ตุลาคม 2560
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
15 ตุลาคม 2560
 

"ไม่น่ามาเลย"



"ไม่น่าเลย ไม่น่ามาเลย ฮือๆๆ ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย" เด็กสาววัย 14 ปีกำลังนั่งร้องไห้อยู่ในความมืด "เพื่อนๆหายไปไหนกันหมดนะ ฮือๆๆ ไม่น่าเลย ไม่น่าเลย" เธอหันซ้ายหันขวาหาเพื่อนของเธอด้วยความกลัว เรื่องเริ่มมาจากเมื่อวันพุธ สองวันที่แล้ว...

"ผิงๆๆ ฉันมีเรื่องมาเล่าให้ฟัง" เด็กสาวคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องเรียน มาหาเพื่อนๆที่นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ "หือ มีอะไรหรอแก้ว" เด็กสาวที่ชื่อผิงหันมาถามเพื่อนของเธอ แก้วนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ว่าง แล้วเริ่มเรื่อง "พวกเธอจำได้ใช่ไหม บ้านเดี่ยวสามชั้นหลังโรงเรียนเราอะ ที่ลือกันว่าเจ้าของบ้านหลังนี้เป็นพ่อค้ายารายใหญ่" "จำได้สิ แถมยังโหดอีกต่างหาก แค่หมาเดินผ่านหน้าบ้านก็ไล่ตีมันแล้ว เออ...แต่ฉันไม่เข้าใจว่าเรื่องก็ดังขนาดนี้ ทำไมตำรวจถึงไม่เข้ามาจับเจ้าของบ้านไปนะ" เด็กสาวอีกคนหนึ่งตอบขึ้นมา เธอมีชื่อว่า มล "นั่นสินะ เอาล่ะ ฉันเข้าเรื่องต่อเลยนะ ฉันได้ยินพวกรุ่นพี่พูดกันมาว่าเมื่อสองสามวันที่แล้ว พ่อค้ายาคนนี้เขานอนตายอยู่ที่บ้านชั้นสาม ทีนี้ตำรวจก็เข้าไปเอาศพ ส่งไปโรงพยาบาลเพื่อชันสูตร ผลปรากฎว่าเขาเสพสารเสพติดเยอะมาก เห็นบอกว่ากันว่าน่าจะเป็นเฮโรอีนล่ะมั้ง" แก้วหยุดพักหายใจ มองเพื่อนอีกสามคนนั่งฟังกันตาปริบๆ ทำให้เธออดขำไม่ได้ "ขำอะไร มีอะไรน่าขำหรือไง" มลเหว "ฮ่า ฮ่า ฉันขอโทษ ทีเรื่องพวกนี้พวกเธอตั้งใจฟังกันจริงๆ" "แก้วต่อเลยดีกว่า เรื่องยังไม่จบใช่ไหม" เด็กสาวที่ตัวเล็กที่สุดในกลุ่มเอ่ยขึ้น "อย่างที่มะปรางว่านั่นแหละ ที่จริงเรื่องนี้ควรจะจบไปแล้วถ้าไม่มีข่าวลือขึ้นมาว่า ที่บ้านหลังนั้นมีผีน่ะสิ เหอๆ เขาเล่าต่อๆกันมาว่า เมื่อตะวันลับขอบฟ้า จนท้องฟ้ามืดสนิท ทุกๆวันมักจะมีเสียงหมาหอนเป็นสิบๆตัวลอยออกมาจากบ้านหลังนั้น ทั้งๆที่บ้านหลังนั้นไม่ได้เลี้ยงหมาซักตัวเดียว นอกจากนั้นยังมีเสียงคนเดินไปเดินมาจากชั้นหนึ่งขึ้นไปชั้นสาม จากชั้นสามลงมาชั้นหนึ่งทั้งคืน หึ้ย เล่าแล้วขนลุก" ว่าแล้วเด็กสาวก็กอดอกแล้วลูบต้นแขนไปมา "ที่เธอเล่ามาทั้งหมดคืออยากจะชวนพวกเราไป..." "ใช่แล้ว วันเสาร์นี้นี้เราไปสวนสนุกกันเถอะ" "จัดไป! เห้ย...มันใช่หรอ หึๆ พวกเธอก็คิดเหมือนฉันใช่ไหม วันศุกร์ เจอกันหลังโรงเรียนหกโมงครึ่ง เตรียมตัวมาให้พร้อมล่ะ..."

เมื่อใกล้ถึงเวลาที่นัดไว้ ผิงก็เตรียมตัวออกจากโรงเรียน โดยออกทางด้านหลังเพราะเป็นที่ที่เพื่อนของเธอได้นัดไว้ เมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านเธอบอกแม่ไปว่า เย็นนี้จะไปทำรายงานที่บ้านเพื่อน และก็จะนอนค้างที่บ้านเพื่อนเลย เรื่องนี้จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับผิงเท่าไหร่ ถึงจะสบายใจไปเรื่องหนึ่ง แต่ในใจลึกๆของผิง เธอไม่อยากจะไปลองของกับเพื่อน เธอกลัว...กลัวที่จะต้องสูญเสียเพื่อน...กลัวที่จะต้องเสียชีวิตให้กับวิญญาณร้าย ร้ายหรือเปล่าเธอไม่รู้ แต่สัญชาตญาณของเธอบอกอย่างนั้น

"เอ๊ะ! นั่นไงผิงมาแล้ว" เสียงแหลมเล็กของเด็กสาวตัวเล็กดังลอดออกมาจากกลุ่มเพื่อน ผิงรีบวิ่งไปหาพวกเขาทันที "โทษทีๆ พอดีเดินคิดอะไรเพลินๆหน่อยน่ะ เลยมาช้า" "ไม่เป็นไรๆ แค่มาทันก่อนที่ดวงอาทิตย์จะตกดินก็พอ" แก้วพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี "ป่ะ เรารีบไปกับเถอะ ดวงอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้ว" มลเร่ง เธอตื่นเต้นมากที่จะได้มาพิสูจน์สิ่งลี้ลับพวกนี้

เวลาหนึ่งทุ่มตรงพวกเธอก็มาถึงหน้าบ้านของพ่อค้ายารายใหญ่ที่จบชีวิตลงด้วยยาของตัวเอง ดังเปรียบเทียบเหมือนกับ หมองูตายเพราะงู บระ...บระ..บร๊ะ...บรู๊วววว เสียงของหมาหอนลอยออกมาจากตัวบ้านสามชั้น ทำให้พวกเธอขนลุกไปตามๆกัน "น่ากลัวจัง ปกติเวลากลางวันก็ไม่อยากจะเดินผ่านอยู่แล้ว ยิ่งตอนกลางคืนนี่สิ ยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่" ผิงคราง "เอาเถอะ ไหนๆก็มาแล้ว อย่าเสียเที่ยวเลย" มลพูดพลางค้นหาอะไรบางอย่างในกระเป๋า "เทียนไข สายสิญจน์ น้ำ ผ้าปูรองนั่ง อาหารไหว้ โอเคครบ" "เฮ้ย! มล...เอาของพวกนี้มาทำไมเนี่ย" มะปรางถามอย่างตกใจ "ก็เอามาทำพิธีกรรมเชิญวิญญาณมาน่ะสิ" "อะ...เอาจริงดิ!" "เออ ไม่ต้องกลัวหรอก ในหนังสือก็แค่บอกว่าเรียกมาเพื่อให้วิญญาณประจำที่นั้นๆรู้ว่าเรามา แล้วก็ให้เขามากินอาหารที่เราเตรียมมา" "น่ะ...น่ากลัวอะ กลับกันเถอะ นะๆ" ผิงรบเร้าเซ้าซี้เพื่อนๆด้วยความกลัว "โถ่ เรามากันแล้วนะผิง ไหนๆก็ไหนๆแล้วเข้าบ้านกันดีกว่า" ว่าแล้วมลก็รีบตรงไปยังที่รั้วหน้าบ้าน เอามือทั้งข้างจับที่รั้ว ปีนขึ้นไปอย่างคล่องแคล่ว แล้วกระโดดลงไปอีกฝั่ง พลางหันมาขยิบตาให้เด็กสาวอีกสามคน "รีบปีนเข้ามากันได้แล้ว..."

เนื่องจากบ้านหลังนี้ไม่มีเจ้าของ และคงไม่มีใครอยากได้บ้านที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความชั่วร้ายจำนวนมาก ประตูจึงไม่จำเป็นที่จะต้องล็อค เด็กสาวทั้งสี่คนเลยสามารถผ่านประตูเข้าไปในตัวบ้านได้อย่างสบาย

มลหาที่โล่งๆภายในบ้านเพื่อที่จะทำพิธีอย่างที่เธอต้องการ และเมื่อเจอที่เหมาะๆแล้ว มลก็จะจุดเทียน ปักไว้สี่มุมต่อหนึ่งเล่ม จากนั้นเอาสายสิญจน์พันรอบเทียนสามทบ ตามเทียนที่ปักไว้สี่มุม จนได้เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ก่อนที่จะพันก็ให้ทุกคนเข้าไปอยู่ข้างในตรงกลาง เพราะถ้าพันเสร็จแล้ว เราไม่สามารถข้ามสายสิญจน์เข้าไปได้ มิฉะนั้นจะถือเป็นการโมฆะ ต้องเริ่มทำใหม่ในวันอื่น

การเริ่มพิธีค่อยๆไปอย่างช้าๆ และเมื่อมาถึงช่วงที่มลจะท่องคาถาเชิญวิญาณออกมา จู่ๆประตูและหน้าต่างที่ปิดสนิทก็เปิดออกแล้วปิดกลับเข้ามาเหมือนเดิม เสียงดังปึง! ปัง! ปึง! ปัง! ซ้ำๆหลายครั้ง ทั้งๆที่ข้างนอกเป็นคืนที่สงบ ไม่มีลมแม้แต่น้อย ใบไม้บนต้นไม้นิ่งไม่ไหวติง แต่ภายในตัวบ้านกลับชุลมุนวุ่นวาย เทียนทั้งสี่เล่มดับสนิท สายสิญจน์สั่นไหวไปมาอย่างกับต้องลม ใบไม้สีน้ำตาลแห้งกรอบจำนวนมากเคลื่นที่อยู่บนพื้นดังถูกลมพัด สติของเด็กสาวทั้งสี่ใกล้จะดับวูบเต็มที ผิงรู้สึกหายใจไม่ออกจนต้องเอามือมากุมคอ แล้วอ้าปากสูดลมหายใจเอาอากาศเข้าไป เพื่อให้ปอดได้รับออกซิเจน แต่ผิงรู้สึกว่าไม่ได้รับอากาศเลย แม้แต่นิดเดียว ทุกส่วนของเธอเริ่มหนักอึ้ง มือที่กุมลำคออยู่ก็ไหลลงมาอยู่ข้างตัว ตาที่เบิกกว้างก็ค่อยๆปิด และแล้ว...ทุกอย่างก็มืดลง

ผิงตื่นขึ้นมาอีกทีก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ทุกอย่างมืดสนิทเหมือนกับว่าเธอตาบอดไปเสียแล้ว "ทะ...ที่นี่ที่ไหนเนี่ย" ผิงส่งเสียงเบาๆ "แก้ว...มะปราง...มล..." ไม่มีใครตอบรับเสียงของเธอเลย ความหวาดกลัวค่อยๆครอบงำกัดกินหัวใจของผิงไปทีละนิด น้ำใสๆจากดวงตาไหลลงมาตามใบหน้า "ฮึก...ฮึก...ทุกคนหายไปไหนกันหมด" ผิงได้แต่นั่งพูดซ้ำไปซ้ำมา "ไม่น่าเลย ไม่น่ามาเลย ฮือๆๆ ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย"

แอ๊ดดด... แสงสว่าลอดส่องเข้ามาในห้อง ทำให้เด็กสาวต้องหยีตาลง พลางยันตัวขึ้นมานั่งป้องตาดู "ผิง...นั่นผิงใช่ไหม" สิ่งที่ผิงเห็นเป็นอย่างแรกคือ หญิงวัยกลางคนยืนอยู่ริมประตู พร้อมกับกลุ่มคนจำนวนมาก "มะ...แม่" ปากที่แห้งผากขยับอย่างช้าๆ ดวงตาที่แห้งสนิทแล้วกลับชื้นขึ้นมาใหม่ ตามด้วยสายน้ำจำนวนมากที่พรั่งพรูไหลออกมาจากดวงตาไม่หยุด เด็กสาวอยากวิ่งไปหาแม่ใจจะขาด แต่ด้วยเพราะเธอขาดน้ำ ขาดอาหารเป็นเวลานาน ทำให้เธอไม่มีเรี่ยวแรง แค่จะยืนก็ยังไม่ไหว เลยได้แต่นั่งรอให้คนเป็นแม่วิ่งเข้ามาหา พร้อมกับหน่วยพยาบาลที่ถือเปลฉุกเฉินเข้ามา

ช่วงที่ผิงพักอยู่ที่โรงพยาบาล ก็ได้มีเพื่อนมาเยี่ยมเธอทุกวัน เธอเคยถามเพื่อนๆที่มาเยี่ยมว่า แล้วแก้ว มะปราง กับมลล่ะ เพื่อนๆก็ต่างทำหน้างงกัน แล้วตอบกลับมาว่า ในห้องเราไม่มีคนใช้ชื่อนี้เลย คำตอบที่เด็กสาวได้รับทำให้เธอรู้สึกทั้งกังวล กลัว และสับสนไปพร้อมๆกัน เลยพาให้เธอนึกถึงวันแรกที่แม่หาเธอเจอ วันนั้นแม่ได้ถามเธอว่า ไปทำอะไรมาถึงได้มาอยู่ในห้องเก็บของที่ปิดตายหลังโรงเรียน ยิ่งคิดก็ยิ่งขนลุก พลางเอามือลูบต้นแขน

"หึๆ ใครว่าเธอจะรอดล่ะผิง" เด็กสาวสะดุ้ง นั่นใช่เสียงของมลหรือเปล่า มะ...ไม่น่าใช่นะ "เธอทายถูกแล้วล่ะ ฉันเอง" สิ้นเสียงก็มีเงาลางๆ สามเงาปรากฎขึ้นต่อหน้าผิง "มาอยู่ด้วยกันเถอะนะ" 

กะ...กรี๊ดดดด!!




Create Date : 15 ตุลาคม 2560
Last Update : 15 ตุลาคม 2560 20:36:43 น. 0 comments
Counter : 368 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

สมาชิกหมายเลข 3857726
 
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add สมาชิกหมายเลข 3857726's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com