ตอนที่ 30(2) เธอคือแสง,ฉันคือเงา (You are the light, I am the shadow)
         วันหนึ่ง ณ ค่ายทหารของกองทหารลาดตระเวน ระหว่างที่อังเดรกำลังทำความสะอาดปืนของเขาอยู่ก็มีเพื่อนทหารเข้ามาเรียก
ทหาร : “เฮ้ อังเดร”
อังเดร : “ว่าไง?”
ทหาร : “มีคนมาเยี่ยมนายอ่ะ”
อังเดร : “ฉันหรอ?” อังเดรรู้สึกแปลกใจที่มีคนมาเยี่ยมเขา เมื่อเขาเดินไปด้านหน้าค่าย ก็ต้องดีใจและแปลกใจที่เห็นแนนนี่ยายของเขา และเป็นแม่นมของออสการ์ แวะมาเยี่ยม
อังเดร : “ยาย!”
แนนนี่ : “ฉันซื้อชั้นในมาให้เธอน่ะ” แนนนี่ส่งยิ่มให้ พร้อมทั้งถือกระเป๋าใบเล็กใบหนึ่งส่งให้อังเดร
อังเดร : “ขอบคุณ! มันช่วยได้มากเลย”  อังเดรตอบอย่างเขินอาย แล้วทั้งคู่ก็ออกไปเดินคุยกันด้านหน้าค่ายทหารตามลำพัง
แนนนี่ : “เธอมาเข้ากองทหารลาดตระเวนก็ไม่บอกฉันซักคำ เธอจะมีวันหยุดเมื่อไหร่? เธอจะไม่กลับบ้านตอนวันหยุดบ้างเลยหรอ?”
อังเดร : “แน่นอน ฉันจะรีบกลับเมื่อถึงวันหยุดของฉัน ฉันเริ่มคิดถึงอาหารฝีมือยายแล้วสิ อาหารที่นี่ไม่อร่อยเลย”
แนนนี่ : “ก็จริงอย่างที่เธอพูดนั่นแหละ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ทั่งคู่หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน แต่แล้วอยู่ดีดีแนนนี่ก็มีสีหน้าเศร้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด
อังเดร : “มีอะไรหรอยาย?”
แนนนี่ : “เออ ฉันคิดอยู่ว่าฉันควรจะบอกเธอดี..หรือเปล่า...” แนนนี่มีทีท่าลังเล
อังเดร : “เรื่องอะไรหรอ?”
แนนนี่ : “ฉันจะบอกเธอว่า! คุณหนูพึ่งจะรับคำขอแต่งงานที่คฤหาสน์”
อังเดร : “อ...อ๋อ..หรอ...” อังเดรได้ยินดังนั้นก็รู้สึกช็อค และเสียใจอย่างมาก ราวกับหัวใจจะแตกสลาย แต่ก็ต้องข่มใจเอาไว้

         หลังจากที่แนนนี่กลับไปแล้ว อังเดรก็รีบวิ่งกลับเข้าไปในค่ายทหารด้วยความเสียใจ แต่ระหว่างทางเดินนั้น เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับ บาสตาร์ด นายทหารร่างใหญ่ ที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า เขาเข้ามาขวางทางอังเดรไว้ พร้อมกับพรรคพวกจำนวนหนึ่ง
บาสตาร์ด : “เฮ้ ตอนนี้แหละ ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”
อังเดร : “คุยหรอ?”
บาสตาร์ด : “ฉันได้ยินมาว่านายเป็นคนรับใช้ของหัวหน้าหญิง!” ยังไม่ทันที่อังเดรจะได้พูดอะไร เขาก็ดึงคอเสื้ออังเดรขึ้นมา แล้วตะโกนใส่หน้าเขา
บาสตาร์ด : “ไอ้งั่งเอ๊ย! ฉันรู้สึกรำคาญที่เห็นคนที่คอยกระดิกหางให้พวกขุนนาง!”
เพื่อนทหาร : “บาสตาร์ด มันไม่ได้แค่กระดิกหางนะ มันยังสอดแนมเอาเรื่องของพวกเราไปบอกเธอด้วย” เพื่อนทหารนายหนึ่งพูดเสริมขึ้นมา เมื่อพูดจบบาสตาร์ดก็ต่อยเข้าที่ท้องของอังเดรอย่างแรง โดยที่เขายังไม่ทันได้ตั้งตัว
บาสตาร์ด : “บอกซิ ทำไมนายไม่ไปห้องเก็บของกับพวกเราล่ะ” บาสตาร์ดและพวกของเขา ลากอังเดรเข้าไปในห้องเก็บของด้านหลังค่าย
บาสตาร์ด : “ฉันจะสอนบทเรียนดีดีให้กับนาย” พวกเขาโยนร่างของอังเดรเข้าไปกองบนพื้นในห้องเก็บปืน
อังเดร : “น่าสนใจนี่ วันนี้ยิ่งมีบางอย่างมากวนใจฉันอยู่ด้วยสิ! เอาเลยสิ!” ?!” อังเดรพูดตอบโต้พร้อมทั้งพยุงตัวเองขึ้น และหยิบปืนไรเฟิลที่วางอยู่บนพื้นขึ้นมาเป็นอาวุธ
บาสตาร์ด : “ว่าไงนะ” อังเดรถือปืนและพุ่งเข้าใส่ทหารนายหนึ่ง เขาใช้ด้ามปืนกระแทกจนทหารคนนั้นร่างกระเด็นทะลุกระจกหน้าต่างออกไป
 เสียงทหารตะโกนร้องเรียกให้คนอื่นๆเข้าไปดู  “มีคนตีกัน! มีคนตีกัน!” “ทหารใหม่ตาเดียวเริ่มสู้แล้ว!” “ในห้องเก็บของหมายเลข 4 ในห้องเก็บอาวุธ!” “เฮ้ เกิดอะไรขึ้น?” ออสการ์และอัลเลนก็ได้ยินเสียงนั้นด้วย
อังเดร และพวกของบาสตาร์ดเข้าต่อสู้กันอย่างดุเดือด อังเดรโดนต่อยหลายครั้งจนล้มทรุดแทบยืนไม่ไหว แต่เขาก็ยังฝืนลุกขึ้นมาอีก เขาสู้จนสุดแรงแต่ก็ไม่สามารถสู้บาสตาร์ดและพวกของเขาได้ อังเดรโดนรุมทำร้ายจนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น
บาสตาร์ด : “เจ้าหมาของขุนนาง! กระดิกหางของแกสิ! ไปกันเถอะ” บาสตาร์ดถมน้ำลายใส่อังเดรแล้วเดินออกจากห้องไป ด้านหน้าห้องเต็มไปด้วยเหล่าทหารที่มามุงดูการต่อสู้
บาสตาร์ด : “ออกไป! หลีกทางให้ฉัน!” ทันใดนั้นเอง อัลเลนก็เดินมาขวางพอดี
อัลเลน : “เฮ้ ถ้านายจะทำอะไรเอะอะโวยวายแล้วล่ะก็ นายต้องบอกฉันก่อน นายก็รู้ว่าฉันเป็นหัวหน้าทีม”
เมื่อบาสตาร์ดเห็นอัลเลน เขาก็แสดงท่าทางอ่อนลงทันที
บาสตาร์ด : “ไม่นะ อัลเลน ไม่ใช่อย่างนั้น มันกะทันหันน่ะ ฉันก็เลยไม่ทันได้บอกนาย” บาสตาร์ดพยายามแก้ตัว
อัลเลน : “โอ้ การต่อสู้พึ่งจะเริ่มหรอ? ในกรณีนี้ ฉันไม่ค่อยชอบ 5 รุม 1!” อัลเลนทำทีจะหยิบมีดที่เค้าพกไว้ออกมา เมื่อบาสตาร์ดเห็นเข้าก็ตกใจและมีทีท่าหวาดกลัว
บาสตาร์ด : “ไม่ๆนะ อัลเลน อย่าๆ! ฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ฉันสัญญา!”
อัลเลน : “อย่าลืมที่พูดก็แล้วกัน ไอ้ทหารใหม่ตาเดียวมันเป็นเพื่อนดื่มที่ดีของฉัน!”
บาสตาร์ด : “ได้ๆ ฉันจะไม่ลืมแน่นอน” บาสตาร์ดและพวกของเขารีบเดินหนีออกไปทันที รวมทั้งทหารคนอื่นๆก็รีบแยกย้ายกันกลับไป
อัลเลนเดินเข้าไปดูอาการของอังเดรที่ยังคงนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น
อัลเลน : “โอ้ย นายถูกตีซะยับเลย เฮ้ อังเดร ทำใจดีดีไว้นะ! อังเดร?” ทันใดนั้นเอง อังเดรก็หลุดเพ้อออกมาโดยไม่รู้ตัว
อังเดร : “อย่านะออสการ์ อย่าแต่งงานนะ...”  อัลเลนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกแปลกใจ แต่พอเขาหันไปที่ประตูห้อง ก็เห็นออสการ์ยืนอยู่ที่ประตูแล้ว อัลเลนยิ้มออกมามาอย่างรู้ทัน
อัลเลน : “อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง นายชอบอะไรในตัวผู้หญิงห้าวๆนักหนานะ?” อันเลนลุกขึ้นพร้อมกับชี้ไปที่อังเดร
อัลเลน : “เฮ้ หัวหน้า ดูแลเขาด้วยนะ ผู้ชายคนนี้ยอมสละชีวิตเพื่อท่านนะ! ฮ่าฮ่าฮ่า” เขาพูดแซวออสการ์ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป
 
            เย็นวันนั้นเอง ระหว่างที่ออสการ์กำลังจะขี่ม้ากลับบ้าน เจโลเดลก็ได้มาดักรอออสการ์อยู่หน้าค่าย เพื่อที่จะสารภาพความในใจของเค้า
เจโลเดล : “ผมจะขอร่วมทางไปกับคุณ ไม่สิ ได้โปรดให้ผมได้ร่วมทางไปกับคุณ!” เจโลเดลขี่ม้าไปเป็นเพื่อนออสการ์ ระหว่างทาง เขาก็ได้พูดความในใจของเขา
เจโลเดล : “ฉันไตร่ตรองเรื่องนี้มาตั้งแต่คุณออกจากทหารองครักษ์... มันทำให้ฉันคิดถึงน้ำเสียงที่เยือกเย็น และรอยยิ้ม รวมทั้งสายตาที่เย็นชาของคุณ จนไม่สามารถห้ามตัวเองได้... ฉันจึงบอกกับพ่อของคุณว่า ฉันต้องการคุณ... ผมรักคุณทั้งหมดของหัวใจ เออ ฉันตำหนิตัวเองว่าทำไมถึงพูดได้แค่คำธรรมดาๆแบบนั้น!” ออสการ์ยังคงนิ่งเงียบ
เจโลเดล : “ได้โปรด พูดอะไรกับฉันหน่อยสิ อ๊า สายลมพัดผ่านหัวใจของฉัน...” ออสการ์ยังคงนิ่งเงียบ ไม่มีเสียงตอบใดๆ แววตาของเธอยังคงมีแต่ความเศร้า
เจโลเดล : “ถ้าฉันไม่ได้เกิดในชนชั้นขุนนางที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากความน่าเบื่อ ฉันก็อยากจะไปเป็นคนรับใช้หรือคนเลี้ยงม้าของคุณ!” ออสการ์ได้ยินดังนั้นก็หันมาตัดพ้อเจโลเดล
ออสการ์ : “ในฐานะขุนนาง เราไม่มีสิทธิ์จะพูดถึงคนรับใช้ของเรา ขอโทษนะ ท่านร่วมทางกับฉันมาไกลพอแล้ว” แล้วออสการ์ก็ควบมาจากไปทันที ทิ้งให้เจโลเดลอกหักอยู่เพียงลำพัง
 
            ในห้องนอนของออสการ์ ออสการ์กำลังนั่งเล่นเปียโน โดยมีนายพลจาร์เจส์ยืนจิบไวน์อยู่ใกล้ๆ
นายพลจาร์เจส์ : “นายพลบูอีจะจัดงานเลี้ยงเพื่อเธอ ขุนนางหนุ่มๆทั้งหมดในแวร์ซายส์จะมาร่วมงาน พวกเค้าทั้งหมดล้วนเหมาะสมกับลูก ในฐานะของพ่อ ฉันขอสั่งให้เธอไปร่วมงาน เธอจะต้องใส่ชุดราตรีที่สวยที่สุดและแต่งหน้าด้วย... และไปร่วมงานเลี้ยงในฐานะลูกสาวของตระกูลจาร์เจส์” นายพลจาร์เจส์ออกคำสั่งแกมบังคับ แล้วก็จิบไวน์ต่ออย่างสบายใจ “ออสการ์ แด่ความสุขของเธอ!”
 
         ในบ่ายวันหนึ่ง นายพลจาร์เจส์และนายพลบูอีได้นั่งรถม้าไปด้วยกัน ทั้งคู่กำลังปรึกษาหารือเรื่องที่จะจัดการหาคู่ให้กับออสการ์
นายพลบูอี : “ว่าไง? นางเอกของเรา ออสการ์ ตอบรับคำเชิญมั้ย?”
นายพลจาร์เจส์ : “ใช่ครับ..น่าจะใช่”
นายพลบูอี : “ดี เพิ่มวงออร์เคสต้าและจัดงานเลี้ยงเต้นรำที่มหัศจรรย์ที่สุดในพระราชวังแวร์ซายส์”
นายพลจาร์เจส์ : “ขอบคุณครับท่านบูอี”
ในระหว่างนั้นเอง เซนต์จัสและพวกของเขาได้ซุ่มอยู่ในพุ่มไม้ข้างทาง
เซนต์จัส : “แกแน่ใจนะ?”
ลูกน้องเซนต์จัส : “ครับ นั่นคือรถม้าของนายพลบูอี เสนาธิการทหารบกอย่างแน่นอนครับ”
เซนต์จัน : “ดี!” เมื่อรถม้าของนายพลบูอีผ่านมา เซนต์จัสจึงให้สัญญาณ พวกของเขาใช้หน้าไม้ยิงคนขับรถม้าสองคน ลูกดอกปักอกเสียชีวิตทันที แต่รถม้ายังคงวิ่งไปตามทางเรื่อยๆ โดยที่นายพลทั้งสองยังไม่ทันรู้ตัว เซนต์จัสได้วิ่งไปเกาะที่ข้างกระจกหน้าต่างของรถม้า แล้วจ่อปืนเล็งเข้าไปด้านใน นายพลทั้งสองหันมาเห็นต่างพากันตกใจ ทันใดนั้นเอง เซนต์จัสไม่รอช้า เขายิงเข้าไปในรถม้าทันที แล้วหนีไป แต่กระสุนนั้นถูกนายพลจาร์เจส์จนได้รับบาดเจ็บ
นายพลบูอี : “นายพลจาร์เจส์ ทำใจดีดีไว้นะ!!” นายพลบูอี รีบพานายพลจาร์เจย์ กลับไปรักษาตัวที่คฤหาสถ์จาร์เจย์
เมื่อออสการ์ทราบข่าวที่นายพลจาร์เจส์ถูกยิง เธอก็รีบขี่ม้ากลับมาที่บ้านโดยทันที ออสการ์วิ่งขึ้นไปบนห้องนอนของนายพลจาร์เจส์ ซึ่งตอนนี้หมอกำลังทำแผลให้นายพล โดยมีแนนนี่คอยช่วยอยู่ข้างๆ
ออสการ์ : “ท่านพ่อ!” ออสการ์ร้องเรียกพ่อด้วยท่าทางกระหืดกระหอบ
แนนนี่ : “นายท่านไม่เป็นอะไรแล้วค่ะคุณหนู กระสุนพลาดหัวใจไป ปาฏิหาริย์จริงๆ” แนนนี่หันมาส่งยิ้มให้ด้วยความดีใจ เมื่อออสการ์ได้ยินดังนั้นเธอทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้นแล้วร้องไห้ออกมาด้วยความโล่งใจอย่างที่สุด อังเดรเดินเข้ามาหาออสการ์พร้อมกับยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้
ออสการ์ : “ขอบคุณนะ อังเดร...”
นายพลจาร์เจส์ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก หมอทำการรักษาจนอาการของเขาปลอดภัยดี แต่ยังคงต้องนอนรักษาตัวอยู่บนเตียง
นายพลจาร์เจส์ : “ดูเหมือนว่าพวกกบฏจะเข้าใจผิดคิดว่าฉันคือนายพลบูอีนะ ฮ่าฮ่าฮ่า” นายพลพูดอย่างอารมณ์ดี
ออสการ์ : “ฉันจะ..ฉันจะจับตัวคนที่ยิงท่านด้วยมือของฉันเอง!”
นายพลจาร์เจส์ : “ออสการ์ ถ้าเธอเป็นห่วงฉัน อยากให้ฉันสบายใจ... สวมชุดแต่งงานดีกว่าจับคนร้ายนะ เธอจะไปร่วมงานเลี้ยงเต้นรำที่นายพลบูอีจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ใช่มั้ย?” นายพลจาร์เจส์ขอร้องแกมบังคับ
ออสการ์ : “ใช่”
นายพลจาร์เจส์ : “และอังเดร...” นายพลหันไปหาอังเดร
อังเดร : “ครับท่าน”
นายพลจาร์เจส์ : “นายคอยติดตามเธอไปงานเลี้ยงวันพรุ่งนี้ด้วยนะ พวกเราจะแสดงความสวยงามครั้งหนึ่งในชีวิตของออสการ์ให้กับพวกขุนนางในแวร์ซายส์ได้เห็นกัน”
อังเดร : “ครับท่าน”
 
เย็นวันต่อมา ณ ห้องทำงานของออสการ์ในค่ายทหาร ระหว่างที่ออสการ์กำลังนั่งทำงานอยู่ อังเดรเข้ามาเคาะประตูเรียกออสการ์ ก๊อกก๊อก
ออสการ์ : “เข้ามา”
อังเดร : “ออสการ์ ไปกันเถอะ ใกล้ถึงเวลาแล้ว” อังเดรเข้ามาเตือนออสการ์
ออสการ์ : “มันเร็วไป และ...” ออสการ์ยังไม่ทันพูดจบอังเดรก็พูดสวนขึ้นมาทันที
อังเดร : “ไม่เร็วหรอก เธอต้องมีเวลากลับบ้านไปแต่งตัวนะ”
ออสการ์ : “ฟังนะ นายไม่ต้องมาติดตามฉัน”
อังเดร : “ฉันสัญญากับนายท่านไว้ว่าจะติดตามเธอไปด้วย”
ออสการ์ : “ไม่! ฉันไม่ต้องการผู้ติดตาม!” ออสการ์ลุกขึ้นตะโกนใส่อังเดรด้วยความโกรธ แล้วเธอก็เปิดประตูห้องกำลังจะเดินออกไป ก่อนไปเธอได้พูดทิ้งท้ายกับอังเดรว่า
ออสการ์ : “อังเดร ฉันจะไม่แต่งงานง่ายๆหรอก” แล้วเธอก็เดินจากไป
 
          ในค่ำวันนั้น ภายในงานเลี้ยงเต้นรำที่จัดขึ้นโดยนายพลบูอี จุดประสงค์ของเขาก็เพื่อหาคู่ที่เหมาะสมให้กับออสการ์ เขาได้เชิญขุนนางหนุ่มๆทั่วทั้งแวร์ซายส์มาร่วมงานเลี้ยง
นายพลบูอี : “ยินดีต้อนรับสู่งานเลี้ยง” นายพลบูอีเดินทักทายแขกไปรอบๆงาน
ภายในงานเต็มไปด้วยขุนนางผู้ชาย และแน่นอน เจโลเดลก็มาร่วมงานด้วย ภายในงานไม่มีผู้หญิงเลยแม้แต่คนเดียว บรรดาผู้ที่มาร่วมงานต่างเฝ้ารอเจอออสการ์อย่างใจจดใจจ่อ “ฉันอยากเห็นออสการ์ ฟรังซัวส์ ในแบบผู้หญิง!” “มันน่าปะหลาดใจมากที่มีผู้ชายมากมายในแวร์ซายส์สนใจเธอ” “การแข่งขันสูงมากเลย”  ทันใดนั้นเองทุกคนในงานก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นออสการ์เดินเข้ามาในงานเลี้ยง โดยที่เธอยังคงสวมชุดทหารสีน้ำเงิน ชุดเดิมที่เธอใส่ทำงานทุกวัน ทุกคนในงานต่างพากันมารุมล้อมออสการ์ด้วยความสงสัย
ออสการ์ : “งานเลี้ยงเต้นรำนี่แปลกจัง ไม่มีสาวโสดในนี้เลยหรอเนี่ย ฮ่าฮ่าฮ่า” ออสการ์หัวเราะออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เจโลเดล : “หึหึ ฉันคิดอยู่แล้วว่าเธอต้องทำแบบนี้... ฮ่าฮ่าฮ่า” เจโลเดลก็คิดไว้อยู่แล้วว่าออสการ์คงไม่ยอมแต่งงานกับใครแน่ๆ
ออสการ์ : “ขอโทษนะ เหมือนว่าฉันจะมาผิดงาน” ออสการ์โค้งคำนับ แล้วเธอก็เดินออกจากงานไป ทิ้งให้ทุกคนงุนงงอยู่อย่างนั้น
คืนนั้นเอง เจโลเดลได้เดินทางไปเยี่ยมนายพลจาร์เจส์ที่บ้าน และรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงให้กับนายพลฟัง
นายพลจาร์เจส์ : “อย่างนั้นหรอ? ออสการ์สวมชุดทหาร... ไม่ ฉันจะไม่ว่าอะไรเธอหรอกตอนเธอกลับมา เธออาจจะเป็นฝ่ายถูก ฉันอาจจะผิด สิ่งที่ฉันหวังในตัวออสการ์ ลูกสาวของฉัน คือ เธอจงอย่ายอมแพ้ที่จะค้นหาความสุข เพราะเธอเคยถูกปิดกั้นความรู้สึกมาตั้งแต่วัยเด็ก”
จบตอนที่ 30



Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2563
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2563 12:50:39 น.
Counter : 836 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Lady Oscar
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]



New Comments
กุมภาพันธ์ 2563

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
18
21
22
25
27
28
29
 
All Blog