ข้าฯไม่สนใจเรื่องของเจ้าหรือใครผู้ใดอื่น
แต่ข้าฯจะรู้จักตนเองอย่างถ่องแท้ให้ได้
ข้าฯจะต้องรู้จักใจตนให้ได้
เพราะหนทางนี้เท่านั้น
ที่จักทำให้ข้าฯเป็นผู้รู้ที่แท้จริง

พุทธภาษิตสอนใจ

อยู่คนเดียว ให้ระวังความคิด อยู่ร่วมมิตร ให้ระวังคำพูด

“หยุดคิดฟุ้งซ่าน” ให้ได้ โดยใช้ “สติ” กำหนดรู้ว่ากำลังคิดอะไร แล้วเลือกคิดเฉพาะสิ่งที่ดีมีประโยชน์ หรือคิดโดยโยนิโสมนสิการเท่านั้น แล้วความคิดจะเป็นสิ่งที่มีค่ากับชีวิตเรามาก

สุขศุกร์สวัสดีครับ คุณก๋า
ยุคนี้ ไม่ค่อยรู้จักตัวเองกันครับ
ทำอะไรผิด ทำไปเพราะบันดาลโทสะ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ อารมณ์ชั่ววูบ หลง.... สุดท้าย เมา 555
ล่าสุดมีข่าว จะให้ทำใบขับขี่คนขับรถทางการเกษตร
กว่าจะรู้จักตัวเองอย่างแท้จริง ก็ยากเหมือนกันนะครับ

เช้านี้ กดอุณหภูมิ อ.เมือง จ.อุทัยธานี 16 องศา
ตื่นเช้านี้ อากาศเย็นสบายครับ

กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
เข้มงวดกับตนเอง ผ่อนปรนกับผู้อื่น
ได้ยินมาบ่อยเหมือนกันนะคุณก๋า

เข้มงวดกับตัวเอง ผ่อนปรนกับผู้อื่นนี่มาได้ยินตอนยี่สิบกว่าปีที่แล้วค่ะ เป็นประโยคหนึ่งที่ปลดล็อคบางอย่างของตัวเอง

หว่านเมล็ดอย่างไร มันก็ได้ผลอย่างนั้นจริงๆ นะคะคุณก๋า

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
The Kop Civil Movie Blog ดู Blog
Sweet_pills Travel Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

เข้มงวดกับผู้อื่น..ไม๊.. ก็ไม่ เรื่องของเค้า ช่างแม่ม

ส่วนตัวเองนั้น... จะเข้มไปทำไม ปล่อย ชิว ตลอดเวลาาาาาาา

เฮ๊ยยยยยยยย.. ทำไมไม่ตรงกะที่พี่ก๋าสอน


ฮิฮิ .... จับน้องไปละลายพฤติกรรมโหน่ยยยย..

ขอคารวะท่านจอมยุทธ์กะว่าก๋าหนึ่งจอก

บทกวีของท่านนั้น เมื่อข้าได้สดับแล้ว
ทำให้ต้องหันกลับมามองดูตัวข้าเอง

ข้าต้องระมัดระวังความคิดตัวเองให้เพียงพอ
ประโยคที่ว่า “เข้มงวดกับตนเอง ผ่อนปรนกับผู้อื่น” นั้น
เป็นเรื่องที่ควรใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง

เข้มงวดกับตัวเอง - ดูใจตัวเอง ดูความคิดตัวเอง
ผ่อนปรนกับผู้อื่น - ให้อภัย ไม่คิดมาก

มนุษย์เรา หากว่ายังไม่สามารถรู้จิตใจตนเองได้
ไฉนเลยจะไปล่วงรู้จิตใจผู้อื่นได้

ดังบทกวีที่ท่านกล่าว
การรู้จักใจตนเองเป็นหนทางเดียว ที่ทำให้เป็นผู้รู้อย่างแท้จริง

ขอคาราวะ ...

ภาพประกอบสวยมากค่ะ

ภาพชุดนี้มีมิติสวยงามเหมือนเคย
โบราณถึงไม่ค่อยชุบเลี้ยง ลูกเสือลูกตะเข้นะคะ
จะออกลายมาในที่สุด

เรื่องก็ดี ภาพก็เด่น แต่ทำไมอ่านแล้ว ง่วงๆยังไงก้ไม่รู้นะครับ แฮ่ๆ55

คุณก๋า บอก ก็เอ็งมันตายด้าน เอ๊ย มันไม่มีโปรตีน เนื้อ นม ไข่ แบบที่เอ็งชอบละซี้ งั้นเดี๋ยวคราวหน้า เอ็งต้องเจอบล็อกธรรมะล้วนๆ 100 ตอนจบ ถึงจะสาแก่ใจ เอ็งคอยดู 555


ปล.จริงๆ อ.เต๊ะ มาหลายรอบแล้ว แต่ไม่รู้จะเม้นท์อะไรนะครับ มือระดับนี้แล้วเรื่องไม่ต้องพูดกันมาก รูปนี้สุดยอด แนวซึมเปียก ของสายธรรมชาติแล้วมั้งครับ

จริงเหรอ ตั้งโจทย์แล้วไม่ถึง ลุง 666555

""""

การไฝ่หาความรู้ดีจริงครับ....เรื่องนี้ผมเชื่อ.....
เมื่อก่อนมีอาชีพต้องติดต่อคน... เคยไปหาหมอเพราะต้องเกี่ยว
ข้องบางอย่าง ผมก็พูดสนทนาไม่ค่อยเป็น

ดีที่หมอคงมองผมออกว่า ผมอึดอัดจัด..เมื่ออยู่คุยกันสองคน
หมอ ก็บอกว่า คุณอึดอัดใจไม่รู้จะพูดอะไรกับหมอใช่เปล่า

หมอก็เหมือนคุณแต่นั้นเมื่อก่อน... หมอต้องอยู่กับช่างก่อสร้าง
เลยสนทนาพูดคุยถึงอาชีพของช่างก่อสร้าง ปรากฏว่าเขาพูดคุย
แนะนำเยอะ.. เราเลยสนิทเป็นเพื่อนกัน

คุณไวน์เจอกับใคร ไม่ต้องคิดอะไรมาก ลองสอบถามเรื่องงาน
ของคู่สนทนาซิ..ส่วนใหญ่เขายินดีที่จะพูดแนะนำได้เยอะได้
ดีด้วย..

...

แต่ผมก็ว่าจะหาความรู้จากกูเกิ้ลแบบลุง..คนนีั้นบ้าง แหะ ๆ

สวัสดีอกีรอบค่าคุณก๋า

พูดจริงนอกจากตัวสติกกี้ชูววี่แล้วไม่มีอันไหนหวานจัดๆ เลยนะคะ 5555

อย่างคนที่ไปด้วยนี่เป็นเพื่อนเพศชาย เค้าก็ชอบตัวลาวาไข่เค็มกับตัวชีสเบคอนค่ะ

วันนี้ขั้นสุดยอดอีกแล้ว รู้จักใจตนเองแล้วจะเป็นผู้รู้ที่แท้จริง

จากบล็อก
นางเอกมีสัมผัสพิเศษสามารถเห็นผีได้ครับ

สวัสดีมีสุขค่ะ

วันนี้อ่านไม่เข้าหัว
เพราะมึนหัวมากๆไปอุดฟันมาค่ะ
เสียวกับการกรอ สะดุ้งเฮือกๆค่ะ
เอ็นเข่าอักเสบอีก
เลยต้องเข้มงวดกับตัวเองมากขึ้น ปล่อยว่งเรื่องชาวบ้านชั่วคราว...แฮ่ะ

พูดถึงเรื่องเอาคนออก ออฟฟิตน้องที่เล่าให้ฟัง
คือเค้าก็ได้เงิน 400 วันนะพี ่แต่ไม่รู้นายจะให้
ค่าตกใจเท่าไร อันนั้นเหมือนเงินค่าเออรี่

บางทีก็อยากได้บ้าง 400 วัน จากนั้น
ออกไปหาอาชีพอื่นทำ แต่จะทำได้
ก็คงต้องรอหนี้บ้านหมดก่อน คือ
อีกยาวไกล รถก็ตัดทิ้งไปเลย
เศรษฐกิจแบบนี้ แต่ความอยากได้
นี่คือรุมเร้ามากเลยพี่..

คุณก๋า คงหมายถึง
Mikaela Spielberg & Steven Spielberg
แน่เลยค่ะ

พี่สบายดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ
แต่ยังไม่ควรใช้สายตามาก
หมอห้ามนอนตะแคงขวาอีกหนึ่งเดือน
จะเผลอบ้างไหมเนี่ยพี่ 55

จริงๆแล้วทางขึ้นไปวัดจันทร์นั้น
มีทั้งไปทางสะเมิงและทางปาย
เราก็คิดว่าน่าจะไปทางกลับทาง
กลายเป็นว่า ควรทั้งไปและกลับทางปาย
ทางนี้กว้างและวกวนน้อยกว่า
เนอะ ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์
แต่การได้ขึ้นไปที่วัดนั้นและได้เห็น
อะไรหลายอย่างที่ทำให้คิดถึงพ่อหลวงร.9
เป็นเรื่องที่จะประทับใจพี่ไปจนตาย
ถ้ามีโอกาสก็จะขึ้นไปอีกเวลาที่ร่างกายแข็งแรงกว่านี้

ขอบคุณที่แวบไปให้กำลังใจกันนะคะ
รักษาสุขภาพด้วยเช่นกันค่ะ

กลับมาบอกว่า
ตะพาบคงต้องส่งวันทร์อังคารนะคะ
พักนี้ดองเป็นอาจิณ

งานเขียนวันนี้ บทแรกเห็นตวยเจ้า
อนาคตของชาติ เริ่มต้นได้ด้วยพ่อแม่ ครอบครัว
เป็นพื้นฐานของครัวที่ดี พัฒนาต่อเรื่อย ๆ ที่โรงเรียน
อีคิวและอีคิวไปพร้อม ๆ กันอย่างลงตัว
ทำหื้อเป็นคนที่มีคุณภาพได้ดีกว่าเน้นอย่างใดอย่างหนึ่ง

ส่วนบทความที่สอง สอนใจได้ดี
ทำหื้อฉุกคิดหลายสิ่งอย่างเจ้า
โดยเฉพาะประโยคที่ว่า..

ข้าฯเข้มงวดกับตนเอง
ผ่อนปรนกับผู้อื่น

ปี้มีนิสัยเสียบ่อย โดยเฉพาะตรงทีเพ่งโทษคนอื่น
โดยที่ลืมมองตัวเอง ตัวเองบางทีกะบะได้ดีไปกว่าเขา
ตรงนี้ต้องฝึกนิสัยตัวเองหนัก ๆ เลยเจ้า

พูกหยุดฮ้านสองวัน อาจบะได้เข้าบล็อกเน้อ
แต่อาจจะแวปมาอ่านตะพาบ
หลักกิโลเมตรนี้บะได้ร่วมตวยนะเจ้า
สุมาเจ้าของโจทย์ตวย

หลานอ้ายเต้ยฮับปริญญาที่ ม.แม่ฟ้าหลวง
จะไปหื้อกำลังใจก่อนล่วงหน้าเจ้า ส อา นี้
แต่บะได้อยู่ร่วมงานเพราะเต็นท์แต๊งค์ต้องเรียน
ใกล้สอบแล้วตวย

ผู้ที่รู้จักใจตนเองคือผู้ที่รู้จริง...

ดาบทั้งสองเล่มวันนี้ คมลึกค่ะ
เปรียบเทียบไว้ให้คิด
ปล่อยให้ความจิตและความคิดเป็นนาย
รู้จักคิดดี ด้วยปัญญาและประสบการณ์
เป็นสิ่งที่ดีนะคะ แต่อย่าตกเป็นทาสความคิดให้ละกาน
ขอบคุณค่ะคุณก๋า ฝันดีราตรีสวัสดิ์ค่ะ

ข้าฯจะต้องรู้จักใจตนให้ได้
เป็นหนทางที่ไม่ง่ายและสำคัญมากนะคะ
ขอบคุณข้อคิดดีๆค่ะคุณก๋า

ฝันดีคืนนี้ค่ะ

เหมือนงาช้างไม่เคยงอกออกจากปากสุนัขแหละครับ

ผมชอบคำนี้นะ คือ เข้มงวดกับตัวเอง แต่ผ่อนปรนกับผู้อื่น