บึง
ทะเลสาบ หรือ บึง ( Lake) เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ที่ล้อมรอบด้วยผืนดิน โดยทั่วไปทะเลสาบจะไม่มีทางไหลออกสู่ทะเล และมีน้ำจืด เรียกกันว่า "ทะเลสาบน้ำจืด" แต่ทะเลสาบบางแห่งอาจไหลออกสู่ทะเลได้ และมีน้ำเค็ม จึงเรียกกันว่า "ทะเลสาบน้ำเค็ม"
คำว่า "ทะเลสาบ" ยังครอบคลุมถึงแหล่งน้ำที่เกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ เช่น ทะเลสาบขนาดเล็กในสนามกอล์ฟ หรือ แอ่งเก็บน้ำเหนือเขื่อน นับเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่
ทะเลสาบในประเทศไทย
หากนับโดยลักษณะทางภูมิศาสตร์แล้ว ในประเทศไทยมีทะเลสาบน้ำจืดหลายแห่ง ขณะที่มีทะเลสาบน้ำเค็มเพียงแห่งเดียว ดังนี้
ทะเลสาบน้ำจืด >>บึงบอระเพ็ด ในจังหวัดนครสวรรค์ เป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ (132,737 ไร่) >>ทะเลสาบหนองหาน ในจังหวัดสกลนคร เป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นอันดับ 2 ของประเทศ (123 ตารางกิโลเมตร) >>ทะเลบัวแดง ในจังหวัดอุดรธานี เป็นแหล่งน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3ของประเทศไทย (22,500ไร่หรือ 36 ตารางกิโลเมตร) >>บึงละหาน ในจังหวัดชัยภูมิ เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติมีเนื้อที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย (18,181 ไร่ หรือ 29.09 ตารางกิโลเมตร) >>กว๊านพะเยา ในจังหวัดพะเยา เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืด และเป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ และเป็นอันดับ 5 ของประเทศ (12,831 ไร่) >>บึงสีไฟ ในจังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศ (5,390 ไร่) >>บึงพลาญชัย ในจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่เป็นอันดับ 7 ของประเทศ >>บึงโขงหลง ในจังหวัดบึงกาฬ เป็นพื้นที่อนุรักษ์ตามอนุสัญญาแรมซาร์ เป็นแหล่งน้ำจิดขนาดใหญ่เป็นอันดับ 8 ของประเทศ >>ทะเลสาบสงขลา ในจังหวัดพัทลุง เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของทะเลสาบสงขลา เป็นแหล่งนกน้ำนานาชนิด
ทะเลสาบน้ำเค็ม ทะเลสาบสงขลา ถือเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีเนื้อที่ 1,040 ตร.กม หรือ 650,000 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จังหวัดสงขลา จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง และเป็นทะเลสาบแห่งเดียวที่มีช่องเปิดสู่อ่าวไทย
ทะเลสาบสงขลา หรือ ทะเลสาบพัทลุง หรือ ทะเลสาบลำปำ (ชื่อที่เรียกในเขตจังหวัดพัทลุง) เป็นทะเลสาบแห่งเดียวในประเทศไทยที่อยู่ติดกันถึง 3 จังหวัด มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 1,000 ตารางกิโลเมตร ได้แก่ จังหวัดพัทลุง ในเขตอำเภอเมืองพัทลุง อำเภอปากพะยูน อำเภอบางแก้ว อำเภอเขาชัยสนและอำเภอควนขนุน, จังหวัดสงขลา ในเขตอำเภอระโนด อำเภอสทิงพระ อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสิงหนคร อำเภอเมืองสงขลา อำเภอควนเนียง อำเภอหาดใหญ่ และอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช
ทะเลสาบสงขลาตอนล่างมีเกาะขนาดใหญ่อยู่เกาะหนึ่ง คือ เกาะยอ และมีเกาะต่าง ๆ อีก ที่เป็นแหล่งสัมปทานเก็บรังนก คือ เกาะสี่ เกาะห้า
น้ำในทะเลสาบสงขลาได้รับน้ำจากเทือกเขาบรรทัดและเทือกเขาสันกาลาคีรีจากอำเภอสะเดา ทั้งหมดไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลา ลุ่มน้ำในแถบนี้เรียกว่า "ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา"
เป็นทะเลสาบที่มีลักษณะของน้ำในทะเลสาบถึง 3 น้ำ คือ น้ำจืด, น้ำกร่อย และน้ำเค็ม มีแม่น้ำและคลองหลายสายที่ไหลเข้าสู่ทะเลสาบแห่งนี้ ทำให้น้ำมีการเปลี่ยนแปลงเสมอตามฤดูกาล โดยขึ้นอยู่กับกระแสน้ำในแม่น้ำสายต่าง ๆ ที่ไหลเข้าสู่ทะเลสาบ และกระแสน้ำทะเลหนุน จึงทำให้มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำอยู่ตลอดเวลา
ทะเลสาบสงขลาตามลักษณะทางภูมิศาสตร์ จัดได้ว่า เป็น ลากูน (Lagoon) หรือทะเลสาบที่อยู่ติดกับทะเล (อ่าวไทย) มีปากตอนล่างเปิดเข้าสู่อ่าวไทย สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ช่วงใหญ่ ๆ คือ
ทะเลน้อย เป็นช่วงต้นของทะเลสาบคาบเกี่ยวอยู่กับ 3 อำเภอ 3 จังหวัด อันได้แก่ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช และ อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา เป็นทะเลสาบน้ำจืด มีพื้นผิวน้ำราว 30 ตารางกิโลเมตร เดิมทีน้ำในทะเลสาบแห่งนี้เป็นน้ำกร่อยเพราะมีการเจือปนของน้ำที่หนุนมาจากทะเลสาบสงขลาที่อยู่ทางต้านใต้ โดยผ่านคลอง 3 สาย คือ คลองนางเรียม, คลองยวน และคลองบ้านกลาง
เป็นสถานที่ ๆ มีความหลากหลายทางชีวภาพมาก ทั้งสัตว์น้ำและนกชนิดต่าง ๆ ทั้งนกท้องถิ่นและนกอพยพ มีปลาหลายชนิดที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ อาทิ ปลาดุกลำพัน (Clarias nieuhofii), ปลาตือ (Chitala lopis), ปลาตุ่ม (Puntioplites bulu) เป็นต้น โดยปลาชนิดที่พบมากที่สุดคือ ปลาดุก (Clarias batrachus) จนเกิดการทำเป็นปลาดุกร้าที่ไม่เหมือนกับปลาร้าของภาคอีสาน
และยังเป็นแหล่งอาศัยของ โลมาอิรวดี หรือ โลมาหัวบาตร (Orcaella brevirostris) ถือเป็นแหล่งน้ำจืดที่พบจำนวนโลมาอิรวดีน้อยที่สุดในโลกและเป็นแหล่งที่วิกฤตที่สุดอีกด้วย
ทำให้เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติอันอุดม เป็นแหล่งทำการประมงและการเกษตรพื้นบ้านมาอย่างยาวนาน และบริเวณ "พรุควนขี้เสี้ยน" เป็นพื้นที่พรุในอำเภอควนขนุน ถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำอนุรักษ์ตามอนุสัญญาแรมซาร์ (Ramsar Convention) นับเป็นแห่งแรกของประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2541 และแห่งที่ 110 ของโลก และถูกประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเป็นแห่งแรกของประเทศไทยด้วย เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518
ทะเลสาบตอนบน เป็นทะเลสาบตอนที่ 2 จากทะเลน้อยจนมาถึงแหลมจองถนนและแหลมควายราบฝั่งเกาะใหญ่
ทะเลสาบตอนกลาง จากทะเลสาบตอนบนมาจนถึงปากแม่น้ำหลวงของเขตอำเภอปากพะยูน
ทะเลสาบตอนล่าง เป็นทะเลสาบที่อยู่รอบ ๆ เกาะยอ และมีปากน้ำที่ไหล่ออกสู่อ่าวไทย
โดยระบบนิเวศของทะเลสาบสงขลาแบ่งออกได้เป็น 4 ระบบ คือ
1.ระบบนิเวศป่าต้นน้ำ
2.ระบบนิเวศกลางน้ำ
3.ระบบนิเวศปลายน้ำ
4.ระบบนิเวศในน้ำ
ในปี พ.ศ. 2467 ดร.ฮิวจ์ แมคคอร์มิค สมิธ ที่ปรึกษาด้านสัตว์น้ำของกระทรวงเกษตราธิการ ได้เดินทางสู่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาเพื่อศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพ ได้บันทึกถึงชนิดของกุ้งในทะเลสาบสงขลาไว้ว่า
กุ้งชนิดที่ดีเยี่ยมมีพันธุ์ต่าง ๆ
เกิดชุกชุมในชายทะเลแห่งนี้
แต่กุ้งในทะเลสาบมีมากที่สุด
ไม่มีน่านน้ำใด ๆ ในโลก
ที่มีจำนวนกุ้งและพันธุ์กุ้งหลายอย่าง
หลากชนิด เหมือนในน่านน้ำแถบนี้ Cr: จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Create Date : 26 ตุลาคม 2560 |
Last Update : 26 ตุลาคม 2560 3:05:03 น. |
|
3 comments
|
Counter : 3090 Pageviews. |
|
|
ไม่รำคาญค่ะ