท่านั้นเอง
อย่าคาดหวัง ๆๆๆๆๆ พูดย้ำตัวเองเสมอ ๆ
ไปเที่ยว คือไปมีความสุข อะไรที่ทำให้ไม่สบายใจก็แค่ปล่อยไป แล้วไง ใครแคร์ ก็อย่าได้แคร์

ขอยกตัวอย่างที่ปรี๊ดมาก ๆ แค่ 2 อันมาก่อนนะ
อันไหนน่ารักมาก ยังไม่เจอ
แต่เดี๋ยวเจอจะมาเล่าแล้วกัน






เออ หลัง ๆ ด้วยความที่ตี๋มันหายากมาก แล้วได้มาก็ไม่คุย
เลยลองฝรั่งบ้างนิดหน่อย
มีฝรั่งคนนึงอ่าน profile ที่เราเขียนเนอะ
เราก็เขียนว่าเราจะไปเมืองเค้าวันไหน ถึงวันไหน หาเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว
ฝรั่งส่งข้อความมาเลยจ้า
ยูว์ต้องการอะไรจาก tinder
กินฟรี เหล้าฟรี หาคนพาเที่ยวฟรีเหรอไง (ว้า รู้ได้ไง ว่าอยากหาคนมาเที่ยวฟรี ได้กินฟรีนี่ไม่มักอยู่แล้ว ขอหารตลอด แต่ส่วนใหญ่บอกผู้ชายก่อนเลยว่าอยากกินอาหาร local ไม่แพง ไม่เอาในห้าง มันก็จะไม่แพงอยู่แล้ว แล้วผู้ชายก็มักจะจ่ายให้)
เราก็บอกว่าอืม ก็อย่างใน profile ที่เขียนแหละ อยากได้เพื่อนคุย เพื่อนเที่ยว
ชั้นหาทั้งผู้ชาย ผู้หญิง ไม่ได้หาผู้ชายอย่างเดียว แล้วฮีก็หายไป
ฝรั่งก็ตรงดีนะ
เค้ามาก็ถามเลยว่าเข้าแอพนี้นี่อยากได้อะไร
แต่หลัก ๆ เรามาหาเพื่อนเที่ยวมากกว่า เค้าจะได้ไม่เสียเวลา
เพราะคิดว่าเค้าคงจะเข้ามาหาเมียอย่างจริง ๆ
แล้วเค้าก็เห็นแล้วว่าเราไปไม่กี่วัน คงเอาเราเป็นเมียไม่ได้หรอก ก๊าก ๆ
เลยเลิกคุยกับเราไป
เออ ก็ตรงดี

จะได้ไม่เสียเวลาทั้งคู่
จริง ๆ ไปแต่ละประเทศก็แอบมีหวังนิดนึง
แต่ที่สุดแล้วมันก็สานกันไม่ได้หรอก
ไม่มีใครอยากมารักทางไกลกัน เป็นเพื่อนกันก็ดีสุดละ
เราไปบ้านเค้า ๆ ก็เทคแคร์
เค้ามาบ้านเรา ๆ ก็เทคแคร์
เนี่ย ปีนี้มากันหลายคนเลย นี่เพิ่งต้นปีเอง แต่ก็ยินดีต้อนรับทุกคน
พากิน พาเที่ยวอย่างที่เราเทคแคร์เราเมื่อตอนเราไปบ้านเค้า
ขอบคุณแอพ ที่ทำให้มิตรภาพเกิดขึ้น แล้วบางคนเราไปเที่ยวมา 3 ปีแล้ว ยังคุยกันอยู่เลย
ไปต่อไม่ได้ ก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็ได้


 


Create Date : 27 มกราคม 2561
Last Update : 29 ตุลาคม 2565 20:54:26 น. 4 comments
Counter : 2544 Pageviews.

 
กรี๊ดๆๆพี่ลีลีอัพบล็อคแล้ว ตามอ่านอยู่ค่า
อยากมีคนเม้าเรื่องทินเด้อ ไม่กล้าเม้ากับใครในชีวติจริงเลยอายค่ะ555
หนูก็ชอบค่ะเอเชียที่เก่งอิ้งๆ หนูไม่เคยถามเหมือนกันว่ามีแฟนมั้ย เพราะตัวเราก็ไม่ได้หาแฟนอะไรเบอร์นั้น อยากได้เพื่อน ถ้าพัฒนาได้ค่อยว่ากัน เคยเจอเอเชียบางคนเค้าก็ถามเลยนะคะว่ายูต้องการอะไรจากทินเด้อ ก็รู้สึกตรงจัง ค่อยๆคุยไม่ได้หรอ555

ไอพวกถามคำตอบคำหนูก็ไม่คุยค่ะ ไม่เคยทักใครก่อนเหมือนกันปกติ จะรอเค้าทักมา ก็ถามกลับแต่ถ้าถามคำตอบคำหล่อขนาดไหนก็ไม่คุยค่าเลิก

หนูกรองเหมือนพี่ลิลิเลยค่ะ แบบมีเป็นสิบๆ เหลือมาคุยในไลนได้ไม่กี่คน ที่คุยเเล้วโอเคนัดเจอน้อยมากกก ขนาดบางทีนัดเจอก็ยังมีเซงๆอีก5555

แล้วบางทีเค้ากลับประเทศไปเราก็ไม่ได้อะไร เคยเจอกันรู้จักกันก็จบ หนุ่มบางคนแบบทักมาทุกวัน บางทีหนูแอบรำคาญนิดนึงค่ะ5555 คือชาตินี้ไม่รู้จะได้เจอกันอีกเมื่อไร ไม่ต้องถามเราทุกวันก็ได้มั้งว่ากินข้าวยังแล้วกินอะไร5555 รอจะมาไทยอีกทีค่อยทักก็ได้5555

หนูเหมือนพี่ลิลิมาก จะเลือกคนแบบศีลห้า ไม่เอาปาร์ตี แต่ก็หายากนะคะ ส่วนใหญ่แนวดื่มเยอะมากกว่า ขนาดเราอุตส่าเขียนว่าเราไม่ดื่ม

มาเม้าเพลินคอมเม้นยาวเลยค่ะ 555 รออ่านบล็อคถัดไปอยู่นะค้า ชอบๆค่ะ มีคนคิดเหมือนกัน


โดย: Punch IP: 58.10.83.170 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:15:46:29 น.  

 
สวัสดีค่ะน้อง Punch :)
เพิ่งกลับมาจากเที่ยวค่ะ
สนุกดี เจอหนุ่ม ๆ สาว ๆ หลายคนเกือบทุกวันเลย ฮา ๆ
ทุกคนก็มีเรื่องเล่าดีนะ ไว้ถ้ามีเวลาว่างจริง ๆ จะมาเขียนเล่าให้ฟังทีละคนเลยว่าได้อะไรจากการคุยกับหนุ่ม ๆ และสาว ๆ ที่นั่นบ้าง
แต่ยังไม่มีเวลาเลย กลัวเริ่มพิมพ์แล้วจะเพลินแล้วจะไม่ได้นอน ก๊าก ๆ

เฮ้ย
การที่เค้ากลับประเทศไปแล้วแต่ยังทักมาทุกวันมันเป็นนิมิตรหมายที่ดีนะจ๊ะ
ของเจ้ไม่เห็นมีงี้มั่งเลย กลับประเทศแล้วก็หายกันไป
อาจจะคุยกันนิดหน่อยอาทิตย์แรก แล้วก็อ่านแล้วหาย
จะกลับมาคุยกันใหม่อีกทีก็ตอนเราจะไปอีกรอบ หรือเค้าจะมาบ้านเรานั่นแหละ

คิดซะว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่เกิดขึ้นได้ยากที่ผู้ชายจะยังติดต่อเราทุกวันทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่
การรำคาญมันก็เป็นส่วนนึงของมนุษย์แหละ
อารมณ์เรามีขึ้นมีลง แต่รักษาไว้ก็ดี มิตรภาพแบบนี้หายากจ้ะ

เออ ขอเม้า
ไอ้หนุ่มเวียดที่หล่อ ๆ น่ะ เจ้ไปเจอมาละนะ
หล่อจริง แต่สูงแค่ 170 หรือเตี้ยกว่านั้น
แล้วไม่แปลกใจเลยที่เค้าไม่ตอบหรือถามกลับ
เพราะเจอตัวจริง ฮีก็เป็นอย่างนั้นแหละ
เจอแล้วก็ไม่ค่อยมีเรื่องคุย เราต้องคอยถาม ๆ เค้าถึงจะตอบ แต่เค้าก็ไม่ค่อยถามกลับ ไม่ค่อยคุย
เหมือนไม่ค่อยรู้จักวิธีการคุยกับเรา แต่เค้าก็ตอบทุกอย่างที่เราถามอยู่นะ
ก็โอเคเลย มันเป็นสไตล์เค้า
มีของจากไทยไปฝากเค้า ทำให้เค้าประทับใจมากด้วย

คิดว่าอาจจะได้เจอกันอีกในเอเชีย เพราะฮีจะย้ายมาเอเชียอยู่ อิอิ

บล็อคถัดไปคงนานหน่อยนะจ๊ะ เพราะเขียนบล็อคแต่ละที ไม่ต่ำกว่า 5-6 ชั่วโมง หรือทั้งวันทุกที รวมทั้งพิมพ์และเลือกรูป จัดรูป ฯลฯ
การเขียนบล็อคมันใช้เวลาจริง ๆ โดยเฉพาะบล็อคท่องเที่ยว

ถ้าบล็อคเม้าชาวบ้านก็ง่ายหน่อย ตัวหนังสือล้วน ๆ รูปไปเอาของชาวบ้านได้
แต่เที่ยวเอง รูปก็ต้องรูปที่เราถ่ายเอง
ถ้ายังอินอยู่และอยากเขียน จะอัพนะจ๊ะ แต่ตอนนี้ มีแต่ความอินอยากเล่า แต่ความขี้เกียจพิมพ์มีสูงมาก

ขอบคุณที่ติดตามบล็อคและคอมเม้นท์ให้รู้นะคะ
มีกำลังใจขึ้นเป็นกองเลยค่ะ
รักคนอ่านนะคะ


โดย: หนูลีลี วันที่: 6 มีนาคม 2561 เวลา:19:10:21 น.  

 
กรี๊ดๆ พี่ลีลีมาตอบคอมเม้นแล้วอิอิ
รออ่านอยู่เลยค่ะ

คนที่เค้าทักมาบ่อยๆหนูแบบหลังๆยุ่ง แอบรำคาญเลยไม่ค่อยได้ตอบค่ะ (อาจจะเป็นเพราะเราไมไ่ด้ชอบเค้าด้วยมั้งคะ แค่รู้สึกว่าเค้าเป็นคนดีเฉยๆค่ะ แต่บางมุมเค้าก็จะมีแบบแอบเหยียดคนอื่นเพราะเค้าคิดว่าเค้าฉลาด เก่งหนูเลยไม่ค่อยชอบค่ะ) จนเค้าบอกจะมาไทยอีกที ตอนนั้นหนูเข้าใจว่าเค้าจะมาเที่ยว เลยไม่ได้อะไร พอใกล้ๆหนูรู้สึกไม่อยากเจอ ไม่ชอบที่บางทีเค้าชอบดูถูกคนอื่น เลยบอก ไอไปเจอยูไม่ได้นะ นางใส่มาเป็นชุดเลยค่ะพี่ลีลี555 สรุปคือนางตั้งใจมาเจอหนู แต่หนูแค่รู้สึกว่าทำไมเค้าต้องทำขนาดนั้น เหมือนมาโยนความรับผิดชอบให้เรามากเกินไป ทั้งๆที่เพิ่งเจอกันครั้งเดียว ไม่ได้เป็นอะไรกัน เหมือนเค้ามาโทษว่าหนูผิดที่ไม่ออกไปเจอ หนูเลยแบบตัดขาดเลยค่ะ5555 รู้สึกผิดแต่ก็ไม่อยากรับผิดชอบใคร


กรี๊ดๆๆ ตื่นเต้นเรื่องหนุ่มเวียดนาม เค้าก็คงอยากเห็นพี่ลีลีนะคะ ไม่งั้นคงไม่ออกมาเจอ ถ้ามีโอกาสได้เจอกันอีกก็คงดีนะคะ

รออ่านบล็อคพี่ลีลีอยู่ตลอดเลยค่ะ หนูหลุดเข้ามาอ่านเพราะตอนนั้นมีคุยกับคนสิงค์โปรอยู่ แล้วเพิ่งคุยกับคนสิงค์โปรครั้งเเรกค่ะ ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยว่าเค้าเป็นไง จนสุดท้ายเลิกคุยเพราะเค้าศาสนาเงินเกินไปจริงๆ แบบคุยกันครั้งเเรก ถามเงินเดือนหนูเฉยเลย งงมาก5555 ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดไรมาก เค้าแบบพูดจาดูเป็นคนดี พอโทรศัพท์คุยกัน อื้อหือออ หยาบคายมากกกค่ะ ไม่ได้หยาบคายกับหนูนะคะ แต่เรื่องที่เค้าเล่าเกี่ยวกับคนอื่น มันหยาบคายมากค่ะ หลังจากนั้นเลยไม่ได้คุยกับคนสิงค์เลยค่ะ

จนอาทิตย์ที่เเล้วหนูเพิ่งไปเจอคนสิงค์มาครั้งเเรกในชีวิต คือไม่เคยเจอเลย คนเเรกที่คุยคือไม่เคยเจอกัน จนเลิกคุยไป คนนี้แบบนัดเจอกันรวดเร็วมาก ตอนนั้นไม่คิดว่าจะไปเจอด้วยค่ะ เพราะหนูไม่ชอบแบบเพิ่งคุยจะนัดเจอเลย แต่อยากได้เพื่อนไปนั่งกินจิ้มจุ่มข้างทาง แล้วเค้าชวนพอดี เลยพาไปกินร้านที่มีหนูเดิน5555 ก็คุยกันดีนะคะ อายุเท่ากัน เลยเหมือนเพื่อนดีค่ะ แล้วเค้าก็กลับไปค่ะ ก็ไลน์คุยกัน หนูกำลังสมัครแอร์อยู่ค่ะ ทำงานไปด้วย ภาษาอังกฤษหนูธรรมดา ไม่ถนัดแกรมม่าค่ะ ก็คุยกะเค้าว่าจะไปสมัคร เค้าเป็นผชคนแรกที่อาสาช่วยหนูแก้แกรมม่าให้ เเอบประทับใจค่ะ 555 ปกติคือไม่เคยมีใครอาสาช่วยเลย หนูไม่ค่อยได้บอกคนที่คุยด้วยว่าสมัครแอร คือจะบอกแค่ว่ากำลังสมัครงานใหม่ใช้ภาษาอังกฤษสัมภาษณ์ ผชปกติก็จะแบบเออคุณทำได้อยู่เเล้ว พยามเข้านะ จบ คนนี้เป็นคนแรก ที่อาสาช่วย บอกคำถามมาเลย เดี่ยวช่วยคิดให้ จากที่คุยมาหลายสิบคน55555

มาเวิ่นเว้อในบล็อคพี่ลีลียาวเลยค่ะ555 รออ่านตอนต่อไปอยู๋นะคะ^^


โดย: Punch IP: 119.76.161.246 วันที่: 13 มีนาคม 2561 เวลา:14:52:17 น.  

 
หรือว่าหนุ่มเวียดเค้าคุยไม่เก่งป่ะคะ แบบเขินๆ ปกติไม่ค่อยได้คุยกับผญหรือเปล่า ไม่รู็หนูคิดไปเองมั้ย ว่าถ้าคนเอเชียเค้าก็อยากคุยกับเอเชียด้วยกัน แต่ที่นั่นอาจจะไม่ค่อยมี เลยไม่ค่อยได้คุยกับผญ พอเจอผญเลยทำตัวไม่ถูก ถามคำตอบคำป่ะคะ


โดย: Punch IP: 119.76.161.246 วันที่: 13 มีนาคม 2561 เวลา:14:59:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.