นับย้อนไป เมื่อราวปี ๒๕๕๐ ผมยังอาศัยอยู่ที่วัดในย่านเมืองมหาชัย ปีนั้นผมทำหน้าที่ออกแบบพระประธานของวัด ห้องทำงานของผม ก็คือห้องทำงานของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าอาวาส ซึ่งก็อยู่ใต้กุฏิของท่านนั่นเอง ห้องทำงานของหลวงพ่อเดิมทีนั้นเป็นเพียงใต้ถุนกุฏิ ต่อมาทางวัดได้ต่อเติมกั้นห้องตามแนวเสาใต้กุฏิที่ เป็นแนวยาว เรียกว่าใช้พื้นที่ใต้ถุนกุฏิได้อย่าคุ้มค่า โดยได้ปรับปรุงกุฏิจากเดิมที่มีแถวเดียว ยกใต้ถุนสูง ก็ปลูกสร้างใหม่ ให้เป็นสองชั้น มีสองแถวตรงข้ามกันเป็นรูบตัวยู โดยมีศาลาขั้นกลาง ชั้นบนเป็นหอสวดมนต์ ชั้นล่างเป็นหอฉัน ห้องทำงาน และกุฏิของหลวงพ่อ จะอยู่มุมสุดด้านทิศตะวันออก ตรงข้ามห้องทำงานเป็นห้องเก็บของ ตรงข้ามกุฏิเป็นห้องพักพระอาคันตุกะ มีที่รับแขกขั้นระหว่างห้องทำงาน กับห้องเก็บของที่ชั้นล่าง ชั้นบนมีหอหน้าเป็นที่นั่งสนทนาของหลวงพ่อกับพระอาคันตุกะ
ผมกับทีมงานออกแบบพระเราทำงานกันที่ห้องทำงานของหลวงพ่อ มาเดือนกว่าๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง ด้วยความที่ผมต้องการให้แบบพระเสร็จเพื่อที่จะได้นำเสนอหลวงพ่อในตอนเช้า จึงขอหลวงพ่อทำงานต่อให้เสร็จ ตอนนั้นเวลาประมาณ สี่ทุ้มกว่าๆ พี่ๆลากลับที่พักกันหมด ซึ่งก็คือกุฏิว่างชั้นล่างตามแนวหอฉันนั่นเอง หลวงพ่อบอกผมว่า "เออจะทำอะไรก็ทำ แต่อย่าเลยเที่ยงคืนนะ" ผมประนมมือรับคำ ใจคิดว่า หลวงพ่อคงห่วงเรื่องสุขภาพ ไม่อยากให้เรานอนดึก ก็กลับมานั่งทำงานต่อ สักพัก พระอาจารย์มหาวีระ ท่านก็เปิดประตูห้องเข้ามา "อ้าว! กรยังทำงานอยู่เหรอ?" ผม ตอบครับ แล้วบอกท่านว่า อีกสักพักจะไปนอนแล้ว ท่านก็กำชับให้ปิดไฟปิดพัดลมให้เรียบร้อย แล้วท่านก็ปิดประตูจากไป ผมดูนาฬิกา เวลาประมาณห้าทุ้มสี่สิบ ก็พอดีทำแบบพระเสร็จ ก็เลยเก็บกวาด เตรียมปิดคอมพิวเตอร์ ก็ได้ยินเสียงลูกบิด บิดไปบิดมาแต่ไม่เปิด ผมคิดเอาว่า พระอาจารย์มหาวีระท่านคงเผลอล๊อคประตูทำให้คนข้างนอกเปิดเข้ามาไม่ได้ ผมจึงพูดขึ้นมาว่า ผมเก็บกวาดสักพักจะไปนอนแล้วครับ ในใจคิดว่าเป็นหลวงพ่อ ไม่มีเสียงตอบ ผมเก็บกวาดเสร็จก็ราวเที่ยงคืนหน่อยๆไม่ได้ดูเวลาว่าเท่าไรแน่ ก็ปิดไปปิดพัดลมเปิดประตูจะออกจากห้อง ทันทีที่ประตูเปิด ผมเห็นด้านหลังของผู้ชายหัวล้านร่างท้วม นุ่งผ้าโสร่งแบบมอญ พาดผ้าข้าวม้าบนไหล่เดินกะเผกๆไปตรงที่รับแขกของหลวงพ่อไปทางของเก็บของ ที่รับแขกหลวงพ่อ เล่นระดับยกพื้น การจะเดินไปห้องเก็บของผ่านทางนี้จำจะต้องยกเท้าแบบขึ้นบันไดหนึ่งขั้น ไม่อาจเดินผ่านไปเฉยๆแบบเดินไปในมางราบทั่วไปได้ แต่ทว่า คุณคนนั้นกลับเดินผ่านไปโดยที่เท้าจนถึงเกือบครึ่งแข้งของเขาจมอยู่ในพื้นที่รับแขก ผมขนลุกใจสั่น ถอยหลังกลับเข้าห้อง ปิดประตูเปิดไฟ แล้วอาศัยอยู่ในห้องจนสว่าง
พระอาจารย์มหาวีระ เล่าว่า ผีที่ผมเห็นนั้น ท่านเป็นคนวัดนี่แหละ สมัยหลวงปู่รามัญ คุณตาท่านนี้เป็นอุปัฏฐากของหลวงปู่ แล้วมักนั่งที่แคร่ใต้ถุนกุฏิซึ่งก็คือตรงที่ผมนั่งทำงานนั่นเอง ตอนคุณตายังอยู่ ท่านเป็นคนที่รักเพราะเณรมาก เวลาที่พระเณรจุตะเกียงอ่านหนังสือ พอถึงเที่ยงคืน คุณตาจะตะโกนให้พระเณรจำวัดอยู่เสมอ ทุกๆเที่ยงคืนจะได้ยินเสียงคุณตาเป็นประจำ แล้วท่านก็เสียบนเแคร่ที่ท่านนั่งประจำ ซึ่งก็คือบริเวณที่ผมนั่งทำงานนั่นแหละ
"เราว่า แกคงห่วงว่า กรจะนอนดึกน่ะเลยมาเตือน" พระอาจารย์มหาวีระกล่าว หลวงพ่อนั่งสูบบุหรี่อยู่จึงเอ่ยขึ้นสัมทับว่า "ก็กูบอกมึงแล้วว่า อย่าให้เกินเที่ยงคืน"
*** เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผู้เขียนเอง ชื่อบุคคลมีการปรับเปลี่ยนเพื่อความเป็นส่วนตัว
Create Date : 02 พฤษภาคม 2561 |
Last Update : 6 พฤษภาคม 2561 11:29:59 น. |
|
0 comments
|
Counter : 414 Pageviews. |
|
|