ซื้อบ้านซื้อคอนโดแล้วผ่อนต่อไม่ไหวโครงการจะยึดเงินที่จ่ายไปแล้วทั้งหมดได้มั้ย หลายคนอาจกำลังผ่อนบ้านผ่อนคอนโดอยู่แต่ เอ๊ะ ! ถ้าเราส่งต่อไม่ไหวแล้วโครงการจะยึดเงินที่เราส่งไปแล้วทั้งหมดได้มั้ยอะ?คุณคงสงสัยและอยากรู้ มาดูกันครับ โดยปรกติแล้วหากเราผ่อนส่งค่าซื้อบ้านหรือคอนโดต่อไปไม่ไหวเลยไม่ได้ผ่อนต่อก็ต้องถือว่าเราผิดสัญญานะ โครงการก็จะสามารถบอกเลิกสัญญากับเราได้ และแน่นอนโครงการก็มีสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะยึด(ริบ)เงินมัดจำที่เราจ่ายไปแล้วด้วย(อธิบายนิด เงินมัดจำคือเงินที่เราจ่ายให้ทางโครงการไปในวันที่ทำสัญญาจะซื้อจะขายส่วนเงินอื่นๆที่เราจ่ายไปหลังจากนั้นไม่ถือว่าเป็นเงินมัดจำ แม้ว่าในสัญญาจะระบุว่าเป็นเงินมัดจำก็ตาม) คือกฎหมายให้โครงการยึดเงินมัดจำได้หากเราผิดสัญญา ส่วนเงินอื่นๆที่เราจ่ายไปนั้นทางโครงการต้องคืนให้เรานะเพราะมันไม่ใช่เงินมัดจำที่โครงการจะมีสิทธิ์ยึดได้ตามกฎหมายงัย แต่อย่า...อย่าเพิ่งดีใจไปครับ เพราะหากในสัญญาจะซื้อจะขายมีข้อตกลงให้โครงการมีสิทธิ์ยึดเงินทั้งหมดที่เราจ่ายไปแล้วได้ด้วย(ส่วนใหญ่ 99.99999% จะมีระบุไว้)โครงการก็จะมีสิทธิ์ยึดเงินทั้งหมดที่เราจ่ายไปแล้วได้ด้วย เว้นแต่บางโครงการจะใจดีไม่ยึด(จะมีมั้ย ?) เพราะถือว่ามีข้อตกลงที่เรายินยอมให้ยึดได้เนื่องจากเราเป็นฝ่ายผิดสัญญา แต่อย่า...อย่าเพิ่งตกใจและเสียใจไปครับ เพราะกฎหมายไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น กฎหมายถือว่า เงินที่เราได้จ่ายไปทั้งหมดนั้นเป็นเบี้ยปรับ(ยกเว้นเงินมัดจำ) ซึ่งหากศาลเห็นว่าเบี้ยปรับนั้นเป็นจำนวนเงินที่สูงเกินไป เช่นเราจ่ายเงินไปตั้งเยอะแล้ว โครงการจะมายึดเงินทั้งหมดของเราไปแถมยังมีสิทธิ์เอาห้องหรือบ้านที่เราซื้อไปขายต่อให้คนอื่นในราคาที่สูงขึ้นได้อีกโครงการก็จะได้กำไรอื้อเลย แบบนี้ไม่เป็นธรรม ๆ กฎหมายก็เลยให้ศาลมีอำนาจสั่งให้โครงการคืนเงินเรามาบางส่วนตามที่ศาลเห็นสมควรได้ครับอาจจะครึ่งนึงของเงินที่เราได้จ่ายไปแล้วหรืออาจจะมากกว่านั้นก็ได้ หรืออาจไม่สั่งคืนให้เลยก็ได้เช่น จ่ายไปแค่งวดเดียวแล้วเราผิดสัญญาเลยอะไรแบบเนี้ยยย .......มาดูตัวอย่างตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกากันครับ............. คำพิพากษาของศาลฎีกาที่ 7122/2549 คำว่า มัดจำ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 377 คือทรัพย์สินซึ่งได้ให้ไว้ในวันทำสัญญา ไม่ใช่ทรัพย์สินที่ให้ไว้ในวันอื่นสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน ข้อ 3 ระบุว่า ในวันทำสัญญาโจทก์ผู้จะซื้อได้วางเงินมัดจำไว้ส่วนหนึ่งเป็นเงิน10,000 บาท ส่วนที่เหลือจำนวน 914,000 บาทจะชำระเป็นงวดรายเดือน จำนวน 10 เดือน ดังนั้น เงินที่วางมัดจำไว้ในวันทำสัญญาดังกล่าวจึงมีเพียง10,000 บาทเท่านั้น ส่วนเงินค่างวดที่โจทก์ชำระให้แก่จำเลยทั้งสามอีก10 งวด เป็นเงิน 170,000 บาท นั้น แม้ตามสัญญาจะระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของเงินมัดจำก็ไม่ใช่เงินมัดจำตามความหมายดังกล่าว แต่เป็นเพียงการชำระราคาที่ดินบางส่วนเมื่อโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาและจำเลยทั้งสามบอกเลิกสัญญาแก่โจทก์แล้ว สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินดังกล่าวจึงเป็นอันยกเลิกกันจำเลยทั้งสามจึงมีสิทธิริบเงินมัดจำจำนวน 10,000 บาท ได้ตามป.พ.พ. มาตรา 378 (2)ส่วนเงินที่โจทก์ชำระค่าที่ดินบางส่วนดังกล่าวจำเลยทั้งสามต้องให้โจทก์กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิมตาม ป.พ.พ. มาตรา 391 แต่การที่โจทก์และจำเลยทั้งสามตกลงกันให้ริบเงินดังกล่าวได้ตามสัญญาข้อ13 ข้อตกลงดังกล่าวจึงมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับที่กำหนดเป็นจำนวนเงินตามป.พ.พ. มาตรา 397 ถ้าสูงเกินส่วนศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้ตามป.พ.พ. มาตรา 383 วรรคหนึ่ง ดังนั้น ใครที่จ่ายเงินค่าผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโดหรือผ่อนที่ดินไปหลายงวดแล้วไม่ได้ผ่อนต่อเมื่อโครงการบอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายกับเราแล้ว เรามีสิทธิ์ได้เงินที่ผ่อนไปแล้วคืนบางส่วนนะครับแต่เราคงต้องไปฟ้องศาลเพื่อขอให้ศาลสั่งให้คืน ทางโครงการคงไม่คืนให้เราเองแน่ๆครับเว้นแต่โครงการไหนจะใจดีคืนให้เองเลย และมีบางเคสที่เราอาจไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาหากสัญญาเลิกกันแล้วทางโครงการต้องคืนเงินทั้งหมดที่เราจ่ายไปให้เรานะครับ ...เลาะรั้วศาล...
Create Date : 18 พฤศจิกายน 2560 |
Last Update : 2 ธันวาคม 2560 15:18:45 น. |
|
4 comments
|
Counter : 592 Pageviews. |
|
|